- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
KHAW JOO TOK’S BUNGALOW,
Penang Hill, Penang, S.S.
วันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๙
ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ
คราวเมล์วันศุกรที่ ๒๔ เมษายนนี้มีโอกาส ด้วยชายน้อย ดิศศานุวัติ๑จะกลับไปกรุงเทพ ฯ หม่อมฉันจึงฝากจดหมายฉะบับนี้กับรูปฉายาลักษณ์ลายเฟรสโคที่เมืองพุกามมาถวาย รูปลายเฟรสโคนั้นจะเอาไว้ทอดพระเนตร์นานสักเท่าใดก็ได้ เมื่อทอดพระเนตร์พอแล้วมีใครจะออกมา จึงทรงฝากคืนมา
มีอธิบายที่ควรทูลประกอบกับรูปลายเฟรสโคอยู่บ้าง เจดียสถานของโบราณที่เมืองพุกามนั้นแม้มีมากนับไม่ถ้วน ถ้าว่าโดยประเภทก็มีแต่ ๒ อย่าง คือสถูปอย่าง ๑ วิหารอย่าง ๑ เปนแต่ยักเยื้องรูปร่างต่าง ๆ กัน ในจำพวกวิหารยังจำแนกเปน ๓ อย่าง คือพุทธวิหารไว้พระพุทธรูป (มีเปนพื้น) อย่าง ๑ ธรรมวิหารไว้พระไตรปิฎก (มีหลังเดียว) อย่าง ๑ สงฆวิหารคือโบสถ์ (มีหลังเดียว) อย่าง ๑ รูปเฟรสโคมีอยู่แต่ที่ในพุทธวิหารวัด Parathongu Temple แห่ง ๑ กับวัด Nandmańńa Temple แห่ง ๑ อยู่ใกล้ ๆ กันและเปนวัดฝ่ายมหายานทั้ง ๒ วัด มีวัดมหายานอีกวัดหนึ่ง แต่หามีรูปเขียนไม่ วัดโบราณที่เมืองพุกามยังต่างกันด้วยลัทธิสาสนาอีกสถานหนึ่ง เปนวัดพระพุทธสาสนาคติหินยานแทบทั้งนั้น มีวัดลัทธิอื่นแต่วัดมหายาน ๓ วัดที่พรรณนามาแล้ว กับวัดสาสนาพราหมณ์มีอีกวัดหนึ่งไปดูก็เห็นแปลกนักหนา ด้วยทำวิหารตั้งพระพุทธรูปเปนประธานในนั้นเหมือนวัดพระพุทธสาสนา ผิดกันแต่ตามผนังข้างภายนอกวิหารทำซุ้มเล็ก ๆ รายรอบ ในซุ้มเหล่านั้นตั้งรูปพระนารายน์ปางอื่นๆ ทำด้วยศิลาอีก ๙ ปาง สมมตพระพุทธรูปที่ตั้งเปนประธานในวิหารว่ารูปพระนารายน์ปางพุทธาวตาร เทวสถานตามแบบอินเดียหามีไม่
ตามเรื่องพงศาวดารที่เปนวินิจฉัยชั้นหลัง ว่าในสมัยเมื่อพระพุทธสาสนาในอินเดียถูกพวกถือสาสนาพราหมณ์ และพวกถือสาสนาอิสลามเบียดเบียนนั้น การถือพระพุทธสาสนาแยกกันอยู่เปนนิกายหินยานและมหายาน ในพวกมหายานยังแยกออกถือคติ “ตันตร Tantra” อีกนิกายหนึ่งถือวิทยาคมเปนสำคัญ พวกถือพระพุทธสาสนาพากันหนีภัยลงมาข้างใต้ พวกถือคติหินยานมารวบรวมกันอยู่ที่เมืองคอนชิวรัม Conjivaram พวกถือคติมหายานมาตั้งอยู่ข้างใต้ต่อลงมาอีก พวกถือคติตันตรเดินบกแยกไปทางเมืองพะม่า เพราะฉะนั้นพระพุทธสาสนามหายานอย่างคติตันตร จึงไปประดิษฐานในเมืองพะม่าข้างฝ่ายเหนือ ส่วนพวกชาวอินเดียที่ถือพระพุทธสาสนาตามคติหินยานเที่ยวค้าขายทางเรือ ก็พาพระพุทธสาสนาคติหินยานไปประดิษฐานที่เมืองสารเขตร์และเมืองสะเทิมเมื่อยังเปนเมืองมอญอยู่ชายทะเลข้างใต้แดนพะม่า พวกถือพระพุทธสาสนาคติมหายานก็พาคติของตนมาประดิษฐานในเมืองชะวามลายูโดยทำนองเดียวกัน เมื่อพระเจ้าอนิรุทธ์ได้เปนใหญ่ในเมืองพุกามราว พ.ศ. ๑๖๐๐ ชาวเมืองนั้นถือพระพุทธสาสนาตามคติตันตรอยู่แล้ว พวกภิกษุสงฆนิกายนั้นพะม่าเรียก “อริ(ย)” ประพฤติลามกมาก ครั้งนั้นมีพระมหาเถรที่ถือคติหินยานชาวเมืองสะเทิมองค์ ๑ พะม่าเรียกว่า “พระอรหันต์” ขึ้นไปสอนพระพุทธสาสนาตามคติหินยานที่เมืองพุกาม สามารถทำให้พระเจ้าอนิรุทธ์ทรงเลื่อมใสก็ฟื้นพระพุทธสาสนาเปลี่ยนเปนถือคติหินยาน และบำรุงคตินั้นให้รุ่งเรืองในเมืองพุกามต่อมา แต่ก็ไม่สามารถจะทำลายล้างคติมหายานให้สูญไปได้ทีเดียว จึงยังมีวัดซึ่งสร้างตามคติมหายานอยู่บ้าง
ว่าถึงรูปภาพในเฟรสโค หม่อมฉันไม่มีความรู้ในวิชชาช่าง คิดวินิจฉัยทูลได้แต่เพียงเห็นเค้าเงื่อนดูปะปนกันทั้งแบบอินเดีย แบบจีน และแบบที่มาใช้ในเมืองชะวา ขอให้ท่านทรงพิจารณาดูด้วยพระปรีชาญาณ คงจะได้วินิจฉัยดีกว่าความคิดของหม่อมฉัน
แต่รูปเฟรสโคนี้ทำให้หม่อมฉันทูลสนองความในลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๑๘ เมษายนได้อย่างหนึ่งถึงเรื่องนรสิงห์ ซึ่งหม่อมฉันลืมสนิทเมื่อเขียนจดหมายถวายฉะบับก่อน ไม่ได้คิดถึงลายชามเทพนมนรสิงห์อันมีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่มาได้ความเปนหลักแล้วด้วยรูปนรสิงห์อย่างเปนมนุษย์ครึ่งตัวเปนสิงห์ครึ่งตัว กับทั้งรูปนกหัวเปนมนุษย์มีในลายเฟรสโคนั้น แปลว่ามีมากว่า ๑๐๐๐ ปีแล้วเปนสิ้นปัญหา
หม่อมฉันส่งฉายาลักษณ์รูปวัดที่มีเฟรสโค กับรูปลายปั้นข้างนอกวิหารมาถวายด้วย
ในคราวนี้หม่อมฉันได้ส่งเรื่องเล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่ามาถวายอีกท่อนหนึ่ง เปนท่อนสุดท้ายของเรื่องตำนานเมืองหงสาวดี ท่อนที่จะส่งถวายคราวหน้าเห็นจะหมดตอนที่ ๓
-
๑. หม่อมเจ้า ดิศศานุวัติ ดิศกุล ↩