- คำนำ
- ๑. อัญเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จจากวัดบวรนิเวศ
- ๒. กราบทูลอัญเชิญสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขึ้นเสวยราชย์
- ๓. ทรงแก้ไขธรรมเนียมข้าราชการเข้าเฝ้าให้สรวมเสื้อ
- ๔. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- ๕. ข้าราชการฝ่ายในถวายตัว
- ๖. เสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค
- ๗. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- ๘. พระราชพิธีบวรราชาภิเศก
- ๙. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเลียบพระนคร
- ๑๐. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๑๑. ตั้งพระราชาคณะ
- ๑๒. ตั้งกรมเจ้านาย
- ๑๓. เจ้าประเทศราชเข้ามาเฝ้า
- ๑๔. ตำนานเมืองน่าน
- ๑๕. ตำนานเมืองแพร่
- ๑๖. ทรงแก้สร้อยพระนาม องค์สมเด็จหริรักษรามา เจ้ากรุงกัมพูชา
- ๑๗. ทรงแต่งตั้งขุนนาง
- ๑๘. ขุดคลองคูพระนครชั้นนอก
- ๑๙. การเทศนากระจาดใหญ่
- ๒๐. ถวายพระนามพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมราชชนนี และกรมพระราชวังบวรที่สวรรคตแล้ว
- ๒๑. งานพระบรมศพ
- ๒๒. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๒๓. ขุดคลองผดุงกรุงเกษมและสร้างป้อม
- ๒๔. สมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดีสิ้นพระชนม์
- ๒๕. เริ่มการศึกเชียงตุง
- ๒๖. บรรจุดวงพระชาตาพระนคร
- ๒๗. สมณทูตไทยไปลังกาทวีป
- ๒๘. งานพระศพสมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดี
- ๒๙. สมณทูตกลับจากลังกาทวีป
- ๓๐. ได้พระวิมลรัตนกริณี ช้างพังเผือกตรี
- ๓๑. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์ประสูติเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๓๒. การทัพศึกเมืองเชียงตุง
- ๓๓. เรื่องเรือกะทงลอยพระประทีป
- ๓๔. สร้างพระเจดีย์และถวายพระนามพระประธานในวัดพระเชตุพน
- ๓๕. กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสและกรมหลวงพิเศษศรีสวัสดิ์สิ้นพระชนม์
- ๓๖. สร้างสระปทุมวันและวัดปทุมวนาราม
- ๓๗. การทัพศึกเมืองเชียงตุง (ต่อ)
- ๓๘. เตรียมการต้อนรับเซอร์ยอนโบวริง
- ๓๙. การฉลองคลองคูพระนครชั้นนอก (คลองผดุงกรุงเกษม)
- ๔๐. สร้างพระอภิเนาวนิเวศน์
- ๔๑. ได้พระวิสุทธรัตนกริณี ช้างพังเผือกโท
- ๔๒. เซอร์ยอนโบวริงเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๓. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ถึงแก่พิราลัย
- ๔๔. มิสเตอร์ฮาริปักเข้ามาแก้หนังสือสัญญา
- ๔๕. ทูตอเมริกันเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๖. การถวายสลากภัตรในวัดพระเชตุพน
- ๔๗. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาทำสัญญา ๓๒ ข้อ
- ๔๘. พม่าถือหนังสือเสนาบดีผู้ใหญ่เมืองพม่าเข้ามาถวายพระสังฆราช
- ๔๙. หนังสือเดินทางของพม่า
- ๕๐. ลิขิตสมณศาสน์ตอบหนังสือเสนาบดีพม่า
- ๕๑. ทูตฝรั่งเศสไปเมืองเขมรและเมืองญวน
- ๕๒. หนังสือองค์พระหริรักษ์ถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓
- ๕๓. ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ
- ๕๔. สร้างสวนอนันตอุทยาน
- ๕๕. ขุดคลองมหาสวัสดิ์
- ๕๖. เสด็จประพาสหัวเมืองตะวันออก
- ๕๗. พระราชทานที่ให้ชาวต่างประเทศตั้งห้างและขุดคลองถนนตรง
- ๕๘. พระราชทานทรัพย์สร้างศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๕๙. หนังสือองญวนข้าหลวงเมืองไซ่ง่อนถึงเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม
- ๖๐. หนังสือตอบองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน
- ๖๑. หนังสือองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน ตอบเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๖๒. ทูตเดนมาร์กเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๖๓. ราชทูตไทยกลับจากลอนดอน
- ๖๔. ทูตเดนมาร์กกลับ
- ๖๕. โปรดฯ ตั้งองค์พระนโรดมและองค์หริราชดะไนไปช่วยราชการเมืองเขมร
- ๖๖. ฝรั่งเศสรบกับญวน
- ๖๗. ดาวหางขึ้น
- ๖๘. พระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ และสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย
- ๖๙. ทูตโปรตุเกศเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๗๐. งานเฉลิมพระมหามนเทียรพระที่นั่งอนันตสมาคม
- ๗๑. สร้างประตูกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอก
- ๗๒. เรื่องรักใคร่ระหว่างขุนสุวรรณกับเจ้าจอมช้อย
- ๗๓. พระราชทานเงินคนชราพิการ
- ๗๔. เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก
- ๗๕. กรมสมเด็จพระเดชาดิศรสิ้นพระชนม์
- ๗๖. เสด็จประพาสตลาดสำมุข
- ๗๗. โปรดฯ ให้รื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๗๘. ฝรั่งเศสรบกับญวน (ต่อ)
- ๗๙. งานพระศพกรมสมเด็จพระเดชาดิศร
- ๘๐. เกิดความไข้ที่กรุงเทพฯ
- ๘๑. ได้พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพลายเผือกโท
- ๘๒. โปรดเกล้าฯ ให้งดการรื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๘๓. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาศหัวเมืองปักษ์ใต้
- ๘๔. ทูตฮอลันดาเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๘๕. คนสนิทของสุลต่านมะหมุดเข้ามาขอกำลังรบเมืองปาหัง
- ๘๖. องค์พระหริรักษ์ เจ้ากรุงกัมพูชา สุรคต
- ๘๗. สมโภชพระสมุทรเจดีย์
- ๘๘. ราชทูตไทยไปประเทศฝรั่งเศ
- ๘๙. ใบบอกพระยาสระบุรีเรื่องคล้องได้ช้างพังเผือกโท
- ๙๐. เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี
- ๙๑. ราชทูตกราบถวายบังคมลา
- ๙๒. สมโภชพระพุทธบุษยรัตน์ จักรพรรดิพิมลมณีมัย
- ๙๓. กรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชาและกรมหลวงมหิศวรินทรามเรศรสิ้นพระชนม์
- ๙๔. สุลต่านมะหมุดเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- ๙๕. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์สิ้นพระชนม์
- ๙๖. เรื่องเมืองเขมร
- ๙๗. ทูตปรุศเซียเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๙๘. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๙๙. เรื่องเมืองเขมร (ต่อ)
- ๑๐๐. งานพระศพ กรมหลวงมหิศวรินทร์ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และพระองค์เจ้านิลวรรณ
- ๑๐๑. ส่งองค์พระนโรดมไปครองเมืองเขมร
- ๑๐๒. ทูตปรุศเซียกราบถวายบังคมลา
- ๑๐๓. ทำเงินตราใช้แทนเบี้ยและหอย
- ๑๐๔. ตัดถนน ๓ สายและขุดคลอง
- ๑๐๕. สร้างสะพานข้ามคลอง
- ๑๐๖. งานพระศพกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์และพระองค์เจ้าสว่าง
- ๑๐๗. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์
- ๑๐๘. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๐๙. เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา
- ๑๑๐. งานพระศพสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์
- ๑๑๑. ราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๑๒. พระราชศาสน์ถึงเจ้ากรุงจีน
- ๑๑๓. ญวนทำสัญญาใช้เบี้ยปรับให้ฝรั่งเศส
- ๑๑๔. เรื่องสุลต่านมะหมุด
- ๑๑๕. สร้างถนนเจริญกรุงตอนใน
- ๑๑๖. กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธรสิ้นพระชนม์
- ๑๑๗. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๑๘. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์
- ๑๑๙. การรับและสมโภชพระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพังสีประหลาด
- ๑๒๐. กรมพระพิทักษเทเวศรสิ้นพระชนม์
- ๑๒๑. งานโสกันต์
- ๑๒๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายเครื่องราชอิศริยยศ
- ๑๒๓. งานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธร
- ๑๒๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลฯ สิ้นพระชนม์
- ๑๒๕. งานพระศพกรมพระพิทักษเทเวศร และพระองค์เจ้าใย
- ๑๒๖. เตรียมการสมโภชพระบรมอัฏฐิ
- ๑๒๗. เรื่องราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๒๘. เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ (ลองเรืออรรคราชวรเดช)
- ๑๒๙. องค์พระนโรดมบอกเรื่องทำหนังสือสัญญาระหว่างเขมรกับฝรั่งเศส
- ๑๓๐. สุลต่านมะหมุดหนีกลับ
- ๑๓๑. สร้างถนนบำรุงเมือง
- ๑๓๒. สร้างถนนเฟื่องนคร
- ๑๓๓. ฝรั่งเศสถวายรูปราชสีห์
- ๑๓๔. สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา เสด็จไปเที่ยวค้นดูช้างในแขวงเมืองนครนายก
- ๑๓๕. พระราชทานสุพรรณบัฏเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๑๓๖. ญวนแต่งทูตไปกรุงปารีส
- ๑๓๗. สร้างพระบรมบรรพต
- ๑๓๘. สมโภชพระบรมอัฏฐิและพระอัฏฐิ
- ๑๓๙. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๔๐. งานพระศพพระองค์เจ้าขนิษฐน้อยนารี
- ๑๔๑. พระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยานิกรบดินทร์
- ๑๔๒. ตั้งผู้แทนทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนอังกฤษกับไทย
- ๑๔๓. ราชาภิเศกองค์พระนโรดมขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินกรุงกัมพูชา
- ๑๔๔. งานฉลองสพานและถนน
- ๑๔๕. คล้องได้ช้างเผือกเอก
- ๑๔๖. เปรสิเดนต์ส่งกระบี่เครื่องทองคำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย
- ๑๔๗. สุลต่านมะหมุดถึงแก่กรรม
- ๑๔๘. ช้างเผือกและช้างสำคัญในรัชชกาลที่ ๔
- ๑๔๙. น้ำไหลมาแต่เหนือมีสีแดง
- ๑๕๐. เฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖๐
- ๑๕๑. การแบ่งเขตต์แดนประเทศสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๕๒. การฉลองศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๑๕๓. เรื่องค่านาคู่โค
- ๑๕๔. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ และพระองค์เจ้ามัณยาภาธร
- ๑๕๕. เสด็จประพาสเมืองราชบุรีและกาญจนบุรี
- ๑๕๖. ตั้งผู้ปรึกษาทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนเมืองเขมร
- ๑๕๗. โปรดฯ ให้ชำระเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์
- ๑๕๘. นายพลเรือโท ยอช กิง เข้ามากรุงเทพฯ
- ๑๕๙. พระยามนตรีสุริยวงศ์ออกไปเมืองนครฯ
- ๑๖๐. ทรงเปลี่ยนนามเจ้าพระยาทิพากรวงศ์
- ๑๖๑. โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๖๒. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต
- ๑๖๓. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๓ พระองค์
- ๑๖๔. การปักเขตต์แดนสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๖๕. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระผนวชสามเณร
- ๑๖๖. เรื่องหนังสือสัญญาการเมืองเขมร
- ๑๖๗. พระราชทานเพลิงศพพระยามนตรีสุริยวงศ์และพระยาอภัยสงคราม
- ๑๖๘. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ถวายเทศนามหาชาติ
- ๑๖๙. เสด็จพระราชดำเนินไปสมโภชพระพุทธชินราชที่เมืองพิศณุโลก
- ๑๗๐. เรื่องปันเขตต์แดนทางประเทศพม่า
- ๑๗๒. ทำแผนที่อาณาเขตต์ทางหัวเมืองลำแม่น้ำโขง
- ๑๗๓. งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ๑๗๔. งานพระศพเจ้านาย
- ๑๗๕. ขุดคลองภาษีเจริญ
- ๑๗๖. ทำกะโจมไฟที่หลังสันดอน
- ๑๗๗. สร้างพระราชวังสราญรมย์
- ๑๗๘. มีละครทำขวัญพระบรมมหาราชวัง
- ๑๗๙. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๕ องค์
- ๑๘๐. โปรดเกล้าฯ ให้จำลองปราสาทที่นครวัด
- ๑๘๑. ฝรั่งเศสได้เมืองญวน ๓ เมือง
- ๑๘๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายพระแสง
- ๑๘๓. กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสสิ้นพระชนม์
- ๑๘๔. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๑๘๕. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาประทับตราหนังสือสัญญา
- ๑๘๖. ทูตโปรตุเกศเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี
- ๑๘๗. โสกันต์พระเจ้าลูกยาเธอ ๓ องค์
- ๑๘๘. ราชทูตโปรตุเกศกราบถวายบังคมลากลับ
- ๑๘๙. เปลี่ยนหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส
- ๑๙๐. ฉลองวัดปทุมวนาราม
- ๑๙๑. เรื่องปักเขตต์แดนทางเมืองเขมร
- ๑๙๒. อักษรศาสน์ไว้ส์รอยอินเดีย
- ๑๙๓. งานพระศพกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส
- ๑๙๔. การฉลองวัดหงษ์และโรงธรรมวัดกัลยาณมิตร
- ๑๙๕. ตั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นกรมขุนพินิตประชานา
- ๑๙๖. อสุนีบาตตกหลายแห่ง
- ๑๙๗. เปิดคลองดำเนินสดวก
- ๑๙๘. ขุดคลองบางลี่และแก้คลองลัดยี่สานเมืองสมุทรสงคราม
- ๑๙๙. ขุดคลองที่ลัดขุนเมืองสมุทรสาคร
- ๒๐๐. ไวซ์รอยอินเดียทำแผนที่เขตต์แดนส่งมาประทับตรา
- ๒๐๑. สถานที่ซึ่งทรงก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงในรัชชกาลที่ ๔
- ๒๐๒. การพระราชกุศล
- ๒๐๓. การภาษีอากร
- ๒๐๔. ขุดได้พระพุทธรูปนิรันตราย
- ๒๐๕. สั่งปืนเข้ามาใช้ในราชการ
- ๒๐๖. ต่อเรือพระที่นั่งและเรือกลไฟ
- ๒๐๗. เมืองที่ทรงตั้งในรัชกาลที่ ๔
- ๒๐๘. ทรงแปลงและตั้งนามขุนนาง
- ๒๐๙. ทรงตั้งนามราชทูตและกงสุล
- ๒๑๐. ทรงตั้งและแปลงนามบรรดาศักดิ์ขุนนาง
- ๒๑๑. ทรงตั้งและแปลงนามเจ้าเมืองกรมการ
- ๒๑๒. ทรงตั้งและแปลงนามพระราชาคณะฐานานุกรม
- ๒๑๓. ทรงตั้งและแปลงนามวัดต่างๆ
- ๒๑๔. เสนาบดีเข้าชื่อกันทำเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวาย เรื่องราษฎรกล่าวว่า พระบาง พระพุทธรูปทำให้ฝนแล้ง
- ๒๑๕. พระราชทานพระบางคืนไปเมืองหลวงพระบาง
- ๒๑๖. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามในกรุง
- ๒๑๗. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามหัวเมือง
- ๒๑๘. สร้างพระนครคีรี ที่เมืองเพ็ชรบุรี
- ๒๑๙. กระแสพระราชดำริก่อนปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๐. ปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๑. กล่าวด้วยปาฏิหาริย์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๒. สร้างพระราชวังที่นครปฐม
- ๒๒๓. ขุดคลองเจดีย์บูชา
- ๒๒๔. ทรงปฏิสังขรณ์วัดเฉลิมพระเกียรติ
- ๒๒๕. ปฏิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามและสร้างตำหนักที่บางปะอิน
- ๒๒๖. ทรงบุรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธบาทและวังท้ายพิกุล
- ๒๒๗. ทรงสร้างพระนารายน์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๒๒๘. กงสุลฝรั่งเศสเข้ามาเปลี่ยนตัว
- ๒๒๙. เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ๒๓๐. ลงพระราชอาชญาพวกมหาดเล็กเล่นไพ่
- ๒๓๑. ทำทัณฑกรรมโหรและท้าวสมศักดิ์ท้าวโสภา
- ๒๓๒. สมโภชพระปฏิมากรแก้วมรกต
- ๒๓๓. ทรงพระประชวร
- ๒๓๔. พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒนสัตยา
- ๒๓๕. ตั้งกองล้อมวง
- ๒๓๖. ประชุมหมอหลวงถวายพระโอสถ
- ๒๓๗. กระแสพระราชดำริถึงผู้สืบราชสมบัติ
- ๒๓๘. แปลคำที่ทรงคาถาขอขมาพระสงฆ์วัดราชประดิษฐ์
- ๒๓๙. ทรงขอขมาพระบรมวงศานุวงศ์และท่านเสนาบดี
- ๒๔๐. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
- ๒๔๑. สรงน้ำพระบรมศพ
๑๗. ทรงแต่งตั้งขุนนาง
แล้วก็ทรงตั้งแต่งขุนนางในกรุงฯ ขึ้นให้เต็มตามที่ฐานันดรทุกหมู่กรม ครั้งนั้นขุนนางขาดตำแหน่งอยู่มาก ขุนนางผู้หนึ่งได้ฉลองพระเดชพระคุณก็ว่า ๒ ที่บ้าง ๓ ที่บ้าง ที่สมุหพระกลาโหม ที่สมุหนายก ที่ธรรมา ที่ยมราช ที่พลเทพ ที่ราชภักดี ตำแหน่งใหญ่ๆ ก็ว่างอยู่ทั้งนั้น มีเป็นประธานมีเป็นผู้ใหญ่อยู่แต่ท่านเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่สมุหพระกลาโหม พระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา จางวางพระคลังสินค้า พระยาราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายก และว่าพระคลังมหาสมบัติ ด้วยท่านทั้ง ๓ เป็นประธานอยู่ในราชการทั้งปวง
จึงโปรดฯ ตั้งเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่สมุหพระกลาโหม ให้เรียกว่า เจ้าพระยาอัครมหาอุดม บรมวงศาเสนาบดีไปพลางก่อน จนได้ฤกษ์ยกขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ วรุตมพงศนายก สยามดิลกโลกานุปาลนนารถ สกลราชวราณาจักราธิเบนทร ปรเมนทรมหาราชานุกูล สรรพกิจมูลมเหศวรเชษฐามาตยาธิบดี ศรีสรณรัตนธาดา อดุลยเดชานุภาพบพิตร ถือศักดินา ๓๐,๐๐๐ จารึกแผ่นสุพรรณบัฏเนื้อแปด พระราชทานกลด เสลี่ยงงา พระแสงประดับพลอยลงยาราชาวดี เป็นเครื่องสำหรับยศอย่างพระองค์เจ้าต่างกรม ให้สำเร็จราชการหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือทั้ง ๔ ทิศ ตลอดทั่วทั้งพระราชอาณาจักร ใช้ตราสุริยมณฑลเทพบุตรชักรถ (และคงถือตราพระคชสีห์ และตราบัวแก้วอยู่ด้วยอีกทั้ง ๒ ดวง) แล้วโปรดฯ ให้ตั้งหลวงบำเรอปรมามาตย์ จางวางทนาย ขุนวรบาทบริรักษ์ปลัดจางวาง หมื่นศักดิประสิทธิการสมุหบัญชี
พระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา โปรดฯ ให้เรียกเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติไปพลาง จนถึงฤกษ์ยกขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ นรเนตรนารถราชสุริยวงศ สกลพงศประดิษฐา มุขมาตยาธิบดี ไตรสรณศรีรัตนธาดา สกลมหารัชชาธิเบนทร ปรเมนทรมหาราชวโรประการ มโหฬารเดชานุภาพบพิตร ถือศักดินา ๓๐,๐๐๐ จารึกในแผ่นทองคำเนื้อแปด พระราชทานกลดเสลี่ยงงา พระแสงประดับพลอยลงยาราชาวดี เป็นเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม ถืองตราจันทรมณฑลเทพบุตรชักรถ ให้สำเร็จราชการในพระนครทุกสิ่งทุกพนักงาน (คงว่าพระคลังสินค้าด้วย) แล้วโปรดฯ ให้ตั้งหลวงบำรุงปรมามาตย์จางวาง ขุนวรบาทบริบาล ปลัดจางวาง หมื่นสรรพการกิจประสิทธิ สมุหบาญชี
จึงยกเอาพระยาราชสุภาวดีมาเป็นที่จักรีได้นามว่า เจ้าพระยานิกรบดินทร มหินทรมหากัลยาณมิตร อเนกบุญฤทธิประสิทธิธาดา สาธุสิทธิคุณ วิบุลยศุภผล นิพัทธกุศลกิริยาภิรัต ธัญญธนสารสมบัติบริวารสมบูรณ อดุลยเมตยาชวาธยาศัย ศรีรัตนตรัยสรณารักษ อุดมศักดิพิเศษ นาครามาตยเชษฐมหาสมุหนายก สยามโลกดิลกบรมราชมหิศร สกโลตรทิศประเทศาธิบดี มหาราชสีหมุรธาธร อัครมหาดทยวริศรเสนาธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ ที่สมุหนายก จารึกนามในแผ่นทองคำเนื้อเจ็ด ได้พระราชทานเครื่องยศเพิ่มเติมแต่กระบี่จักรีเท่านั้น
จึงยกเอาท่านพระยาศรีสุริยวงศ (ช่วง) จางวางมหาดเล็กซึ่งเป็นบุตรผู้ใหญ่ของสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ มาว่าที่สมุหพระกลาโหมเพิ่มเติมนามออกไปว่า เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมันตพงศพิสุทธิ มหาบุรุษรัตโนดม ได้พระราชทานเครื่องยศเพิ่มเติมกลดเสลี่ยงงากระบี่อย่างเจ้าต่างกรม ประดับพลอยลงยาราชาวดี ๑ ถือตราศรพระขรรค์ แต่กลดเสลี่ยงงานั้นท่านไม่รับถวายคืน ครั้นสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ถึงแก่พิราลัยแล้ว จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งให้เป็นสมุหพระกลาโหม ได้นามว่า เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมันตพงศพิสุทธิ์ มหาบุรุษรัตโนดม บรมราชตมัคคมหาเสนาธิบดี วรคชสีห์สิงหมุรธาธร จักรรัตนสหจร สุรศรขรรค์พิเศษลัญจธารินทร ทักษิณนครคามรัษฎาธิกิจการ ทวยหาญสมุหมาตยานุพินัย ยุติธรรมมาภิธยาศัยสยามโลกานุปาลนนารถ ปรเมนทรมหาราชวราณาจักโรประการ ปรีชาญาณวรยศธาดา อภัยพิรียบรากรมพาหุ สมุหพระกลาโหม ถือศักดินา ๒๐,๐๐๐ จารึกนามลงในแผ่นสุพรรณบัฏเนื้อเจ็ด ได้พระราชทานมาลาเบี่ยงอย่างเจ้าต่างกรม เสื้อจีบเอวเยียระบับเจียรบาดเข้มขาบผ้านุ่งสังเวียนพื้นทอง ดาบด้ามทองคำฝักทองคำประดับพลอย ไม้เท้าด้ามประดับพลอย กล้องยาแดงไม้ราชวังสันทองคำประดับเพ็ชร ตลับยาแดงทองคำหลังประดับเพชร์เป็นเครื่องยศ
จึงยกเอาจมื่นราชามาตย์ (ขำ) บุตรสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่มาเป็นเจ้าพระยาผู้ช่วยราชการในกรมท่า พระราชทานเครื่องยศพานทอง กระโถนทอง เต้าน้ำ กระบี่นาคสามเศียร ฝักประดับพลอยลงยาราชาวดี ได้นามว่า เจ้าพระยารวิวงศมหาโกษาธิบดี
จึงยกเอาจมื่นศรีสรรักษ์ (เอี่ยม) ซึ่งเป็นราชนิกูลฝ่ายสมเด็จพระอมรินทรามาตย์มาเป็นเจ้าพระยาพลเทพ สรรพพลเสพเสนาบดีศรีวิไชย ราชมไหสวรรย์ อเนกานันตธัญญาหาร พิจารณปฏิพัทธ นพรัตนมุรธาธร มหิศรสมุหเชษฐเกษตราธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ พระราชทานเครื่องยศพานทอง กะโถน เต้าน้ำทอง กะบี่ลงยาราชาวดี
จึงยกพระยาเพ็ชรพิไชย (เสือ) มาเป็นเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี ศรีสุวีรมหามัตยวงศ์ ราชพงศนิกรานุรักษ์ มหาสวามิภักดิบรมราโชประการาภิรมย์ สรรโพดมกิจวิจารณ์ มหามนเทียรบาลบดินทร์ ราชนิเวศนินทรามาตย์ อันเตบุริกนารถเสนาธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ
จึงยกเอาพระยาสุรเสนา (ทองสุก) มาเป็นเจ้าพระยายมราช ชาติเสนางคนรินทร์ มหินทราธิบดีศรีวิไชย ราชมไหสวรรยบริรักษ์ ภูมิพิทักษโลกาธิกรณ์ ทัณฑฤทธิธร ชาติศรสิงหพาหนเทพยมุรธาธร มหานครบาลสมุหบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ
ยกเอาจมื่นสมุหพิมาน (แพ) บุตรสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย มาเป็นพระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา จางวางพระคลังสินค้า จึงยกเอาพระศรีสหเทพ (ปาล) เป็นพระยาราชสุภาวดี ยกเอาพระอินทรเทพ (ขุนทอง) มาเป็นพระยาเพ็ชรพิไชย ยกเอาพระยาพิพัฒนโกษา (บุญศรี) มาเป็นพระยามหาอำมาตยาธิบดีพิรียพาห ยกพระมหามนตรี (สวัสดิ์) ซึ่งเป็นน้องเจ้าพระยาพลเทพ (เอี่ยม) มาเป็นพระยาสุรเสนา ยกนายพลพัน (ชุ่ม) บุตรสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ มาเป็นพระยามนตรีสุริยวงศ์ จางวางมหาดเล็ก ยกเอานายไชยขรรค์ บุตรสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย มาเป็นพระยาวรพงศพิพัฒน์ จางวางมหาดเล็ก ภายหลังพระยาสุรเสนาถึงแก่อสัญญกรรมแล้ว จึงตั้งพระยามนตรีสุริยวงศ์ขึ้น ชื่อว่าพระยามนตรีสุริยวงศ์ ดำรงค์ฤทธิอำนาจมาตยาธิบดี จุฬคชสีหมุรธาธร สถาพรพิรียพาห สมุหพระกลาโหมฝ่ายเหนือ แล้วโปรดฯ ให้นายจันทร์มีชื่อ บุตรท่านเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ที่สมุหพระกลาโหม มาเป็นเจ้าหมื่นไวยวรนารถ ภายหลังมาโปรดฯ ให้เลื่อนที่ขึ้นเป็นพระยาสุรวงศไวยวัฒน์ จางวางมหาดเล็ก พระราชทานพานทอง เต้าน้ำทอง กะโถนทอง ดาบฝักทองอย่างพระองค์เจ้า ยกเอาพระมหาเทพ (แก้ว) บุตรเจ้าพระยาบดินทร์เดชา เป็นพระยาสีหราชเดโชไชย ภายหลังทรงแปลงว่าพระยาฤทธิไกรเกรียงหาญพลการภักดี ยกเอาพระยาพิไชยสงคราม (สุด) มาเป็นพระยาสิงหราชฤทธิไกรท้ายน้ำ ยกพระยาโชฎึก (ทองจีน) นอกราชการมาเป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐีดังเก่า ยกเอาพระยาไชยวิชิต (ขำ) ผู้รักษากรุงเก่า ไปเป็นพระยานครราชสีมา ยกพระยาอุไทยธรรม (เมือง) บุตรเจ้าพระยานครศรีธรรมราช เป็นเจ้าพระยามหาศิริธรรม พโลปถัมภ์เทพทวาราวดี ผู้รักษากรุงเก่า โปรดฯ ตั้งข้าหลวงเดิม ยกคุณช้างสัมพันธวงศ์มาเป็นพระยาราชภักดี ๑ จางวางเฉยเป็นพระอินทรเทพ แล้วเป็นพระยาอภัยรณฤทธิ ๑ จางวางเสือเป็นพระยาพิไชยชาญฤทธิแล้วมาเป็นพระยาฤทธิไกรเกรียงหาญที่ท้ายน้ำ ๑ นายเพ็งเป็นที่จมื่นสรรเพธภักดีแล้วมาเป็นพระยาบุรุษยรัตนราชพัลลภ ๑ นายดิศเป็นนายเสถียรรักษา แล้วเป็นจมื่นจงภักดีองค์ขวา แล้วมาเป็นพระยาบำเรอภักดิ์ ๑ สมุหบัญชีแก้วเป็นพระยาประมวญประมาณพล แล้วมาเป็นพระยาราชสุภาวดี ๑ นายบัวใหญ่เป็นพระนรินทรเสนี แล้วมาเป็นพระยาเพ็ชรบุรี ๑ นายบัวเล็กเป็นพระยามหาเทพ แล้วมาเป็นพระยาสีหราชฤทธิไกรท้ายน้ำ ๑ นายพุ่มเป็นพระยาพิศณุโลก ๑ หลวงอินทรโกษา (แสบ) มาเป็นพระยาพิพัฒนโกษา ๑ รวม ๑๐ นายนี้ได้พานทองใหญ่ กะโถนทองคำ เต้าน้ำทุกนาย
จางวางจั่นเป็นพระยาพิพิธไอยสูรย์ ๑ หมอด้วงเป็นพระยาแพทยพงศาวิสุทธาธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ ภายหลังทรงแปลงเป็นพระยาแพทยธรรมธาดา วิสุทธาธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ ๑ นายสิงโตเป็นพระยาอนุรักษมนเทียร ๑ นายต่ายเป็นพระบรมราชวรารักษ์ แล้วมาเป็นพระยาพิไชย ๑ นายรอดเป็นพระมหามนเทียร แล้วเป็นพระยานครไชยศรี ๑ นายจันทร์เป็นพระยาลพบุรี ๑ นายแจ่มเป็นจ่าหาญยุทธกิจแล้วไปเป็นพระยาสุพรรณบุรี ๑ นายทัต (พระครูปลัด) เป็นพระศรีภูริปรีชาเสนาบดีศรีสาลักษณ์ ๑ นายฟักเป็นพระศรีสุนทรโวหาร ๑ นายสุขเป็นพระธรรมการบดี ๑ จัดข้าหลวงใหญ่ข้าหลวงเดิม เป็นขุนนางเลื่อนตามกันขึ้นไปจนเต็มทุกตำแหน่งทุกพนักงาน ครั้งนั้นไม่โปรดถาดหมากให้ยกเสีย พระราชทานเครื่องยศพานทองอย่างเล็ก เต้าน้ำทองกระโถนทองอย่าง ๑ โต๊ะทองกาทองอย่าง ๑ โต๊ะถมกาถมอย่าง ๑ ตามยศและคุณานุรูป
เติมหุ้มแพรขึ้นอีกเวรละ ๒ นาย แลหุ้มแพรวิเศษสำหรับพระที่นั่งราชฤๅดีอีก ๔ นาย เวรละ ๒ นาย คือนายเสนองานประพาส ๑ นายสนองราชบรรหาร ๑ นายบำเรอบรมบาท ๑ นายบำรุงราชบทมาลย์ ๑ นายพินัยราชกิจ ๑ นายพินิจราชการ ๑ นายพิจารณสรรพกิจ ๑ นายพิจิตรสรรพการ ๑ แล้วตั้งจ่าในกรมพระตำรวจรองปลัดกรมเวรละคน ในขวา นายจ่าห้าวยุทธการ ในซ้าย นายจ่าหาญยุทธกิจ จ่าชำนิทั่วด้าน สำหรับจางวางซ้าย จ่าชำนาญทั่วด้าว สำหรับจางวางขวา แลจ่าใหญ่ขวา นายจ่าผลาญอริพิษ ใหญ่ซ้าย นายจ่าแผลงฤทธิรอนราญ นอกขวา นายจ่าแรงรับราชการ นอกซ้าย นายจ่าเร่งงานรัดรุตม์ สนมขวา นายจ่าเขมงสัตยาวุธ สนมซ้าย นายจ่าเขมงสรยุทธยิง ตำรวจหลัง นายจ่าเผ่นผยองยิ่ง นายจ่าโผนวิ่งชิงไชย ตำรวจวัง นายจ่าโชนเชิดประทีปใน นายจ่าช่วงไฟประทีปวัง
ข้าหลวงเดิมนอกไปจากนี้มีอีกหลายคน เป็นนายเวรบ้าง เป็นนายรองหุ้มแพรบ้าง และเป็นนายทหารรักษาพระองค์บ้าง และเป็นผู้ว่าราชการหัวเมืองต่างๆ บ้าง ก็ได้ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงข้าหลวงเดิมตามสติปัญญาของบุคคลทั่วทุกคน และไพร่สมข้าหลวงเดิม ก็โปรดฯ ให้เป็นทหารรักษาพระองค์รับพระราชทานเบี้ยหวัดด้วย
การที่ตั้งแต่งพระบรมราชวงศานุวงศ์ และท่านอัครมหาเสนาบดีผู้ใหญ่ก็มิได้พร้อมกัน ตามแต่ท่านผู้ใดจะชอบวันใดเดือนใดก็ทำการตั้งพิธีสวดมนต์เลี้ยงพระ พระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ได้เสด็จไปพระราชทานน้ำสังข์ทุกพระองค์ พระองค์เจ้าตั้งกรมแล้ว เจ้าพระยาอัครมหาเสนาบดีผู้ใหญ่ ก็ได้จัดของถวายและแจกจ่ายขุนนางที่ไปช่วยในการพิธีนั้น ได้ตลอดถึงขุนหมื่นและทหารเลวทั่วทุกๆ แห่ง การอย่างนี้มิใช่มีธรรมเนียมมาแต่โบราณ เป็นการธรรมเนียมใหม่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ การข้างในก็ได้ทรงตั้งแต่งขึ้นเต็มทุกพนักงาน