- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
Cinnamon Hall,
206 Kelawei Road, Penang. S.S.
วันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๙
ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ
หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๘ มีนาคม-ปีก่อน เมื่อแรกทราบว่าจะเสด็จไปหัวหิน หม่อมฉันนึกอยากรู้ว่าจะเสด็จไปประทับที่สำนักดิศกุลหรือที่ไหน ไม่ได้ความมาจนพบพระยาศรีวิสารวาจา ถามเขาจึงทราบว่าเสด็จประทับที่บ้านพระยาประเสริฐ๑ ฯ ก็คาดว่าคงเปนด้วยเขาทูลเชิญเสด็จ หรือด้วยเหตุอย่างอื่นซึ่งสดวกกว่าไปประทับที่สำนักดิศกุล จึงเสด็จไปประทับอยู่บ้านพระยาประเสริฐฯในครานี้ แต่เมื่อทราบตามที่ทรงพรรณนาถึงบ้านพระมหามนตรีที่ถูกน้ำพัด หม่อมฉันก็ออกตกใจดูไม่น่าจะเปนได้ถึงเพียงนั้น และออกน่ากลัวที่อยู่ชิดติดกันกับสำนักดิศกุล บรรดาบ้านตามชายทะเลที่หัวหินดูเปนเสี่ยงบุญเสี่ยงกรรม เพราะพื้นที่เปนทรายอ่อน ถ้ามีสายน้ำไหลแรงเข้าทางไหนก็อาจจะกัดที่ให้พังทะลายเปนอันตรายแก่บ้านเรือนที่ปลูกได้ต่าง ๆ รอดอย่างเดียวแต่ว่าเหตุอันตรายเช่นนั้นนาน ๆ จะมี และบางทีถ้ารู้ตัวทันจะมีอุบายที่จะแก้ไขกระแสน้ำให้ไหลไปเสียทางอื่นได้บ้างดอกกระมัง
เรื่องกระบวรฟ้อนรำของไทยเราและที่พะม่าถ่ายแบบไปเล่นนั้น หม่อมฉันพิจารณาตามที่ประทานวินิจฉัยในลายพระหัตถ์ เห็นว่าควรจะลงเปนยุติได้ ว่าระบำกับโขนละคอนเปนของแยกอย่างและเกิดด้วยมูลเหตุต่างกันทีเดียว ระบำตรงกับนัจจ เปนเครื่องบำเรอให้เพลิดเพลินเจริญใจดังพรรณนาในเรื่องรามเกียรตี์เมื่อพระยายักษ์เลี้ยงแขก แม้ตัวหม่อมฉันก็ได้เคยพบการต้อนรับเช่นนั้นแก่ตัวเองเมื่อไปอินเดียใน พ.ศ. ๒๔๓๕ เมื่อไปถึงเมืองพาราณสีมหาราชาจัดรับเปนการเต็มยศ ให้เรือขนานมีบุษบกเงินมารับพาข้ามแม่น้ำคงคาไปที่รามนคร ถึงท่าเชิญให้ขึ้นช้างแต่งอย่างหรูหราแห่เข้าไปจนถึงวัง ลงจากช้างเดินขึ้นไปถึงท้องพระโรง ในนั้นตั้งเก้าอี้อย่างเดอบาร์เรียงแถวเปนรูปพระจันทรครึ่งซีก ตั้งเก้าอี้หุ้มทอง ๒ ตัวสำหรับมหาราชากับหม่อมฉันนั่งตรงกลาง มีเก้าอี้หุ้มเงินอีก ๔ - ๕ ตัวตั้งต่อออกไปสำหรับคนชั้นรองลงมาเช่นเจ้าพระยาเทเวศร ฯ เปนต้น ต่อออกไปอีกถึงเก้าอี้ไม้สามัญ พอนั่งพูดสนทนาปราสัยกันได้สักครู่หนึ่ง มีเจ้าพนักงานถือถาดใส่พวงมาลัยตาษมาให้มหาราชาใส่สวมคอหม่อมฉันกับพวกไทยที่ไปด้วยกันอีกสักประเดี๋ยวก็มีชาวดนตรีกับนางนัจจออกมาฟ้อนรำทำเพลงอยู่ตรงหน้า หม่อมฉันได้เคยนึกว่าพระยายักษ์รับแขกจะเปนอย่างนั้นนั่นเอง ดูอยู่สัก ๑๐ นาที ก็เปนเสร็จการพิธีลากลับมา ส่วนโขนนั้นเปนการแสดงตำนาน เล่นเอาบุญในสาสนาพวกฮินดูยังเล่นกันอยู่ น่าจะเปนพวกฮินดูคิดขึ้นก่อน ข้อนี้เห็นได้ที่เล่นแต่เรื่องรามเกียรติ์กับมหาภารต (เราเรียกว่าเรื่องอุณรุทธ) ยังมีหลักฐานที่พึงเห็นได้ในระเบียบพิธีอินทราภิเศก ซึ่งกำหนดว่าให้มหาดเล็กแต่งตัวเปนลิง ตำรวจแต่งตัวเปนยักษ์ เล่นตำนานเรื่องชักนาคดึกดำบรรพ์ เช่นเขียนไว้ที่ฉากพระมหาปราสาทก็เล่นโขนนั้นเอง พวกโขนยังนับเปนมหาดเล็กอยู่ ส่วนการเล่นละคอนนั้น น่าสันนิษฐานว่าพวกถือพระพุทธสาสนาเอาอย่างพวกฮินดูมาเล่นบ้างด้วยเห็นว่าเปนอุบายดีที่ทำให้เกิดเลื่อมใส เพราะฉะนั้นเรื่องละคอนที่เล่นกันแต่โบราณ จึงมักเล่นเรื่องชาดกทั้งนั้น
ในสัปดาหะนี้มีเรื่องเปนความยินดีของหม่อมฉันที่จะทูลเรื่องหนึ่ง คือเมื่อหม่อมฉันไปเที่ยวที่เมืองพุกามไปเห็นพระพิมพ์โบราณอย่างหนึ่ง ทำเปนพระพุทธรูปทั้ง ๘ ปางตามแบบอินเดีย นึกอยากได้นี่กระไร แต่ตรวจดูเห็นเขามีอยู่เพียง ๔ - ๕ แผ่น ก็นึกว่าเขาคงหวงแหนเพราะหายาก จึงพยายามหาพระพิมพ์ชนิดอื่นที่มีมากกว่านั้น ครั้นกลับมาถึงเมืองร่างกุ้งพบเลขานุการของรัฐบาลเมืองพะม่า เขาแสดงอัชฌาศัยดีต่อหม่อมฉัน ถามว่ายังมีอะไรที่รัฐบาลจะทำให้หม่อมฉันอีกบ้างหรือไม่ หม่อมฉันนึกขึ้นถึงพระพิมพ์ ๘ ปางนั้น จึงบอกเขาว่าหม่อมฉันไปพบพระพิมพ์อย่างหนึ่งที่ใน Museum เมืองพุกามซึ่งหม่อมฉันชอบใจ แต่เห็นมีอย่างเดียวกันเพียงสัก ๔ - ๕ แผ่น จะขอเอามาเปนที่ระลึกสักแผ่น ๑ ก็นึกเกรงใจ เลขานุการเขารับว่าจะไปสืบสวนดูที่กรมตรวจโบราณคดีในอินเดียว่าเขาจะให้ได้หรือไม่ บัดนี้เขาส่งพระพิมพ์นั้นมาให้หม่อมฉันแผ่น ๑ ว่าเปนของรัฐบาลเมืองพะม่าให้เปนที่ระลึกในการที่หม่อมฉันไปเมืองพะม่าครั้งนี้ หม่อมฉันจึงได้ถ่ายรูปฉายาลักษณ์ส่งมาถวายทอดพระเนตร์ด้วยพร้อมกับจดหมายฉะบับนี้ หม่อมฉันเคยทูลไปแต่ก่อนว่าเดิม มองสิเออร์ ชาลล์ ดือรอยเสลล์ M. Charles Duroiselle นักปราชญ์ฝรั่งเศสเปนเจ้ากรมโบราณคดีในเมืองพะม่า แต่ออกจากตำแหน่งเสียสัก ๓ ปีมาแล้ว หม่อมฉันได้พบตัวที่เมืองมัณฑเล มาบัดนี้หม่อมฉันได้รับจดหมายของมองสิเออร์ ชาลส์ ดือรอยเสลล์ บอกมาว่ารัฐบาลเมืองพะม่า ได้ขอให้เขากลับเข้ารับตำแหน่งเจ้ากรมตรวจโบราณคดีอีกปี ๑ (เห็นจะเปนเพราะเรื่องแยกการปกครองเมืองพะม่าออกจากอินเดีย) เขาเปนผู้ส่งพระพิมพ์แผ่นที่ว่ามายังหม่อมฉัน เขาบอกอธิบายในจดหมายว่าพระพิมพ์นั้นมีตัวอักษรนาครีอยู่ข้างล่าง อักษรบรรทัดบนเปนคาถา “เยธมฺมา” อีกบรรทัดหนึ่งว่า “ทานปติ สริมหิสยเทวี” แปลว่า “พระอัครมเหษีทรงสร้าง” ในที่แห่งเดียวกันนั้นเขาพบพระพิมพ์อีกอย่างหนึ่งมีอักษรว่า “อนิรุทธเทว” ทรงสร้าง จึงสันนิษฐานว่าพระพิมพ์แผ่นที่ให้หม่อมฉันเปนของพระอัครมเหษีของพระเจ้าอนิรุทธ จึงฝังไว้ด้วยกัน ถ้าเช่นนั้นสมัยที่สร้างพระพิมพ์นี้อยู่ในระวาง พ.ศ. ๑๕๘๗ จน พ.ศ. ๑๖๗๐ และพระพิมพ์นี้พบในพระเจดีย์พังองค์หนึ่งอยู่ในบริเวณพระเจดีย์ใหญ่ ซึ่งเรียกว่า “มงคลเจดีย์” ที่เมืองพุกามเมื่อ ค.ศ. ๑๙๒๖ (พ.ศ. ๒๔๖๙) เปนของสำคัญด้วยประการฉะนี้ พระพุทธรูป ๘ ปางที่ทำในพระพิมพ์นั้นแบบเดียวกันกับที่จำหลักแผ่นศิลาได้มาจากอินเดีย มีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานกรุงเทพ ฯ คือ
๑. ปางประสูติ ที่ป่าลุมพินี
๒. ปางมารวิชัย ที่เมืองพุทธคยา
๓. ปางปฐมเทศนา ที่เมืองพาราณสี
๔. ปางมหาปรินิพพาน ที่เมืองกุสินาราย์
ทั้ง ๔ ปางนี้เปนพระบริโภคเจดีย์ โดยพระบรมพุทธานุญาตให้คนไปบูชา อีก ๔ ปางนั้นสมมตกันภายหลังว่าเปนที่พระพุทธองค์ทรงกระทำปาฏิหาริย์ คือ
๕. เมื่อเสด็จขึ้นไปประทานพระธรรมเทศนาโปรดพระพุทธมารดา แล้วเสด็จทรงพระดำเนินลงทางบรรไดแก้วกลับลงมายังมนุสโลกที่เมืองสาเกตุ
๖. ปางยมกปาฏิหาริย์ ที่เมืองสาวัตถี
๗. ปางทรมานช้างนาฬาคิรี ที่เมืองราชคฤห
๘. ปางพระยาวานรทำพุทธปฏิบัติ (เรื่องพระป่าเลไล) ที่เมืองเวสาลี
เรื่องซองจดหมายของหม่อมฉันชำรุดไปจากเมืองปีนังนั้น สืบได้ความว่านายแก้วมงคลทิ้งไปรษณีย์ที่ตู้หลังบ้าน Cinnamon Hall เห็นจะเปนด้วยวันนั้นฝนตกตู้รั่ว ซองจดหมายจึงเปียก หม่อมฉันได้สั่งให้แก้ไขสำหรับต่อไปให้เอาไปส่งที่ออฟฟิศไปรษณีย์ทีเดียว
คราวนี้หม่อมฉันส่งเรื่องเที่ยวเมืองพะม่ามาถวายอีกท่อนหนึ่ง เปนจบตอนที่ ๒ มีรูปฉายาลักษณ์กำกับ ๗ แผ่น คือ
๑. รูปเมื่อเลี้ยงปลาที่สระโบราณ
๒. รูปลิงบาบูนที่สวนเลี้ยงสัตว์
๓. รูปแรดในสวนเลี้ยงสัตว์
๔. รูปทะเลมหาราช แลเห็นพระเกศธาตุแต่ไกล
๕. รูปฉัตรยอดพระเจดีย์ที่พะม่าทำขาย
๖. รูปช่างพะม่าจำหลักพระพุทธรูปศิลา
๗. รูปพระพุทธรูปศิลาที่ตั้งไว้ขาย
-
๑. พระยาประเสริฐศุภกิจ (เพิ่ม ไกรฤกษ์) ↩