- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
Cinnamon Hall,
206 Kelawei Road, Penang. S.S.
วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙
ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ
หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับกระดาดเล็กลงวันที่ ๒๐ กับทั้งหนังสืออิทธิบาท ๔ ที่ประทานมาอีกเล่มหนึ่ง และลายพระหัตถ์ฉะบับกระดาดใหญ่ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคมนั้นแล้ว ขอขอบพระคุณที่ประทานหนังสือทั้ง ๒ ฉะบับ หม่อมฉันได้อ่านตลอดแล้วเห็นว่าแต่งดี โดยฉะเพาะที่เก็บธรรมหมวดอื่นมาให้เปนระยะเหมาะดี เขาควรได้รับรางวัล ถ้าจะหาที่ติก็มีแต่ที่ใช้ศัพท์พลาดด้วยขาดความรู้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สำคัญอันใด นึกสงสัยอยู่หน่อยในการที่ตัดสินรางวัล ปรากฏในคำนำว่าพระพิมลธรรมเปนผู้ตรวจหลักธรรมนั้น ก็สมควรอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่จะเลือกว่าสำนวนไหนควรได้รับรางวัล กล่าวแต่ว่ากรมศิลปากรเปนพนักงานเลือก คิดดูถึงตัวบุคคลทราบไม่ได้ว่าใครบ้าง
เรื่องผูกสีมาโบสถ์เมืองพะม่า หม่อมฉันนึกขึ้นถึงที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ เคยตรัสบอกหม่อมฉันว่า เมื่อเสด็จขึ้นไปเมืองสวรรคโลกเคยลองขุดตรวจสีมาวัดร้างแห่งหนึ่งไม่พบศิลาลูกนิมิตร์ ท่านทรงสันนิษฐานว่าวิธีผูกสีมาในสมัยนั้น ชะรอยจะเอาหินใบสีมานั่นเองเปนนิมิตร จึงนึกว่าถ้าเช่นนั้นก็คงต้องเอาใบสีมาตั้งเสียก่อนแล้วจึงทำพิธีผูกโบสถ์ โบสถ์นทีสีมาไทยเราก็ใช้มาแต่โบราณ ทุกวันนี้วัดตามบ้านนอกก็ยังทำแพจอดหน้าวัดแทนโบสถ์มีอยู่มาก วัดในเมืองไทยแต่โบราณก็จะมีโบสถ์สร้างบนบกแต่บางวัด ข้อนี้ชื่อที่เรียกกันว่า “วัดโบสถ์” ส่อให้เห็นว่าไม่มีโบสถ์ทุกวัด ทูลต่อไปถึงพิธีผูกพัทธสีมาดูพระถือพิถีพิถันกันเปนการยากมาก มีในพระราชนิพนธ์ของทูลกระหม่อมตรัสบอกพระสงฆลังกาไปแต่เมื่อยังทรงผนวช ว่าพิธีผูกสีมาในเมืองไทยมี ๒ อย่าง เปนอย่างมหานิกายทำมาแต่เดิมอย่าง ๑ เปนอย่างธรรมยุติทรงประดิษฐานขึ้นอย่าง ๑ ข้อนี้เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงสร้างวัดเบญจมบพิตรฯ จะให้พระมหานิกายผูกพัทธสีมา หม่อมฉันเคยได้ยินสมเด็จพระวันรัตน (แดง) ทูลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ว่าทูลกระหม่อมได้เคยตรัสสอนวิธีผูกพัทธสีมาไว้แก่ท่าน ท่านจะผูกพัทธสีมาวัดเบญจมบพิตรฯ ตามแบบของทูลกระหม่อม ดังนี้ แต่ในเรื่องสีมาหม่อมฉันได้ความรู้ชัดเจนพอใจเมื่อฟังสมเด็จพระวันรัตน (แดตง) ท่านถวายเทศน์ในงานนั้น อ้างมูลเหตุเดิมว่าเมื่อพระพุทธองค์ ตรัสสั่งให้พระสงฆสาวกแยกกันไปเที่ยวสั่งสอนพระพุทธสาสนา และประทานพระบรมพุทธานุญาตให้พระสงฆ์ให้อุปสมบทด้วยวิธี ยัติจตุถคามทรงบัญญัติว่าพระสงฆ์หมู่ใดไปอยู่ ณ ที่ใดเมื่อจะทำสังฆกรรมต้องมาพร้อมกันหมด พระสงฆ์แยกกันไปหลายตำบลหนทางจึงต้องกำหนดเขตต์สีมาด้วยตำบลบ้าน หรือเครื่องหมายเขตต์อย่างอื่นโดยรอบให้เปนที่เข้าใจกัน ว่าบรรดาพระสงฆ์ซึ่งอยู่ในเขตต์สีมาอันหนึ่ง ต้องประชุมทำสังฆกรรมพร้อมกันได้ยินอธิบายดังนี้ก็เข้าใจหลักของสีมา และเหตุที่จำเปนต้องมีสีมา แต่ภายหลังมาเมื่อพระพุทธสาสนาเจริญรุ่งเรือง มีวัดวาอารามและพระสงฆ์มากมาย จึงเกิดมีสีมาเหมือนอย่างเปนวินัยกรรมบังคับฉะเพาะพระสงฆ์ที่อยู่ภายในเขตต์สีมาให้ทำสังฆกรรมด้วยกัน ถ้าอยู่นอกเขตต์สีมาแม้ในวัดเดียวกันก็ไม่จำเปนต้องไปเข้าในคณะปรกสังฆกรรม มีตัวอย่างเช่น พระสงฆ์ลงรับพระกฐินไม่หมดทั้งวัด สมเด็จพระสังฆราชฯ วัดราชประดิษฐฯ ท่านเคยตรัสว่าที่ให้พระสงฆ์รับกฐินแต่พอจุที่นั่งในพระอุโบสถนั้นท่านไม่ทรงเห็นด้วย เห็นว่าควรจะให้ลงหมดทั้งวัด แม้ที่นั่งในพระอุโบสถไม่พอก็ให้นั่งติดต่อหัตถบาทเรียงกันออกนอกประตูโบสถ์ แต่ก็ตกเปนพิธีทั้งนั้น
เรื่องมณฑปทรงโกศที่เมืองพุกามนั้น ตั้งแต่เห็นหม่อมฉันก็คิดวินิจฉัยมาจนเวลานี้ยังไม่ลุล่วง เห็นหลักแต่ว่าพระเจดีย์นั้นมาแต่พระสถูปที่ฝังอัษฐิธาตุเปนมูล เมื่อเกิดมีพระพุทธรูปจึงคิดยักเยื้องรูปพระเจดีย์เปนมณฑป เพื่อตั้งพระพุทธรูปแทนพระบรมธาตุ แต่มณฑปที่ได้เคยเห็นมาก่อนเปน ๒ อย่าง อย่าง ๑ มีช่องให้คนแลเห็นพระพุทธรูปที่อยู่ข้างใน อีกอย่าง ๑ (ดังเช่นมณฑปที่วัดมหาพฤฒาราม) ก่อตันคงเปนที่บรรจุพระพุทธรูปชำรุดที่เก็บรวบรวมมาไว้ แต่มณฑปทรงโกศที่เมืองพุกามไม่เข้าลักษณทั้ง ๒ สถาน ด้วยสังเกตในฉายาลักษณ์ฝามีช่องทั้ง ๔ ด้าน แต่เปนช่องเล็กไม่ใช่สำหรับดูพระพุทธรูปในนั้น และไม่ได้ก่อตันสำหรับบรรจุพระพุทธรูป จึงเกิดขัดข้องในวินิจฉัยข้อต้นว่าสร้างสำหรับอะไร และยิ่งขัดข้องต่อไปว่าเหตุใดรูปจึงไปพ้องกับโกศ ขอให้ทรงช่วยพิจารณาด้วย
ในคราวเมล์นี้ หม่อมฉันส่งเรื่องเที่ยวเมืองพะม่าขึ้นตอนที่ ๔ ว่าด้วยเที่ยวเมืองมัณฑเลท่อนต้นถวายมาอีกท่อนหนึ่ง เรื่องท่อนนี้ไม่มีรูปฉายาลักษณ์