๒๖๑. พระราชกรณียกิจที่ทรงกระทำ

ครั้นทรงความฎีกาแล้ว ขุนนางจึ่งเข้าเฝ้า กรมมหาดไทยก็เข้าทางประตูท้องพระโรงฝ่ายตะวันออก กรมพระกลาโหมเข้าทางประตูท้องพระโรงฝ่ายตะวันตก นำขุนนางและหัวเมืองเข้าพร้อมกันทั้ง ๒ ฝ่าย ถึงเหลี่ยมลับแลก็กราบถวายบังคม ๓ ครั้ง แล้วคลานเข้าไปสู่ที่เฝ้าทุก ๆ นาย ถ้าฤดูหนาวเจ้าทรงเสื้อสีชั้นเดียว คาดส่านบ้าง แพรสีบ้าง ขุนนางสวมเสื้อเข้มขาบอัตลัดแพรสี ๒ ชั้นที่ได้พระราชทาน เสนาบดีคาดส่าน ถ้าวันที่ไม่หนาวหรือฤดูร้อน ผู้ใดสวมเสื้อเข้ามาก็ไม่โปรด แล้วจึ่งดำรัสถามถึงราชการแผ่นดิน ทรงว่าราชการอื่นจนเวลาเที่ยงจึ่งเสด็จขึ้นเสวย เสวยแล้วเวลาบ่าย ๑ โมงจึ่งเสด็จออกเวลานั้นทรงการช่างต่าง ๆ เจ้าและขุนนางที่เป็นนายงานถวายตัวอย่างปั้นและเขียน ทอดพระเนตรแก้ไขแล้วจึ่งได้ไปกระทำ ครั้นเวลาบ่าย ๒ โมงเศษบ้าง ๓ โมงเศษบ้าง เสด็จขึ้นเข้าที่ข้างใน ครั้นเวลาทุ่ม ๑ หรือ ๑ ทุ่มเศษ เสด็จออกฟังรายงานต่าง ๆ แล้วทรงธรรม ออกขุนนางอยู่จนเวลา ๒ ยามเศษบ้าง ๗ ทุ่มบ้างจึ่งเสด็จขึ้น ดังนี้เป็นนิตย์

ในแผ่นดินนั้น พระเจ้าลูกเธอและตำรวจมีอำนาจเที่ยวเกาะกุมราษฎรชาวบ้านมาชำระความตามอำเภอใจ แล้วฉุดบุตรหลานหญิงสาวชาวแพชาวบ้านเอาไปเป็นห้าม ทำดังนี้เนือง ๆ ราษฎรก็ไม่สู้ ได้ความทุกข์ ไม่อาจเข้าร้องถวายฎีกาได้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ