- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
ตำหนักปลายเนีน คลองเตย
วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๙
กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท
ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ได้รับประทานทราบความทุกประการแล้ว
ดีจริงที่ได้ประทานพระดำรัสบรรยายเรื่องโกศสี่เหลี่ยมหุ้มผ้าขาวยอดฉัตร ซึ่งเกล้ากระหม่อมควรจะทูลถามความทรงจำแห่งฝ่าพระบาท แต่หนักปากไปไม่ได้ทูลถาม เผอิญฝ่าพระบาทก็ตรัสบรรยายไปให้ทราบดีทีเดียว
อันโกศพระศพพระองค์เจ้าปฤษฎางค์นั้น เขาต่อเปนลุ้งสี่เหลี่ยมหุ้มผ้าขาว ฝาปิดเปนแผ่นกระดาน บนหลังกระดานปักฉัตรกลมสามชั้น ตัวผู้ทำไม่เคยเห็นที่ทำมาก่อน ทำไปตามที่ได้ยินพูดกันมาเท่านั้น เกล้ากระหม่อมดูเห็นลุ้งก็เปนลุ้งไปต่างหาก ฉัตรก็เปนฉัตรไปต่างหาก ไม่กินกันอย่างว่าเปนฝาเปนตัว นึกว่าทำไม่ถูกเปนแน่ แต่จะว่าผิดอะไรว่าลงไปไม่ได้ เพราะจำไม่ได้ว่าแต่ก่อนทำอย่างไร สังเกตได้แต่เพียงว่าแนบเนียนกว่าที่ทำคราวนี้เท่านั้น ได้ลองคิดว่าควรทำอย่างไรจะดีก็คิดเห็นว่า ฝานั้นควรทำเป็นเพดาน ให้มีระบายปรกตัวลุ้งลงไป แล้งจึงปักฉัตรบนนั้น อย่างเดียวกับพระแท่นสรงมุรธาภิเษก ตามที่คิดไปเช่นนั้นก็เพราะนึกไม่ถึงว่าฉัตรจะทำเปนสี่เหลี่ยมได้ตามพระดำรัสบรรยายว่าทำฉัตรสามชั้นเปนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ระบายครอบตัวลุ้งลงไปทีเดียวนั้น เปนอันต้องลักษณไปทางเดียวกับความคิดของเกล้ากระหม่อมที่ว่าต้องมีระบายปรกตัวลุ้งลงไปจึ่งจะเปนฝาเปนตัว ซ้ำยังสนิทกว่าที่เกล้ากระหม่อมคิดไปเสียอีก
ที่เรียกว่าโกศลังกา จะเปนทูลกระหม่อมทรงทำขึ้นตามพระลังกามาทูลถวาย จะเปนว่าพระเถระผู้ใหญ่ในเมืองลังกาทำโกศเช่นนั้นใส่ศพกันได้กระมัง คำเรียกว่าโกศลังกาควรจะเปนว่าแบบมาแต่ลังกามากกว่าอย่างอื่น
ลุ้งหุ้มผ้าขาวซึ่งแก้ฝายอดฉัตรเปนฝาทรงมณฑ์นั้น ถ้าไม่รู้กาละที่แก้เปลี่ยนแล้ว จะต้องสันนิษฐานว่าแก้เปลี่ยนพร้อมกับเมื่อทำลองปิดทอง สำหรับประกอบลุ้งผ้าขาวนั้นขึ้น เพราะลุ้งผ้าขาวยอดฉัตรจะประกอบลองทองไม่ได้ด้วยติดฉัตร ต้องแก้ฝาไปตามโกศ
ฝักแคไม้กระบอกซึ่งตรัสถึงนั้น เกล้ากระหม่อมไม่เคยเห็นเลย แต่เปนหลักอันสำคัญ สันนิษฐานได้เปนตุเปนตะว่า อย่างไม้กระบอกนั้นจะเปนของเดิม ซึ่งสืบมาแต่จุดลูกหนูดอกไม้ไฟนั้นทีเดียว สายสูตรที่ประคองฝักแคก็คือสะพานลูกหนูนั้นเอง ที่มาประดิษฐเปนรูปตัวนาคขึ้นจะมาประดิษฐแก้ไขขึ้นภายหลัง
เรื่องสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ลาออก เกล้ากระหม่อมยังไม่เคยได้ยินข่าวมาเลย จะสืบหาความจริงดูก่อน สังเกตว่าสมัยนี้ทางหมู่พระสงฆ์มีเหตุหยุกหยิกเกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่เรียบร้อยเหมือนครั้งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงปกครองอยู่ เห็นได้ว่าอำนาจการปกครองหย่อนลงกว่าแต่ก่อน
ออกพระนามสมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทำให้นึกขึ้นได้ว่า รูปแว่นแก้วซึ่งมีในพระตราของทูลกระหม่อมนั้น เห็นจะทรงพระราชดำริหมายถึงวชิรญาณนั้นทีเดียว สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงบัญญัติตราของพระองค์เปนรูปเพชรลูก คิดเห็นว่าเปนของใหม่เกินไปและไม่ถูกแนว ควรจะทำเปนแว่นแก้วน้อยประกับกับแว่นแก้วใหญ่จะเปนเหมาะที่สุด เมื่อทรงบัญญัติตราเพชรขึ้นนั้นท่านไม่ได้ตรัสปรึกษา หากได้ตรัสปรึกษาจะถวายความเห็นเช่นกล่าวแล้วนั้น
พระองค์ชายเฉลิมพลทิฆัมพรมาตามไปในการทำขวัญเดือนลูกเมื่อวันที่ ๒๑ ไปเห็นกรงกุ้งกรงปลาซึ่งทำอย่างกรงนก เอากุ้งปลาเข้าไปเสียบไว้ในกรงนกนึกเห็นขันเปนโคมลอยใบเขื่องทีเดียว แต่ก็เปนประเพณีที่ทำเช่นนั้นกันมาเสมอ เห็นว่าจะเกิดขึ้นด้วยได้ยินแต่ปลายคำเก็บเอามาทำด้วยเข้าใจผิด คิดว่าการกระทำนั้นจะมาแต่พิธีลงท่า ทำกรงลงในแม่น้ำ คือรั้วกันสัตวร้ายที่จะมาทำอันตราย ในแม่น้ำหลวงที่บ้านดอนเขาก็ทำรั้วล้อมในที่จะลงอาบน้ำกันเปนของประจำเพื่อกันจรเข้กัด ในการที่ทำกรงขึ้นเพื่อการพิธีลงท่านั้น อยากให้หรูหราเปนงานเปนการ จึ่งทำกุ้งปลาเงินทองลงเสียบประดับในกรง แต่การพิธีลงท่านั้นเลิกกันเสียแล้ว เหลือแต่คำพูด คนฟังฟังไม่ศัพท์จับเอามากระเดียดทำเปนกรงนกขังกุ้งปลาใช้ในการอาบน้ำทำขวัญเดือนเหลวพิลึก
เห็นหนังสือพิมพ์บางกอกไตมส์เขาลงเมื่อวันที่ ๒๔ เรื่องกำเนิดชาติพะม่า เขาว่าแยกจากพวกพยุกับมอญ ตั้งขึ้นที่เมืองสารเขตร์เปนประเดิม เขาเรียกเมืองนั้นว่าโปรมเก่า เขาบอกชื่อว่าเมืองศรีเกษตร หวุดหวิดเฉียดกันไป ทั้งนี้ก็เห็นจะเปนการเดาด้วยกันทั้งนั้น ด้วยคำบาลีสํสกฤตซึ่งพะม่านำมาใช้นั้นออกเสียงคลาดเคลื่อนเลือนเลอะเต็มที เรื่องเที่ยวเมืองพะม่าไม่จำเปนจะต้องทรงพระนิพนธ์โดยรีบร้อน เปนของที่ควรจะทรงกระทำตามสบายพระทัย