วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙

ทูล สมเด็จกรมพระนริศร ฯ

ลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๖ กันยายน มาถึงหม่อมฉันแล้ว สะแตมป์ไปรษณีย์อังกฤษที่ออกใหม่ มีรูปอยู่ในหนังสือพิมพ์อังกฤษที่มาถึงเมื่อคราวเมล์ก่อน เขาคิดแก้ไขพลิกแพลงอย่าง “เจ็บแสบ” งามดีด้วยหม่อมฉันตัดรูปออกจากหนังสือพิมพ์ส่งมาถวายทอดพระเนตร์พร้อมกับจดหมายนี้

ในคราวเมล์นี้ หม่อมฉันส่งกฎมณเฑียรบาลพะม่าฉะบับที่หม่อมฉันชำระใหม่ สำหรับทรงพิมพ์แจกในงานศพชายถึกมาถวาย และได้เขียนอธิบายเปนจดหมายของหม่อมฉันถวายพระองค์ท่านไว้ข้างหน้า ดั่งทรงแนะนำมา ขอจงช่วยทรงอ่านตรวจให้ตลอดเรื่อง ถ้าถ้อยคำแห่งใดยังบกพร่องหรือพลาดพลั้ง ขอได้โปรดทรงช่วยแก้ไขเสียให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงพิมพ์

หนังสือนี้ ถ้าจะโปรดให้มีรูปภาพด้วยก็เห็นจะพอมีได้ คือ รูปพระเจ้ามินดงทรงเครื่องเต็มยศรูป ๑ รูปพระเจ้าสีป่อกับราชินีสุปยาลัตทรงเครื่องต้นรูป ๑ รูปอัครมหาเสนาบดีพะม่าใส่เสื้อครุยและลอมพอกรูป ๑ หม่อมฉันถวายไว้แล้วทั้ง ๓ รูป กับรูปเรือพระที่นั่ง “การเวก” ที่ทรงเลียบพระนคร หม่อมฉันถวายมาคราวนี้อีกรูป ๑ แต่จะพิมพ์ไม่มีรูปภาพก็ได้

ท่านคงทรงทราบแล้วว่าขะโมยขึ้นงัดคอพระที่เรือนแม่ ลักเอาโกศอัฐิแม่กับผอบใส่อัฐินวมมารดาหญิงจงไป แต่อัฐิทิ้งไว้ไม่เอาไปด้วยจึงหายแต่โกศกับผอบเงินกาไหล่ทอง เสียดายแต่ฝีมือที่ทำโกศ หม่อมฉันสั่งหญิงจงให้ไปคิดทำใหม่เหมือนรูปโกศใบที่หาย แต่ไม่ต้องจ้างมาเกรตให้ทำประณีตเหมือนใบก่อน ถ้าและขัดข้องอย่างใดให้ไปทูลปรึกษาท่านขอได้โปรดทรงอนุเคราะห์ด้วย เหตุที่ขะโมยขึ้นหอพระนั้น ในเวลามีคนอยู่น้อยตัวดูก็ไม่น่าปลาดใจ ด้วยหอพระนั้น หม่อมฉันเข้าใจว่าท่านคงได้ทรงสังเกตแล้วว่าอยู่ห่างออกไปจากเรือนแม่มีสะพานเดินถึงกัน เพราะเพิ่งสร้างหอพระต่อภายหลังสร้างเรือน ขะโมยมันขึ้นที่สะพานซึ่งสูงจากพื้นดินเพียงสัก ๕ ศอกเศษ เปนเวลาดึกในคืนที่ฝนตกหนักก็ไม่มีใครเห็นจึงงัดประตูหอพระได้โดยง่าย พิเคราะห์ดูเหมือนขะโมยจะเปนคนภายนอก ทำตามคำบอกเล่าของคนที่เปนสายอยู่ภายใน จึงสงสัยว่าผู้เปนสายน่าจะเปนผู้หญิงที่มาอาศัยอยู่ให้ใช้สอย บอกผัวที่เปนขะโมยให้เข้ามาลัก ข้อนี้มีเค้าเงื่อนที่ในหมู่นั้นเอง มีการล้วงลักเกิดขึ้นในบริเวณวังวรดิศก่อนถึง ๓ ราย อาจเปนด้วยตัวขะโมยทำเปนคนสุภาพเข้าไปหาเมีย ก็ไม่มีใครสงสัย เที่ยวเดินตรวจดูจนรู้แผนที่และลองซ้อมฝีมือแล้ว จึงขึ้นงัดหอพระ ลักโกศอัฐิด้วยสำคัญว่าเปนทองค์า ซึ่งคนที่เปนสายได้เห็นเชิญไปทำบุญที่ท้องพระโรงเมื่อตรงวันอสัญญกรรมที่ ๑๓ กรกฎาคม คนอยู่ในวังวรดิศมาแต่ก่อน ดูเหมือนจะรู้กันแทบทุกคนว่าเปนโกศกาไหล่ อีกประการหนึ่ง มีต้นไม้ทองเงินตั้งอยู่ในหอพระคู่หนึ่งก็ไม่เอาไป ดูประหนึ่งตั้งใจจะขึ้นไปลักโกศอัฐิอย่างเดียว

หม่อมฉันนึกขึ้นมาถึงชายใส เดี๋ยวนี้ได้งานทำแล้วหรือยัง

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล

  2. ๒. หม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ