คำนำ หนังสือเรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า

หนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าสร้างอุททิศให้แก่ชายตระหนัก ผู้เปนหลานรักอันได้จากไปปรโลกแล้วด้วยความระลึกถึง

หม่อมเจ้าตระหนักนิธิผล ได้นามตามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดตั้งพระราชทาน เปนโอรสพระเจ้าบรมวงศเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย สกุลไชยยันต์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๙ เมื่อพระบิดาของเธอประชวรหนัก ประจักษ์ในพระทัยว่าจะไม่ดำรงพระชนม์ต่อไปได้ ทรงเปนห่วงถึงชายตระหนักว่าเธอยังเล็ก จำจะต้องมีผู้ปกครองช่วยเกื้อหนุนต่อไป จนกว่าเธอจะเติบใหญ่พอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ จึงตรัสมอบให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็รับสนองพระประสงค์ด้วยความเต็มใจ เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วจึงรับมาเลี้ยงไว้กับลูกลูกของข้าพเจ้า เธอเรียนหนังสืออยู่ที่ราชวิทยาลัย พอจบหลักสูตรในโรงเรียนนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็จัดส่งไปเรียนวิชากฎหมายในประเทศอังกฤษ ครั้งได้สำเร็จเปนเนติบัณฑิตย์อังกฤษแล้ว จึงกลับเข้ามารับราชการในกรมอัยการ สนองพระเดชพระคุณมาจนทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานยศเปนอำมาตย์เอก เธอก็คงอยู่กับข้าพเจ้า รับใช้ช่วยการบ้านเรือนเหมือนเปนลูกคนหนึ่ง

เธอมีความสิเนหาในลูกหญิงประโลมจิตรของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็มีความยินดีตกแต่งให้ปกครองกัน ตามฉันสามีภริยาโดยพระบรมราชานุญาต ด้วยอำนาจสัมพันธ์อันนั้นจึงเกิดลูกด้วยกัน ๗ คน คือ ๑ ชายเอก ๒ หญิงทวี ๓ ชายสำพันธ์ ๔ หญิงวิสาขา ๕ ชายเฉลิม ๖ ชายสาฎก ๗ หญิงยิ่งวัน แต่ชายเอกตายเสียแล้วแต่ยังเล็ก คงเหลือแต่ ๖ คน

อยู่มาชายตระหนักเจ็บ มีอาการเปนไปในทางที่คนบุราณเรียกว่าฝีเม็ดเล็ก ได้รักษาพยาบาลกันจนสุดกำลังก็ไม่หาย ที่สุดก็ถึงชีพิตักษัยไปในวันที่ ๑๒ มิถุนายน ซึ่งเปนวันเกิดในพ.ศ. ๒๔๗๓ นับอายุได้ ๓๔ ปีพอดี ทำความเสียใจให้แก่ข้าพเจ้ากับทั้งญาติสนิทมิตรสหายเปนอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าได้จัดตั้งศพไว้ที่บ้านท่าพระ ทำบุญอุททิศให้พร้อมด้วยพี่น้องมิตรสหายจนพอใจแล้ว จึงนำศพไปฝังฝากไว้ ณ วัดนรนารถสุนทริการาม อันเห็นว่าเปนสถานที่เงียบสงัด

บัดนี้เปนเวลาที่ข้าพเจ้าโปร่งใจ จึงคิดจะทำฌาปนกิจอย่างง่ายๆ ให้เสร็จไปเสียที่วัดนรนารถสุนทริการามนั้น แล้วนำอังคารไปประจุไว้ที่โรงเรียนไชยยันต์ในวัดราชาธิวาส ซึ่งกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัยทรงบริจจาคทรัพย์สร้างขึ้นไว้ มีที่ประจุพระอังคารแห่งพระองค์พร้อมทั้งพระวงศญาติอยู่ด้วยเสร็จที่ในนั้น แต่ในงานฌาปนกิจนั้น ข้าพเจ้าอยากจะทำให้มีหนังสือขึ้นสักฉะบับหนึ่งเพื่อแจกให้แก่ญาติมิตร ผู้มีใจเมตตาต่อชายตระหนักเปนที่ระลึก นึกหาว่าจะเอาเรื่องอะไรดีก็เลงเห็นว่า เรื่องกฎมณเทียรบาลพะม่า ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพบต้นฉะบับในภาษาอังกฤษเข้า ทรงระลึกถึงข้าพเจ้าจึงทรงพระอุสาหะแปลประทานมาเพื่อให้ได้รู้คดีแปลก ๆ เห็นว่าเปนเรื่องที่แปลกจริง เชื่อว่าจะมีใครได้รู้น้อยตัว กับทั้งเปนเรื่องอันเนื่องในกฎหมาย ซึ่งนับว่าอยู่ในระบอบแห่งวิชาของชายตระหนักด้วย จึงได้กราบทูลสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพออกไป ขอประทานอนุญาตที่จะตีพิมพ์หนังสือเรื่องนั้นแจกงานศพ เมื่อได้ทรงทราบก็ทรงพระโสมนัส ไม่ใช่แต่เพียงตรัสอนุญาต ยังซ้ำทรงแต่งเรื่องเพิ่มเติมและทรงพระวิจารณแทรกในต้นฉะบับเดิมประทานมากับรูปฉายหลายอย่าง ทั้งประทานอธิบายความพิสดารแจ้งอยู่ในสำเนาลายพระหัตถ์ อันได้ลงพิมพ์ไว้ต่อจากคำนำนี้แล้ว เปนพระเดชพระคุณหาที่สุดมิได้

ข้าพเจ้าได้ว่าวานพระยาอนุมานราชธนโดยทางมิตรภาพให้ช่วยจัดการว่าจ้างโรงพิมพ์ซึ่งเห็นว่าทำดีตีพิมพ์ให้ เพราะพระยาอนุมานราชธนเปนเจ้าพนักงานอยู่ในหอสมุดสำหรับพระนคร ช่ำชองในทางจัดการตีหนังสือพิมพ์มามาก ย่อมรู้ดีกว่าผู้อื่นว่าโรงพิมพ์ไหนจะทำได้ดี แต่เมื่อพระยาอนุมานราชธนเห็นต้นฉะบับเข้าแล้วก็ชอบใจปรารภแก่ข้าพเจ้าว่าอยากได้เปนของหอสมุดสำหรับพระนคร เพื่อเอาเข้าระเบียบเรื่องลัทธิธรรมเนียม ซึ่งหอสมุดสำหรับพระนครได้ตีพิมพ์ออกไปมากแล้ว ถ้าหากว่าได้หนังสือฉะบับนี้ตีพิมพ์ติดต่อกันไปก็จะเปนประโยชน์แพร่หลายและรักษาฉะบับมั่นคงดีขึ้น ข้าพเจ้าเห็นไม่มีข้อควรรังเกียจ ทูลถามสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพออกไปก็ไม่ทรงขัดขวาง โปรดอนุญาตตามใจข้าพเจ้าสุดแต่จะเห็นดีข้าพเจ้าจึงได้ยอมให้ต้นฉะบับเปนของหอสมุดสำหรับพระนคร ด้วยประการดังนี้

หนังสือเรื่องนี้เปนเรื่องสั้น ๆ แต่เห็นว่าจะเปนประโยชน์แก่ผู้อ่านได้บ้าง โดยฉะเพาะผู้ที่ชอบโบราณคดีจะได้ทราบราชประเพณีบ้านเมืองที่ใกล้กับเมืองเรา ว่าลัทธิแห่งราชประเพณีผิดกันอย่างไร หวังว่าญาติมิตรผู้ได้รับแจกไปจะมีความพึงใจทั่วกัน

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

ตำหนักปลายเนิน

วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๙

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ