วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๙

ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน มาถึงภายหลังวันเกิดของหม่อมฉันวันหนึ่ง จึงถือโอกาสเริ่มต้นจดหมายฉะบับนี้ด้วยขอถวายพระกุศลซึ่งหม่อมฉันได้บำเพ็ญในวันเกิด ปีนี้มีสวดมนตร์เลี้ยงพระที่ Cinnamon Hall เนื่องกับฉลองพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งหม่อมฉันคิดแบบถวายพระองค์หญิงแดงราว ๒๐ ปีมาแล้ว และเปนมรดกตกต่อมาถึงพระองค์หญิงขาว ครั้นพระองค์หญิงขาวสิ้นพระชนม์ เขาเอาออกขายเลหลัง หม่อมฉันจึงได้รับซื้อมาไว้บูชาเปนพระประจำวันของหม่อมฉันองค์หนึ่ง กับพระพิมพ์พุทธปาฏิหาริย์ ๘ ปางที่รัฐบาลเมืองพะม่าส่งมาให้ ดังหม่อมฉันได้เคยทูลไปแต่ก่อนแล้วอีกองค์หนึ่ง นอกจากนั้นเกิดอยากรดน้ำมนตร์ หม่อมฉันจึงสั่งชายแอ๊วให้ไปทูลขอน้ำมนตร์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ แต่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ไม่อยู่ได้แต่น้ำมนตร์เธอจึงไปขอที่พระธรรมวโรดมอีกองค์หนึ่ง เปนน้ำมนตร์ ๔ แห่งรวมกันส่งมาให้หม่อมฉันรด ดูก็เปนของศักดิ์สิทธิ พอรดถึงศีร์ษะก็รู้สึกชื่นบานสำราญใจขึ้นในทันที ด้วยอำนาจความเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัย แม้คนอื่นๆ ที่มาช่วยงานก็ขอให้ประพรมให้ทั่วทุกคน ในบ่ายวันนี้ได้มีการเลี้ยงน้ำชาพวกไทยที่ออกมาอยู่ปีนังด้วยกัน เปนอันสำเร็จเสร็จงานโดยเรียบร้อย จึงเห็นสมควรถวายพระกุศลได้ด้วยประการฉะนี้

หญิงมารยาตรออกมาถึงเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายนนั้น พาของกินกับที่เขี่ยบุหรี่เปนเครื่องเคลือบมามอบ บอกว่าเปนของคุณโตฝากมาให้หม่อมฉัน ขอท่านได้โปรดบอกคุณโตด้วยว่าหม่อมฉันขอบใจมาก

เรื่องพระพุทธรูปทองคำที่ว่าขุดพบในแขวงเมืองเวียงจันท์นั้น หม่อมฉันได้อ่านทราบจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Times แล้ว เมื่อหม่อมฉันขึ้นไปมณฑลอุดรได้ตั้งใจตรวจตราแบบพระพุทธรูปกรุงศรีสัตนาคนหุต ได้เห็นพระที่เขานับถือว่าเปนของงามดีหลายองค์ หม่อมฉันไม่เห็นมีงามเลย พิเคราะห์ตามเรื่องพงศาวดารก็เห็นเหตุ ด้วยกรุงศรีสัตนาคนหุตรุ่งเรืองเจริญขึ้นในครั้งพระไชยเชษฐา ตรงกับแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เปนสมัยเมื่อวิชชาช่างทางเชียงใหม่ทรุดโทรมเสียแล้ว พระกรุงศรีสัตนาคนหุตถ่ายแบบไปจากเมืองเชียงใหม่ทั้งนั้น แม้พระพุทธรูปกรุงศรีสัตนาคนหุตที่เลื่องลือ และโปรดให้เชิญลงมาไว้ในกรุงเทพฯ ช้านานมาแล้ว เช่นพระเสริม พระใส พระสุก แม้ที่สุดจนพระวิมลนาคโฉมเฉลา ที่กรมหลวงประจักษ์ฯ เชิญลงมาถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ดูก็ไม่สู้ตาสักองค์เดียว พระองค์ที่ขุดได้ใหม่พิเคราะห์เทียบกับศักราชที่เขาว่า หม่อมฉันเห็นว่าคงอยู่ในพวกนั้นเอง ถึงพระบางผู้ที่เขาได้เห็นก็บอกว่าไม่งดงามอะไรเลย

เรื่องพระบรมอัษฐิของพระองค์วาณี ที่ท่านทรงปรึกษาหม่อมฉันนั้น มาตริตรองดูเห็นเปนเรื่องสำคัญ ยิ่งคิดไปก็ยิ่งเห็นข้อสำคัญซึ่งควรจะคิดวินิจฉัยมากขึ้น เห็นจะต้องเขียนวินิจฉัยถวายยืดยาวสักหน่อย หม่อมฉันไม่มีเวลาพอจะเขียนได้ในสัปดาหะนี้ เพราะต้องเขียนตอบขอบคุณเนื่องได้รับพรวันเกิดมากมายหลายฉะบับ หม่อมฉันตั้งใจจะเขียนวินิจฉัยเรื่องพระบรมอัษฐิถวายตามพระประสงค์ ส่งคราวเมล์วันจันทรที่ ๒๙ มิถุนายน

ในคราวเมล์นี้หม่อมฉันส่งเรื่องเที่ยวเมืองพะม่าท่อนที่ ๕ ในตอนที่ ๔ มาถวายอีกท่อนหนึ่ง อยู่ข้างสั้นสักหน่อย เพราะไม่มีเวลาพอจะเขียนได้ยาวกว่านั้นให้ทันมอบชายใหม่นำไปถวายในวันศุกร์ที่ ๒๖ นี้ เรื่องตอนนี้มีรูปฉายาลักษณ์ประกอบ ๔ รูป คือ

๑. รูปมหาปราสาทกับท้องพระโรง (ดูข้างด้านหน้า)

๒. รูปหอสูงในราชวัง เมืองมัณฑเล

๓. รูปเนินปราสาท ตอนที่ก่อเขื่อนกับที่ปักเสาเปนนอกชานต่อกัน

๔. รูปที่คนอยู่ยามคอยไล่แร้งบนหลังคาพระราชมณเฑียร

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประสูติวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๕

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ