๑๕๗. โปรดฯ ให้ชำระเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์

ครั้นวันเสาร์ เดือน ๕ แรม ๑๒ ค่ำ[๑] หลวงพิไชยวารี (หณุ) ทำเรื่องราวทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย กล่าวโทษพระยาสมบัตยาธิบาล (นาก) จมื่นราชนาคา (เลี้ยง) ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเบิกจ่ายเหล็กฉ้อพระราชทรัพย์ของหลวง ปี ๑ เป็นเงินถึง ๕,๐๐๐ ชั่งเศษ มีพระบรมราชโองการให้พระยาสุริวงศวัยวัฒน์เป็นตระลาการชำระให้ได้ความจริง ท่านตระลาการได้เรียกบัญชีฎีกาพระคลังในขวา สอบกับบัญชีพระคลังมหาสมบัติ ได้ความว่าในจำนวนปีระกา ตรีศก จ่ายเหล็ก ๔๔,๐๔๐ หาบ ปีจอ จัตวาศก จ่ายเหล็ก ๕๑,๕๕๐ หาบ ปีกุญ เบญจศกทำได้ ๑๐ เดือน จ่ายเหล็ก ๖๕,๘๙๐ หาบ ๒ ปีกับ ๑๐ เดือน รวมเงินหลวงได้ออกจากท้องพระคลังไปแล้ว ๑๑,๙๗๕ ชั่ง ๒ ตำลึง ๓ สลึง ปีชวดฉศก เหล็ก ๗๕,๘๐๐ หาบ คิดค่าเหล็ก ค่าถ่าน เป็นเงิน ๖,๑๕๘ ชั่ง ๑๕ ตำลึง ชำระบัญชีที่จ่ายเหล็กครั้งนั้น ๓ ปีกับ ๘ เดือน รวมเหล็ก ๒๓๗,๒๘๐ หาบ เงินในท้องพระคลังออกไปแล้ว ๑๘,๑๓๓ ชั่ง ๑๗ ตำลึง ๓ สลึง พณฯหัวเจ้าท่านสมุหพระกลาโหมเห็นว่า พระยาสมบัติยาธิบาล จมื่นราชนาคา เป็นเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์ของหลวง มีความผิดเป็นอันมาก กราบทูลขึ้น โปรดฯ ให้ถอดเสียจากที่ส่งไปจำไว้ณคุกทั้ง ๒ คน แล้วยกพิกัดเก่าเสีย จัดการใหม่มิให้คิดฉ้อได้ แล้วโปรดฯ ให้เจ้าหมื่นสรรเพธภักดี (ทองอยู่) เป็นที่พระยาสมบัตยาธิบาล ให้นายขันแย้ม เป็นจมื่นราชนาคาต่อไป แต่นั้นมาโดยมีราชการในเรื่องใช้เหล็กอย่างมาก ปี ๑ ออกเงินหลวงเพียง ๖๐๐ - ๗๐๐ ชั่งเท่านั้น ผิดกว่าแต่ก่อนปี ๑ ถึง ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ ชั่ง การก็เรียบร้อยเป็นอย่างมาจนทุกวันนี้



[๑] วันที่ ๒๒ เมษายน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ