วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๗๙

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ทรงพระเมตตาโปรดประทานไปพร้อมด้วยกฎมณเทียรบาลพะม่า กับรูปฉายอีกสองแผ่น ได้รับประทานแล้วด้วยดี เปนพระเดชพระคุณล้นเกล้า

โดยพระประสงค์ให้เกล้ากระหม่อมอ่านตรวจฉะบับกฎมณเทียรบาลพะม่าให้ตลอด ถ้าถ้อยคำแห่งใดบกพร่องหรือพลาดพลั้ง ให้แก้ไขเสียให้เรียบร้อยก่อนส่งไปตีพิมพ์นั้น เกล้ากระหม่อมกำลังทำอยู่โดยพระประสงค์นั้นแล้ว การตรวจแก้ไขมีผลเปลี่ยนแปลงไปที่ไหนอย่างไร จะได้ทำรายงานกราบทูลมาให้ทราบฝ่าพระบาทในภายหน้า รู้สึกภูมิใจว่าได้หนังสือดีเปนอันมาก

รูปภาพนั้นเห็นจำเปนต้องลงในหนังสือนั้นทีเดียว เช่นมงกุฎพะม่าได้ทรงลงฟุตโน้ตบอกไว้ว่ารูปเหมือนตุ้มปี่ ถ้าไม่มีรูปฉายประกอบ คำฟุตโน้ตก็คงมัวอยู่ไม่กระจ่างไปได้เลย

รูปเรือพระที่นั่ง “การเวก” ซึ่งประทานไปคราวนี้ เกล้ากระหม่อมดู “หูผึ่ง” งามจริงๆ ท่วงทีเหมือนรูปเรือของเขมรซึ่งฉลักไว้ที่ระเบียงพระนครวัด แต่ดูชะแล่มแช่มช้อยงามกว่าของเขมรขึ้นไปอีกมาก ของเขมรดูหนาเตอะตะ

ในการตีพิมพ์หนังสือเรื่องนี้ เกล้ากระหม่อมจะต้องจัดดำเนินการทุกอย่างให้ล่วงลุตลอดไปเสียก่อน แล้วจึงจะลงมือเรียงคำนำได้ เมื่อเรียงแล้วจะส่งมาถวายขอพระบารมีเปนที่พึ่งให้ทรงตรวจแก้ไข

ขอบพระเดชพระคุณที่ทรงพระเมตตาโปรดประทานรูปสแตมป์อังกฤษใหม่ไปให้ดู เกล้ากระหม่อมก็พอใจเห็นว่าดีมาก ไม่ชอบอยู่นิดเดียวที่ตรงตัดพระศอดูน่าเกลียดเล็กน้อย พระเจ้าเอดวาดก็ไม่โปรดที่ตรงนั้น ถ้าตัดต่ำลงมาเสียหน่อยให้ถึงที่ต่อกับพระอุระก็เห็นจะหายน่าเกลียด

พระดำรัสเรื่องทำโกศอัฐิ สวนทางกับที่เกล้ากระหม่อมถวายความเห็นมา แต่ไม่เปนไรมิได้ เมื่อฝ่าพระบาทจะต้องพระประสงค์อย่างไรเกล้ากระหม่อมเต็มใจจะทำถวายให้สมพระประสงค์ ในที่นี้จะถวายความเห็นอีกอย่างหนึ่ง ถ้าหากไม่โปรดอย่างประดิษฐานกล่องศิลาบนพานปิดคลุมแล้ว จะทำเปนโกศให้มีขนาดเขื่องสักหน่อยขึ้นไว้ สำหรับใช้แทนพานปิดคลุมก็ได้เมื่อจะทำบุญอัฐิผู้ใด บรรจุกล่องศิลาผู้นั้นลงในโกศ เชิญออกตั้งทำบุญอย่างเดียวกับศพซึ่งใส่โกศแล้วประกอบลองฉะนั้น หรือจะโปรดยักย้ายให้ทำเปนอย่างอื่น เช่นทำเปนกูฎาคารเล็กๆ เพื่อดูแปลกๆ ไปก็ได้ แล้วแต่จะโปรด

เปนพระเดชพระคุณล้นเกล้า ที่เอาพระไทยใส่ถึงชายไสตรัสถามไปขอประทานกราบทูลให้ทราบฝ่าพระบาทว่า เวลานี้ยังไม่ได้เข้าทำงานแห่งหนึ่งแห่งใด ในหนังสือเวรซึ่งเขียนมาถวายคราวก่อน เรื่องศพพระยาสุริยาว่าสั่งให้ฝังและห้ามเผานั้นผิดหมด เพราะเอาคำลือมาเขียนกราบทูล เหมือนหนังสือพิมพ์เอาข่าวลือลงให้คนอ่าน เมื่อวันที่เขียนหนังสือส่งมาถวายนั้นเองได้ไปเยี่ยมศพพบคุณหญิงลิ้นจี่ สนทนากันได้ความว่า ที่นำศพไปฝังนั้นเปนความจำนงของคุณหญิงลิ้นจี่ เพื่อจะแบ่งเบาภารอันจะต้องรักษาศพไว้กับบ้านเท่านั้น เมื่อถึงเวลาสมควรทำฌาปนกิจก็จะนำศพไปเข้าเมรุรับพระราชทานเพลิงตามธรรมเนียม ศพนี้จัดแปลกอยู่ ด้วยได้รับพระราชทานโกศ แต่จะนำศพไปฝัง จึ่งแต่งศพเข้าหีบลองในประกอบหีบทองลายก้านขด ตั้งบนชั้นกระจกไว้ห้องใน แล้วตั้งประกอบโกศเปล่าบนชั้นแว่นฟ้าไว้ห้องนอก ล่ามแถบโยงถึงกัน เครื่องประดับยศใด ๆ ก็จัดตั้งไว้ที่ห้องนอกทั้งสิ้น ทำบุญ ๗ วัน เมื่อวันที่ ๖ แล้วว่าจะลักศพไปฝังที่วัดประยุรวงศ์เมื่อวันที่ ๗

เมื่อวันที่ ๖ เวลา ๕ โมงเข้า เรือ “มาลินี” เชิญพระศพกรมพระกำแพงเพชรมาถึงท่าวัดพระยาไกร มีคนไปรับพระศพมาก เกล้ากระหม่อมกับองค์อาทิตย์ลงไปเยี่ยมพระศพและเจ้าทุกข์ในเรือ แล้วเจ้าพนักงานเชิญพระศพจากเรือขึ้นตั้งเหนือวอพระประเทียบบนรถยนต์ เดินออกถนนเจริญกรุง เลี้ยวถนนสีลมตรงไปถนนราชดำริ เลี้ยวถนนเพชรบุรี เลี้ยวถนนหน้าวัดเบญจมบพิตร เจ้าทุกข์กับพวกซึ่งไปรับพระศพมากด้วยกันขึ้นรถตามเปนกระบวน เห็นจะยาวมากอยู่ แต่เกล้ากระหม่อมไม่ได้เห็น เพราะตัวเองเข้าในกระบวนเสียด้วย ครั้งถึงประตูวัดหว่างพระที่นั่งทรงธรรมกับศาลาปัณณรสภาคก็หยุดรถ เชิญพระศพเข้าศาลาปัณณรสภาค ถ่ายพระศพจากหีบลงพระโกศ เชิญขึ้นพระที่นั่งทรงธรรม ประดิษฐานบนชั้นแว่นฟ้าประกอบลองกุดั่นแล้วเปนเสร็จการในวันนั้น

ในการตอนนี้รำคาญเจ้าพวกชักรูปเหลือกำลัง พากันไปมากมายเที่ยวได้ขวางเกะกะ “นิวเซนต์” อย่างเอก

ครั้นวันที่ ๘ เวลาบ่าย ๕ โมง ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จไปเยี่ยมพระศพแทนพระองค์พระเจ้าอยู่หัวแต่องค์เดียว เพราะอีกสองท่านในคณะป่วยเสียหมด เจ้าพระยายมราช ว่าป่วยเปนหืด (ลางทีจะพูดไม่ถูก ทราบมาก่อนว่าท่านเปนโรค “บรองไคติส” ประจำตัว) ส่วนเจ้าพระยาพิชเยนทร์ นั้นหกล้ม กระดูกที่หัวเข่าเปนอะไรไปเดินไม่ได้ แต่ว่ากันว่าไม่ถึงแตกหัก ประธานคณะผู้สำเร็จราชการทรงวางพวงมาลาของหลวงแล้วทรงจุดเทียน พระสงฆ์ ๒๐ รูปสวดมนต์แล้วทรงธรรมกัณฑ์หนึ่งเปนเสร็จเสด็จกลับ มีผู้ไปในงานนี้แน่นหนามาก ตรวจหน้าผู้ใหญ่ไม่มีขาด รุ่งขึ้นวันที่ ๙ เวลาเพลมีการเลี้ยงพระและทรงธรรมอีกกัณฑ์หนึ่ง แต่ประธานผู้สำเร็จราชการไม่ได้เสด็จไป ตรัสมอบพระราชวงศ์องค์ใดทำแทนก็ไม่ทราบ เกล้ากระหม่อมก็ไม่ได้ไป เพราะเปนงานเวลาเช้า ตัวสินอนสาย หากพยายามลุกขึ้นไปก็เปลืองชีวิตหนัก เห็นไม่จำเปน

กฐินหลวงปีนี้มี ๓ วัน วันที่ ๗ วัดราชประดิษฐ วัดเทพศิรินทร วัดมหาธาตุ วันที่ ๙ วัดบวรนิเวศ วัดราชบพิธ วัดพระเชตุพน วันที่ ๑๐ วัดเบญจมบพิตร วัดราชาธิวาส วัดอรุณ แต่เกล้ากระหม่อมก็ไม่ได้ไปสักวันเดียว

พระยาพจนปรีชาก็ได้ความแน่นอนมา เจ็บเปนโรคไส้ตันเหมือนดั่งคาดคราวนี้ถึงต้องผ่าท้อง อายุ ๗๐ แล้วทนไม่ไหวเลยตาย เขาจะทำบุญ ๗ วันกันในวันที่ ๑๑ ที่วัดมกุฎกษัตริย์ คิดว่าถ้าฝนฟ้าไม่ตกก็จะไปเยี่ยมศพ ด้วยเมื่อตายเมื่อฝังไม่ได้ไป เพราะรู้ตัวไม่ทัน

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

  2. ๒. เจ้าพระยาพิชเยนทร์โยธิน (อุ่ม อินทรโยธิน)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ