๗๐. งานเฉลิมพระมหามนเทียรพระที่นั่งอนันตสมาคม

ลุศักราช ๑๒๒๑ ปีมะแม[๑]เอกศก เป็นปีที่ ๙ การที่ทำพระที่นั่งอนันตสมาคม ได้ลงมือทำตั้งแต่ปีขาลฉศกมาจนถึงปีมะแมเอกศกจึงแล้ว กำหนดพระฤกษ์จะได้เสด็จพระราชดำเนินไปเฉลิมพระมหามนเทียรใหม่ มีพระบรมราชโองการดำรัสว่า เมื่อทำการพระบรมราชาภิเศกแต่ก่อน กรมสมเด็จพระปรมานุชิตดับเทียนไชยเสียก่อน การยังไม่ทันแล้ว ก็ครั้งนี้จะต้องทำให้เหมือนอยู่อย่างการบรมราชาภิเศก เทียนไชยจะได้เอาไว้จนเสร็จการจึงดับ

ณวันจันทร์ เดือน ๖ ขึ้น ๑ ค่ำ[๒] เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระประเมนทรมหามงกุฎ สุทธิสมมติเทพยพงศ์ วงศาดิศวรกษัตริย์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ บรมธรรมมิกมหาราชาธิราชบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งนงคราญสโมสร พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายไตรบริกขารในการเฉลิมพระราชมนเทียร พระสงฆ์ ๘๐ รูป พระบวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ๑ หม่อมเจ้าราชาคณะ ๓ องค์ หม่อมเจ้าสีลวราลังการ ๑ หม่อมเจ้าญาณวราภรณ์ ๑ หม่อมเจ้าสังวรวรประสาธน์ ๑ หม่อมเจ้าเปรียญ ๔ องค์ และพระราชาคณะในพระนคร ๕๕ รูป พระครู ๑๑ พระราชาคณะหัวเมือง ๕ พระครู ๑ ทรงถวายไตรผ้าเนื้อดี ย่ามพัชนีอัตลัดดอกเสมอกัน ๘๐ ที่ศาลาพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ สรงน้ำครองไตรเสร็จแล้ว สวดพระพุทธมนต์ในพระที่นั่งนงคราญสโมสรทั้ง ๘๐ รูป ตั้งน้ำวงด้าย ครั้นเวลา ๘ ทุ่ม ๖ บาท เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงถวายเทียนชนวนแก่พระบวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ทรงจุดเทียนไชยประโคมปี่พาทย์กลองแขกแตรสังข์ฆ้องไชยบัณเฑาะว์ แล้วพระสงฆ์ ๔ รูปตั้งสวดท้องภาณพระราชาคณะนั่งปรกรูป ๑ ผลัดเปลี่ยนกันจนจบ จบละ ๕ รูปจนสำเร็จการพระราชพิธี และพระมหาราชครูพิธีพราหมณ์โหราจารย์ประชุมพร้อมกัน เชิญเทวรูปตั้งเบญจนพรัตนโหมกุณฑลหอเสถียรธรรมปริตร

ครั้นณวันอังคาร เดือน ๖ ขึ้น ๒ ค่ำ[๓] เวลาเช้าเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงถวายบาตรผ้าเชิงเขียนลายทองสลักแพรจินเจา ๘๐ ทรงประเคนสำรับคาวหวาน พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นเวลาบ่าย พระบวรวงศ์เธอกรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ และพระราชาคณะ ๑๙ รูป เข้าไปสวดพระพุทธมนต์ณพระที่นั่งบรมพิมาน ๕ รูป พระที่นั่งจันทรทิพโยภาศ ๕ รูป พระที่นั่งภาณุมาศจำรูญ ๕ รูป พระที่นั่งมูลมนเทียร ๕ รูป หม่อมเจ้าราชาคณะ ๓ รูป หม่อมเจ้าเปรียญ ๔ องค์ พระราชาคณะ ๕๐ พระครู ๓ รวม ๖๐ รูป สวดณพระที่นั่งอนันตสมาคม เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระมหาราชครูพิธีถวายใบสมิตโหมเพลิงปัดพระองค์ แล้วเสด็จขึ้นทรงสดับพระสงฆ์สวดบนพระที่นั่งภาณุมาศจำรูญทั้ง ๓ วัน และเจ้าพนักงานชาวพระเครื่องต้นได้ครอบสายสิญจน์ ตั้งพระมหามงคลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย

ครั้นณวันพุธ เดือน ๖ ขึ้น ๓ ค่ำ เวลาเช้าเสด็จออกณพระที่นั่งอนันตสมาคม พระสงฆ์ ๘๐ รูปรับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงถวายบริกขารหีบหมากแก้วมีเครื่องพร้อม มุ้งประทุน เสื่ออ่อน หมอนอิงลายวิลาศ หมอนหนุนหน้าอัตลัด พัชนีหน้าลายวิลาศ เสื่อคล้า หมอนขวาน รวม ๑๐ สิ่ง ครั้นเวลาบ่ายสวดพระพุทธมนต์ทั้ง ๕ แห่ง ครั้นวันพฤหัสบดี เดือน ๖ ขึ้น ๔ ค่ำ เวลาเช้าพระสงฆ์ ๘๐ รูปรับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงถวายบริกขารเครื่องน้ำชา อั้งโล่ กาทองแดง กล่องแดงมีฝาปิดเครื่องสำรับคาวสำรับหวานทั้ง ๘๐ รูป เวลาบ่ายสวดพระพุทธมนต์ในพระที่นั่งทั้ง ๕ แห่ง ครั้นเวลา ๗ ทุ่มเศษ พระฤกษ์เสด็จแต่พระมหามนเทียร มีโหรพราหมณ์โปรยเข้าตอกดอกไม้ เป่าพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏตีบัณเฑาะว์นำเสด็จ ทรงโปรยเงินตามทาง มีนางเชิญเครื่องราชบริโภค พานถั่วงาศิลาบดผลฟักวิลาโดยเสด็จ ถึงพระที่นั่งแล้วประโคมปี่พาทย์ กลองแขก แตรสังข์ ฆ้องไชย เสด็จพระราชดำเนินขึ้นที่สรง จึงพระราชโกษาไขสหัสธาราถวายเครื่องพระมุรธาภิเศก สรงน้ำพระพุทธมนต์กับพระเต้า ๕ องค์ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ถวายน้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระเต้าศิลา พระครอบสัมฤทธิ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระพิทักษเทเวศร พระวรวงศ์เธอ กรมขุนนรานุชิต ถวายน้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระเต้าปทุมนิมิตร ๔ องค์ พราหมณ์พฤฒิบาศโหราจารย์ถวายพระเต้าเบญจครรภ และพระมหาสังข์ ๕ พระมหาสังข์ ๓ พระฤกษ์ยกพระเศวตฉัตรบนพระที่นั่งบรมพิมานองค์ ๑ บนพระที่นั่งภาณุมาศจำรูญองค์ ๑ พร้อมกัน ครั้นสรงเสร็จแล้วพระฤกษ์เสด็จขึ้นบนพระที่บรรทมบนพระที่นั่งภาณุมาศจำรูญ เสด็จโดยทางลาดพระบาท มีนางชำระพระบาทแทบเชิงอัฒจันท์พระที่นั่ง เสด็จถึงที่พระบรรทมแล้ว พระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ถวายไชยมงคล ท้าววรจันทร์ถวายดอกหมากทองคำลูกกุญแจ ครั้นหยุดเสียงประโคมแล้ว เจ้าพนักงานประโคมขับไม้

ครั้นรุ่งขึ้นวันศุกร เดือน ๖ ขึ้น ๕ ค่ำ[๔] เวลาเช้า ๒ โมง ๓ บาท เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระฤกษ์ยกพระมหาเศวตฉัตรพระที่นั่ง และพระเศวตฉัตรพระที่นั่งภัทรบิฐ พระที่นั่งอัฐทิศ พร้อมกันทั้ง ๓ องค์ พระสงฆ์ ๘๐ รูปถวายไชยมงคลประโคมปี่พาทย์กลองแขกแตรสังข์ฆ้องไชย ยิงปืนเล็ก ๑๐๘ บอกๆ ละ ๑ นัด ยิงปืนใหญ่ ๔ ทิศพระราชวัง ๔ บอก ยิง ๒๑ นัด มีปี่พาทย์ประโคมที่ยิงปืนทั้ง ๔ ทิศ ครั้นเสร็จแล้วพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงถวายไทยธรรมธูปเทียน โคมแก้ว ร่มฝรั่ง แพร ชามเถามีฝา กาถ้วย รองเท้ากำมะหยี่เสร็จแล้ว จึงนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นบนยกพื้นพระเฉลียงพระที่นั่งอนันตสมาคมข้างละ ๔๐ รูป แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระที่นั่งอัฐทิศเป็นพระฤกษ์ พระสงฆ์ถวายไชยมงคลประโคมอีกครั้ง ๑ พระมหาราชครูพราหมณ์พฤฒิบาศโหราจารย์ ปี่พาทย์กลองแขกฆ้องไชยแตรสังข์มะโหระทึกพร้อมกัน ๘ นายทั้ง ๘ ทิศ และโหรพราหมณ์ไปรับเข้าตอกดอกไม้ เชิญพานพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏกลดเข้าประจำทิศทั้ง ๘ แล้วอ่านเวทถวายน้ำเวียนไปโดยลำดับ เป่าพระมหาสังข์ตีบัณเฑาะว์นำเสด็จโดยทางลาดพระบาท ไปขึ้นพระที่นั่งภัทรบิฐ ครั้นถึงทรงประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐลาดด้วยแผ่นทองจำหลักด้วยชาดหรคุณเป็นรูปราชสีห์อันมีทันตเดชะ แล้วให้หยุดเสียงประโคม ทรงเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ พระยาโหราธิบดี พระยาธรรมสัตย์สุจริต ถวายไชยวัฒนมงคล พระมหาราชครูพิธีอ่านเวทถวายไชยเสร็จแล้ว ทรงโปรยดอกพิกุลทองเงิน แล้วพระสงฆ์ถวายยถาสัพพี ทรงพระราชอุททิศด้วยพระเต้าทักษิโณทก เสร็จแล้วให้ประโคมอีกครั้ง ๑ แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งมหาเศวตฉัตร พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพร้อมกันโดยลำดับ แล้วให้หยุดเสียงประโคม จึงเจ้าพระยานิกรบดินทรมหินทรมหากัลยาณมิตร เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายไชยมงคล ขอให้ทรงพระเจริญในอิศริยสมบัติสืบไปภายหน้า พระสงฆ์สวดพระคาถาจบลง พระพิมลธรรมดับเทียนไชย และถวายอดิเรกถวายพระพรลา ทรงพระราชทานทองเฟื้องเงินเถาพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั่วกัน

พระบรมวงศานุวงศ์และท้าวนางข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในพร้อมกัน พระบรมวงศ์ผู้ใหญ่จึงถวายไชยมงคล ทรงโปรยดอกพิกุลทองพิกุลเงิน พระราชทานเงินเถาเสร็จแล้ว ครั้นเวลาบ่าย ตั้งบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน บายศรีตอง ๕ ชั้น ๒ สำรับ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายหน้าฝ่ายในเวียนเทียนสมโภชพระที่นั่ง ประโคมพิณพาทย์กลองแขกแตรสังข์ฆ้องไชย มีงานสมโภชไม้ลอยเดินลวดนอนร้านหอกดาบมงครุ่มญวนหก เวลาเช้าบ่าย ๓ เวลา แล้วเสด็จออกทรงโปรยทานณพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ เวลาบ่าย ๓ วัน มีพระบรมราชโองการ ให้ถวายจตุปัจจัยแก่พระสงฆ์ในการพระราชพิธี ๘๐ รูปโดยลำดับตามกาล พระบวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) เป็นผู้อำนวยการพระราชพิธี ทรงถวายองค์ละ ๕ ตำลึง พระธรรมไตรโลกเป็นผู้ประกาศเทวดา ทรงถวาย ๕ ตำลึง พระราชาคณะนั่งปรก ๑๒ รูป ทรงถวายองค์ละ ๔ ตำลึง พระราชาคณะ พระครูสวดท้องภาณ ๔๘ รูป ทรงถวายองค์ละ ๔ ตำลึง หม่อมเจ้าราชาคณะ ๓ องค์ หม่อมเจ้าเปรียญ ๔ องค์ พระราชาคณะ และพระครู ๑๐ รูป รวม ๑๗ รูปที่มิได้สวดท้องภาณ ทรงถวายรูปละ ๓ ตำลึง รวมเงินถวายพระสงฆ์ ๘๐ รูป เป็นเงิน ๑๓ ชั่ง ๘ ตำลึง มีเทศนา ๓ วัน พระบวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ถวายเทศนาเทวตาอุททิศ พระศาสนโสภณ ถวายเทศนามงคลสูตร รัตนสูตร สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ถวายเทศนาพระราชพงศาวดาร ทรงถวายไตรจีวรเครื่องบริกขารพร้อม เงินค่าจตุปัจจัยในเทศนากัณฑ์ละ ๑๐ ตำลึง รวมเงินถวายพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์และเทศนาเป็นเงิน ๑๔ ชั่ง ๑๘ ตำลึง ทรงโปรยทานการสมโภช เวลาบ่าย ๓ วัน เป็นเงิน ๓ ชั่ง ๒ ตำลึง ๒ บาท พระราชทานแจกเงินเถาข้างหน้าข้างใน เงินเถา ๕๗๘ เถา เป็นเงิน ๑๓ ชั่ง ๑๒ ตำลึง ๓ บาท ๓ สลึง ทองเฟื้อง ๗๔๐ เฟื้อง ทองหนัก ๑ ชั่ง ๓ ตำลึง ๒ สลึง ดอกพิกุลทองทรงโปรย ๘๖๐ ทองหนักตำลึงละ ๓ บาท ๓ สลึง ๑ เฟื้อง รวมทองหนัก ๑ ชั่ง ๕ ตำลึง ๑ สลึง ๑ เฟื้อง เงินพระราชทานเครื่องเล่นเครื่องประโคมสมโภชเงิน ๑๘ ตำลึง ๓ สลึง ๑ เฟื้อง พระราชทานคนประจำงาน ๖๙ คน เป็นเงิน ๙ ตำลึง ๓ บาท ๓ สลึง ๑ เฟื้อง พระราชทานข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายใน ๒ ชั่ง เครื่องประโคมข้างในพระราชทานสิ้น ๗ ตำลึง ๓ บาท รวมพระราชทานในการพระราชกุศล เป็นทอง ๑ ชั่ง ๕ ตำลึง ๑ สลึง ๑ เฟื้อง เงิน ๓๔ ชั่ง ๑๗ ตำลึง ๒ บาท



[๑] พ.ศ. ๒๔๐๒ ฯ

[๒] วันที่ ๒ พฤษภาคม ฯ

[๓] วันที่ ๓ พฤษภาคม ฯ

[๔] วันที่ ๖ พฤษภาคม ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ