วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ดร

Cinnamon Hall,

206 Kelawei Road, Penang. S.S.

วันที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙

ทูล สมเด็จกรมพระนริศ ฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน แล้วที่ทรงพระดำริจะเพิ่มรายชื่อเครื่องราชกกุธภัณฑ์พะม่า ลงในคำอธิบายตอนราชาภิเศกในกฎมณเทียรบาลพะม่าที่จะพิมพ์นั้น หม่อมฉันเห็นชอบด้วย

ตำราที่นับผ้ารัตกัมพลแทนมงกุฎนั้น หม่อมฉันเข้าใจว่าอยู่ในบัญจราชาภิเศกที่โรงพิมพ์หลวงพิมพ์ไว้ต่อกับเรื่องกลสัตรี

เมื่อได้เห็นคาถาที่ประทานมา หม่อมฉันลองคิดดูถึงเหตุที่อ้างของแย้งกัน เห็นเค้าเงื่อนเปนเช่นนี้

อุณหิสเปนเครื่องทรงบนพระเศียร แบบเดิมคงทรงกับผ้าโภค เพราะชาวอินเดียโพกหัวเปนประเพณีมาแต่โบราณ จะประกอบอุณหิสกับผ้าโพกด้วยประการใดแล้วแต่จะเหมาะ จะทำเปนเครื่องสวมหรือเครื่องห้อยหรือติดกับผ้าโพกอย่างเจ้าแขกอินเดียยังแต่งอยู่ก็เปนอุณหิส แต่โดยลำพังผ้าโพกจะนับว่าเปนราชกกุธภัณฑ์ไม่ได้ เพราะใครๆ ก็โพกทั้งนั้น ทานพระกรดูมูลที่จะใช้เปนราชกกุธภัณฑ์มีน้อยไม่เหมือนเสวตรฉัตร แต่ทูลกระหม่อมท่านคงได้หลักฐานมาแต่แห่งใดแห่งหนึ่ง จึงทรงพระราชนิพนธ์เช่นนั้น ถึงกระนั้นหม่อมฉันก็ยังเห็นว่าเสวตรฉัตรเปนถูก เพราะเปนของสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยศพระราชา และราชกกุธภัณฑ์เปนของหยิบยกยื่นถวายในการราชาภิเศก ถ้าไม่มีเสวตรฉัตรก็จะต้องชี้ทูลว่า “ถวายเสวตรฉัตรที่ปักไว้นั่นด้วยนะ” เรื่องงดเสวตรฉัตรเห็นจะเกิดแต่เข้าใจว่าต้องซ้อนกันหลายชั้นจึงเรียกว่าฉัตร

ข้อที่วาลวีชนี แย้งกับ แส้หางจามรี นั้น หม่อมฉันนึกขึ้นถึงการแห่แหนเจ้าแขกในอินเดียเวลาเต็มยศยังมีคนกั้นฉัตร (ร่ม) คน ๑ ถือแส้หางจามรีปัดคน ๑ เห็นว่ามูลเดิมเห็นจะใช้แส้หางจามรี แต่ก่อนเก่าน่าจะเปนของหายากทางอินเดียฝ่ายใต้ จึงใช้วาลวีชนีแทน หรือมิฉะนั้นอีกนัยหนึ่งจะกลับกัน คือใช้วาลวีชนีมาแต่เดิม แต่พวกชาวอินเดียฝ่ายเหนือเปลี่ยนไปใช้แส้หางจามรี เพราะเห็นเปนของหายากก็เปนได้

เรื่องอ่านคำตามเสียงพะม่านั้น หม่อมฉันสิ้นปัญญามาแต่แรก เพราะพะม่าไม่อ่านเสียงตัวอักษรเช่นเราอ่านกัน แม้ฝรั่งฟังเสียงไปเขียนด้วยหนังสือฝรั่งก็ยังไม่ตรงได้ ที่หม่อมฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เขียนตามเสียงอักษรอังกฤษ เว้นแต่ที่รู้แน่ เช่นคำ Yaznwin จึงเขียน “ราชวงศ์” ถึงพระยาอนุมานสืบก็เห็นจะไม่สำเร็จประโยชน์ได้เท่าใดนัก

ที่ใช้คำ “ศิลป” กับ วิทยาศาสตร์ เปนคำแผลงอย่างใหม่นั้น หม่อมฉันยังไม่ทราบ ที่โปรดบอกประทานมาขอบพระเดชพระคุณมาก

หญิงจงออกมาอยู่กับหม่อมฉัน ๓ เดือนจะกลับเข้าไปกรุงเทพฯ คราวเมลนี้ หม่อมฉันจึงฝากจดหมายฉะบับนี้ให้เธอพามา

หม่อมฉันส่งเรื่องเที่ยวเมืองพะม่าตอนที่ ๗ ท่อนที่ ๖ มาถวายอีกท่อน ๑ มีรูปฉายประกอบด้วย ๕ แผ่น คือ

๑. พระสถูปทรงแตง (องค์ต้นแบบที่เมืองสารเขตร์ จะถวายรูปต่อภายหลัง)

๒. พระสถูปอย่างมีบัลลังก์

๓. พระสถูปอย่างบาตรคว่ำ

๔. พระมหาโพธิเจดีย์

๕. พระเจดีย์ทรงโกศ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ