- คำนำ
- ๑. อัญเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จจากวัดบวรนิเวศ
- ๒. กราบทูลอัญเชิญสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขึ้นเสวยราชย์
- ๓. ทรงแก้ไขธรรมเนียมข้าราชการเข้าเฝ้าให้สรวมเสื้อ
- ๔. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- ๕. ข้าราชการฝ่ายในถวายตัว
- ๖. เสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค
- ๗. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- ๘. พระราชพิธีบวรราชาภิเศก
- ๙. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเลียบพระนคร
- ๑๐. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๑๑. ตั้งพระราชาคณะ
- ๑๒. ตั้งกรมเจ้านาย
- ๑๓. เจ้าประเทศราชเข้ามาเฝ้า
- ๑๔. ตำนานเมืองน่าน
- ๑๕. ตำนานเมืองแพร่
- ๑๖. ทรงแก้สร้อยพระนาม องค์สมเด็จหริรักษรามา เจ้ากรุงกัมพูชา
- ๑๗. ทรงแต่งตั้งขุนนาง
- ๑๘. ขุดคลองคูพระนครชั้นนอก
- ๑๙. การเทศนากระจาดใหญ่
- ๒๐. ถวายพระนามพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมราชชนนี และกรมพระราชวังบวรที่สวรรคตแล้ว
- ๒๑. งานพระบรมศพ
- ๒๒. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๒๓. ขุดคลองผดุงกรุงเกษมและสร้างป้อม
- ๒๔. สมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดีสิ้นพระชนม์
- ๒๕. เริ่มการศึกเชียงตุง
- ๒๖. บรรจุดวงพระชาตาพระนคร
- ๒๗. สมณทูตไทยไปลังกาทวีป
- ๒๘. งานพระศพสมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดี
- ๒๙. สมณทูตกลับจากลังกาทวีป
- ๓๐. ได้พระวิมลรัตนกริณี ช้างพังเผือกตรี
- ๓๑. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์ประสูติเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๓๒. การทัพศึกเมืองเชียงตุง
- ๓๓. เรื่องเรือกะทงลอยพระประทีป
- ๓๔. สร้างพระเจดีย์และถวายพระนามพระประธานในวัดพระเชตุพน
- ๓๕. กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสและกรมหลวงพิเศษศรีสวัสดิ์สิ้นพระชนม์
- ๓๖. สร้างสระปทุมวันและวัดปทุมวนาราม
- ๓๗. การทัพศึกเมืองเชียงตุง (ต่อ)
- ๓๘. เตรียมการต้อนรับเซอร์ยอนโบวริง
- ๓๙. การฉลองคลองคูพระนครชั้นนอก (คลองผดุงกรุงเกษม)
- ๔๐. สร้างพระอภิเนาวนิเวศน์
- ๔๑. ได้พระวิสุทธรัตนกริณี ช้างพังเผือกโท
- ๔๒. เซอร์ยอนโบวริงเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๓. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ถึงแก่พิราลัย
- ๔๔. มิสเตอร์ฮาริปักเข้ามาแก้หนังสือสัญญา
- ๔๕. ทูตอเมริกันเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๖. การถวายสลากภัตรในวัดพระเชตุพน
- ๔๗. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาทำสัญญา ๓๒ ข้อ
- ๔๘. พม่าถือหนังสือเสนาบดีผู้ใหญ่เมืองพม่าเข้ามาถวายพระสังฆราช
- ๔๙. หนังสือเดินทางของพม่า
- ๕๐. ลิขิตสมณศาสน์ตอบหนังสือเสนาบดีพม่า
- ๕๑. ทูตฝรั่งเศสไปเมืองเขมรและเมืองญวน
- ๕๒. หนังสือองค์พระหริรักษ์ถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓
- ๕๓. ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ
- ๕๔. สร้างสวนอนันตอุทยาน
- ๕๕. ขุดคลองมหาสวัสดิ์
- ๕๖. เสด็จประพาสหัวเมืองตะวันออก
- ๕๗. พระราชทานที่ให้ชาวต่างประเทศตั้งห้างและขุดคลองถนนตรง
- ๕๘. พระราชทานทรัพย์สร้างศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๕๙. หนังสือองญวนข้าหลวงเมืองไซ่ง่อนถึงเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม
- ๖๐. หนังสือตอบองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน
- ๖๑. หนังสือองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน ตอบเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๖๒. ทูตเดนมาร์กเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๖๓. ราชทูตไทยกลับจากลอนดอน
- ๖๔. ทูตเดนมาร์กกลับ
- ๖๕. โปรดฯ ตั้งองค์พระนโรดมและองค์หริราชดะไนไปช่วยราชการเมืองเขมร
- ๖๖. ฝรั่งเศสรบกับญวน
- ๖๗. ดาวหางขึ้น
- ๖๘. พระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ และสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย
- ๖๙. ทูตโปรตุเกศเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๗๐. งานเฉลิมพระมหามนเทียรพระที่นั่งอนันตสมาคม
- ๗๑. สร้างประตูกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอก
- ๗๒. เรื่องรักใคร่ระหว่างขุนสุวรรณกับเจ้าจอมช้อย
- ๗๓. พระราชทานเงินคนชราพิการ
- ๗๔. เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก
- ๗๕. กรมสมเด็จพระเดชาดิศรสิ้นพระชนม์
- ๗๖. เสด็จประพาสตลาดสำมุข
- ๗๗. โปรดฯ ให้รื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๗๘. ฝรั่งเศสรบกับญวน (ต่อ)
- ๗๙. งานพระศพกรมสมเด็จพระเดชาดิศร
- ๘๐. เกิดความไข้ที่กรุงเทพฯ
- ๘๑. ได้พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพลายเผือกโท
- ๘๒. โปรดเกล้าฯ ให้งดการรื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๘๓. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาศหัวเมืองปักษ์ใต้
- ๘๔. ทูตฮอลันดาเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๘๕. คนสนิทของสุลต่านมะหมุดเข้ามาขอกำลังรบเมืองปาหัง
- ๘๖. องค์พระหริรักษ์ เจ้ากรุงกัมพูชา สุรคต
- ๘๗. สมโภชพระสมุทรเจดีย์
- ๘๘. ราชทูตไทยไปประเทศฝรั่งเศ
- ๘๙. ใบบอกพระยาสระบุรีเรื่องคล้องได้ช้างพังเผือกโท
- ๙๐. เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี
- ๙๑. ราชทูตกราบถวายบังคมลา
- ๙๒. สมโภชพระพุทธบุษยรัตน์ จักรพรรดิพิมลมณีมัย
- ๙๓. กรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชาและกรมหลวงมหิศวรินทรามเรศรสิ้นพระชนม์
- ๙๔. สุลต่านมะหมุดเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- ๙๕. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์สิ้นพระชนม์
- ๙๖. เรื่องเมืองเขมร
- ๙๗. ทูตปรุศเซียเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๙๘. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๙๙. เรื่องเมืองเขมร (ต่อ)
- ๑๐๐. งานพระศพ กรมหลวงมหิศวรินทร์ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และพระองค์เจ้านิลวรรณ
- ๑๐๑. ส่งองค์พระนโรดมไปครองเมืองเขมร
- ๑๐๒. ทูตปรุศเซียกราบถวายบังคมลา
- ๑๐๓. ทำเงินตราใช้แทนเบี้ยและหอย
- ๑๐๔. ตัดถนน ๓ สายและขุดคลอง
- ๑๐๕. สร้างสะพานข้ามคลอง
- ๑๐๖. งานพระศพกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์และพระองค์เจ้าสว่าง
- ๑๐๗. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์
- ๑๐๘. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๐๙. เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา
- ๑๑๐. งานพระศพสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์
- ๑๑๑. ราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๑๒. พระราชศาสน์ถึงเจ้ากรุงจีน
- ๑๑๓. ญวนทำสัญญาใช้เบี้ยปรับให้ฝรั่งเศส
- ๑๑๔. เรื่องสุลต่านมะหมุด
- ๑๑๕. สร้างถนนเจริญกรุงตอนใน
- ๑๑๖. กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธรสิ้นพระชนม์
- ๑๑๗. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๑๘. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์
- ๑๑๙. การรับและสมโภชพระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพังสีประหลาด
- ๑๒๐. กรมพระพิทักษเทเวศรสิ้นพระชนม์
- ๑๒๑. งานโสกันต์
- ๑๒๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายเครื่องราชอิศริยยศ
- ๑๒๓. งานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธร
- ๑๒๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลฯ สิ้นพระชนม์
- ๑๒๕. งานพระศพกรมพระพิทักษเทเวศร และพระองค์เจ้าใย
- ๑๒๖. เตรียมการสมโภชพระบรมอัฏฐิ
- ๑๒๗. เรื่องราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๒๘. เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ (ลองเรืออรรคราชวรเดช)
- ๑๒๙. องค์พระนโรดมบอกเรื่องทำหนังสือสัญญาระหว่างเขมรกับฝรั่งเศส
- ๑๓๐. สุลต่านมะหมุดหนีกลับ
- ๑๓๑. สร้างถนนบำรุงเมือง
- ๑๓๒. สร้างถนนเฟื่องนคร
- ๑๓๓. ฝรั่งเศสถวายรูปราชสีห์
- ๑๓๔. สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา เสด็จไปเที่ยวค้นดูช้างในแขวงเมืองนครนายก
- ๑๓๕. พระราชทานสุพรรณบัฏเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๑๓๖. ญวนแต่งทูตไปกรุงปารีส
- ๑๓๗. สร้างพระบรมบรรพต
- ๑๓๘. สมโภชพระบรมอัฏฐิและพระอัฏฐิ
- ๑๓๙. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๔๐. งานพระศพพระองค์เจ้าขนิษฐน้อยนารี
- ๑๔๑. พระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยานิกรบดินทร์
- ๑๔๒. ตั้งผู้แทนทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนอังกฤษกับไทย
- ๑๔๓. ราชาภิเศกองค์พระนโรดมขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินกรุงกัมพูชา
- ๑๔๔. งานฉลองสพานและถนน
- ๑๔๕. คล้องได้ช้างเผือกเอก
- ๑๔๖. เปรสิเดนต์ส่งกระบี่เครื่องทองคำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย
- ๑๔๗. สุลต่านมะหมุดถึงแก่กรรม
- ๑๔๘. ช้างเผือกและช้างสำคัญในรัชชกาลที่ ๔
- ๑๔๙. น้ำไหลมาแต่เหนือมีสีแดง
- ๑๕๐. เฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖๐
- ๑๕๑. การแบ่งเขตต์แดนประเทศสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๕๒. การฉลองศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๑๕๓. เรื่องค่านาคู่โค
- ๑๕๔. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ และพระองค์เจ้ามัณยาภาธร
- ๑๕๕. เสด็จประพาสเมืองราชบุรีและกาญจนบุรี
- ๑๕๖. ตั้งผู้ปรึกษาทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนเมืองเขมร
- ๑๕๗. โปรดฯ ให้ชำระเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์
- ๑๕๘. นายพลเรือโท ยอช กิง เข้ามากรุงเทพฯ
- ๑๕๙. พระยามนตรีสุริยวงศ์ออกไปเมืองนครฯ
- ๑๖๐. ทรงเปลี่ยนนามเจ้าพระยาทิพากรวงศ์
- ๑๖๑. โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๖๒. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต
- ๑๖๓. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๓ พระองค์
- ๑๖๔. การปักเขตต์แดนสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๖๕. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระผนวชสามเณร
- ๑๖๖. เรื่องหนังสือสัญญาการเมืองเขมร
- ๑๖๗. พระราชทานเพลิงศพพระยามนตรีสุริยวงศ์และพระยาอภัยสงคราม
- ๑๖๘. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ถวายเทศนามหาชาติ
- ๑๖๙. เสด็จพระราชดำเนินไปสมโภชพระพุทธชินราชที่เมืองพิศณุโลก
- ๑๗๐. เรื่องปันเขตต์แดนทางประเทศพม่า
- ๑๗๒. ทำแผนที่อาณาเขตต์ทางหัวเมืองลำแม่น้ำโขง
- ๑๗๓. งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ๑๗๔. งานพระศพเจ้านาย
- ๑๗๕. ขุดคลองภาษีเจริญ
- ๑๗๖. ทำกะโจมไฟที่หลังสันดอน
- ๑๗๗. สร้างพระราชวังสราญรมย์
- ๑๗๘. มีละครทำขวัญพระบรมมหาราชวัง
- ๑๗๙. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๕ องค์
- ๑๘๐. โปรดเกล้าฯ ให้จำลองปราสาทที่นครวัด
- ๑๘๑. ฝรั่งเศสได้เมืองญวน ๓ เมือง
- ๑๘๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายพระแสง
- ๑๘๓. กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสสิ้นพระชนม์
- ๑๘๔. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๑๘๕. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาประทับตราหนังสือสัญญา
- ๑๘๖. ทูตโปรตุเกศเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี
- ๑๘๗. โสกันต์พระเจ้าลูกยาเธอ ๓ องค์
- ๑๘๘. ราชทูตโปรตุเกศกราบถวายบังคมลากลับ
- ๑๘๙. เปลี่ยนหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส
- ๑๙๐. ฉลองวัดปทุมวนาราม
- ๑๙๑. เรื่องปักเขตต์แดนทางเมืองเขมร
- ๑๙๒. อักษรศาสน์ไว้ส์รอยอินเดีย
- ๑๙๓. งานพระศพกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส
- ๑๙๔. การฉลองวัดหงษ์และโรงธรรมวัดกัลยาณมิตร
- ๑๙๕. ตั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นกรมขุนพินิตประชานา
- ๑๙๖. อสุนีบาตตกหลายแห่ง
- ๑๙๗. เปิดคลองดำเนินสดวก
- ๑๙๘. ขุดคลองบางลี่และแก้คลองลัดยี่สานเมืองสมุทรสงคราม
- ๑๙๙. ขุดคลองที่ลัดขุนเมืองสมุทรสาคร
- ๒๐๐. ไวซ์รอยอินเดียทำแผนที่เขตต์แดนส่งมาประทับตรา
- ๒๐๑. สถานที่ซึ่งทรงก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงในรัชชกาลที่ ๔
- ๒๐๒. การพระราชกุศล
- ๒๐๓. การภาษีอากร
- ๒๐๔. ขุดได้พระพุทธรูปนิรันตราย
- ๒๐๕. สั่งปืนเข้ามาใช้ในราชการ
- ๒๐๖. ต่อเรือพระที่นั่งและเรือกลไฟ
- ๒๐๗. เมืองที่ทรงตั้งในรัชกาลที่ ๔
- ๒๐๘. ทรงแปลงและตั้งนามขุนนาง
- ๒๐๙. ทรงตั้งนามราชทูตและกงสุล
- ๒๑๐. ทรงตั้งและแปลงนามบรรดาศักดิ์ขุนนาง
- ๒๑๑. ทรงตั้งและแปลงนามเจ้าเมืองกรมการ
- ๒๑๒. ทรงตั้งและแปลงนามพระราชาคณะฐานานุกรม
- ๒๑๓. ทรงตั้งและแปลงนามวัดต่างๆ
- ๒๑๔. เสนาบดีเข้าชื่อกันทำเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวาย เรื่องราษฎรกล่าวว่า พระบาง พระพุทธรูปทำให้ฝนแล้ง
- ๒๑๕. พระราชทานพระบางคืนไปเมืองหลวงพระบาง
- ๒๑๖. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามในกรุง
- ๒๑๗. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามหัวเมือง
- ๒๑๘. สร้างพระนครคีรี ที่เมืองเพ็ชรบุรี
- ๒๑๙. กระแสพระราชดำริก่อนปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๐. ปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๑. กล่าวด้วยปาฏิหาริย์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๒. สร้างพระราชวังที่นครปฐม
- ๒๒๓. ขุดคลองเจดีย์บูชา
- ๒๒๔. ทรงปฏิสังขรณ์วัดเฉลิมพระเกียรติ
- ๒๒๕. ปฏิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามและสร้างตำหนักที่บางปะอิน
- ๒๒๖. ทรงบุรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธบาทและวังท้ายพิกุล
- ๒๒๗. ทรงสร้างพระนารายน์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๒๒๘. กงสุลฝรั่งเศสเข้ามาเปลี่ยนตัว
- ๒๒๙. เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ๒๓๐. ลงพระราชอาชญาพวกมหาดเล็กเล่นไพ่
- ๒๓๑. ทำทัณฑกรรมโหรและท้าวสมศักดิ์ท้าวโสภา
- ๒๓๒. สมโภชพระปฏิมากรแก้วมรกต
- ๒๓๓. ทรงพระประชวร
- ๒๓๔. พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒนสัตยา
- ๒๓๕. ตั้งกองล้อมวง
- ๒๓๖. ประชุมหมอหลวงถวายพระโอสถ
- ๒๓๗. กระแสพระราชดำริถึงผู้สืบราชสมบัติ
- ๒๓๘. แปลคำที่ทรงคาถาขอขมาพระสงฆ์วัดราชประดิษฐ์
- ๒๓๙. ทรงขอขมาพระบรมวงศานุวงศ์และท่านเสนาบดี
- ๒๔๐. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
- ๒๔๑. สรงน้ำพระบรมศพ
๑๐๙. เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา
ลุศักราช ๑๒๒๔ ปีจอ จัตวาศก[๑] เป็นปีที่ ๑๒ เมื่อณวันจันทร์ เดือน ๕ ขึ้น ๑ ค่ำ[๒] อาเล็กซันเดอร์ลูคอนที่ ๒ เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา ซึ่งคองเตระเกอเชียดเข้ามาทำไว้ ได้ถวายพงศาวดารครั้งกรุงศรีอยุธยาเก่าซึ่งมีในจดหมายเหตุและหนังสือต่างๆ ที่ชาวยุโรปจดไว้คัดออกทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โปรดฯ ให้แปลออกมีความว่า เมื่อเดือนโนเวมเบอ คริสตศักราช ๑๖๐๑ ตรงกับเดือน ๑๒ จุลศักราช ๙๖๓ ปีฉลู ตรีศก[๓] อัดมิราลอันเนตได้มาทำหนังสือสัญญากับผู้ครองเมืองตานีซึ่งเคยส่งเครื่องบรรณาการที่กรุงสยาม ในสัญญานั้นว่าจะยอมให้ลูกค้าไปตั้งห้างค้าขาย ตั้งแต่นั้นมามีเรือลูกค้าเข้าไปค้าขายที่เมืองตานีบ้าง มาจนถึงคริสตศักราช ๑๖๐๔ ตรงกับจุลศักราช ๙๖๖ ปีมะโรง โทศก[๔] ครั้งนั้นกำแมนเดอร์ไวปรันวรเวกได้ตั้งผู้ดีนาย ๑ ชื่อโกระผิกลิศเปกสะให้เข้ามาเฝ้าพระเจ้ากรุงสยามกราบทูลให้ได้ความว่า พระเจ้ากรุงสยามจะมีพระทัยโปรดทำนุบำรุงให้พวกฮอลันดาเข้ามาตั้งห้างค้าขายหรือประการใดอยากจะใคร่ทราบ พระเจ้ากรุงสยามทรงพระกรุณาโปรดฯ รับรองทูตด้วยดี และยอมให้ลูกค้าฮอลันดาเข้ามาตั้งห้างค้าขาย ครั้นมาถึงคริสตศักราช ๑๖๐๘ ตรงกับจุลศักราช ๙๗๐ ปีวอก สัมฤทธิศก[๕] พระเจ้ากรุงสยามได้แต่งให้ราชทูตฝ่ายไทยไปถึงเมืองเฮก คือเมืองหลวงฮอลันดา ให้ไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินนิเธอแลนด์ฮอลันดาผู้เป็นปรินซ์ออฟออแรนซ์ ตั้งแต่นั้นมาทางพระราชไมตรีฝ่ายกรุงสยามกับกรุงนิเธอแลนด์ฮอลันดาก็ได้เป็นไมตรีกันสนิทมา
ฉะบับ ๑ มีความว่า ในครั้งนั้นพระเจ้ากรุงสยามมีอำนาจลงไปจนถึงข้างทิศใต้เป็นอันมาก และแหลมมลายูมีความปรารถนาจะยกเกาะที่ปากน้ำเมืองตะนาวศรีให้แก่พวกฮอลันดา เมื่อทางพระราชไมตรีนี้ยังอยู่ มิสเตอร์ปราวเออร์ราชทูตสำหรับเมืองญี่ปุ่นได้แวะเข้ามาที่กรุงสยาม ในคริสตศักราช ๑๖๑๓ ตรงกับจุลศักราช ๙๗๕ ปีฉลูเบ็ญจศก[๖] แล้วได้ตั้งห้างค้าขายขึ้นที่กรุงสยามและเมืองนคร โกระนีลิศวอรในอินรตูได้รักษาห้างนั้นไว้นาน
หนังสืออีกฉะบับ ๑ ว่า ในคริสตศักราช ๑๖๒๐ ตรงกับจุลศักราช ๙๘๒[๗] ปีวอก โทศก เจ้าเขมรที่อยู่กับไทยนั้นทำวุ่นวายขึ้น คอเวอเนอเยเนราลเจ้าเมืองเบตาเวีย ชื่อโกเอนได้ใช้ให้กำปั่น ๒ ลำมาช่วยพระเจ้าแผ่นดินสยามระงับพวกกบฏเขมร ครั้นมาถึงคริสตศักราช ๑๖๒๗ ตรงกับจุลศักราช ๙๘๙ ปีเถาะ นพศก พระเจ้ากรุงสยามได้มีพระราชศาสน์กับสิ่งของออกไปขอบใจเจ้าเมืองเบตาเวีย ให้ส่งของทรงยินดีออกไปเมืองหลวงฮอลันดา ครั้นมาถึงคริสตศักราช ๑๖๒๘ ตรงกับจุลศักราช ๙๙๐[๘] ปีมะโรง สัมฤทธิศก พระเจ้าแผ่นดินนิเธอแลนด์ได้ตั้งให้ขุนนางฮอลันดา ๒ คน ชื่อมิสเตอร์นาริศคน ๑ ชื่อมิสเตอร์ชะรูเตอคน ๑ เชิญพระราชศาสน์คุมสิ่งของมาทรงยินดีตอบแทนพระเจ้ากรุงสยาม ตั้งแต่นั้นมาทางพระราชไมตรี และการค้าขายทั้ง ๒ ฝ่ายได้เจริญทวีขึ้นเป็นอันมาก ครั้นมาถึงคริสตศักราช ๑๖๓๓ ตรงกับจุลศักราช ๙๙๕ ปีระกาเบ็ญจศก[๙] มีอีกคน ๑ ตำแหน่งสูงชื่อดีรอย กับที่ ๒ คน ๑ รับใช้มาแต่เมืองเบตาเวียได้มาที่กรุงสยาม เชิญพระราชศาสน์ของพระเจ้ากรุงนิเธอแลนด์คำนับมายังพระเจ้ากรุงสยาม พระเจ้ากรุงสยามได้รับทูต ๒ คนนี้โดยยศสมควรเป็นอันมาก ครั้นราชทูต ๒ คนนั้นได้รับพระราชศาสน์และของทรงยินดีของพระเจ้ากรุงสยามตอบแทนไปถึงพระเจ้ากรุงนิเธอและนด์แล้วก็ทูลลากลับไป มิสเตอร์ชะรูเตอที่อยู่ก่อนคน ๑ และคนของราชทูตค้างอยู่ชื่อมิสเตอร์วอนวะเลียตคน ๑ เมื่อเดือนแฟบวารีตรงกับเดือน ๓ ได้เข้าไปเฝ้าที่ศาลาโรงละคร แล้วพระเจ้ากรุงสยามได้ตั้งคน ๑ เป็นที่หลวง คน ๑ เป็นที่ขุน พระราชทานเครื่องยศถมตะพอง แล้วพระเจ้ากรุงสยามขอให้เจ้าเมืองเบตาเวียช่วยระงับการวุ่นวายที่เมืองตานี เจ้าเมืองเบตาเวียจึงได้ใช้ให้กำปั่น ๘ ลำและพวกทหารบก ๔๕๐ คน กับแม่ทัพชื่อมิสเตอร์กลาศบูรอินไปที่ปากอ่าวเมืองตานี ก็ได้ช่วยการวุ่นวายให้สงบลงแล้ว เจ้าเมืองตานีก็ยอมแต่งทูตไปขึ้นแก่พระเจ้ากรุงสยามดังเก่า การงานก็เจริญมาจนถึงคริสตศักราช ๑๖๕๘ ตรงกับจุลศักราช ๑๐๒๐ ปีจอสัมฤทธิศก[๑๐] ครั้งนั้นสมเด็จพระนารายน์ พระเจ้าช้างเผือก มีข้อเข้าพระทัยผิดไปมีเหตุขึ้น แต่ความนั้นสงบลงเร็วแล้วท่านจึงได้ตั้งชาวฮอลันดาอีก ๒ คนๆ ๑ ชื่อมิสเตอร์เวศเตอเวน คน ๑ ชื่อมิสเตอร์ดีไรกะ พระราชทานเครื่องยศเป็นเครื่องถมตะทอง การค้าขายก็ยังไม่เจริญขึ้นน้อยลงไป พวกฮอลันดาก็ได้เลิกห้างค้าขายที่กรุงและที่เมืองนครเสีย แล้วพระเจ้ากรุงสยามได้แต่งราชทูตเชิญพระราชศาสน์และของทรงยินดีไปถึงคอเวอเนอเยเนราลเจ้าเมืองเบตาเวียให้มาตั้งห้างค้าขายใหม่ คอเวอเนอเยเนราลก็ยอมตาม จึงได้ตั้งให้มิสเตอร์ดีบิดเป็นทูตให้มีอำนาจมาทำหนังสือสัญญาการค้าขายที่กรุงสยาม ราชทูตก็ได้ทำสัญญาเสร็จในเดือนออกัสต์ คริสตศักราช ๑๖๖๔ ตรงกับเดือน ๙ จุลศักราช ๑๐๒๖ ปีมะโรงฉศก[๑๑] ตั้งแต่นั้นมาการค้าขายก็ได้เจริญทวีขึ้นเป็นอันมาก
ฉะบับ ๑ว่า การวุ่นวายในคริสตศักราช ๑๖๘๘ ตรงกับจุลศักราช ๑๐๕๐[๑๒] ปีมะโรง สัมฤทธิศกนี้ คราวสมเด็จพระเพทราชา พระยาวิชาเยนทร์ อันมีชื่อเสียงในพงศาวดาร ได้มีคุณในการรักษาทางพระราชไมตรีทั้ง ๒ ฝ่าย ครั้นถึงอนิจจกรรมแล้วก็ไม่มีผู้ใดทำนุบำรุงทางพระราชไมตรี การวุ่นวายในบ้านเมืองก็ยังมีอยู่ ครั้นถึงคริสตศักราช ๑๗๐๔ ตรงกับจุลศักราช ๑๐๖๖ ปีวอก ฉศก[๑๓] พระเจ้าเสือได้ผ่านพิภพใหม่ เพราะการวุ่นวาย ห้างค้าขายที่กรุงสยามและที่เมืองนครก็ต้องเลิก ในคริสตศักราช ๑๗๐๕ ตรงกับจุลศักราช ๑๐๖๗ ปีระกา สัปตศก จนทูตกอลุเออร์ได้เข้ามาขอการค้าขายและเจริญทางพระราชไมตรีอีก ในคริสตศักราช ๑๗๐๘ ตรงกับจุลศักราช ๑๐๗๐ ปีชวดสัมฤทธิศก แต่ยังมีการวุ่นวายต่างๆ จนต้องเลิกอีก ในคริสตศักราช ๑๗๔๑ ตรงกับจุลศักราช ๑๑๓๐ ปีระกา ตรีศก[๑๔] คราวนั้นทรัพย์สิ่งของทั้งปวงต้องเก็บเอาไปเมืองเบตาเวีย เหลืออยู่แต่ ๒ คน ๓ คน พอได้รักษาห้างและของที่เหลือค้างอยู่นั้น ตั้งแต่ปีนั้นมาการค้าขายฝ่ายเบตาเวียและกรุงสยามไม่ใคร่จะเป็นผลประโยชน์ มีแต่เรือบางลำเคยไปมาบ้าง ฝ่ายประเทศสยามจึงได้มีหนังสือออกไปขอให้ขุนนางฮอลันดาเข้ามาทำหนังสือสัญญาใหม่ คอเวอเนอเยเนราล จึงตั้งให้มิสเตอร์บางและมิสเตอร์โยนาสเป็นทูตเข้ามาทำสัญญา ห้างเมืองนครไม่มีกำไรจึงได้เก็บทรัพย์สิ่งของทั้งปวงเข้ามาตั้งห้างค้าขายอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ครั้นมาถึงคริสตศักราช ๑๗๖๐ ตรงกับจุลศักราช ๑๑๒๒ ปีมะโรง โทศก[๑๕] มังลองพม่ายกมาตีกรุงศรีอยุธยาครั้ง ๑ ห้างก็ค้าขายไม่มีผลประโยชน์ มาจนถึงคริสตศักราช ๑๗๖๗ ตรงกับจุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุญ นพศก กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าห้างค้าขายก็เสียไปด้วย ทรัพย์สิ่งของพวกฮอลันดาพม่าก็เก็บเอาไปหมด พม่าฆ่ามิสเตอร์บางและอีกคน ๑ และจับพวกฮอลันดาอีก ๕ คนที่เป็นคนสำหรับห้างเอาไปเป็นชะเลย ตั้งแต่นั้นมาลูกค้าฮอลันดาก็ไม่อาจเข้ามาตั้งห้างค้าขายต่อไปอีกจนกาลทุกวันนี้ พระเจ้าแผ่นดินนิเธอแลนด์ได้ทราบว่ากรุงสยามตั้งขึ้นใหม่มีความเจริญ ด้วยลูกค้าพานิชเข้ามาค้าขายเป็นอันมาก คิดถึงทางพระราชไมตรีเก่าซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน จึงได้แต่งให้คองเตระเกอเชียดเป็นราชทูตเข้ามาขอทำหนังสือสัญญา เมื่อเดือน ๑ ปีวอก โทศก จุลศักราช ๑๒๒๒
อาเล็กซันเดอร์ลูคอนเปลี่ยนหนังสือสัญญาแล้ว ก็กราบถวายบังคมลากลับไป
[๑] พ.ศ. ๒๔๐๕
[๒] วันที่ ๓๑ มีนาคม ฯ
[๓] พ.ศ. ๒๑๔๔
[๔] พ.ศ. ๒๑๔๗
[๕] พ.ศ. ๒๑๕๑
[๖] พ.ศ. ๒๑๕๖
[๗] พ.ศ. ๒๑๖๓
[๘] พ.ศ. ๒๑๗๑
[๙] พ.ศ. ๒๑๗๖
[๑๐] พ.ศ. ๒๒๐๑
[๑๑] พ.ศ. ๒๒๐๗
[๑๒] พ.ศ. ๒๒๓๑
[๑๓] พ.ศ. ๒๒๔๗
[๑๔] พ.ศ. ๒๒๘๔
[๑๕] พ.ศ. ๒๓๐๓