๒๔๔. บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและฉลองพระเจดีย์

ครั้นณวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๐ ค่ำ[๑] ให้เชิญพระบรมสารีริกธาตุออกไป เวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จทรงฟังสวดพระพุทธมนต์ รุ่งขึ้นณวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เวลาเช้าเสด็จพระราชดำเนินทรงประเคน พระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ได้อุดมฤกษ์ก็บรรจุพระบรมธาตุ จารึกพระนามองค์ข้างเหนือว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระราชอุทิศถวายสมเด็จพระบรมอัยยกาธิราชจักรพรรดินารถบพิตร องค์ข้างใต้จารึกพระนามว่า พระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ทรงพระราชอุทิศถวายสมเด็จพระบรมชนกนารถธรรมิกราชบพิตร เดิมเรียกว่าแผ่นดินต้น แผ่นดินกลาง แล้วมีพระราชโองการดำรัสสั่งให้ใช้บัตรหมายในราชการทั้งปวง อ้างนามแผ่นดินตามนามพระพุทธปฏิมากรทั้ง ๒ พระองค์ อย่าให้ใช้อ้างว่าแผ่นดินต้น แผ่นดินกลาง จึ่งได้ใช้นามแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และแผ่นดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัยตั้งแต่นั้นมา ครั้นณเดือน ๔ ขึ้น ๑๒ ค่ำ[๒] เวลาบ่ายพระสงฆ์ราชาคณะ พระครูเปรียญ ฐานาเพียงวินัยธรวินัยธรรม ๓๐๐ รูป ถวายไตรแพรลายสอง สะบงยกไหม พระสงฆ์รับไตรแล้ว รุ่งขึ้นวันเดือน ๔ ขึ้น ๑๓ ค่ำ[๓] เวลาบ่ายพระสงฆ์ ๓๐๐ รูปสวดพระพุทธมนต์ ๓ วัน ฉัน ๓ วัน จนถึงณวันเดือน ๔ แรม ๑ ค่ำ[๔] พระสงฆ์ฉันเช้าแล้วเวลาบ่ายเวียนเทียนเสร็จแล้ว มีการมหรสพทิ้งทานการฉลองอีก ๓ วัน พระสงฆ์ฉันครั้งนั้นนอกจากสำรับทรงประเคน ก็บอกบุญพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายใน และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยที่มีกำลังพอจะฉลองพระเดชพระคุณได้ ก็ให้รับเลี้ยงพระคนละรูป ครั้งนั้นประกวดประขันกันถึงโต๊ะ ถึงชามใหญ่ โถใหญ่บรรจุของในภาชนะทั้งปวงถวายพระสงฆ์ฉันศาลา ๑ ก็ฉัน ๒ รูปบ้าง ๓ รูปบ้าง ของฉันก็พอเต็มศาลา ที่พระระเบียงนั้นห้องลองของนั้นพอเต็มห้อง ของที่เหลือพระฉันนั้นถ้าจะเลี้ยงคนก็ได้สัก ๓๐-๔๐ คนกว่า แต่ผู้ที่มีหน้า ผู้ที่ทำตามธรรมเนียมก็มีมาก ครั้นณวันเดือน ๔ แรม ๒ ค่ำ[๕] เวลาเช้า โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพระบรมอัฏฐิและพระอัฏฐิมาในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย คิดตามพระชนมายุของพระอัฏฐิสดับปกรณ์ แล้วถวายไทยธรรมข้าวกระทง อุทิศส่วนพระราชกุศลที่ได้ทรงสร้างพระพุทธรูป ๒ พระองค์นั้นจำเพาะต่อพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งปวง



[๑] เสาร์ที่ ๓ มีนาคม

[๒] จันทร์ที่ ๕ มีนาคม

[๓] ศุกรที่ ๙ มีนาคม

[๔] ศุกรที่ ๙ มีนาคม

[๕] เสาร์ที่ ๑๐ มีนาคม

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ