- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
วันจันทร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ เวลาเช้า มองบาดุน Maung Ba Dun เห็นจะเปนเนติบัณฑิตย์คนสำคัญ จึงได้เปนตำแหน่งเลขานุการของเนติสภา (ปาเลียเมนต์) เมืองพะม่า ได้รู้จักกันที่บ้านมิสเตอร คัสโตเนีย เมื่อวานนี้ มาหาและเชิญให้ไปดูประชุมเนติสภา วันพุธที่ ๑๒ ด้วยในวันนั้นเขาจะมีการประชุมพิเศษ แสดงความอาลัยในพระเจ้ายอชที่ ๕ และถวายพรพระเจ้าเอดวาดที่ ๘ นอกจากนั้นอยากจะชวนพวกเราไปเลี้ยงที่บ้านเวลาค่ำ จะเลี้ยงอย่างพะม่าและมีมโหรีพะม่าให้ฟังด้วย ฉันรับจะไปแต่ที่เนติสภาแต่ขอตัวในการเลี้ยง จะให้แต่เจ้าหญิงไป อนึ่งเมื่อวันกินน้ำชาที่บ้านมิสเตอร คัสโตเนีย มองบาดุนนั่งโต๊ะเดียวกับพระองค์หญิงศิริรัตนได้พูดกันถึงเรื่องถ่ายรูป เขามาหาวันนี้เลยเอาสมุดรูปต่าง ๆ ของเขามาให้เธอดูด้วย มีรูปแปลกๆ เช่นรูปการพิธีเมื่อตัวเขาอุปสมบทเปนต้น รูปใดฉันอยากได้เขาก็มีแก่ใจไปฉายลำลองส่งมาให้ตามปรารถนา รู้สึกขอบใจมาก ตอนกลางวันมีคนมาหาหลายพวกด้วยกิจต่าง ๆ ดังเล่ามาแล้ว
เวลาบ่ายว่างจึงชวนกันไปกินขนมที่ร้านชื่อ สาวอย Savoy Restaurant เรื่องที่จะไปร้านขายขนมนี้มีมูลเหตุควรจะเล่าไว้ด้วย ในบรรดาเมืองขึ้นของฮอลันดาทั้งที่ชวาและสุมาตรา ถ้าเปนเมืองใหญ่คงมีร้านขายขนมสำหรับผู้ดีไปกินทุกเมือง เพราะพวกฮอลันดาไม่ใคร่ติดการกิฬา เช่นเล่นเทนนิส แบดมิงตัน และฟุตบอล เหมือนพวกอังกฤษ เวลาเย็นว่างมักพาลูกเมียไปซื้อขนมกับไอสคริมกินแล้วเลยนั่งเล่นที่ร้านขายขนมนั้น ร้านขายขนมจึงจัดเปนที่โอ่โถง มีทั้งของคาวและของหวานต่างๆ อันทำอย่างปราณีตไว้ขาย ตั้งโต๊ะตัวเล็กๆ มีเก้าอี้ล้อมโต๊ะ ๔ ตัวรายกันไปเปนหย่อม ๆ มีบัญชีของกินพิมพ์วางไว้ให้รู้ และในห้องนั้นมีชั้นตั้งโถแก้วใส่ขนมแห้งต่างๆ เรียงตามข้างฝา ที่กลางห้องมีตู้ใส่ขนมสดสำหรับให้เลือกด้วย แล้วแต่ใครจะเลือกซื้อสิ่งใดกิน บอกให้เขารู้ก็จัดมาให้และมีบ๋อยมาเลี้ยง นั่งกินกันในร้านหรือชาลาหน้าร้านนั้น แต่ในเมืองขึ้นของอังกฤษ เช่นเมืองสิงคโปร์และปีนัง ไม่มีร้านเช่นนั้น เห็นจะเปนเพราะนิสัยอังกฤษชอบเล่นกิฬาในตอนเย็น มักพากันไปอยู่ในสนามการเล่นโดยมาก ร้านขายขนมมีแต่พวกจีนและพวกแขกเลียนมาทำขายบ้าง แต่ของที่ทำขายและร้านที่จัดไม่น่าไปนั่งกิน เมื่อแรกฉันไปถึงเมืองพะม่าเข้าใจว่าเปนเมืองขึ้นของอังกฤษก็คงเหมือนที่เมืองสิงคโปร์และปีนัง ไปเกิดปลาดใจเมื่อไปกินเลี้ยงน้ำชาที่บ้านมิสเตอร์คัสโตเนีย เห็นขนมทำอย่างปราณีตมีแปลก ๆ เหมือนที่เมืองชวามีหลายอย่าง ถามเขาว่าเปนของทำที่ไหนเขาบอกตำแหน่งร้านให้จึงได้ไปซื้อ แต่กระบวรจัดร้านและกระบวรเลี้ยงที่สุดจนขนมก็ยังสู้ร้านที่เมืองชวาไม่ได้
วันอังคารที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ เซอ ฮยูสเตเฟนสัน Sir Hugh Stephenson เจ้าเมืองกับท่านผู้หญิงเชิญไปเลี้ยงกลางวันที่จวน เพราะเมื่อฉันไปถึงเมืองพะม่าเจ้าเมืองกำลังไปตรวจการอยู่ที่เมืองยักไข่ จึงได้พบกันต่อฉันกลับลงมาจากเมืองพะม่าเหนือ เวลานั้นยังอยู่ในเวลาไว้ทุกข์ การเลี้ยงเปนอย่างไปรเวตมีแต่เจ้าเมืองกับท่านผู้หญิงและเลขานุการกับนายทหารคนสนิทกับพวกเราอีก ๕ คน ต้อนรับวางอัฒยาศัยอย่างสนิทสนม เวลาพากันเดินเข้าไปถึงห้องเลี้ยงเห็นแปลกตาอย่างหนึ่ง ด้วยใช้บ่าวพะม่าเปนคนเลี้ยงยืนเรียงกันอยู่เปนแถวทั้ง ๒ ข้าง พอเจ้าเมืองเดินเข้าไปพวกบ่าวเหล่านั้นก็ประนมมือยกขึ้นถึงราวปากก้มศีรษะหน่อยหนึ่งเปนกิริยาเคารพ เจ้าเมืองกับท่านผู้หญิงนั่งตรงตัวโต๊ะ ๒ ฝ่าย พระองค์หญิงกับหญิงพูนนั่งข้างเจ้าเมือง ตัวฉันกับหญิงพิลัยนั่งสองข้างท่านผู้หญิง
เซอ ฮยูสเตเฟนสัน เจ้าเมืองพะม่าอายุดูราวสัก ๕๐ เศษ ทำราชการในอินเดียมาแต่หนุ่ม บอกว่ารับราชการมาครบกำหนดแล้วจะออกรับบำนาญกลับไปอยู่ประเทศอังกฤษในปีนี้ การสนทนาในเวลากินเลี้ยงฉันนั่งห่างเจ้าเมือง สนทนาแต่กับท่านผู้หญิง จนเลี้ยงเสร็จแล้วกลับออกมานั่งที่ห้องรับแขกจึงได้สนทนากับเจ้าเมือง แต่ก็มิใคร่สดวกด้วยท่านเจ้าเมืองก็หูตึงคล้ายกับฉัน เลขานุการต้องเข้าช่วยขัดจังหวะสนทนากันด้วยเรื่องเมืองพะม่าเปนพื้น จวนที่อยู่ของเจ้าเมืองเมื่อฉันไปคราวก่อนยังเปนเรือนไม้ แต่เดี๋ยวนี้สร้างเปนตึกใหญ่หลังเดียวโดดขนาดสัก ๒ เท่า วังบุรพาภิรมย์ เห็นจะสร้างพร้อมกันกับตึกศาลารัฐบาลอีกหลังหนึ่ง ขนาดสักเท่าศาลากระทรวงกลาโหมในกรุงเทพฯ และมีสนามอยู่กลางอย่างเดียวกัน ด้วยแบบกระบวนช่างและลวดลายเปนอย่างร่วมสมัยกัน แต่ตึกศาลารัฐบาลนั้นพวกข้าราชการเขาว่าข้างในทึบมาก ไม่เหมาะกับเปนที่ทำงานรัฐบาลเลย เขาว่าเมื่อแผ่นดินไหวคราวพระมุเตาพังนั้น ศาลารัฐบาลก็ครากหลายแห่งแต่พอเยียวยาได้ ถ้าพังเสียให้หมดจะดีกว่า จะได้สร้างใหม่ให้สมควรเปนที่ทำการ แต่จวนเจ้าเมืองฉันได้เห็นแต่ห้องรับแขกกับห้องเลี้ยงอาหาร ที่อื่นจะเปนอย่างไรหาได้เห็นไม่ พิเคราะห์ดูตึกหลังเดียวใหญ่โตเช่นนั้น เจ้าเมืองก็คงอยู่เปนอิสสระแก่ครัวเรือนของตัวแต่ส่วนหนึ่ง ส่วนอื่นโดยมากคงเปนที่อยู่ของผู้ช่วย เช่นเลขานุการและนายทหารคนสนิทเปนต้น และเปนที่ทำการต่างๆ ซึ่งเนื่องกับตำแหน่งเจ้าเมือง รวบรวมอยู่ในตึกหลังเดียวกันดูจะอยู่ไม่สบายนัก เมื่อกลับจากจวนเจ้าเมืองแล้ว ตอนบ่ายว่างก็แยกกันเที่ยวเตร็จเตร่ตามอำเภอใจ ตัวฉันไปเดินเล่น เจ้าหญิงให้เจ้าฉายเมืองพาไปกินเกาเหลาที่ดูโรงเตี๊ยมจีน กลับมาบอกว่าสู้ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ ฉันอยากจะแถมว่าถึงปีนังและสิงคโปร์เกาเหลาก็สู้กรุงเทพฯ ไม่ได้เหมือนกัน และยังมีคนอื่นเขาบอกว่า ที่เมืองฮ่องกงก็สู้เกาเหลากรุงเทพฯ ไม่ได้ ดูปลาดอยู่