๖๕. เพลิงไหม้ในกำแพงพระนคร

ครั้นมาถึงณวันพฤหัศบดีเดือน ๕ ขึ้น ๑๑ ค่ำ[๑] เวลาบ่าย ๑ โมงเศษ เกิดเพลิงไหม้ในกำแพงพระนคร ตั้งแต่หอกลองตลอดถึงสะพานช้างบ้านหม้อ เพลิงกินทั้ง ๒ ฟากคลองตลอดไปถึงบ้านพระยาศรีสหเทพ แล้วกินเลียบคลองไปหยุดเพียงสะพานมอญ เพราะที่นั้นเป็นที่ลาวพวนเป็นกะท่อม จึ่งรื้อแย่งตัดลงเสียได้ง่าย เพลิงนั้นไหม้วังเจ้าและบ้านขุนนางเป็นอันมาก คนตายด้วยไฟก็หลายคน กรมหมื่นสุนทรธิบดีก็สิ้นพระชนม์ในไฟ พระชนม์ได้ ๓๘ พรรษา ๑๐ เดือน ๑๖ วัน หม่อมเจ้าหนูคำบุตรของท่านกับบ่าว ๓ คนวิ่งหนีไฟออกมาตามถนน เปลวไฟวูบเอาล้มลงตายทับกันอยู่ทั้ง ๔ คน แต่ที่วังกรมหมื่นสุนทรธิบดี เจ้าและข้าตาย ๘ คน ไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นอัศจรรย์นัก ลมพัดเปลวไฟวูบไปเหลือที่จะตัดรอนแก้ไข แต่ขนของก็ไม่ใคร่จะทัน พระศพกรมหมื่นสุนทรธิบดี ศพหม่อมเจ้าหนูคำนั้นไปฝังที่วัดสระเกศ

ครั้นณวันศุกรเดือน ๕ แรม ๔ ค่ำ[๒] กรมหมื่นนเรศรโยธีประชวรไข้จับมาคลายขึ้นแล้ว เสวยแกงต้มยำบีบน้ำมะนาวเป็นสำแลงขึ้น หมอแก้ไขก็ไม่ฟื้น ถึงเวลา ๑๐ ทุ่มก็สิ้นพระชนม์

ครั้นถึงเดือน ๖ การที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และพระพุทธรูปฉลองพระองค์เสร็จแล้ว จะสมโภชพระมหามนเทียรและฉลองพระด้วย ณวันเดือน ๖ ขึ้น ๙ ค่ำขึ้น ๑๐ ค่ำขึ้น ๑๑ ค่ำ[๓] เวลาบ่ายพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ๑๕๐ รูป พระฤกษ์ได้สรงน้ำพระมุรธาภิเศกแล้ว ณวันเดือน ๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เป็นวันเสด็จขึ้นเฉลิมพระมหามนเทียร เวลาบ่ายเวียนเทียน ทิ้งทาน มีงานสมโภช ๓ วัน มีดอกไม้เพลิงทั้ง ๖ คืน



[๑] วันที่ ๒๔ มีนาคม

[๒] วันที่ ๑ เมษายน

[๓] ๒๐-๒๑-๒๒ เมษายน

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ