- คำนำ
- ๑. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เสวยราชย์
- ๒. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- ๓. พระราชพิธีอุปราชาภิเศก
- ๔. ทรงตั้งพระราชาคณะ
- ๕. ทรงสถาปนาสมเด็จพระพันปีหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์
- ๖. ทรงตั้งข้าราชการ
- ๗. เจ้าพระยาพระคลังประดิษฐ์แคร่กัญญา
- ๘. วอประเวศวัง
- ๙. โปรดให้ยกทัพไปช่วยอังกฤษ
- ๑๐. เกิดจีนตั้วเหี่ย
- ๑๑. สร้างและซ่อมพระราชวัง
- ๑๒. ราชสาสนพะม่า
- ๑๓. ราชสาสน์และราชบรรณาการญวน
- ๑๔. จัดการพระบรมศพ
- ๑๕. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๑๖. เจ้าอนุเวียงจันท์ลงมาช่วยการพระบรมศพ
- ๑๗. อังกฤษได้เขตต์แดนพะม่า
- ๑๘. พิธีจองเปรียง
- ๑๙. เตรียมรับราชทูต
- ๒๐. สมเด็จพระอมรินทรามาตย์สวรรคต
- ๒๑. เจ้าเมืองบังกลาให้ทำหนังสือสัญญาค้าขายกับพะม่า
- ๒๒. เจ้าอนุเวียงจันท์เป็นกบฏ
- ๒๓. เจ้าอุปราชเกลี้ยกล่อมหัวเมืองขึ้นกรุงเทพฯ
- ๒๔. เจ้าอนุยกทัพออกจากเวียงจันท์
- ๒๕. อนุให้กวาดครอบครัวเมืองนครราชสีมา
- ๒๖. พระยาปลัดเข้าหาอนุ
- ๒๗. ท่านผู้หญิงโม้ต่อสู้กองทัพอนุ
- ๒๘. อนุถอยทัพ
- ๒๙. อนุตั้งค่ายใหญ่บนเขาสาร
- ๓๐. ราชทูตกลับจากเมืองจีน
- ๓๑. กรมพระราชวังบวรสถานมงคลยกทัพออกจากกรุง
- ๓๒. ใบบอกเจ้าพระยานครศรีธรรมราช
- ๓๓. พระยาราชสุภาวดีตีทัพเจ้าโถงแตก
- ๓๔. พระยาราชสุภาวดีตีค่ายเวียงคุกเมืองยโสธรแตก
- ๓๕. อนุทิ้งที่สำคัญหนีไปเวียงจันท์
- ๓๖. กองทัพไทยถูกล้อม
- ๓๗. ได้เมืองเวียงจันท์
- ๓๘. กรมพระราชวังบวรสถานมงคล มีจดหมายรับสั่งให้กราบบังคมทูลฯเรื่องเมืองเวียงจันท์
- ๓๙. ตีทัพพระยาเชียงสา
- ๔๐. เลื่อนพระยาราชสุภาวดีเป็นเจ้าพระยา
- ๔๑. งานพระบรมศพสมเด็จพระอมรินทรามาตย์
- ๔๒. เจ้าเวียดนามให้ญวนพาอนุและราชวงศ์มาส่งเมืองเวียงจันท์
- ๔๓. อนุและราชวงศ์ยกคนเข้าล้อมกองทัพไทย
- ๔๔. พระเจ้ากรุงเวียดนามมีพระราชสาสน์ให้ทูตเข้ามาขอโทษเจ้าอนุ
- ๔๕. ทูตญวนกลับ
- ๔๖. ทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดีสู้รบกับทัพเจ้าราชวงศ์
- ๔๗. ทัพราชวงศ์แตกหนี
- ๔๘. อนุหนีจากเมืองเวียงจันท์
- ๔๙. แม่ทัพไทยลวงฆ่าพวกญวน
- ๕๐. จับเจ้าอนุได้
- ๕๑. ส่งอนุกับครอบครัวลงมากรุงเทพ ฯ
- ๕๒. สร้างป้อมและขุดคลอง
- ๕๓. เกณฑ์ให้ต่อเรือรบ ๓๐ ลำ
- ๕๔. ทูตญวนเข้ามาและทูตไทยไปเมืองญวน
- ๕๕. แห่สระสนานครั้งใหญ่
- ๕๖. นักองค์จันท์ส่งเครื่องบรรณาการ
- ๕๗. ตั้งเจ้าพระยาราชสุภาวดีเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชาที่สมุหนายก
- ๕๘. ราชทูตไทยกลับจากเมืองญวน เจ้าเวียดนามตอบราชสาสน์
- ๕๙. พระราชสาสน์ถึงพระเจ้าเวียดนาม
- ๖๐. กรมหมื่นสุรินทรรักษ์สิ้นพระชนม์
- ๖๑. เจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม
- ๖๒. ราชทูตไทยกลับจากเมืองญวน
- ๖๓. ใบบอกพระยาสงขลาเรื่องเมืองไทร
- ๖๔. โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลอง
- ๖๕. เพลิงไหม้ในกำแพงพระนคร
- ๖๖. งานพระศพเจ้านาย
- ๖๗. น้ำท่วม
- ๖๘. การปฏิสังขรณ์และฉลองพระอารามต่างๆ
- ๖๙. ทรงกระทำสัตสดกมหาทาน
- ๗๐. เจ้าพระยานครศรีธรรมราชตีเมืองไทรได้
- ๗๑. กรมพระราชวังบวรสถานมงคลทรงประชวรสวรรคต
- ๗๒. เจ้าพระยาพระคลังและเจ้าพระยานครศรีธรรมราชยกกองทัพไปปราบแขกในหัวเมืองฝ่ายใต้
- ๗๓. ไพร่หลวงเกณฑ์บุญ
- ๗๔. สร้างป้อมพิฆาตข้าศึก
- ๗๕. ทูตอเมริกันเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี
- ๗๖. พระยาลีงาทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ
- ๗๗. การจลาจลในเมืองญวน
- ๗๘. โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชาและเจ้าพระยาพระคลังไปรบญวน
- ๗๙. กองทัพไทยกับกองทัพญวนเข้าสู้รบกัน
- ๘๐. ญวนถอยทัพจากเมืองโจฎก
- ๘๑. เขมรเป็นกบฏ
- ๘๒. กองทัพไทยเข้าตั้งในเมืองบัตบอง
- ๘๓. เจ้าเมืองพวนยอมสวามิภักดิ์
- ๘๔. เจ้าเมืองพวนรับรองกองทัพไทย
- ๘๕. พระยาอภัยภูเบศรถึงอสัญญกรรม
- ๘๖. กรมหลวงเสนีบริรักษ์สิ้นพระชนม์
- ๘๗. แต่งคนขึ้นไปเกลี้ยกล่อมพวกหัวพันห้าทั้งหก
- ๘๘. เกณฑ์ต่อเรือป้อมอย่างญวน
- ๘๙. เจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่กองสร้างเมืองจันทบุรีและวัดโยธานิมิตร
- ๙๐. สร้างป้อมเมืองฉะเชิงเทราและป้อมคงกระพัน
- ๙๑. องเตียนกุนจับองภอเบโคยกับพรรคพวกได้
- ๙๒. องค์จันทร์ถึงพิราลัย
- ๙๓. พระยาพระเขมรขอเข้ามาพึ่งพระบรมเดชานุภาพ
- ๙๔. ขุนตระเวนนาเวศกับพวกถูกญวนจับได้
- ๙๕. เจ้าพระยาพระคลังให้ล่ามแปลหนังสือขององตุมผู
- ๙๖. ได้พระยามงคลนาคินทร์ช้างพลายเมืองนครราชสีมา
- ๙๗. ซ่อมพระอุโบสถและสร้างพระเจดีย์ในวัดพระเชตุพน
- ๙๘. พระยาราชนิกูลยกทัพไปรักษาเมืองอุบล เมืองจำปาศักดิ์
- ๙๙. พระองค์เจ้าลักขณานุคุณสิ้นพระชนม์
- ๑๐๐. ปรึกษาเรื่องจัดหัวเมืองพันห้าทั้งหก
- ๑๐๑. องเตียนกุนเตรียมฝึกซ้อมทหารญวนทหารเขมร
- ๑๐๒. งานพระศพพระองค์เจ้าลักขณา
- ๑๐๓. ได้พระบรมไกรสรช้างพลายกระ
- ๑๐๔. ทูตอเมริกันเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญา
- ๑๐๕. ทูตอเมริกันพักที่ตึกหน้าบ้านพระยาราชสุภาวดี
- ๑๐๖. ทูตอเมริกันกลับ
- ๑๐๗. สมเด็จพระพันวัสสาสวรรคต
- ๑๐๘. ฉลองวัดประยูรวงศ์
- ๑๐๙. ข้าหลวงออกไปทำบัญชีเขมรป่าดง ๓๑ เมือง
- ๑๑๐. เจ้าพระยาบดินทรเดชาเกณฑ์สร้างป้อมกำแพงเมืองบัตบอง
- ๑๑๑. งานพระบรมศพสมเด็จพระพันวัสสา
- ๑๑๒. เสด็จก่อพระฤกษ์พระโตวัดกัลยาณมิตร
- ๑๑๓. สมเด็จพระศรีสุลาลัยสวรรคต
- ๑๑๔. องค์ด้วงเที่ยวเกลี้ยกล่อมชาวเมือง
- ๑๑๕. องค์ด้วงถูกคุมตัวลงมากรุงเทพ ฯ
- ๑๑๖. การฉลองวัดหนัง
- ๑๑๗. ขุดคลองบางขนากและแก้คลองพระโขนง
- ๑๑๘. ใบบอกเจ้าพระยาบดินทรเดชาเรื่องสร้างเมืองบัตบอง
- ๑๑๙. งานพระบรมศพกรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย และฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- ๑๒๐. งานพระศพกรมหลวงเทพพลภักดิ์
- ๑๒๑. สร้างป้อมกำแพงเมืองนครเสียมราฐ
- ๑๒๒. เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดีสิ้นพระชนม์
- ๑๒๓. แขกสลัดยกเข้าตีเมืองตรังเมืองไทรบุรี
- ๑๒๔. มิสเตอร์ฤทธิ์สชอนอังกฤษนำอักษรสาสน์เข้ามา
- ๑๒๕. จัดที่พักให้มิสเตอร์ฤทธิ์สชอน
- ๑๒๖. โปรดให้มิสเตอร์ฤทธิ์สชอนเฝ้า และถวายบรรณาการ
- ๑๒๗. พระยาสุเรนทรราชเสนาเชิญศุภอักษรไปเชียงใหม่
- ๑๒๘. แผ่นดินไหว
- ๑๒๙. บอกพระยาราชสุภาวดีเรื่องสร้างนครเสียมราฐ
- ๑๓๐. งานพระศพสมเด็จเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี
- ๑๓๑. พระยากลันตันกับพระยาบาโงยวิวาทกัน
- ๑๓๒. พระยาศรีพิพัฒน์มีตราให้หาเจ้าเมืองแขกซึ่งวิวาทกัน
- ๑๓๓. พระยาศรีพิพัฒน์บังคับให้เลิกรบทั้ง ๒ ฝ่าย
- ๑๓๔. เจ้าพระยานครถึงอนิจจกรรม
- ๑๓๕. ตั้งตนกูอาหนุ่มเป็นผู้ว่าราชการเมืองไทร
- ๑๓๖. พระยาศรีพิพัฒน์สร้างพระเจดีย์บนยอดเขา
- ๑๓๗. พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์
- ๑๓๘. นักองค์อิ่มจับกรมการเมืองบัตบองและกวาดครอบครัวหนีไปพนมเป็ญ
- ๑๓๙. ใบบอกกรมการเมืองบัตบอง
- ๑๔๐. ผูกพัทธสีมาพระอุโบสถวัดพระเชตุพน
- ๑๔๑. เจ้าพระยาบดินทรเดชาออกไปจัดการเมืองบัตบอง
- ๑๔๒. พระสงฆ์ลังกาเข้ามากรุงเทพมหานคร
- ๑๔๓. เจ้าเมืองโปริสาทพาครอบครัวมาหาเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๑๔๔. บอกเจ้าพระยาบดินทรเดชาเรื่องจัดการทัพไว้ต่อสู้ญวน
- ๑๔๕. ทัพไทยตีค่ายกะพงทมและค่ายญวนเมืองชีแครง
- ๑๔๖. พระยาพระเขมรมีหนังสือมาขอองค์ด้วง
- ๑๔๗. เจ้าพระยาบดินทรเดชาให้ระดมตีทัพญวน
- ๑๔๘. เจ้าพระยาบดินทรเดชาปรึกษาเรื่องการทัพญวน
- ๑๔๙. ญวนยอมทำพระราชไมตรีตามเดิม
- ๑๕๐. เจ้าพระยาบดินทรเดชามีหนังสือถึงเสนาบดีเมืองเว้
- ๑๕๑. เจ้าพระยาบดินทรเดชาจัดการส่งขุนนางญวน
- ๑๕๒. องเตียนกุนโกรธองเดดก
- ๑๕๓. ญวนให้พระสงฆ์ถือหนังสือไปหาพระยาพระเขมร
- ๑๕๔. พระสงฆ์ลังกาเข้ามาถึงกรุงเทพฯ
- ๑๕๕. พระยากลันตันกับพระยาบาโงยเกิดวิวาทกันอีก
- ๑๕๖. พระองค์ด้วงครองเมืองบัตบอง
- ๑๕๗. เจ้าพระยาบดินทรเดชาขอเจ้าพระยายมราชออกไปช่วยราชการ
- ๑๕๘. เจ้าเวียดนามมินมางทิวงคต
- ๑๕๙. เตืองคำสือมืนคงได้เป็นเจ้าเวียดนาม
- ๑๖๐. เจ้าพระยาบดินทรเดชาส่งญวนมากรุงเทพ ฯ
- ๑๖๑. หนังสือขององเกรินตาเตืองกุนถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๑๖๒. คำอธิบายชื่อในหนังสือองเกรินตาเตืองกุน
- ๑๖๓. ใบบอกพระยาเสนาภูเบศรเรื่องรบกับทัพญวน
- ๑๖๔. เจ้าพระยาบดินทรเดชาสร้างเมืองให้พระองค์ด้วง
- ๑๖๕. พระมหาสงครามไปกวาดครอบครัวเมืองเวียงจันท์
- ๑๖๖. ตนกูอับดุลลาเป็นพระยาไทรบุรี
- ๑๖๗. พระองค์ด้วงพาไพร่พลไปตั้งอยู่ที่เมืองอุดงฦๅชัย
- ๑๖๘. พระองค์ด้วงตั้งแต่งขุนนางแล้วส่งไปรักษาเขตต์แดน
- ๑๖๙. ทัพเขมรรบกับทัพญวน
- ๑๗๐. คำให้การของมองสวยตองเรื่องการเมืองพะม่า
- ๑๗๑โปรดเกล้าฯ ให้มองสวยตองไปอยู่คอกกระบือ ภายหลังถูกจำคุก
- ๑๗๒. องค์อิ่มทำหนังสือไปเกลี้ยกล่อมพระยาพระเขมร
- ๑๗๓. กองทัพญวนขัดสนสะเบียงอาหาร
- ๑๗๔. องเตียนกุนกินยาตาย
- ๑๗๕. ท้องตราถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๑๗๖. เจ้าพระยาบดินทรเดชาให้กราบทูลถึงเรื่องถมคลองขุด
- ๑๗๗. เจ้าอุปราชเกณฑ์ทัพหัวเมืองตีเมืองฟากโขง
- ๑๗๘. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนอิศเรศรังสรรค์เป็นแม่ทัพเรือ
- ๑๗๙. เจ้าพระยายมราชคุมกองทัพไปตั้งค่ายที่เขาเชิงกะชุม
- ๑๘๐. กองทัพเรือไทยเผาค่ายญวน
- ๑๘๑. จมื่นไวยวรนารถให้ยกทัพเรือทัพบกเข้าประชิดค่ายญวน
- ๑๘๒. หนังสือบอกจมื่นไวยวรนารถถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชาเรื่องถอยทัพเรือ
- ๑๘๓. กองทัพไทยแตกที่เมืองโจฎก
- ๑๘๔. ลำเลียงข้าวเกลือส่งเมืองกำปอด
- ๑๘๕. เกิดจีนตั้วเหี่ยขึ้นที่เมืองนครชัยศรีและสาครบุรี
- ๑๘๖. เจ้าพระยาบดินทรเดชาให้เจ้าพระยายมราชคุมคนไปสร้างเมืองที่อุดงฦๅไชย
- ๑๘๗. ทรงกริ้วเจ้าพระยายมราชและนายทัพนายกอง
- ๑๘๘. เจ้าเวียดนามให้เกลี้ยกล่อมพระยาพระเขมร
- ๑๘๙. ดาวหางขึ้น
- ๑๙๐. บอกเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๑๙๑. มีพระราชปฏิสันถารกับพระสงฆ์ลังกา
- ๑๙๒. เจ้าเมืองสิงคโปร์ตอบหนังสือเจ้าพระยาพระคลัง
- ๑๙๓. พระสงฆ์ไทยออกไปเมืองลังกา
- ๑๙๔. ชำระพระสงฆ์ประพฤติอนาจาร
- ๑๙๕. พระสงฆ์ไทยออกไปส่งพระลังกากลับถึงกรุงเทพ ฯ
- ๑๙๖. เจ้าพระยาบดินทรเดชาขอเข้ามาแจ้งราชการณกรุงเทพฯ
- ๑๙๗. ท้องตราถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๑๙๘. เพลิงไหม้พระมหามนเทียร
- ๑๙๙. ได้ช้างสำคัญ ๓ ช้าง
- ๒๐๐. ข้าวแพง
- ๒๐๑. พระสงฆ์ไทยไปลังกา
- ๒๐๒. เจ้าพระยาบดินทรเดชาบอกเรื่องการทัพญวน
- ๒๐๓. จับจีนขายฝิ่นที่ปากน้ำบางปะกง
- ๒๐๔. พระราชทานที่ให้พวกครัวที่กวาตต้อนมาอยู่ตามใจสมัคร
- ๒๐๕. พระสงฆ์ไทยกลับจากลังกา
- ๒๐๖. เกิดเหตุกับฮันเตอร์ (พ่อค้า)
- ๒๐๗. เตรียมการป้องกันอังกฤษ
- ๒๐๘. หัวเมืองตะวันตกเกิดจีนตั้วเหี่ย
- ๒๐๙. จับจีนตั้วเหี่ยได้
- ๒๑๐. จับขุนนางเขมรที่เป็นกบฏได้ ๑๑ คน
- ๒๑๑. ญวนยกทัพเรือมารบเขมร
- ๒๑๒. เจ้าพระยาบดินทรเดชายกทัพไปเมืองอุดงฦๅไชย
- ๒๑๓. ญวนตีค่ายเมืองพนมเป็ญแตก
- ๒๑๔. เจ้าพระยาบดินทรเดชาตีทัพญวนแตกถอยไป
- ๒๑๕. พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอับษรสุดาเทพสิ้นพระชนม์
- ๒๑๖. ความอัศจรรย์ของพระยามหาเทพ
- ๒๑๗. บอกพระยาเชียงใหม่
- ๒๑๘. ญวนพูดกับเจ้าพระยาบดินทรเดชาเป็นทางไมตรี
- ๒๑๙. ญวนรื้อค่ายไปตั้งอยู่เมืองพนมเป็ญ
- ๒๒๐. งานพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปษรสุดาเทพ
- ๒๒๑. โสกันต์พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี
- ๒๒๒. ญวนให้มีราชสาสน์ไปทูลขอเจ้าหญิงต่อเจ้าเวียดนาม
- ๒๒๓. ชักพระพุทธรูปไปวัดราชนัดดาราม
- ๒๒๔. ญวนมาเตือนพระองค์ด้วงให้ส่งญวน ๔๔ คน
- ๒๒๕. ท้องตราตอบหนังสือเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๒๒๖. เจ้าพระยาบดินทรเดชามีหนังสือถึงองญวน
- ๒๒๗. พระองค์ด้วงแต่งทูตให้เชิญศุภอักษรไปเมืองเว้
- ๒๒๘. เจ้าพระยาบดินทรเดชากราบบังคมทูลเรื่องทัพญวน
- ๒๒๙. งานพระศพกรมขุนกัลยาสุนทร
- ๒๓๐. พระกระแสรับสั่งตอบเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๒๓๑. ราชทูตที่ไปเมืองเว้เฝ้าเจ้าเวียดนาม
- ๒๓๒. เจ้าเวียดนามให้พระองค์ด้วงเป็นเกามันกวัดเวือง
- ๒๓๓. เจ้าเวียดนามเทียวตรีสิ้นพระชนม์ เจ้ายอมราชบุตรเป็นเจ้าเวียดนามตือดึก
- ๒๓๔. พระองค์ด้วงเป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชา
- ๒๓๕. เมืองสาครบุรีเกิดจีนตั้วเหี่ย
- ๒๓๖. เมืองฉะเชิงเทราเกิดจีนตั้วเหี่ย
- ๒๓๗. เจ้าพระยาพระคลังกับเจ้าพระยาบดินทรเดชาปราบจีนตั้วเหี่ยเมืองฉะเชิงเทรา
- ๒๓๘. งานฉลองวัดพระเชตุพน
- ๒๓๙. ได้พระยามงคลคชพงศ์ช้างพลาย
- ๒๔๐. ลงพระราชอาชญาสำเร็จโทษกรมหลวงรักษรณเรศ และประหารชีวิตบ่าว ๓ คน
- ๒๔๑. เจ้าพระยาพระคลังออกไปสักเลกหัวเมืองตะวันตก
- ๒๔๒. ซ่อมพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและทำป้อมบางจะเกร็ง
- ๒๔๓. โปรดให้หาฤกษ์บรรจุพระบรมธาตุในพระพุทธรูป
- ๒๔๔. บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและฉลองพระเจดีย์
- ๒๔๕. จลาจลในเมืองเชียงรุ้ง
- ๒๔๖. เจ้าแสนหวีฟ้ามีอักขรกถาถึงเจ้าเมืองหลวงพระบาง
- ๒๔๗. ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในคราวเกิดไข้ปวง
- ๒๔๘. เกณฑ์ทัพเมืองเหนือไปตีเมืองเชียงตุง
- ๒๔๙. ทูตอเมริกันเชิญราชสาสน์เข้ามา
- ๒๕๐. ทูตอเมริกันฟ้องพระยาศรีพิพัฒน
- ๒๕๑. งานศพเจ้าพระยาบดินทรเดชา
- ๒๕๒. เจ้าเชียงใหม่กล่าวโทษเจ้าอุปราชเข้ามากรุงเทพฯ
- ๒๕๓. ทูตอังกฤษเข้ามาขอแก้หนังสือสัญญา
- ๒๕๔. ทูตอังกฤษกลับ
- ๒๕๕. ใจความในพระราชสาสน์ของพระเจ้าฮำฮอง
- ๒๕๖. สร้างป้อมเสือซ่อนเล็บและขุดคลองเมืองนครเขื่อนขันธ์
- ๒๕๗. การปฏิสังขรณ์และสร้างพระอาราม
- ๒๕๘. โปรดให้ต่อกำปั่นและเรือพระที่นั่ง
- ๒๕๙. ยกบ้านขึ้นเป็นเมือง
- ๒๖๐. เจ้าพระยาพระคลังถวายกลองวินิจฉัยเภรี
- ๒๖๑. พระราชกรณียกิจที่ทรงกระทำ
- ๒๖๒. ภาษีอากรที่เกิดมีขึ้นใหม่
- ๒๖๓. ทรงพระประชวร
- ๒๖๔. กระแสพระราชดำริถึงผู้สืบราชสมบัติ
- ๒๖๕. พระสงฆ์อธิษฐานให้พระโรคหาย
- ๒๖๖. เกณฑ์ข้าราชการเข้าประจำซองรักษาพระราชนิเวศน์
- ๒๖๗. เจ้าพระยาพระคลังให้จมื่นราชามาตย์ไปทูลเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราชเสด็จครองราชสมบัติ
- ๒๖๘. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
๑๒. ราชสาสนพะม่า
ครั้นมาถึงณเดือน ๑๐ ปีวอกนั้น พระยาทิพโกษา พระจิตรเสน่ห์ ซึ่งเป็นทูตเชิญพระราชสาสน์ออกไปกรุงเวียดนาม กลับเข้ามาถึง ขอคัดเอาราชสาสน์พะม่าเข้ามาด้วย[๑] โปรดให้แปลออกมีความว่า พระราชสาสน์เมืองอังวะ เป็นที่ตั้งพระพุทธศาสนาอันประเสริฐ รตนะทั้งนั้นชุมนุมเข้าแล้ว อำมะระบุระเมืองทองท่านใหญ่ทั้งนั้น ที่ร่มศาสนานั้นได้ครองบ้านเมือง ท่านทั้งหลายอยู่นิพพานณะปัจจยะนคราชา อันมีชื่อสัตว์ต้นช้างมีแต่พระยาทั้งนั้น ขุนหลวงพระยาช้างเผือก มีทั้งเครื่องสาตราวุธทั้งนั้น เจ้าน้ำเจ้าแผ่นดินได้ครองพระศาสนา ทายกามหาธรรมราชาพระบาทขุนหลวงใหญ่ทั้ง ๒ นั้น ทูลเกล้าทูลกระหม่อมไว้อันข้อเนื้อความได้ตรัสสิ้นแก่อัครมหาเสนาผู้ใหญ่ จตุสดมภ์จัดแจงมาให้ถึงญวนใหญ่ กับขุนหลวงทั้งอำมาตย์ด้วยกันแต่ก่อนมา พระอาทิตย์พระจันทร์ทั้ง ๒ ดวงขึ้นมาก่อนดาวทั้งปวง ขอให้เป็นขุนหลวงได้ครองไพรพลเมือง ทรงธรรมสิบประการ พระอาทิตย์ราชามหากษัตริย์ เป็นขุนหลวงซื่อสัตย์บริสุทธิ์ เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ ขุนหลวงชมภูทีเปทั้งสิ้น พระอาทิตย์พระจันทร์เหมือนกัน พระธรรมใหญ่กว่าเจ้าชีวิตขุนหลวงแต่ก่อนมา อันเหลือล้นในชาติอันก่อสร้าง ขอพระอัฎโสตับปะสัพบารมีของท่านนั้น ปู่ตาท่านขุนหลวงดีบริสุทธิ์เป็นต่อกันมาได้ครอบครองปราสาทราชมนเทียรอันบริสุทธิ์ บ้านเมืองคนทั้งหลายรักเหมือนลูกในไส้ของท่าน กรุณาต่อสัตว์ทั้งหลาย ทั้งส่วยสาอากรทั้งหลายไม่ให้เก็บให้อยู่เย็นเป็นสุข บัณณรสะ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ดาวแจ่มแจ้งและพระจันทร์สว่างในศาสนาจำศีลภาวนา อันทางดีพระธรรมอุตสาหให้สบายเป็นสุข อันหาโรคาอย่าได้มียืดไป ข้อดีประเสริฐล้อมที่ปราสาทนั้นอยู่ เมืองสุนาปรันตะ เมืองตัมพะทีปะ เมืองทุระกะ เมืองสมันยะ เมืองสิริคิตะคะ เมืองเสยะอุทะกันปะสะ เมืองโสดถินคะระ เมืองเขมาระทะ เมืองยาสิงคะระ เมืองละวะระทะ เมืองหะระมุสะ เมืองนาคะชันตะ ๑๕ เมืองทั้งสิ้น ทรงศิลปศาสตร์ประเดชื่อฤทธิเอกาฤกษ์สิ้นทั้งปวง ท่านพระยาทั้งนั้นเรี่ยวแรงแข็งขันให้กินเมืองใหญ่ ตามโบราณมาเคยถวายของสิ่งใดก็ถวายมิได้ขาด ใต้ฝ่าละอองพระบาททั้ง ๒ นั้น แล้วมีเนื้อความห้ามกันแล้ว มหามณีรูปพระเจ้าประเสริฐทิศฐานอันเสิศ มีมหาฤกษ์แดนอัคบระเดยะวดีเมืองใหญ่ พาราวดีเมืองใหญ่ เมคะวดีเมืองใหญ่ รัมวะดีเมืองใหญ่ นาคะชันตันเมืองใหญ่ อาสะมะสคะเทวตันเมืองใหญ่ โคระควนแรงคะบุระเมืองใหญ่ทั้งปวง มหากษัตริย์ทั้งหลายพื้นพาชนะบุบแบก ห้ามกันสิ้นทั้งปวง สมุทราอันเกาะเมืองบ้านใดเมืองนายใดนั้น มาถวายเครื่องสาตราวุธช้างใหญ่ม้าใหญ่ลูกสาวมาถวาย พื้นแต่มีพาศนามหากษัตริย์ทั้งนั้น ตามภาษาท่านเลี้ยงดูผู้คนท่านทั้งหลายเรี่ยวแรงแข็งมั่น เหล่าพลโยธาแม่ทัพทั้งปวงนั้น ท่านโอบอ้อมครองไว้ ที่รับพรมหากษัตริย์นั้นก็เลี้ยงดูไม่ให้ระคาย ที่ไม่รับพรก็เลี้ยงดูไม่ให้ระคายทั้งชายทั้งหญิง สัตเตมหาสัตเตทั้งสิ้น เลี้ยงดูไม่ให้ระคายได้ในจังหวัดแว่นแคว้นที่อยู่ ไพร่บ้านพลเมืองทั้งหลายก็ดี เลี้ยงดูมิให้ระคายได้ พระสงฆ์ในพระศาสนา เคยเฝ้าแหนอยู่ด้วยกันมาแต่ก่อน พระยาจักรพรรดิ์ท่านทรงธรรมให้ทานจำศีลหักอารมณ์แล้วตั้งอยู่ในศีลเป็นนิรันดร์ ให้ท่านทั้งหลายซื่อสัตย์ต่อท่านทั้งปวง ให้มีทั้งกิริยาอุโบสถท่านส่องแท้แล้ว สิ่งอันใดความทั้งหลายตัดโทโสโมโห ไม่คิดในกระหวัดผู้คนทั้งหลาย ไม่ได้คิดฤษยา ท่านอดเอาเบาสู้ด้วยไพร่บ้านพลเมืองทั้งหลาย เมตตากรุณาได้ตามใจที่ชอบใจท่านจึงสั่งไว้ ครั้งนั้นพระมหากษัตริย์ท่านทรงพระธรรม ๔ บระการ คุณแก้ว ๘ ประการ อปริหานิยธรรม ๗ ประการ สังคโหพระธรรม ๒ ประการ มหาสมมติกษัตริย์อันดีอันเลิศเธอทรงพระธรรมไม่ย่อหย่อน เธอทรงไว้แล้วนั้นก็ดี เมืองทั้ง ๔ หน้านั้นอยู่เป็นสุขสำราญใจ ท่านครองราชสมบัติพระมหากษัตริย์ปฏิบัติพระธรรม ๗ ประการนั้นด้วยเมืองก่อสร้างเหมือนกัน พระมหากษัตริย์ทั้งหลายก็ดี ราชมหามิตรเป็นชอบแก่กัน เมื่อปู่พระมหากษัตริย์นั้นใช้ให้ถือราชสาสน์มาให้เจ้าพระยาเมืองญวนใหญ่นั้นไม่ถืง ด้วยทางอันตรายนั้นมากด้วยคลื่นลมนั้นขัดจึงไม่มาถึง พระเจ้าปู่ทรงโกรธแล้วให้ครองราชสมบัตินั้น แล้วจึ่งได้ครองอยู่เป็นที่บริสุทธิ์ แล้วก็ได้ฟังอยู่มิช้านาน เจ้าพระยาเมืองญวนใหญใช้คนข้างในออกมา กายโดยลำทูหาบกรินมาถึงท่าเกาะปุลอบินังนั้นแล้ว เจ๊กลูกค้าเจ้าได้ครองเขารังนกแล้ว มาพบปะกันจึ่งรู้เรื่องราวนั้น เจ๊กจึ่งพามาเมืองทะวาย ถึงย่างกุ้งมหาเสนาบดีศึกใหญ่ท่านได้ตัดสินอยู่เปกุหงษาเจ้าพระยาศึกใหญ่ เมงยิสโรเมลณะอะปะวะระทาสมควรกันดีแล้ว มหาไชยปุระเมืองสกรรส่งให้ถึงเรือใหญ่ เรือพายให้เต็มพร้อมแล้ว พาไปถึงเมืองสกรร เรือทองปักกิ่งคนเต็มลำ จัดกะบิทุริยาทั้ง ๕ ป่าวร้องราษฎรเมืองรัตนอังวะเมืองใหญ่ ข้างเหนือตะวันออกได้ กองที่ท่านนั้นปลูกโรงศาลให้หยุด แล้วเฝ้าห้อมล้อมหยุดอยู่ที่นั้น เจ้าเมืองญวนใหญ่นั้น ราชสาสน์อันให้มาหนังสือไม่ให้มาก็ดี เจ้าเมืองญวนใช้ให้มาจริงหรือไม่จริงถามแล้ว เมืองปุระข้างใต้มหาคิรีย์นันทวงษ์ในสระอันอนันต์ให้ชอบให้ดีอยู่แล้ว กายโดยลำทูหาบกรินด้วยกันกับอำมาตย์เจ้าเมืองญวนนั้น ของถวายนั้น ฝากให้ผ้าผ่อนของถวายอาวุธนั้นด้วย ถวายใต้ฝ่าพระบาทกายโดยลำทูหาบกรินได้ให้ถามเดี๋ยวนี้ พระเจ้าเมืองญวนใหญ่กว้างกว่าท่านเค้าโทพระเจ้าเมื่อความครั้งท่านขุนหลวงพระอาทิตย์ตะวันออก ขุนหลวงตะวันออกเมืองท่านกรุงอยู่หัวราชสาสน์มาอยู่แล้ว เธอทรงพระโกศแล้ว ลูกท่านมินมางวางเดเป็นขุนหลวงเสวยราชย์ได้ ๒ ปี แล้วจึ่งปล่อยไปถึงใต้ฝ่าท้าวการเมืองการบ้าน อันขวางที่นั้นบางกอกชนอยู่บ้านเมืองท่าน ขุนหลวงเมืองใหญ่กรุงเมือง เพราะเขมรไม่ชอบไม่พอต่อกัน ทั้ง ๒ เมืองด้วยกัน ได้คิดล้างผลาญด้วยกันก็เห็นจะได้เมืองศรีอยุธยาจะไม่ทนทานได้ เมืองเราทั้ง ๒ นี้ได้ไปมาหากันสบายถึงกัน ขุนหลวงญวนใหญ่กับอำมาตย์ได้ปรึกษาอันแล้ว จึ่งออกมาว่าบางกอกอยุธยานั้นท่านปู่ท่านตาสองต่อสอง ในกรุงท่านนั้นศักราช ๑๑๐๐ ปี[๒] เมืองอยุธยามีพระราชาในกรุงท่านประทานเรือนขาวให้อยู่และยอยกเลี้ยงดูเข้าเฝ้าอยู่ให้ลูกเสวยราชย์แล้วปีหนึ่ง ส่งช้าง ๓๐ ตัวเงิน ๓๐ ชั่ง เคยถวายได้ซื่อสัตย์ ปู่ของเจ้าเรารัตนอังวะตั้งขุนหลวงเจ้าช้างเผือก เมื่อครั้งนั้นใช้อำมาตย์เสนาไปริบเมืองอยุธยา เจ้าเมืองล้มตายแล้วบ้านเมืองนั้นกระวนกระวายไปสิ้น แล้วมีโจรที่กลางทะเลนั้นแข็งร้าย กลับอิจฉาฤษยาประจุบันความไม่ทำตามอย่างธรรมเนียม ไม่อดเบามันฤษยาสิ่งใด ๆ ขุนหลวงญวนใหญ่ให้ราชสาสน์มา ซึ่งทางตรงจริงไปไม่ถึง แล้วทำเป็นพ่อค้ามาขาย ทำอย่างนั้นมาที่จริงเพราะอย่างนั้น ไม่จะถึงฝ่าพระบาทกายโดยลำทูหาบกริน ด้วยว่ามาทั้งนี้ เป็นการกรุงการเมืองเป็นจริง เจ้าเมืองญวนใหญ่กับอำมาตย์สั่งให้จริง การทั้งสิ้นเข้าเฝ้าพระบาท เนมอยสิริสุระณะระทา เนมอยตายอง เนมอยสิริยารกงณรัต เนมอยเชตรัสสายตินณระทา เนมอยสิวจุชาสิริสินตณระทาทั้งนั้น กายโดยลำทูหาบกรินทั้งนั้นด้วยกันให้มาถึงขุนหลวงญวนใหญ่ พิมพ์ตราหนึ่ง แหวนทับทิม ๒๐ วง แหวนมรกต ๒๐ วง แส้อูขาวอันหนึ่ง ถุงทับทิม ๓ ใบ ผ้าห่มไหมผืน ๑ ผ้านุ่งภาลา ๒ ผืน ผ้านุ่งเลขาสิต ๒ ผืน ลูกประคำปะรันตะสาย ก้อนหินขาว ๑ กล่องลาว ๑ กล่องลาวขาวสองกลอก ๑ กล่องกินหมาก ๑ โอจุข้าวสัด ๑ โอจุข้าวสองทนาน ๑ โอจุข้าวทะนาน ๑ อุปตีนสูง ๑ อุปลาวกินข้าว ๒ อุปแดง ๒ อุปใส่เมี่ยง ๑ ดินสอแก้ว ๕ ชัง น้ำมันดิน ๓๐ หม้อ ทั้งนั้นสิ้นกับราชสาสน์คนใช้ให้มาขายใต้ฝ่าพระบาท เนมอยสิวะจุชาสิริสินตณะระทาทั้งสิ้น ข้าใต้ฝ่าพระบาทใช้อันใดอันความนั้นรู้สิ้น บางกอกศรีอยุธยาล้างผลาญให้สิ้น แล้วได้คิดด้วยกันเห็นดีเห็นแจ้งแล้วขอได้ตอบคืนมาให้ได้แจ้งด้วย ศักราช ๑๑๘๕ ปี[๓] แรม ๒ ค่ำ สิ้นความในราชสาสน์เท่านี้