๘๑. เขมรเป็นกบฏ

ฝ่ายเจ้าพระยาบดินทรเดชา ยกกองทัพกลับไปเมืองเขมรเดินไปตามทาง อ้ายเขมรก็ออกลอบฆ่าพวกกองทัพที่บอบชํ้าเลื่อยล้าอยู่เสียเป็นอันมาก เจ้าพระยาบดินทรเดชาโกรธก็ให้หยุดกองทัพลงไว้ เที่ยวค้นป่าได้ครอบครัวเขมรก็คลอกเสียสิ้น แล้วไปพักอยู่เมืองเชิงกะชุม ได้ข่าวว่าเขมรเป็นกบฏขึ้นทุกเมือง ฆ่าพวกกองทัพที่รักษาเมืองอยู่นั้นตายเป็นอันมาก จึ่งแต่งให้คนถือหนังสือไปถึงองค์อิ่ม องค์ด้วง พระพรหมบริรักษ์ พระยาราชโยธา หลวงราชเสนา พระยาอภัยภูเบศร ที่เมืองพนมเป็ญ ว่าให้รื้อกำแพงเมืองแล้วให้กวาดครอบครัวขึ้นมาเสียเถิด ครั้นแม่ทัพนายกองแจ้งดังนั้นแล้ว ก็รื้อกำแพงเมืองกวาดครอบครัวแขกจีนเขมรมาถึงค่ายกะพงหลวง พวกครัวแขกจีนเขมรกำเริบขึ้น ได้สู้รบกับกองทัพ พาครัวของตัวหนีไปได้ กองทัพกันเอาครัวจีนเข้ามาได้ ๕๐๐ เศษ ลงมาเมืองบัตบองส่งเข้ามาณกรุง ก็โปรดให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ณเมืองนครชัยศรี แล้วพระยาราชโยธา พระยาอภัยภูเบศร นายทัพนายกองจึ่งถอยมาตั้งอยู่เมืองโปริสาท

ครั้นณวันเดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ[๑] เจ้าพระยาบดินทรเดชา จึ่งถอยมาจากเมืองเชิงกะชุม มาอยู่ที่เมืองโปริสาท แล้วพระยาพิษณุโลก พระยามหาธิราช เจ้าเมืองเชิงกะชุมกวาดครอบครัวตามมาเป็นคน ๒,๐๖๙ คน

เจ้าพระยาบดินทรเดชาอยู่ที่เมืองโปริสาทแจ้งว่า ข้างพลายสีประหลาดขององค์จันท์ช้าง ๑ เมื่อองค์จันท์จะหนีไป ให้ปล่อยเสียที่ป่าหลังเมืองพนมเป็ญ จึ่งบนบานให้เขมรไปเที่ยวค้นหาได้มา ไปพักอยู่ที่เมืองบัตบอง ช้างนั้นสีก้านสัตตบุษย์ จักษุขนเหมือนช้างเผือก

ฝ่ายพระยาราชนิกูล เจ้าพระยานครราชสีมา ยกไปเกือบจะถึงเมืองไซ่ง่อน เห็นพวกเขมรญวนกำเริบหนักขึ้น เข้ามาลอบฆ่าพวกกองทัพเนืองๆ ก็จับเขมรได้ไล่เลียงได้ความว่า ทัพบกทัพเรือล่าถอยไปแล้ว พระยาราชนิกูลแม่ทัพนายกองจึ่งปรึกษากันว่าได้ข่าวดังนี้ก็เห็นจะจริง ด้วยกิริยาเขมรผิดประหลาดกว่าเมื่อแรกยกมา ก็ถอยล่าลงมาถึงแม่น้ำโขง เรือที่ข้ามไปนั้นก็หายไปสิ้น พระยาพิไชยสงครามชื่อเพ็ชร์ เป็นผู้ฉลาดในการช่างต่าง ๆ จึ่งคิดทำแพผูกติดกันตีแตะตาดหลังแพออกไป แล้วทอดสมอเป็นระยะ ๆ จนถึงฝั่งฟากโน้น เหมือนขึงทุ่นข้ามแม่น้ำจึ่งข้ามคน ช้างม้าโคกระบือนั้นจูงเลียบแพมาในน้ำ ขึ้นถึงฝั่งพร้อมกัน



[๑] เสาร์ ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ