- คำนำ
- ๑. อัญเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จจากวัดบวรนิเวศ
- ๒. กราบทูลอัญเชิญสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขึ้นเสวยราชย์
- ๓. ทรงแก้ไขธรรมเนียมข้าราชการเข้าเฝ้าให้สรวมเสื้อ
- ๔. พระราชพิธีบรมราชาภิเศก
- ๕. ข้าราชการฝ่ายในถวายตัว
- ๖. เสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค
- ๗. เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
- ๘. พระราชพิธีบวรราชาภิเศก
- ๙. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเลียบพระนคร
- ๑๐. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๑๑. ตั้งพระราชาคณะ
- ๑๒. ตั้งกรมเจ้านาย
- ๑๓. เจ้าประเทศราชเข้ามาเฝ้า
- ๑๔. ตำนานเมืองน่าน
- ๑๕. ตำนานเมืองแพร่
- ๑๖. ทรงแก้สร้อยพระนาม องค์สมเด็จหริรักษรามา เจ้ากรุงกัมพูชา
- ๑๗. ทรงแต่งตั้งขุนนาง
- ๑๘. ขุดคลองคูพระนครชั้นนอก
- ๑๙. การเทศนากระจาดใหญ่
- ๒๐. ถวายพระนามพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมราชชนนี และกรมพระราชวังบวรที่สวรรคตแล้ว
- ๒๑. งานพระบรมศพ
- ๒๒. ราชทูตไทยไปเมืองจีน
- ๒๓. ขุดคลองผดุงกรุงเกษมและสร้างป้อม
- ๒๔. สมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดีสิ้นพระชนม์
- ๒๕. เริ่มการศึกเชียงตุง
- ๒๖. บรรจุดวงพระชาตาพระนคร
- ๒๗. สมณทูตไทยไปลังกาทวีป
- ๒๘. งานพระศพสมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดี
- ๒๙. สมณทูตกลับจากลังกาทวีป
- ๓๐. ได้พระวิมลรัตนกริณี ช้างพังเผือกตรี
- ๓๑. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์ประสูติเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๓๒. การทัพศึกเมืองเชียงตุง
- ๓๓. เรื่องเรือกะทงลอยพระประทีป
- ๓๔. สร้างพระเจดีย์และถวายพระนามพระประธานในวัดพระเชตุพน
- ๓๕. กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสและกรมหลวงพิเศษศรีสวัสดิ์สิ้นพระชนม์
- ๓๖. สร้างสระปทุมวันและวัดปทุมวนาราม
- ๓๗. การทัพศึกเมืองเชียงตุง (ต่อ)
- ๓๘. เตรียมการต้อนรับเซอร์ยอนโบวริง
- ๓๙. การฉลองคลองคูพระนครชั้นนอก (คลองผดุงกรุงเกษม)
- ๔๐. สร้างพระอภิเนาวนิเวศน์
- ๔๑. ได้พระวิสุทธรัตนกริณี ช้างพังเผือกโท
- ๔๒. เซอร์ยอนโบวริงเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๓. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ถึงแก่พิราลัย
- ๔๔. มิสเตอร์ฮาริปักเข้ามาแก้หนังสือสัญญา
- ๔๕. ทูตอเมริกันเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๔๖. การถวายสลากภัตรในวัดพระเชตุพน
- ๔๗. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาทำสัญญา ๓๒ ข้อ
- ๔๘. พม่าถือหนังสือเสนาบดีผู้ใหญ่เมืองพม่าเข้ามาถวายพระสังฆราช
- ๔๙. หนังสือเดินทางของพม่า
- ๕๐. ลิขิตสมณศาสน์ตอบหนังสือเสนาบดีพม่า
- ๕๑. ทูตฝรั่งเศสไปเมืองเขมรและเมืองญวน
- ๕๒. หนังสือองค์พระหริรักษ์ถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓
- ๕๓. ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษ
- ๕๔. สร้างสวนอนันตอุทยาน
- ๕๕. ขุดคลองมหาสวัสดิ์
- ๕๖. เสด็จประพาสหัวเมืองตะวันออก
- ๕๗. พระราชทานที่ให้ชาวต่างประเทศตั้งห้างและขุดคลองถนนตรง
- ๕๘. พระราชทานทรัพย์สร้างศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๕๙. หนังสือองญวนข้าหลวงเมืองไซ่ง่อนถึงเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม
- ๖๐. หนังสือตอบองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน
- ๖๑. หนังสือองญวนข้าหลวงผู้สำเร็จราชการเมืองไซ่ง่อน ตอบเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๖๒. ทูตเดนมาร์กเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๖๓. ราชทูตไทยกลับจากลอนดอน
- ๖๔. ทูตเดนมาร์กกลับ
- ๖๕. โปรดฯ ตั้งองค์พระนโรดมและองค์หริราชดะไนไปช่วยราชการเมืองเขมร
- ๖๖. ฝรั่งเศสรบกับญวน
- ๖๗. ดาวหางขึ้น
- ๖๘. พระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ และสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย
- ๖๙. ทูตโปรตุเกศเข้ามาทำหนังสือสัญญา
- ๗๐. งานเฉลิมพระมหามนเทียรพระที่นั่งอนันตสมาคม
- ๗๑. สร้างประตูกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอก
- ๗๒. เรื่องรักใคร่ระหว่างขุนสุวรรณกับเจ้าจอมช้อย
- ๗๓. พระราชทานเงินคนชราพิการ
- ๗๔. เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเลตะวันตก
- ๗๕. กรมสมเด็จพระเดชาดิศรสิ้นพระชนม์
- ๗๖. เสด็จประพาสตลาดสำมุข
- ๗๗. โปรดฯ ให้รื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๗๘. ฝรั่งเศสรบกับญวน (ต่อ)
- ๗๙. งานพระศพกรมสมเด็จพระเดชาดิศร
- ๘๐. เกิดความไข้ที่กรุงเทพฯ
- ๘๑. ได้พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพลายเผือกโท
- ๘๒. โปรดเกล้าฯ ให้งดการรื้อปราสาทผไทตาพรหม
- ๘๓. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาศหัวเมืองปักษ์ใต้
- ๘๔. ทูตฮอลันดาเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๘๕. คนสนิทของสุลต่านมะหมุดเข้ามาขอกำลังรบเมืองปาหัง
- ๘๖. องค์พระหริรักษ์ เจ้ากรุงกัมพูชา สุรคต
- ๘๗. สมโภชพระสมุทรเจดีย์
- ๘๘. ราชทูตไทยไปประเทศฝรั่งเศ
- ๘๙. ใบบอกพระยาสระบุรีเรื่องคล้องได้ช้างพังเผือกโท
- ๙๐. เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี
- ๙๑. ราชทูตกราบถวายบังคมลา
- ๙๒. สมโภชพระพุทธบุษยรัตน์ จักรพรรดิพิมลมณีมัย
- ๙๓. กรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชาและกรมหลวงมหิศวรินทรามเรศรสิ้นพระชนม์
- ๙๔. สุลต่านมะหมุดเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- ๙๕. สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์สิ้นพระชนม์
- ๙๖. เรื่องเมืองเขมร
- ๙๗. ทูตปรุศเซียเข้ามาทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี
- ๙๘. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๙๙. เรื่องเมืองเขมร (ต่อ)
- ๑๐๐. งานพระศพ กรมหลวงมหิศวรินทร์ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และพระองค์เจ้านิลวรรณ
- ๑๐๑. ส่งองค์พระนโรดมไปครองเมืองเขมร
- ๑๐๒. ทูตปรุศเซียกราบถวายบังคมลา
- ๑๐๓. ทำเงินตราใช้แทนเบี้ยและหอย
- ๑๐๔. ตัดถนน ๓ สายและขุดคลอง
- ๑๐๕. สร้างสะพานข้ามคลอง
- ๑๐๖. งานพระศพกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์และพระองค์เจ้าสว่าง
- ๑๐๗. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์
- ๑๐๘. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๐๙. เจ้าเมืองเบตาเวียเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาฮอลันดา
- ๑๑๐. งานพระศพสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์
- ๑๑๑. ราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๑๒. พระราชศาสน์ถึงเจ้ากรุงจีน
- ๑๑๓. ญวนทำสัญญาใช้เบี้ยปรับให้ฝรั่งเศส
- ๑๑๔. เรื่องสุลต่านมะหมุด
- ๑๑๕. สร้างถนนเจริญกรุงตอนใน
- ๑๑๖. กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธรสิ้นพระชนม์
- ๑๑๗. พระราชพิธีรับพระสุพรรณบัฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๑๘. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๓ พระองค์
- ๑๑๙. การรับและสมโภชพระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพังสีประหลาด
- ๑๒๐. กรมพระพิทักษเทเวศรสิ้นพระชนม์
- ๑๒๑. งานโสกันต์
- ๑๒๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายเครื่องราชอิศริยยศ
- ๑๒๓. งานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิศณุนารถนิภาธร
- ๑๒๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลฯ สิ้นพระชนม์
- ๑๒๕. งานพระศพกรมพระพิทักษเทเวศร และพระองค์เจ้าใย
- ๑๒๖. เตรียมการสมโภชพระบรมอัฏฐิ
- ๑๒๗. เรื่องราชศาสน์เจ้ากรุงจีน
- ๑๒๘. เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ (ลองเรืออรรคราชวรเดช)
- ๑๒๙. องค์พระนโรดมบอกเรื่องทำหนังสือสัญญาระหว่างเขมรกับฝรั่งเศส
- ๑๓๐. สุลต่านมะหมุดหนีกลับ
- ๑๓๑. สร้างถนนบำรุงเมือง
- ๑๓๒. สร้างถนนเฟื่องนคร
- ๑๓๓. ฝรั่งเศสถวายรูปราชสีห์
- ๑๓๔. สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา เสด็จไปเที่ยวค้นดูช้างในแขวงเมืองนครนายก
- ๑๓๕. พระราชทานสุพรรณบัฏเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
- ๑๓๖. ญวนแต่งทูตไปกรุงปารีส
- ๑๓๗. สร้างพระบรมบรรพต
- ๑๓๘. สมโภชพระบรมอัฏฐิและพระอัฏฐิ
- ๑๓๙. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล
- ๑๔๐. งานพระศพพระองค์เจ้าขนิษฐน้อยนารี
- ๑๔๑. พระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยานิกรบดินทร์
- ๑๔๒. ตั้งผู้แทนทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนอังกฤษกับไทย
- ๑๔๓. ราชาภิเศกองค์พระนโรดมขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินกรุงกัมพูชา
- ๑๔๔. งานฉลองสพานและถนน
- ๑๔๕. คล้องได้ช้างเผือกเอก
- ๑๔๖. เปรสิเดนต์ส่งกระบี่เครื่องทองคำเข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย
- ๑๔๗. สุลต่านมะหมุดถึงแก่กรรม
- ๑๔๘. ช้างเผือกและช้างสำคัญในรัชชกาลที่ ๔
- ๑๔๙. น้ำไหลมาแต่เหนือมีสีแดง
- ๑๕๐. เฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖๐
- ๑๕๑. การแบ่งเขตต์แดนประเทศสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๕๒. การฉลองศาลาที่เมืองร่างกุ้ง
- ๑๕๓. เรื่องค่านาคู่โค
- ๑๕๔. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ และพระองค์เจ้ามัณยาภาธร
- ๑๕๕. เสด็จประพาสเมืองราชบุรีและกาญจนบุรี
- ๑๕๖. ตั้งผู้ปรึกษาทำหนังสือสัญญาเขตต์แดนเมืองเขมร
- ๑๕๗. โปรดฯ ให้ชำระเจ้าพนักงานฉ้อพระราชทรัพย์
- ๑๕๘. นายพลเรือโท ยอช กิง เข้ามากรุงเทพฯ
- ๑๕๙. พระยามนตรีสุริยวงศ์ออกไปเมืองนครฯ
- ๑๖๐. ทรงเปลี่ยนนามเจ้าพระยาทิพากรวงศ์
- ๑๖๑. โสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
- ๑๖๒. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต
- ๑๖๓. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๓ พระองค์
- ๑๖๔. การปักเขตต์แดนสยามกับพม่าของอังกฤษ
- ๑๖๕. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระผนวชสามเณร
- ๑๖๖. เรื่องหนังสือสัญญาการเมืองเขมร
- ๑๖๗. พระราชทานเพลิงศพพระยามนตรีสุริยวงศ์และพระยาอภัยสงคราม
- ๑๖๘. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ถวายเทศนามหาชาติ
- ๑๖๙. เสด็จพระราชดำเนินไปสมโภชพระพุทธชินราชที่เมืองพิศณุโลก
- ๑๗๐. เรื่องปันเขตต์แดนทางประเทศพม่า
- ๑๗๒. ทำแผนที่อาณาเขตต์ทางหัวเมืองลำแม่น้ำโขง
- ๑๗๓. งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ๑๗๔. งานพระศพเจ้านาย
- ๑๗๕. ขุดคลองภาษีเจริญ
- ๑๗๖. ทำกะโจมไฟที่หลังสันดอน
- ๑๗๗. สร้างพระราชวังสราญรมย์
- ๑๗๘. มีละครทำขวัญพระบรมมหาราชวัง
- ๑๗๙. โสกันต์พระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าหลานเธอ ๕ องค์
- ๑๘๐. โปรดเกล้าฯ ให้จำลองปราสาทที่นครวัด
- ๑๘๑. ฝรั่งเศสได้เมืองญวน ๓ เมือง
- ๑๘๒. พระเจ้ากรุงฝรั่งเศสถวายพระแสง
- ๑๘๓. กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสสิ้นพระชนม์
- ๑๘๔. ราชทูตไทยกลับจากประเทศฝรั่งเศ
- ๑๘๕. ทูตฝรั่งเศสเข้ามาประทับตราหนังสือสัญญา
- ๑๘๖. ทูตโปรตุเกศเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี
- ๑๘๗. โสกันต์พระเจ้าลูกยาเธอ ๓ องค์
- ๑๘๘. ราชทูตโปรตุเกศกราบถวายบังคมลากลับ
- ๑๘๙. เปลี่ยนหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส
- ๑๙๐. ฉลองวัดปทุมวนาราม
- ๑๙๑. เรื่องปักเขตต์แดนทางเมืองเขมร
- ๑๙๒. อักษรศาสน์ไว้ส์รอยอินเดีย
- ๑๙๓. งานพระศพกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส
- ๑๙๔. การฉลองวัดหงษ์และโรงธรรมวัดกัลยาณมิตร
- ๑๙๕. ตั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นกรมขุนพินิตประชานา
- ๑๙๖. อสุนีบาตตกหลายแห่ง
- ๑๙๗. เปิดคลองดำเนินสดวก
- ๑๙๘. ขุดคลองบางลี่และแก้คลองลัดยี่สานเมืองสมุทรสงคราม
- ๑๙๙. ขุดคลองที่ลัดขุนเมืองสมุทรสาคร
- ๒๐๐. ไวซ์รอยอินเดียทำแผนที่เขตต์แดนส่งมาประทับตรา
- ๒๐๑. สถานที่ซึ่งทรงก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงในรัชชกาลที่ ๔
- ๒๐๒. การพระราชกุศล
- ๒๐๓. การภาษีอากร
- ๒๐๔. ขุดได้พระพุทธรูปนิรันตราย
- ๒๐๕. สั่งปืนเข้ามาใช้ในราชการ
- ๒๐๖. ต่อเรือพระที่นั่งและเรือกลไฟ
- ๒๐๗. เมืองที่ทรงตั้งในรัชกาลที่ ๔
- ๒๐๘. ทรงแปลงและตั้งนามขุนนาง
- ๒๐๙. ทรงตั้งนามราชทูตและกงสุล
- ๒๑๐. ทรงตั้งและแปลงนามบรรดาศักดิ์ขุนนาง
- ๒๑๑. ทรงตั้งและแปลงนามเจ้าเมืองกรมการ
- ๒๑๒. ทรงตั้งและแปลงนามพระราชาคณะฐานานุกรม
- ๒๑๓. ทรงตั้งและแปลงนามวัดต่างๆ
- ๒๑๔. เสนาบดีเข้าชื่อกันทำเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวาย เรื่องราษฎรกล่าวว่า พระบาง พระพุทธรูปทำให้ฝนแล้ง
- ๒๑๕. พระราชทานพระบางคืนไปเมืองหลวงพระบาง
- ๒๑๖. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามในกรุง
- ๒๑๗. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามหัวเมือง
- ๒๑๘. สร้างพระนครคีรี ที่เมืองเพ็ชรบุรี
- ๒๑๙. กระแสพระราชดำริก่อนปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๐. ปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๑. กล่าวด้วยปาฏิหาริย์พระปฐมเจดีย์
- ๒๒๒. สร้างพระราชวังที่นครปฐม
- ๒๒๓. ขุดคลองเจดีย์บูชา
- ๒๒๔. ทรงปฏิสังขรณ์วัดเฉลิมพระเกียรติ
- ๒๒๕. ปฏิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามและสร้างตำหนักที่บางปะอิน
- ๒๒๖. ทรงบุรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธบาทและวังท้ายพิกุล
- ๒๒๗. ทรงสร้างพระนารายน์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๒๒๘. กงสุลฝรั่งเศสเข้ามาเปลี่ยนตัว
- ๒๒๙. เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ๒๓๐. ลงพระราชอาชญาพวกมหาดเล็กเล่นไพ่
- ๒๓๑. ทำทัณฑกรรมโหรและท้าวสมศักดิ์ท้าวโสภา
- ๒๓๒. สมโภชพระปฏิมากรแก้วมรกต
- ๒๓๓. ทรงพระประชวร
- ๒๓๔. พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒนสัตยา
- ๒๓๕. ตั้งกองล้อมวง
- ๒๓๖. ประชุมหมอหลวงถวายพระโอสถ
- ๒๓๗. กระแสพระราชดำริถึงผู้สืบราชสมบัติ
- ๒๓๘. แปลคำที่ทรงคาถาขอขมาพระสงฆ์วัดราชประดิษฐ์
- ๒๓๙. ทรงขอขมาพระบรมวงศานุวงศ์และท่านเสนาบดี
- ๒๔๐. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
- ๒๔๑. สรงน้ำพระบรมศพ
๒๑๖. สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามในกรุง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ให้สร้างพระอารามขึ้นใหม่ ให้บุรณะปฏิสังขรณ์พระอารามเก่าที่ปรักหักพังบ้าง
ทรงสร้างใหม่นั้น วัดนามบัญญัติ ๑ วัดราชประดิษฐ์ ๑ วัดโสมนัสวิหาร ๑ วัดปทุมวนาราม ๑ วัดตรีทศเทพวัด ๑ เป็นวัดกรมหมื่นวิศนุนารถนิภาธรสร้างไว้เดิม ครั้นสิ้นพระชนม์แล้ว กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสทำสืบมา ครั้นกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสสิ้นพระชนม์ไปแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงกระทำต่อไป พระราชทานชื่อว่าวัดตรีทศเทพ รวมสร้างใหม่ ๕ วัด
ทรงบุรณะปฏิสังขรณ์ในพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดารามก็ได้กล่าวไว้แล้ว บุรณะปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวัด ๑ ทำพระเจดีย์ แก้พระรัศมีพระพุทธไสยาศน์ก็กล่าวมาแล้ว วัดมหาธาตุวัด ๑ วัดชนะสงครามวัด ๑ บุรณะแต่ของที่ปรักหักพัง โปรดให้กระทำพระวิหารหลังพระอุโบสถอีกหลัง ๑ กระทำกุฏิสงฆ์เป็นตึกทั้งสิ้น ในคลองก็ให้ลงเขื่อนศิลาเป็นคั่นบันได
ฐานพระชินสีห์นั้น โปรดให้หล่อทองเหลืองเปลี่ยนฐานอิฐปูนเดิมออกเสีย แล้วทำการอื่นเพิ่มเติมอีกเป็นอันมาก
วัดสุทัศน์นั้น พระศาสดาซึ่งสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยไปเชิญเอามาแต่วัดบางอ้อยช้างในกรุงเทพฯ มาไว้ที่วัดประดู่ ทรงเห็นว่าพระศาสดา พระชินราช พระชินสีห์ ท่านอยู่วัดเดียวกัน จะให้ไปอยู่วัดในเรือกสวนนั้นไม่สมควร จึงให้ไปเชิญมาไว้หน้าพระอุโบสถ ต่อพระประธานใหญ่ออกมา ภายหลังวิหารวัดบวรนิเวศแล้ว ก็ให้เชิญพระศาสดาไปไว้ แล้วให้สร้างพระพุทธรูปใช้ใหม่องค์ ๑ พระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์นั่งฟังธรรมเทศนา ประดิษฐานแทนไว้ในพระอุโบสถ แล้วถวายพระนามพระประธานในวิหารว่า พระพุทธศรีสากยมุนี พระประธานในพระอุโบสถ ถวายพระนามว่า พระพุทธตรีโลกยเชษฐ์
วัดกัลยาณมิตร์ พระประธานในพระวิหาร ถวายพระนามว่า พระพุทธไตรรัตนนายก
วัดอรุณราชวรารามนั้น ก็โปรดให้ทำเพิ่มเติมขึ้นอีก คือให้ช่างทำเป็นมณฑปขึ้นที่ผนังหุ้มกลองหน้ามุขด้านตะวันออก ไว้พระพุทธรูปทรงเครื่องต้น อย่างพระพุทธรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมณฑป ๑ อีกมณฑป ๑ ให้ทำที่ผนังหุ้มกลองหน้ามุขด้านตะวันตกไว้พระพุทธรูป ๒ พระองค์ อย่างพระพุทธรูปฉลองพระองค์ เป็นส่วนอุททิศถวายในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ ๑ อย่างพระพุทธรูปฉลองพระองค์ เป็นส่วนในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ ๑ และพระอุโบสถเดิมนั้นประดับกระเบื้องเป็นลายดอกไม้ใบไม้ทำมาแต่เมืองจีนที่ข้างนอกทั่วไป แต่เสาหน้ามุขกับเสารายเฉลียงรอบนั้นเป็นแต่ถือปูนเปล่า หาได้ประดับลายกระเบื้องไม่ โปรดสั่งให้ทำดอกไม้มาแต่เมืองจีน ประดับเสารายเพิ่มเติมรอบทั่วไปทั้งสิ้น แล้วถวายพระนามพระประธานในพระอุโบสถว่า พระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลก
ที่วัดสระเกศนั้น ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างพระปรางค์ใหญ่ขึ้นที่ริมคลององค์ ๑ ก่อขึ้นไปพอสิ้นลายฐานก็ซุดแตกร้าวไป การจะทำต่อไปไม่ได้ ต้องหยุดเสียจนทุกวันนี้ ทรงพระราชดำริเห็นว่า ของใหญ่ไม่ควรจะทิ้งไว้ให้เป็นกองอิฐอยู่ จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาศรีพิพัฒน์เป็นแม่กอง พระยาราชสงครามเป็นนายช่างกระทำซ่อมแปลงเป็นภูเขาขึ้น ก่อพระเจดีย์ขึ้นไว้บนยอด มีพระระเบียงรอบชื่อบรมบรรพต และการสิ่งไรที่ค้างอยู่ก็ให้ทำเสียให้แล้ว ๆ ถวายพระนามพระอัฏฐารส ศรีสุคตทศพลญาณบพิตร
วัดตะเคียนวัด ๑ ไม่ได้เป็นพระอารามหลวง มีเจ้าอธิการองค์ ๑ ชื่อแก้ว อายุ ๑๐๗ ปี ไม่หลงลืม เป็นแต่จักษุไม่เห็น หูตึงเท่านั้น ก็โปรดตั้งเป็นพระมหาพฤฒาจารย์ราชาคณะ แล้วโปรดฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดตะเคียนขึ้น ทำพระอุโบสถและวิหารกุฎิสงฆ์เสนาสนะ ก่อสวมพระปรางค์เดิม ๔ องค์ขึ้นให้สูงใหญ่กว่าเก่าเป็นหลั่นๆ กันลงมา อุททิศเป็นของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ วัดนั้นสำเร็จแล้วให้ชื่อว่า วัดมหาพฤฒาราม กรมหมื่นภูมินทรภักดีเป็นแม่กองทำ ในคลองบางกะปิตรงคลองมหานาคเข้าไป
วัดพระราชรินทรอาศน์สร้างไว้ค้างอยู่ ถวายเป็นวัดข้าหลวงเดิม โปรดให้ทำการเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายสิ่ง และก่อพระเจดีย์องค์ใหญ่ไว้หลังพระอุโบสถองค์ ๑ พระราชทานชื่อว่าวัดบรมนิวาส
วัดปทุมคงคา แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาสวัสดิวารีกราบทูลขอบุรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ยอมอนุญาตให้ พระยาสวัสดิวารีทำการปฏิสังขรณ์ขึ้นยังไม่ทันแล้วก็ถึงแก่กรรม ครั้นถึงแผ่นดินปัจจุบันนี้ พระยาพิศาลศุภผลรับทำต่อไป จึงทรงพระราชดำริว่า วัดนี้เป็นวัดของสมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ สร้างอุททิศถวายสมเด็จพระบรมไปยิกาธิราช จึงโปรดให้กรมขุนราชสีหวิกรมทำการเพิ่มเติมขึ้นอีก ให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น แล้วทำเป็นพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ แล้วต่อชุกชีออกมา ทำเป็นรูปเทวราชถือพุ่มฉัตรดอกไม้ทองดอกไม้เงินด้วย ๒ องค์ แล้วพระราชทานรางวัลช่างซึ่งกระทำนั้นด้วย
กรมขุนธิเบศรบวรสร้างขึ้นที่หลังวังวัด ๑ ก็ค้างอยู่ โปรดให้บุรณะปฏิสังขรณ์ต่อไป กรมหมื่นอนันตการฤทธิ์เป็นแม่กองทำ พระราชทานชื่อวัดวงศ์มูล
ในคลองมอญวัดกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสสร้างไว้ยังค้างอยู่ โปรดให้สร้างพระเจดีย์อีก ๒ องค์ และเขียนผนังทำการยังค้างอยู่นั้นจนสำเร็จ พระราชทานชื่อวัดชิโนรสาราม
และวัดราชโอรสนั้น โปรดให้ซ่อมแซมพระวิหารโถงหลัง ๑ กับซ่อมแซมทำศาลารายอีก ๖ หลัง ถวายพระนามพระประธานในพระอุโบสถว่า พระพุทธอนันตคุณ อดุลยญาณบพิตร ถวายพระนามพระไสยาศน์ว่า พระพุทธไสยาศน์นารถมุนินทรชินสากยะบรม สมเด็จสรรเพ็ชญพุทธบพิตร
วัดสมอรายนั้น เสด็จอยู่เมื่อก่อนเสด็จมาวัดบวรนิเวศ ก็โปรดให้พระยาสามภพพ่ายไปกระทำเพิ่มเติมขึ้นอีก ได้ทำมุขหน้าหลังต่อพระอุโบสถออกมา ทำพระเจดีย์ขึ้นข้างหลังพระอุโบสถอีกองค์ ๑ และสร้างกุฏิเสนาสนะขึ้นใหม่ ให้ชื่อว่าวัดราชาธิวาส
วัดบวรมงคลนั้น เป็นวัดของกรมพระราชวังบวรฯ แผ่นดินที่ ๒ ก็โปรดให้พระองค์เจ้าใยเป็นแม่กองบุรณะปฏิสังขรณ์ขึ้น
วัดชีปะขาวในคลองบางกอกน้อยเดิมเป็นวัดของกรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ตำหนักแดง ท่านปฏิสังขรณ์ขึ้นไว้ ครั้นมาถึงแผ่นดินปัจจุบันนี้ ตลิ่งพังขึ้นไปจนถึงหน้าพระอุโบสถ ก็โปรดให้เจ้าพระยามุขมนตรีทำพระอุโบสถขึ้นใหม่ ให้เลื่อนขึ้นไปให้พ้นตลิ่งหน้าตลิ่งนั้นก็ให้ถมศิลากันสายน้ำแทง ได้ทำการอื่นๆ อีกเป็นหลายสิ่ง แล้วพระราชทานชื่อว่า วัดศรีสุดาราม
วัดน้อยในคลองบางใส้ไก่ เป็นวัดของท่านเจ๊สัวเงิน ซึ่งเป็นภัศดาของกรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์สถาปนาขึ้นไว้ โปรดให้พระยาสีหราชเดโชไปบุรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ แล้วพระราชทานชื่อว่า วัดหิรัญรูจี
วัดภคินีนาฎ เป็นวัดของกรมหลวงเทพยวดี ชำรุดหักพังก็โปรดให้บุรณะขึ้น
แล้วทรงพระราชดำริว่า วัดเขมาของสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ทรงปฏิสังขรณ์ไว้แต่ก่อนชำรุดซุดโทรมไป จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กรมหมื่นมนตรีรักษา ซึ่งเป็นสัมพันธวงศ์พระยาราชภักดีไปบุรณะปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมของเก่านั้นให้เปลี่ยนเสีย ทำให้ดีขึ้นไป แล้วให้ช่างขึ้นไปถ่ายอย่างพระเจดีย์วัดเดิมกรุงเก่าองค์ระฆังเป็นกลีบบัว ให้ก่อหุ้มพระเจดีย์เก่าหลังพระอุโบสถสูง ๑๕ วา มีพระเจดีย์อีก ๔ องค์ตามอย่าง โปรดให้ต่อชุกชีในพระอุโบสถให้ยาวออกมา ทรงสถาปนาพระอสีติมหาสาวกล้อมพระพุทธเจ้า แล้วสร้างวิหารการเปรียญ เรือนระฆัง เจดีย์ ศาลารายและกุฏิสงฆ์ขึ้นใหม่เป็นอันมาก และการที่กระทำทั้งปวงนั้นทั่วไปเป็นอันดีแล้ว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รื้อพระตำหนักกรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ขึ้นไปปลูกไว้ในพระอารามนั้นเสร็จแล้ว ให้ชื่อวัดเขมาภิรตาราม จึงตั้งพระสงฆ์ธรรมยุติกาเป็นเจ้าอธิการ เป็นพระราชาคณะ ชื่อว่าพระเขมาภิมุขธรรม ทรงถวายเครื่องบริกขารแก่พระสงฆ์ที่ไปอยู่ใหม่นั้นด้วย
ทรงพระราชดำริว่าวัดไชยพฤกษ์นั้น เป็นวัดของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยสร้างไว้แต่ก่อนไม่สำเร็จ ครั้นถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ยังไม่ได้กระทำ ด้วยมีรับสั่งให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังมิได้ทรงผนวชเป็นแม่กองทำ เพราะฉะนั้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้งดไว้ ครั้งนี้จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส เป็นแม่กองไปปฏิสังขรณ์ใหม่ ทำพระอุโบสถ พระวิหารการเปรียญ ทำพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นในระหว่างข้างหลังพระอุโบสถพระวิหารองค์ ๑ สร้างกุฏิสงฆ์เป็นฝากะดานเสร็จแล้ว พระราชทานชื่อว่าวัดไชยพฤกษมาลา เจ้าอธิการนั้นตั้งให้เป็นที่พระครูไชยพฤกษธิกามหามุนี