๒๒๗. ทรงสร้างพระนารายน์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี

และที่เมืองลพบุรีนั้น ทรงพระราชดำริว่าเป็นเมืองพระเจ้าแผ่นดินมาแต่โบราณชื่อเมืองละโว้ สมเด็จพระนารายน์มหาราชได้ทรงสร้างไว้ เดี๋ยวนี้ป้อมกำแพงเชิงเทินยังดีอยู่ แต่ว่าปราสาทมนเทียรเครื่องบนไม่มี มีอยู่แต่ผนัง แผ่นดินสมเด็จพระนารายมหาราช ถวายเป็นที่วิสุงคามสีมา ถ้าจะและกเปลี่ยนกันก็ได้ ด้วยในบาลีของสงฆ์แล้วก็แลกกันได้ ถ้าจะซ่อมแซมขึ้นไว้เป็นพระนครชั้นในอีกชั้น ๑ ก็จะดี มีการฉุกเฉินอย่างไร ก็จะได้ไปพักอยู่เมืองนั้น ด้วยนิสสัยพระองค์เป็นปราชญ์ มิได้มีความประมาทแก่กาลอนาคต จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชุมนุมสงฆ์ในหัวเมืองนั้น ขอเอาที่นี้เปลี่ยนวิสุงคามสีมาในที่นั้น ถวายเป็นของสงฆ์ทั่วไปในจังหวัดหัวเมืองลพบุรี และตีราคาปราสาทในบริเวณวังซึ่งยกเป็นค่าอิฐค่าปูนบริจจาคพระราชทรัพย์นั้นมาสร้างวัดใช้ ๓ ตำบล คือวัดขวิดอยู่ริมพระราชวังที่เมืองลพบุรี ๑ พระราชทานชื่อว่าวัดกระวิศวราราม แล้วมาสร้างวัดเสนาศน์ที่กรุงเก่า อยู่ริมวังจันทเกษม เป็นวัดของสมเด็จพระนารายน์มหาราชวัด ๑ มาสร้างวัดชุมพลนิกายารามที่เกาะบางปะอิน เป็นวัดของพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งเป็นพระชนกของสมเด็จพระนารายน์มหาราช และซื้อที่นาใช้เป็นที่สงฆ์ คิดตำบล ๑ เท่ากันกับที่ในพระราชวัง เป็น ๔๐ ไร่ ๒ งาน งานหนึ่ง ๕ วา บ้านตึกวิชาเยนทร์ ๔ ไร่ ๑ งาน และทรงพระราชอุททิศพระราชทรัพย์สร้างวัดและซื้อที่นาใช้ เห็นว่าราคานั้นเกินกว่าวังที่เมืองลพบุรีอยู่แล้ว จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่กองเจ้าของการ ให้พระนรินทรเสนีเป็นกงสี พระยาพิชัยชาญฤทธิ พระยาวิชิตณรงค์ เจ้ากรมเขนทองซ้ายขวาเป็นนายด้าน กับพระมหาสงคราม เจ้ากรมทวนทองขวา กองมอญทำอิฐ พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม พระยาภักดีสงคราม พระยารัตนจักร กองเผาปูน หลวงนราฤทธา แล้วเกณฑ์คนเมืองนครราชสีมา เดือนละ ๕๐๐ คน มาทำการเบ็ดเสร็จ ได้กระทำซ่อมแซมของเก่าขึ้น และทำใหม่เพิ่มเติมอีกบ้าง ในพระราชวังเป็นที่พระบรรทมและตึกประเทียบขึ้นหลายหมู่ และปราสาทพระที่นั่งเดิมนั้นก็ให้นามตามเดิม องค์กลางชื่อ พระที่นั่งดุสิตสุวรรค์ธัญมหาปราสาทองค์ ๑ พระที่นั่งเบื้องขวาชื่อ พระที่นั่งสุทธาไอศวรรย์องค์ ๑ พระที่นั่งเบื้องซ้ายชื่อ จันทรพิศาลองค์ ๑ พระที่นั่งทำใหม่ ชื่อพระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นที่พระบรรทมองค์ ๑ พระที่นั่งวิสุทธิวินิจฉัย เป็นที่ท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ ๑ หอไชยศาสตรากรหลัง ๑ หออักษรศาสตราคมหลัง ๑ และซ่อมแซมตึกคลังของเดิมให้งามดีดังเก่า โปรดให้ทำถนนไปจนถึงพระพุทธบาท ครั้นภายหลังได้เสด็จขึ้นไปประทับแรมอยู่ที่พระที่นั่งทำใหม่ครั้ง ๑ ทรงพระราชดำริเห็นว่าอากาศไม่ดี ไม่เป็นที่สบาย ก็สั่งให้เลิกการนั้นเสีย การเมืองลพบุรีจึงได้ค้างตั้งแต่นั้นมา

ทรงพระราชดำริว่าที่เมืองเขมรเดี๋ยวนี้ตั้งตัวเป็นเอกราชขึ้นแล้ว ที่เมืองปราจิณบุรีเป็นเมืองหน้าศึกนั้น ป้อมกำแพงยังไม่ได้ทำ จะต้องทำป้อมกำแพงเมืองขึ้นไว้ อย่างเมืองพระตะบอง เมืองนครเสียมราฐ ๑ ชั้น ๒ ชั้น

การที่เมืองเหนือนั้นพระเจดีย์ใหญ่เมืองสวางคบุรีนั้นทำลายลงมา เมื่อปีมะโรงอัฐศก มีผู้ได้ผะอบเหล็กผะอบสัมฤทธิ์อยู่ในนั้น เปิดออกดูมีพระบรมสารีริกธาตุในผะอบสัมฤทธิ์ ๑,๐๐๐ เศษ โตเท่าเมล็ดถั่วเขียวบ้าง เท่าเมล็ดพรรณผักกาดบ้าง กับผะอบต่างๆ ๑๖ ผะอบ เจ้าพระยาธรรมาฯ เมื่อยังเป็นพระยามหาอำมาตย์ขึ้นไปสักเลขเมืองเหนือได้นำลงมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เกณฑ์เลขวัดข้าพระโยมสงฆ์ทุกหัวเมืองเหนือมาบุรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นจนสำเร็จ แล้วโปรดให้คืนบรมธาตุพระเจดีย์ไว้ดังเก่า รวมได้สร้างพระอารามใหญ่น้อยขึ้นใหม่ ๕ วัด บุรณะปฏิสังขรณ์ทั้งในกรุงและหัวเมือง ๓๕ วัด รวม ๔๒ วัด บำเพ็ญพระราชกุศลอื่นๆ อีกเป็นอันมากเหลือที่จะพรรณนา

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ