๘๕. คนสนิทของสุลต่านมะหมุดเข้ามาขอกำลังรบเมืองปาหัง

และเมื่อณวันเสาร์เดือน ๒ ขึ้น ๕ ค่ำ[๑] เจะแดงเป็นคนสนิทของสุลต่านมะหมุด โดยสานเรือไฟเจ้าพระยาเข้ามา ณกรุงเทพมหานคร มีหนังสือพระพิเทศพานิชนำเข้ามาด้วย เจะแดงกราบเรียนต่อพณหัวเจ้าท่านที่สมุหพระกลาโหม ว่าสุลต่านมะหมุดเจ้าเมืองลิงา เดิมบิดาสุลต่านมะหมุดถึงแก่กรรมลง วิลันดาจึงตั้งตนกูมะหมุดผู้บุตร์เจ้าเมืองลิงา ขึ้นเป็นสุลต่านที่เจ้าเมือง อยู่ได้ ๑๘ ปี วิลันดาว่าสุลต่านมะหมุดไม่เอาใจใส่ในราชการ มีแต่การเล่นกับไปเที่ยวเสียทางไกลๆ เนืองๆ วิลันดาจึงตั้งตนกูมุดาผู้อาของสุลต่านมะหมุดขึ้นเป็นเจ้าเมือง สุลต่านมะหมุดเข้าเมืองมิได้ ก็พาครอบครัวพี่น้องมาอยู่ที่เมืองสิงคโปร์ แล้วก็มาอาศัยอยู่เมืองปาหัง ๓ ปี โต๊ะบันดาหราเจ้าเมืองปาหัง ไม่ชอบกับชีหวันมะหมัดผู้น้อง รบพุ่งกันเนืองๆ ไพร่บ้านพลเมืองก็รักชีหวันมะหมัด สุลต่านมะหมุดไปอยู่เมืองปาหังก็ชอบกับชีหวันมะหมัด ๆ นับถือว่าเป็นเจ้านายตัว ด้วยเมืองปาหังแต่ก่อนขึ้นกับเมืองลิงา ชีหวันมะหมัดคิดจะเอาเมืองปาหังให้ แต่ยังขัดอยู่ด้วยกำลังน้อย ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามช่วยอุดหนุนสุลต่านมะหมุดได้เป็นเจ้าเมืองปาหังแล้ว จะคิดเอาเมืองปาหังมาขึ้นกับกรุงเทพมหานคร ได้ทรงทราบดังนั้นแล้วดำรัสว่า เมืองปาหังเดี๋ยวนี้ก็อยู่ในบำรุงอังกฤษ จะคิดมาขึ้นกรุงเทพฯ นั้นไม่สมควร ด้วยไทยกับอังกฤษก็เป็นไมตรีรักใคร่กันสนิท ถ้าสุลต่านมะหมุดอยู่ที่เมืองปาหังไม่สบาย จะเข้ามาอยู่ณกรุงเทพมหานคร ก็จะโปรดฯ ให้อยู่เป็นสุข เจะแดงได้ทราบกระแสรับสั่งดังนั้นแล้วก็ลากลับไป ภายหลังสุลต่านมะหมุดอยู่ที่เมืองปาหังไม่สบายก็เข้ามาอยู่เมืองตรังกานูกับมารดา ด้วยมารดาสุลต่านมะหมุดนั้นเป็นพี่หญิงของตนกูอูมาซึ่งเป็นพระยาตรังกานู



[๑] วันที่ ๑๗ ธันวาคม ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ