วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙

ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๙ พฤษภาคมนั้นแล้ว แต่หนังสือวิศาขบูชาที่ประทานมาก่อนนั้นยังหาได้รับไม่ น่ากลัวจะพลัดสูญไปเสียแล้ว

รูปโบสถ์สีมากัลยาณีที่ทรงพระดำริว่าเปนแบบตึกฝรั่ง น่าจะเปนของสร้างแทนโบสถ์หลังเดิมเมื่อภายหลังนั้นก็ชอบกลอยู่ แต่หม่อมฉันยังข้องใจอยู่ด้วยทำเปนตึกสองชั้นอันผิดกับแบบโบสถ์แห่งอื่นทั้งนั้น อาจจะเปนพระเจ้าหงสาวดีในสมัยเมื่อคุ้นกับฝรั่งแล้วเช่น สมิงทอ ให้สร้างก็เปนได้ แต่คงไปเอาแบบมาจากลังกาไม่กล้าคิดเอาเอง

กลอนสากลที่ทรงตัดหนังสือพิมพ์ประทานมานั้น เมื่อหม่อมฉันอ่านแล้วในใจเปนอุเบกขา แต่เกิดเขละในปากอยากถมถุ่ยแล้ว เลยปลงตก

เมื่อวันวิศาขบูชาหม่อมฉันอยู่ในเรือเอร์เรีย กำลังแล่นมาจากเมืองสิงคโปร์ หญิงพูนหญิงพิลัยกับพวกในบ้านหม่อมฉันได้ไปบูชาพระที่วัดปูโลติกุส ส่วนตัวหม่อมฉันกับหญิงเหลือต่อวันแรม ๒ ค่ำจึงได้ไป ที่ตรัสฟ้องมาว่าโคมวิศาขบูชาของหม่อมฉันที่ไปตั้งในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ปีนี้ร้อยดอกไม้ประดับปิดตราเสียหมดนั้น มีความขบขันอยู่บ้าง ที่หม่อมฉันได้รับจดหมายของหญิงจงพร้อมกับลายพระหัตถ์ เธอบอกบุญมาในการที่ได้จัดทำเครื่องสักการะต่างๆ คือแต่งโคมตรานั้นเปนต้น ไปบูชาพุทธสถานเช่นหม่อมฉันเคยทำมาแต่ก่อน เพราะฉะนั้นจึงทูลได้ว่าหญิงจงเปนผู้รับผิดชอบ

สมเด็จพระพันวัสสา ฯ ท่านตรัสแก่หม่อมฉันว่าจะไปทูลให้พระองค์ท่านเที่ยวทางทะเลบ้าง พระองค์ท่านเองรู้สึกว่าสบายมาก ข้อนี้หม่อมฉันอาจจะรับรองว่าจริง ด้วยหม่อมฉันไปเที่ยวเมืองพะม่าทั้งเที่ยวเตร่ตรากตรำอยู่บ้าง เมื่อกลับมารู้สึกว่าเจริญกำลังและสบายขึ้นกว่าเมื่อก่อนไป เกิดแต่แปรสถานเปลี่ยนอากาศนั้นเอง จึงเห็นว่าปีหนึ่งเสด็จเที่ยวสักครั้งหนึ่งเปนดี ถ้าท่านจะเสด็จลงมาทางแหลมมลายูอีก ขอให้ทรงสัญญาเปนแน่นอนว่าจะให้หม่อมฉันทราบก่อนถ้าเสด็จมาเพียงสิงคโปร์หม่อมฉันจะไปเฝ้า ถ้าเสด็จผ่านมาทางปีนังขอเชิญเสด็จพักที่ Cinnamon Hall ดูเหมือนทูลกระหม่อมชายก็อยากจะเชิญเสด็จท่านไปชะวา ได้เคยตรัสมาในลายพระหัตถ์ถึงหม่อมฉันเมื่อเร็ว ๆ นี้

ข้อที่ทรงปรารภถึงรูปทรงฐานเบญจากับรูปทรงของโกศนั้น หม่อมฉันมีรูปของแปลกปลาดแต่ยังไม่ได้ส่งไปถวาย เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะทูลอธิบายในเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า คือที่ในบริเวณวัดพระมหาธาตุชเวสินดง ของพระเจ้าอนุรุทธที่เมืองพุกามมีพระเจดีย์องค์ ๑ หญิงพิลัยแลเห็นก่อนออกอุทานว่า “พระเจดีย์องค์นั้นทำเหมือนโกศ” หม่อมฉันจึงให้เธอฉายรูปมา ได้พิมพ์ถวายมาทอดพระเนตร์พร้อมกับจดหมายฉะบับนี้ หม่อมฉันก็ยังไม่ได้วินิจฉัยว่ารูปทรงพระเจดีย์นั้นจะเกี่ยวข้องกับโกศอย่างไรบ้างหรือไม่

เรื่องไม้ท้าวนั้นขันอยู่ที่หญิงแก้วไปทำกลแตก ตัวเรื่องนั้นหม่อมฉันไปถึงสิงคโปร์เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ พอไปถึงโฮเต็ลแรฟเฟลเห็นร้านขายไม้ท้าว พบอย่างที่หม่อมฉันเที่ยวเสาะหาก็ซื้อในทันทีแล้ว เขียนจดหมายถวายท่าน แล้วเอาไม้ท้าวกับจดหมายไปฝากหญิงแก้วให้ช่วยนำไปถวาย ในค่ำวันนั้นเมื่อก่อนสมเด็จ ฯ เสด็จลงเรือ หญิงแก้วมาปรารภกับหม่อมฉันว่าสมเด็จ ฯ ตรัสสั่งให้เธอหาซื้อของฝาก สำหรับประทานพระองค์ท่าน เธอเที่ยวหาก็ไม่เห็นอะไรเหมาะ เวลาหาก็จะหมดอยู่แล้ว หม่อมฉันจึงบอกว่าเอาไม้ท้าวที่หม่อมฉันฝากนั้นเปนของประทานก็ได้ ให้เธอฉีกจดหมายของหม่อมฉันเสีย เธอเอาไม้ท้าวไปถวายสมเด็จ ฯ ทอดพระเนตรก็โปรด เธอจึงเอาเงินค่าไม้เท้านั้นมาใช้ให้หม่อมฉันแต่เธอลืมฉีกจดหมาย กลจึงแตก แต่เปนของสมเด็จ ฯ ประทานจริงๆ เพราะหม่อมฉันไม่ได้ออกเงินซื้อมีความชอบเพียงแต่เปนผู้แนะนำ ขอทูลแนะต่อไปอีกสักนิดด้วยเมื่อหม่อมฉันจะไปเที่ยวเมืองพะม่า นึกขึ้นว่าไม้ท้าวที่ถือไปอาจจะไปปะปนกับของผู้อื่นในเวลาอยู่โฮเตล จะเลยหายไปเสีย จึงให้ช่างที่ปีนังเขาแกะเปนตัวอักษร D. R. อย่างพินทุลงไว้ที่ด้ามไม้ท้าว ดูก็เข้าท่าดี ถ้าท่านจะทรงใช้ไม้ท้าวนั้นอยู่เสมอ ควรจะให้แกะอักษร น. ในดวงใจลงไว้ที่ด้ามเสียด้วย

หม่อมฉันถวายเรื่องเที่ยวเมืองพะม่ามาอีกท่อนหนึ่ง ยังอยู่ในตอนที่ ๓

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ