- คำนำ
- ๑. อัญเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จจากวัดบวรนิเวศ
- ๒. กราบทูลอัญเชิญสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขึ้นเสวยราชย์
- ๓. ทรงแก้ไขธรรมเนียมข้าราชการเข้าเฝ้าให้สรวมเสื้อ
- ๔. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- ๕. ข้าราชการฝ่ายในถวายตัว
- ๖. เสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค
- ๗. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- ๘. พระราชพิธีบวรราชาภิเศก
- ๙. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเลียบพระนคร
- ๑๐. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๑๑. ตั้งพระราชาคณะ
- ๑๒. ตั้งกรมเจ้านาย
- ๑๓. เจ้าประเทศราชเข้ามาเฝ้า
- ๑๔. ตำนานเมืองน่าน
- ๑๕. ตำนานเมืองแพร่
- ๑๖. ทรงแก้สร้อยพระนาม องค์สมเด็จหริรักษรามา เจ้ากรุงกัมพูชา
- ๑๗. ทรงแต่งตั้งขุนนาง
- ๑๘. ขุดคลองคูพระนครชั้นนอก
- ๑๙. การเทศนากระจาดใหญ่
- ๒๐. ถวายพระนามพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมราชชนนี และกรมพระราชวังบวรที่สวรรคตแล้ว
- ๒๑. งานพระบรมศพ
- ๒๒. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๒๓. ขุดคลองผดุงกรุงเกษมและสร้างป้อม
- ๒๔. สมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดีสิ้นพระชนม์
- ๒๕. เริ่มการศึกเชียงตุง
- ๒๖. บรรจุดวงพระชาตาพระนคร
- ๒๗. สมณทูตไทยไปลังกาทวีป
- ๒๘. งานพระศพสมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดี
- ๒๙. สมณทูตกลับจากลังกาทวีป
- ๓๐. ได้พระวิมลรัตนกริณี ช้างพังเผือกตรี
- ๓๑. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์ประสูติเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๓๒. การทัพศึกเมืองเชียงตุง
- ๓๓. เรื่องเรือกะทงลอยพระประทีป
- ๓๔. สร้างพระเจดีย์และถวายพระนามพระประธานในวัดพระเชตุพน
- ๓๕. กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสและกรมหลวงพิเศษศรีสวัสดิ์สิ้นพระชนม์
- ๓๖. สร้างสระปทุมวันและวัดปทุมวนาราม
- ๓๗. การทัพศึกเมืองเชียงตุง (ต่อ)
- ๓๘. เตรียมการต้อนรับเซอร์ยอนโบวริง
- ๓๙. การฉลองคลองคูพระนครชั้นนอก (คลองผดุงกรุงเกษม)
- ๔๐. สร้างพระอภิเนาวนิเวศน์
- ๔๑. ได้พระวิสุทธรัตนกริณี ช้างพังเผือกโท
- ๔๒. เซอร์ยอนโบวริงเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๓. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ถึงแก่พิราลัย
- ๔๔. มิสเตอร์ฮาริปักเข้ามาแก้หนังสือสัญญา
- ๔๕. ทูตอเมริกันเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๖. การถวายสลากภัตรในวัดพระเชตุพน
- ๔๗. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาทำสัญญา ๓๒ ข้อ
- ๔๘. พม่าถือหนังสือเสนาบดีผู้ใหญ่เมืองพม่าเข้ามาถวายพระสังฆราช
- ๔๙. หนังสือเดินทางของพม่า
- ๕๐. ลิขิตสมณศาสน์ตอบหนังสือเสนาบดีพม่า
- ๕๑. ทูตฝรั่งเศสไปเมืองเขมรและเมืองญวน
- ๕๒. หนังสือองค์พระหริรักษ์ถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓
- ๕๓. ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ
- ๕๔. สร้างสวนอนันตอุทยาน
- ๕๕. ขุดคลองมหาสวัสดิ์
- ๕๖. เสด็จประพาสหัวเมืองตะวันออก
- ๕๗. พระราชทานที่ให้ชาวต่างประเทศตั้งห้างและขุดคลองถนนตรง
- ๕๘. พระราชทานทรัพย์สร้างศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๕๙. หนังสือองญวนข้าหลวงเมืองไซ่ง่อนถึงเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม
- ๖๐. หนังสือตอบองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน
- ๖๑. หนังสือองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน ตอบเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๖๒. ทูตเดนมาร์กเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๖๓. ราชทูตไทยกลับจากลอนดอน
- ๖๔. ทูตเดนมาร์กกลับ
- ๖๕. โปรดฯ ตั้งองค์พระนโรดมและองค์หริราชดะไนไปช่วยราชการเมืองเขมร
- ๖๖. ฝรั่งเศสรบกับญวน
- ๖๗. ดาวหางขึ้น
- ๖๘. พระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ และสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย
- ๖๙. ทูตโปรตุเกศเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๗๐. งานเฉลิมพระมหามนเทียรพระที่นั่งอนันตสมาคม
- ๗๑. สร้างประตูกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอก
- ๗๒. เรื่องรักใคร่ระหว่างขุนสุวรรณกับเจ้าจอมช้อย
- ๗๓. พระราชทานเงินคนชราพิการ
- ๗๔. เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก
- ๗๕. กรมสมเด็จพระเดชาดิศรสิ้นพระชนม์
- ๗๖. เสด็จประพาสตลาดสำมุข
- ๗๗. โปรดฯ ให้รื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๗๘. ฝรั่งเศสรบกับญวน (ต่อ)
- ๗๙. งานพระศพกรมสมเด็จพระเดชาดิศร
- ๘๐. เกิดความไข้ที่กรุงเทพฯ
- ๘๑. ได้พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพลายเผือกโท
- ๘๒. โปรดเกล้าฯ ให้งดการรื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๘๓. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาศหัวเมืองปักษ์ใต้
- ๘๔. ทูตฮอลันดาเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๘๕. คนสนิทของสุลต่านมะหมุดเข้ามาขอกำลังรบเมืองปาหัง
- ๘๖. องค์พระหริรักษ์ เจ้ากรุงกัมพูชา สุรคต
- ๘๗. สมโภชพระสมุทรเจดีย์
- ๘๘. ราชทูตไทยไปประเทศฝรั่งเศ
- ๘๙. ใบบอกพระยาสระบุรีเรื่องคล้องได้ช้างพังเผือกโท
- ๙๐. เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี
- ๙๑. ราชทูตกราบถวายบังคมลา
- ๙๒. สมโภชพระพุทธบุษยรัตน์ จักรพรรดิพิมลมณีมัย
- ๙๓. กรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชาและกรมหลวงมหิศวรินทรามเรศรสิ้นพระชนม์
- ๙๔. สุลต่านมะหมุดเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- ๙๕. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์สิ้นพระชนม์
- ๙๖. เรื่องเมืองเขมร
- ๙๗. ทูตปรุศเซียเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๙๘. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๙๙. เรื่องเมืองเขมร (ต่อ)
- ๑๐๐. งานพระศพ กรมหลวงมหิศวรินทร์ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และพระองค์เจ้านิลวรรณ
- ๑๐๑. ส่งองค์พระนโรดมไปครองเมืองเขมร
- ๑๐๒. ทูตปรุศเซียกราบถวายบังคมลา
- ๑๐๓. ทำเงินตราใช้แทนเบี้ยและหอย
- ๑๐๔. ตัดถนน ๓ สายและขุดคลอง
- ๑๐๕. สร้างสะพานข้ามคลอง
- ๑๐๖. งานพระศพกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์และพระองค์เจ้าสว่าง
- ๑๐๗. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์
- ๑๐๘. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๐๙. เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา
- ๑๑๐. งานพระศพสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์
- ๑๑๑. ราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๑๒. พระราชศาสน์ถึงเจ้ากรุงจีน
- ๑๑๓. ญวนทำสัญญาใช้เบี้ยปรับให้ฝรั่งเศส
- ๑๑๔. เรื่องสุลต่านมะหมุด
- ๑๑๕. สร้างถนนเจริญกรุงตอนใน
- ๑๑๖. กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธรสิ้นพระชนม์
- ๑๑๗. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๑๘. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์
- ๑๑๙. การรับและสมโภชพระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพังสีประหลาด
- ๑๒๐. กรมพระพิทักษเทเวศรสิ้นพระชนม์
- ๑๒๑. งานโสกันต์
- ๑๒๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายเครื่องราชอิศริยยศ
- ๑๒๓. งานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธร
- ๑๒๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลฯ สิ้นพระชนม์
- ๑๒๕. งานพระศพกรมพระพิทักษเทเวศร และพระองค์เจ้าใย
- ๑๒๖. เตรียมการสมโภชพระบรมอัฏฐิ
- ๑๒๗. เรื่องราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๒๘. เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ (ลองเรืออรรคราชวรเดช)
- ๑๒๙. องค์พระนโรดมบอกเรื่องทำหนังสือสัญญาระหว่างเขมรกับฝรั่งเศส
- ๑๓๐. สุลต่านมะหมุดหนีกลับ
- ๑๓๑. สร้างถนนบำรุงเมือง
- ๑๓๒. สร้างถนนเฟื่องนคร
- ๑๓๓. ฝรั่งเศสถวายรูปราชสีห์
- ๑๓๔. สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา เสด็จไปเที่ยวค้นดูช้างในแขวงเมืองนครนายก
- ๑๓๕. พระราชทานสุพรรณบัฏเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๑๓๖. ญวนแต่งทูตไปกรุงปารีส
- ๑๓๗. สร้างพระบรมบรรพต
- ๑๓๘. สมโภชพระบรมอัฏฐิและพระอัฏฐิ
- ๑๓๙. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๔๐. งานพระศพพระองค์เจ้าขนิษฐน้อยนารี
- ๑๔๑. พระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยานิกรบดินทร์
- ๑๔๒. ตั้งผู้แทนทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนอังกฤษกับไทย
- ๑๔๓. ราชาภิเศกองค์พระนโรดมขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินกรุงกัมพูชา
- ๑๔๔. งานฉลองสพานและถนน
- ๑๔๕. คล้องได้ช้างเผือกเอก
- ๑๔๖. เปรสิเดนต์ส่งกระบี่เครื่องทองคำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย
- ๑๔๗. สุลต่านมะหมุดถึงแก่กรรม
- ๑๔๘. ช้างเผือกและช้างสำคัญในรัชชกาลที่ ๔
- ๑๔๙. น้ำไหลมาแต่เหนือมีสีแดง
- ๑๕๐. เฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖๐
- ๑๕๑. การแบ่งเขตต์แดนประเทศสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๕๒. การฉลองศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๑๕๓. เรื่องค่านาคู่โค
- ๑๕๔. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ และพระองค์เจ้ามัณยาภาธร
- ๑๕๕. เสด็จประพาสเมืองราชบุรีและกาญจนบุรี
- ๑๕๖. ตั้งผู้ปรึกษาทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนเมืองเขมร
- ๑๕๗. โปรดฯ ให้ชำระเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์
- ๑๕๘. นายพลเรือโท ยอช กิง เข้ามากรุงเทพฯ
- ๑๕๙. พระยามนตรีสุริยวงศ์ออกไปเมืองนครฯ
- ๑๖๐. ทรงเปลี่ยนนามเจ้าพระยาทิพากรวงศ์
- ๑๖๑. โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๖๒. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต
- ๑๖๓. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๓ พระองค์
- ๑๖๔. การปักเขตต์แดนสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๖๕. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระผนวชสามเณร
- ๑๖๖. เรื่องหนังสือสัญญาการเมืองเขมร
- ๑๖๗. พระราชทานเพลิงศพพระยามนตรีสุริยวงศ์และพระยาอภัยสงคราม
- ๑๖๘. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ถวายเทศนามหาชาติ
- ๑๖๙. เสด็จพระราชดำเนินไปสมโภชพระพุทธชินราชที่เมืองพิศณุโลก
- ๑๗๐. เรื่องปันเขตต์แดนทางประเทศพม่า
- ๑๗๒. ทำแผนที่อาณาเขตต์ทางหัวเมืองลำแม่น้ำโขง
- ๑๗๓. งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ๑๗๔. งานพระศพเจ้านาย
- ๑๗๕. ขุดคลองภาษีเจริญ
- ๑๗๖. ทำกะโจมไฟที่หลังสันดอน
- ๑๗๗. สร้างพระราชวังสราญรมย์
- ๑๗๘. มีละครทำขวัญพระบรมมหาราชวัง
- ๑๗๙. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๕ องค์
- ๑๘๐. โปรดเกล้าฯ ให้จำลองปราสาทที่นครวัด
- ๑๘๑. ฝรั่งเศสได้เมืองญวน ๓ เมือง
- ๑๘๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายพระแสง
- ๑๘๓. กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสสิ้นพระชนม์
- ๑๘๔. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๑๘๕. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาประทับตราหนังสือสัญญา
- ๑๘๖. ทูตโปรตุเกศเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี
- ๑๘๗. โสกันต์พระเจ้าลูกยาเธอ ๓ องค์
- ๑๘๘. ราชทูตโปรตุเกศกราบถวายบังคมลากลับ
- ๑๘๙. เปลี่ยนหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส
- ๑๙๐. ฉลองวัดปทุมวนาราม
- ๑๙๑. เรื่องปักเขตต์แดนทางเมืองเขมร
- ๑๙๒. อักษรศาสน์ไว้ส์รอยอินเดีย
- ๑๙๓. งานพระศพกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส
- ๑๙๔. การฉลองวัดหงษ์และโรงธรรมวัดกัลยาณมิตร
- ๑๙๕. ตั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นกรมขุนพินิตประชานา
- ๑๙๖. อสุนีบาตตกหลายแห่ง
- ๑๙๗. เปิดคลองดำเนินสดวก
- ๑๙๘. ขุดคลองบางลี่และแก้คลองลัดยี่สานเมืองสมุทรสงคราม
- ๑๙๙. ขุดคลองที่ลัดขุนเมืองสมุทรสาคร
- ๒๐๐. ไวซ์รอยอินเดียทำแผนที่เขตต์แดนส่งมาประทับตรา
- ๒๐๑. สถานที่ซึ่งทรงก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงในรัชชกาลที่ ๔
- ๒๐๒. การพระราชกุศล
- ๒๐๓. การภาษีอากร
- ๒๐๔. ขุดได้พระพุทธรูปนิรันตราย
- ๒๐๕. สั่งปืนเข้ามาใช้ในราชการ
- ๒๐๖. ต่อเรือพระที่นั่งและเรือกลไฟ
- ๒๐๗. เมืองที่ทรงตั้งในรัชกาลที่ ๔
- ๒๐๘. ทรงแปลงและตั้งนามขุนนาง
- ๒๐๙. ทรงตั้งนามราชทูตและกงสุล
- ๒๑๐. ทรงตั้งและแปลงนามบรรดาศักดิ์ขุนนาง
- ๒๑๑. ทรงตั้งและแปลงนามเจ้าเมืองกรมการ
- ๒๑๒. ทรงตั้งและแปลงนามพระราชาคณะฐานานุกรม
- ๒๑๓. ทรงตั้งและแปลงนามวัดต่างๆ
- ๒๑๔. เสนาบดีเข้าชื่อกันทำเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวาย เรื่องราษฎรกล่าวว่า พระบาง พระพุทธรูปทำให้ฝนแล้ง
- ๒๑๕. พระราชทานพระบางคืนไปเมืองหลวงพระบาง
- ๒๑๖. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามในกรุง
- ๒๑๗. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามหัวเมือง
- ๒๑๘. สร้างพระนครคีรี ที่เมืองเพ็ชรบุรี
- ๒๑๙. กระแสพระราชดำริก่อนปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๐. ปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๑. กล่าวด้วยปาฏิหาริย์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๒. สร้างพระราชวังที่นครปฐม
- ๒๒๓. ขุดคลองเจดีย์บูชา
- ๒๒๔. ทรงปฏิสังขรณ์วัดเฉลิมพระเกียรติ
- ๒๒๕. ปฏิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามและสร้างตำหนักที่บางปะอิน
- ๒๒๖. ทรงบุรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธบาทและวังท้ายพิกุล
- ๒๒๗. ทรงสร้างพระนารายน์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๒๒๘. กงสุลฝรั่งเศสเข้ามาเปลี่ยนตัว
- ๒๒๙. เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ๒๓๐. ลงพระราชอาชญาพวกมหาดเล็กเล่นไพ่
- ๒๓๑. ทำทัณฑกรรมโหรและท้าวสมศักดิ์ท้าวโสภา
- ๒๓๒. สมโภชพระปฏิมากรแก้วมรกต
- ๒๓๓. ทรงพระประชวร
- ๒๓๔. พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒนสัตยา
- ๒๓๕. ตั้งกองล้อมวง
- ๒๓๖. ประชุมหมอหลวงถวายพระโอสถ
- ๒๓๗. กระแสพระราชดำริถึงผู้สืบราชสมบัติ
- ๒๓๘. แปลคำที่ทรงคาถาขอขมาพระสงฆ์วัดราชประดิษฐ์
- ๒๓๙. ทรงขอขมาพระบรมวงศานุวงศ์และท่านเสนาบดี
- ๒๔๐. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
- ๒๔๑. สรงน้ำพระบรมศพ
๗๔. เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก
ครั้นณวันจันทร์ เดือน ๙ ขึ้น ๓ ค่ำ[๑] เสด็จพระราชดำเนินไปประพาสทอดพระเนตรณหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก พระฤกษ์เวลา ๒ ยามเศษ เสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารคณเรือพระที่นั่งกลีบสมุทร จากท่าที่ประทับนิเวศวรดิษฐ์ มีเรือกระบวนนำเสด็จ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทซึ่งอยู่รักษาพระนคร ตามส่งเสด็จพระราชดำเนินถึงหน้าวัดยานนาวา ทรงเรือพระที่นั่งมณีเมขลา ใช้จักรไปวันอังคาร เดือน ๙ ขึ้น ๔ ค่ำ เวลา ๒ ทุ่มเศษ ถึงท่าที่ประทับปากน้ำเมืองปราณบุรี ทอดประทับแรมอยู่ในเรือพระที่นั่งราตรี ๑ วันพุธ เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ เวลาย่ำเที่ยงแล้วออกเรือพระที่นั่งมณีเมขลาใช้จักรไป เวลา ๒ ทุ่มเศษถึงท่าที่ประทับพลับพลาทอง อ่าวตำบลเกาะหลัก แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทอดประทับแรมอยู่ในเรือพระที่นั่งราตรี ๑ วันพฤหัสบดี เดือน ๙ ขึ้น ๖ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือช่อง ไปประพาสทอดพระเนตรตามเกาะและฝั่งคุ้งมะนาว เวลาย่ำค่ำแล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับบนพลับพลา พระราชทานเงินแก่ราษฎรชายหญิงซึ่งมีอายุมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วันคนละ ๑ บาท เวลายามเศษเสด็จกลับประทับแรมณเรือพระที่นั่งมหาไชยเทพ
วันศุกร เดือน ๙ ขึ้น ๗ ค่ำ[๒] เวลาย่ำรุ่งแล้วออกเรือพระที่นั่งมหาไชยเทพใช้จักรไป เวลาบ่าย ๒ โมงเศษถึงท่าที่ประทับตำบลแหลมทองหลาง แขวงเมืองกำเนิดนพคุณ ทอดเรือพระที่นั่งประทับเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือช่อง ไปประพาสทอดพระเนตรตามเกาะและฝั่ง แล้วเสด็จขึ้นประทับบนพลับพลา พระราชทานเงินแก่ราษฎรชายหญิงซึ่งมีอายุมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วัน คนละ ๑ บาท แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับประทับแรมณเรือพระที่นั่งมหาไชยเทพราตรี ๑ วันเสาร์ เดือน ๙ ขึ้น ๘ ค่ำ เวลาย่ำรุ่งแล้วออกเรือพระที่นั่งใช้จักรไป เวลาบ่าย ๔ โมงเศษถึงท่าที่ประทับพลับพลาปากน้ำเมืองชุมพร ตั้งแต่วันเสด็จพระราชดำเนินไปจนถึงวัน ๘ ค่ำ ตามทางไม่มีพายุไม่มีฝนคลื่นสงบ เมื่อเรือพระที่นั่งทอดประทับหน้าพลับพลาปากน้ำเมืองชุมพร มีลมพายุฝนตกอยู่โมงเศษ เวลาค่ำเสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับบนพลับพลา ผู้ว่าราชการเมืองกรมการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท นำสิ่งของทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เวลายามเศษเสด็จกลับประทับแรมณเรือพระที่นั่งมหาไชยเทพราตรี ๑ วันอาทิตย์เดือน ๙ ขึ้น ๙ ค่ำ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งมณีเมขลา ไปประพาสทอดพระเนตรตำบลเกาะง่าม เป็นที่มีรังนกอยู่ห่างฝั่งทาง ๔๘๐ เส้น เวลาบ่ายเสด็จพระราชดำเนินกลับประทับแรมบนพลับพลา พระราชทานเงินตราแก่คนชราราษฎรชายหญิงซึ่งมีอายุมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วัน คนละ ๑ บาท แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ประทับแรมณเรือพระที่นั่งมณีเมขลา เวลา ๓ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรไป วันจันทร์ เดือน ๙ ขึ้น ๑๐ ค่ำ[๓] เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ถึงท่าที่ประทับตำบลเกาะพลิกัน แขวงเมืองนครศรีธรรมราช ทอดเรือพระที่นั่งประทับพักอยู่หน้าพลับพลาเกาะพลิกัน ผู้ว่าราชการเมืองกรมการเมืองไชยาซึ่งมาคอยรับเสด็จอยู่ที่ตำบลเกาะพลิกันนั้น จัดน้ำจืดฟืนส่งเรือพระที่นั่งทุกลำแล้ว เวลา ๒ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรไป วันอังคาร เดือน ๙ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เวลาเช้า ๕ โมงเศษ ถึงท้องอ่าวปากน้ำเมืองนครศรีธรรมราช ทอดเรือพระที่นั่งประทับแรมอยู่ ๒ ราตรี วันพฤหัสบดี เดือน ๙ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เวลาย่ำเที่ยงแล้ว เสด็จณเรือพระที่นั่งมณีเขมลาใช้จักรไปถึงที่น้ำตื้น แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือช่วงไปประทับพลับพลาตำบลท่าสัก เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ ทรงม้าพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนม้า เวลาบ่าย ๕ โมงเศษถึงพลับพลาที่ประทับ ค่ายหลวงตั้งท้องสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราชด้านเหนือ
วันศุกร เดือน ๙ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เวลาเย็น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระมหาธาตุเจดีย์ เวลาค่ำเสด็จกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง วันเสาร์ เดือน ๙ ขึ้น ๑๕ ค่ำ[๔] เสด็จพระราชดำเนินไปวัดพระธาตุอีกโดยกระบวนม้า พระราชวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทตามเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นอันมาก ทรงนมัสการแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับณพลับพลาค่ายหลวง เวลายาม ๑ กับ ๑๓ นาทีมีจันทรุปราคา พระราชทานเงินตราแก่พระราชวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยโดยสมควร และผู้สำเร็จราชการเมืองและกรมการเมืองอื่นๆ ซึ่งมาคอยรับเสด็จณเมืองนครศรีธรรมราช วันจันทร์ เดือน ๙ แรม ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๑ โมงเศษ เสด็จกระบวนม้าพร้อมด้วยพระราชวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาทตามเสด็จ ทรงนมัสการพระธาตุเจดีย์อีกครั้งหนี่ง แล้วมีละครรำอย่างฝรั่งสมโภชเป็นการบูชา บังเอิญฝนตกอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมงเศษ เวลาเย็นเสด็จพระราชดำเนินกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง
วันอังคาร เดือน ๙ แรม ๓ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมง พระราชทานเงินตราแก่ราษฎรชายหญิง ซึ่งมีอายุมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วัน คนละ ๑ บาท แล้วให้นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะที่ตามเสด็จด้วย พระครูฐานานุกรมหัวเมือง ๑๐ รูป สวดพระพุทธมนต์ในพระวิหารหลวงวัดพระธาตุ วันพุธ เดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ เวลาเช้า ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปรนนิบัติพระสงฆ์ ถวายผ้าไตรจีวรบริกขารพร้อม แล้วถวายผ้าขาวพับแก่พระสงฆ์เจ้าอธิการทุกอาราม ๕๐ รูป ให้เจ้าพนักงานประโคมเวียนเทียนสมโภช มีละครรำอย่างฝรั่งเป็นการบูชาเวลาหนึ่ง ฝนตกประปรายบ้างเล็กน้อย เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง วันพฤหัสบดี เดือน ๙ แรม ๕ ค่ำ[๕] เวลาเช้านิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะฐานานุกรม และเจ้าอธิการทุกอารามนั้นมารับบิณฑบาต แล้วให้มีละครข้างหน้าค่ายหลวง เวลาค่ำมีเทศนากัณฑ์ ๑ ตั้งแต่วันเดือน ๙ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนินถึงปากน้ำเมืองนครศรีธรรมราช ทรงประทับแรมอยู่ในเรือพระที่นั่ง ๒ ราตรี เสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับแรมอยู่บนพลับพลาค่ายหลวง ๘ ราตรี วันศุกร เดือน ๙ แรม ๖ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดพระเนตรรูปพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นของโบราณส่งมาแต่รามราชประดิษฐานอยู่ในหอพระณบ้านเจ้าพระยานครศรีธรรมราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับหยุดประทับทอดพระเนตรวัดโพธิ์ วัดประดู่ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินถึงพลับพลาตำบลท่าสัก แล้วเสด็จโดยเรือช่องมาประทับเรือพระที่นั่งมณีเมขลา เวลา ๒ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรไป วันเสาร์ เดือน ๙ แรม ๗ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ถึงท่าที่ประทับพลับพลาตั้งแหลมสนปากน้ำเมืองสงขลา ทอดประทับแรมอยู่ในเรือพระที่นั่งราตรี ๑
วันอาทิตย์ เดือน ๙ แรม ๘ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับแรมบนพลับพลาค่ายหลวง วันอังคาร เดือน ๙ แรม ๑๐ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดพระเนตรป้อมกำแพงในเมือง แล้วเสด็จกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง วันพุธ เดือน ๙ แรม ๑๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งสยามอรสุมพล ถึงบ้านเจ้าพระยาสงขลาขึ้นทรงม้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปประพาสทอดพระเนตรตามแถวตลาด แล้วเสด็จกลับหยุดประทับแรมบนป้อมหน้าเมือง ทรงโปรยทานแก่ราษฎร แล้วเสด็จกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง วันพฤหัสบดี เดือน ๙ แรม ๑๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จโดยเรือพระที่นั่งสยามอรสุมพลถึงท่าบ้านเจ้าพระยาสงขลา ขึ้นทรงม้าพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนม้า ไปประพาสทอดพระเนตรภูเขาเก้าเซ่ง แล้วเสด็จกลับประทับแรมณพลับพลาค่ายหลวง วันศุกร เดือน ๙ แรม ๑๓ ค่ำ[๖] เวลาเช้า ให้นิมนต์พระครูฐานานุกรม ๕ รูปมารับบิณฑบาต ทรงถวายผ้าไตรจีวรและบริกขาร แล้วให้มีละครข้างในที่พลับพลาค่ายหลวง วันเสาร์ เดือน ๙ แรม ๑๔ ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระราชทานเงินตราแก่ราษฎรชายหญิงซึ่งมีอายุมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วันคนละ ๑ บาท ตั้งแต่ณวันเดือน ๙ แรม ๗ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนินถึงปากน้ำเมืองสงขลา ทรงประทับแรมในเรือพระที่นั่งราตรี ๑ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับบนพลับพลาค่ายหลวง ๗ ราตรี
ครั้งนั้น พระยากลันตัน ท้าวพระยาแขกหัวเมืองเข้ามาเฝ้าถวายเครื่องราชบรรณาการเป็นอันมาก เว้นแต่พระยาตรังกานูบอกป่วยเสียให้แต่ศรีตวันกรมการเข้ามาเฝ้าแทนตัว ตั้งแต่เสด็จออกไปจนวันกลับ พระราชทานคนชราจำนวนคน ๓,๘๖๓ คน พระราชทานคนละ ๑ บาท สิ้นพระราชทรัพย์ ๔๘ ชั่ง ๕ ตำลึง ๓ บาท พระราชทานข้าราชการที่ตามเสด็จและกรมการหัวเมือง เงิน ๑๒๗ ชั่ง ๑ บาท รวมสิ้นพระราชทรัพย์ ๑๗๕ ชั่ง ๖ ตำลึง วันอาทิตย์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๑ ค่ำ[๗] เวลายามเศษ เสด็จกลับจากพลับพลามาประทับเรือพระที่นั่งมณีเมขลา เวลา ๒ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรมา วันจันทร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๒ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ถึงตำบลแหลมชุมพุกแขวงเมืองนครศรีธรรมราช ทอดเรือพระที่นั่งประทับพักอยู่ เวลา ๓ ยามเศษ ออกเรือพระที่นั่งใช้จักรมา วันอังคาร เดือน ๑๐ ขึ้น ๓ ค่ำ เวลาบ่ายโมงเศษ ทรงเรือพระที่นั่งมหาไชยเทพใช้จักรมา เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ถึงตำบลช่องมุขตะเภา แขวงเมืองนครศรีธรรมราช ทอดเรือพระที่นั่งพักอยู่ เวลา ๓ ยามเศษ ออกเรือพระที่นั่งใช้จักรมา วันพุธ เดือน ๑๐ ขึ้น ๔ ค่ำ เวลาทุ่มเศษ ถึงปากน้ำเมืองชุมพร ทอดเรือพระที่นั่งประทับพักอยู่ เวลา ๓ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรมา วันพฤหัสบดี เดือน ๑๐ ขึ้น ๕ ค่ำ เวลาย่ำค่ำแล้ว ถึงตำบลเกาะหลัก ถึงเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทอดเรือพระที่นั่งประทับพักอยู่ เวลา ๓ ยามเศษออกเรือพระที่นั่งใช้จักรมา วันศุกร เดือน ๑๐ ขึ้น ๖ ค่ำ[๘] เวลา ๒ ยามเศษถึงด่านปากน้ำเมืองสมุทรปราการ วันเสาร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๗ ค่ำ เวลาเช้า ๑ โมงเศษ ถึงท่าที่ประทับนิเวศวรดิฐ เสด็จขึ้นพระมหามนเทียร
ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมง พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมสมเด็จพระเดชาดิศร พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี เข้าไปเฝ้าที่พระที่นั่งอมรินทรวินิฉัย ยินดีที่เสด็จกลับมา เสด็จออกตรัสอยู่ด้วยจนเวลา ๔ ทุ่ม
[๑] วันที่ ๑ สิงหาคม ฯ
[๒] วันที่ ๕ สิงหาคม ฯ
[๓] วันที่ ๘ สิงหาคม ฯ
[๔] วันที่ ๑๓ สิงหาคม ฯ
[๕] วันที่ ๑๘ สิงหาคม ฯ
[๖] วันที่ ๒๖ สิงหาคม ฯ
[๗] วันที่ ๒๘ สิงหาคม ฯ
[๘] วันที่ ๒ กันยายน ฯ