- เมษายน
- วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๒
- วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๓ เที่ยวเมืองหงสาวดี
- วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- พฤษภาคม
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ต่อในตอนที่ ๓
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ยังอยู่ในตอนที่ ๓
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ เที่ยวเมืองมัณฑเล
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มิถุนายน
- วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๒
- วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๓
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๔
- วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๕
- วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กรกฎาคม
- วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๖
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๔ ท่อน ๗
- สิงหาคม
- วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย
- วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๕ เที่ยวเมืองมัณฑเลภาคปลาย (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- กันยายน
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร (๒)
- วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๑)
- วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๖ วินิจฉัยเคราะห์กรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- ตุลาคม
- วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —กฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี
- วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ ล่องแม่น้ำเอราวดี (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น (๒)
- พฤศจิกายน
- วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เที่ยวเมืองพุกาม (ตอนที่ ๓)
- วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —จดหมายบันทึก ที่แก้เปลี่ยนคำ ในกฎมนเฑียรบาลพม่า
- วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๖)
- วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๗)
- วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๘)
- วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๗ เรื่องเที่ยวเมืองพุกาม (ท่อนที่ ๙)
- วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๑)
- มกราคม
- วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๘ เรื่องเที่ยวเมืองแปร (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ
- วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- —คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า
- วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- —ประมวญวัน วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙
- กุมภาพันธ์
- วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๒)
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๓)
- วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- มีนาคม
- วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๔)
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
- วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
- —เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า ตอนที่ ๙ เที่ยวเมืองร่างกุ้งเมื่อขากลับ (ท่อนที่ ๕)
- วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น
วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร
Cinnamon Hall,
206 Kelawei Road, Penang. S.S.
วันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙
ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ
เมื่อหม่อมฉันส่งจดหมายเวรฉะบับวันที่ ๑๐ ไปแล้วนึกขึ้นได้ถึงหลักฐาน ในความข้อที่ทูลไปว่าการเล่นระบำผู้หญิงอาจจะเอาเรื่องรามสูรมาพ่วงต่อเมื่อภายหลังนั้น มีอยู่ในบทละคอนเรื่องรามเกียรติ์รัชชกาลที่ ๑ เรื่องรามสูรมีอยู่ในเรื่องข้างตอนต้นเปนมูลเหตุที่สุครีพยกเขาพระสุเมรุ เรื่องระบำอยู่ในเรื่องข้างตอนปลาย เมื่ออภิเศกพระรามกับนางสีดาที่เขาไกรลาศ หม่อมฉันเคยนึกสงสัยบทระบำที่ขึ้นต้นว่า
“เมื่อนั้น | ฝ่ายฝูงเทวาทุกราษี |
ทั้งเทพธิดานารี | สุขเกษมเปรมปรีเปนพ้นคิด” |
ว่าอะไรเปนเหตุให้ยินดีเหลือล้นพ้นประมาณ ดังว่าในบทนั้น เมื่อไปอ่านบทระบำตอนอภิเศกไกรลาศจึงเข้าใจ ว่าเทวดานางฟ้าพากันยินดีที่พระรามกับนางสีดากลับดีกันได้ จึงชวนกันฟ้อนรำด้วยความรื่นเริง ยังได้ความยิ่งกว่านั้นต่อไป ว่าบทที่ร้องระบำผู้หญิง ๔ บทนั้นคัดเอามาจากบทในเรื่องรามเกียรติ์รัชชกาลที่ ๑ ด้วย ความในวรรคว่า “สุขเกษมเปรมปรี” เปนพ้นคิด (หรือสุดคิด) จึงมาเขินอยู่ มีปัญหาต่อไปว่าจะเอาเรื่องรามสูรกับระบำมาแต่งบทเชื่อมเปนเรื่องเดียวกันเมื่อครั้งไหน ข้อนี้ถ้าเอาหนังสือเปนหลักก็ต้องว่าในสมัยกรุงรัตนโกสินทรนี้ เพราะบทระบำเปนหนังสือพระราชนิพนธ์ในรัชชกาลที่ ๑ แต่ปลาดอยู่อย่างหนึ่งที่โรงโขนโรงหุ่นย่อมทำรูปรามสูรกับรูปนางเมขลาติดประดับเปนประเพณี และเอาอย่างมาทำถึงที่โรงละคอนในสวนมิสกะวัน จะเปนเพราะเหตุใดก็ตาม ดูเหมือนเรื่องรามสูรจะเปนเรื่องสำหรับเล่นเบิกโรงเรื่องหนึ่งมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว
หญิงเป้ากลับเข้าไปกรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๔ หม่อมฉันฝากสมุดเรื่อง พระคเณศ ซึ่ง Miss Alice, Gotty ผู้แต่งส่งมาให้หม่อมฉัน ให้เธอพามาถวายทอดพระเนตร ด้วยเห็นแปลก และเขาช่างเสาะหารูปพระคเณศของชาติต่าง ๆ เอามารวมพิมพ์ด้วยกัน นึกว่าคงโปรดทอดพระเนตร ศาสตราจารย์ ฟูแช Foucger ฝรั่งเศสแต่งคำนำหนังสือนั้น ว่าการเคารพสัตว์เดียรัจฉานเปนคติของพวกมิลักขูแต่ดั้งเดิมมาทั่วโลก เพราะอยู่ใกล้กับสัตว์เดียรัจฉาน ทั้งจำพวกที่อาจให้โทษและจำพวกที่อาจให้คุณ ความคิดที่จะป้องกันสัตว์ร้ายและอาศัยสัตว์ดีด้วยอุบายต่างๆ จึงเปนวิสัยมนุษย์มาแต่เมื่อสมัยยังเปนมิลักขู ครั้นมาถึงสมัยเมื่อเริ่มถือสาสนา ยังทิ้งคติเดิมที่เคยเชื่อถือเปนอุปนิสัยไม่ได้ จึงเอาความเคารพสัตว์เดียรัจฉานเข้ามาปะปนกับนับถือเทวดา เช่นทำรูปเคารพเปนสัตว์ครึ่งคนครึ่งเปนต้น คตินี้ เกิดในอียิปต์ก่อนอินเดียช้านาน ที่ในอินเดียนั้น เมื่อก่อนพวกอาริยันลงมาครอบครอง พวกมิลักขู Dravidian ซึ่งเปนชาวอินเดียอยู่เดิมถือคติเคารพสัตว์เดียรัจฉานอยู่เปนพื้น พวกอาริยันมาสอนสาสนาเวทจะสอนให้พวกมิลักขูทิ้งคติเดิมไปนับถือเทวดาได้ด้วยยาก จึงคิดอุบายหาความศรัทธาด้วยนับถือสัตว์เดียรัจฉานที่ชาวเมืองนับถือ ว่าเปนพาหะนะของเทวดาบ้าง ช่วยเทวดาอารักษ์กระทำคุณบ้าง และที่สุดถึงเปนอวตารของเทวดาบ้าง จึงเกิดมีรูปเคารพทำเปนสัตว์ปนคนขึ้นในอินเดีย เช่นทำรูปพระยานาคเปนมนุษย์มีหัวนาคปรกเปนสำคัญ และรูปนรสิงห์เปนต้น พระคเณศชั้นเดิมก็อยู่ในพวกนั้น เพิ่งมานับถือกันว่าเปนลูกพระศิวต่อภายหลัง ในไตรเพทและปุราณชั้นเก่าหามีที่กล่าวถึงพระคเณศไม่
หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๑๒ แล้ว ที่ตรัสถามว่าแส้เรียกในภาษาอังกฤษว่ากะไรนั้น ในปทานุกรมอังกฤษเรียกว่า Wisp อธิบายว่า Small broom.
พระปรางค์ที่พุทธคยาหม่อมฉันเพิ่งพบอธิบายในหนังสือตำนานอาคิเต็กในอินเดียของ Furgusson ว่าที่ตรงนั้นเดิมพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างเปนวิหารขนาดน้อยไว้หลังหนึ่ง ต่อมาจนพระสาสนากว่า ๑,๐๐๐ ปี มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ อมรเทวะ เปนปุโรหิตของพระเจ้าวิกรมมาทิตย์ ซึ่งเสวยราชย์ณเมืองมัลวา เข้ารีดเลื่อมใสพระพุทธสาสนา ให้มาสร้างปรางค์ (ครอบวิหารเดิม) เอาแบบปรางค์อย่างในสาสนาพราหมณ์มาสร้างตอนล่าง สร้างพระสถูปเปนยอด เฟอคัสสันว่าพุทธเจดีย์ในอินเดียเปนรูปปรางค์แต่ที่พุทธคยาองค์เดียวเท่านั้น ว่าสร้างในระหว่าง พ.ศ. ๑๐๓๘ กับ ๑๐๗๓
ที่ท่านทรงปรารภว่า พระสถูปที่ทำมีบัลลังก์และไม่มี จะผิดกันด้วยเหตุที่สร้างพระสถูปนั้น มีหลักในอินเดียว่าสร้างเปนที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ (หรือถ้าจะว่าอุทิศฉะเพาะพระองค์พระพุทธเจ้าก็ได้) อย่าง ๑ สร้างเปนอย่าง “กรุย” ที่หมายเหตุการณ์ เช่นหมายที่พระพุทธองค์ทรงกระทำปาฏิหารย์เปนต้นอย่างหนึ่ง ดังเช่นพระมหาสถูปที่สร้างในมฤคทายวัน (ที่เราเห็นรูปฉาย) นั้น เขาขุดตรวจข้างในแล้วก็ไม่มีพระบรมธาตุ พวกนักปราชญ์เขาสันนิษฐานว่าสร้างหมายตรงที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมสาสนา มีเค้ารับรองพระดำริห์อยู่อย่างนี้ แต่พวกสร้างพระเจดีย์ในเมืองพะม่าจะยักอย่างยอดด้วยอาศัยหลักนั้นหรืออย่างไร หม่อมฉันยังไม่แน่ใจ
ในคราวเมลนี้หม่อมฉันถวายเรื่องเที่ยวเมืองพะม่าตอนที่ ๗ ท่อนที่ ๘ มาถวายอีกท่อนหนึ่ง มีรูปฉายประกอบ ๔ รูป คือ
๑. รูปวัดอานันทวิหารทั้งบริเวณ
๒. รูปวัดอานันทวิหาร ดูใกล้ ฉายจากประตูวัด
๓. รูปแผนผ่า Section วัดอานันทวิหาร
๔. รูปพระประธานวัดอานันทวิหาร