- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
- คำนำเมื่อพิมพ์ครั้งแรก
- ประวัติสุนทรภู่
- บันทึกเรื่องผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
- อธิบาย ว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่
- ปกิรณะกะประวัติของสุนทรภู่
- ตอนที่ ๑ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๓ ศรีสุวรรณเข้าเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
- ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
- ตอนที่ ๖ ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน
- ตอนที่ ๗ ศรีสุวรรณพยาบาลนางเกษรา
- ตอนที่ ๘ อภิเษกศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๙ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
- ตอนที่ ๑๐ พระอภัยได้นางเงือก
- ตอนที่ ๑๑ นางสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเล
- ตอนที่ ๑๒ พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๓ พระอภัยมณีโดยสารเรือนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๔ พระอภัยมณีเรือแตก
- ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง
- ตอนที่ ๑๖ สินสมุทรพบศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๑๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๑๘ พระอภัยมณีโดยสารเรืออุศเรน
- ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร
- ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรรบกับอุศเรน
- ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๒ พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๓ พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๔ กำเนิดสุดสาคร
- ตอนที่ ๒๕ สุดสาครเข้าเมืองการะเวก
- ตอนที่ ๒๖ อุศเรนตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๗ เจ้าละมานตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๘ สุดสาครตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๓๐ พระอภัยมณีตีเมืองใหม่
- ตอนที่ ๓๑ พระอภัยมณีพบนางละเวง
- ตอนที่ ๓๒ ศรีสุวรรณอาสาตีด่านดงตาล
- ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ
- ตอนที่ ๓๔ นางละเวงคิดหย่าทัพ
- ตอนที่ ๓๕ พระอภัยติดท้ายรถ
- ตอนที่ ๓๖ พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง
- ตอนที่ ๓๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๓๘ นางสุวรรณมาลีข้ามไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๓๙ นางสุวรรณมาลีมีสารตัดพ้อ
- ตอนที่ ๔๐ สุดสาครถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๔๑ นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม
- ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์
- ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม
- ตอนที่ ๔๔ กษัตริย์สามัคคี
- ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร
- ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง
- ตอนที่ ๔๗ อภิเษกสินสมุทร
- ตอนที่ ๔๘ นางเสาวคนธ์หนี
- ตอนที่ ๔๙ นางเสาวคนธ์แปลงเป็นฤๅษี
- ตอนที่ ๕๐ นางเสาวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
- ตอนที่ ๕๑ สุดสาครตามนางเสาวคนธ์
- ตอนที่ ๕๒ พระอภัยมณีทำศพท้าวสุทัศน์
- ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๔ มังคลาชิงโคตรเพชร
- ตอนที่ ๕๕ มังคลาจับนางสุวรรณมาลีและท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๗ สุดสาครรบมังคลา
- ตอนที่ ๕๘ นางละเวงวัณฬาช่วยนางสุวรรณมาลีแลท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๙ พระอภัยมณีศรีสุวรรณไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
- ตอนที่ ๖๑ สังฆราชบาทหลวงเผาเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๒ พระอภัยเข้าเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย
- ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช
- ตอนที่ ๖๕ พระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีทัพไปเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๖๖ วลายุดาครองเมืองสินชัย
- ตอนที่ ๖๗ วายุพัฒน์เป็นอุปราชเมืองเซ็น
- ตอนที่ ๖๘ หัสกันครองเมืองสุลาลัย
- ตอนที่ ๖๙ พระอภัยมณีเยี่ยมศพนางมณฑา
- ตอนที่ ๗๐ พระมังคลายกทัพเรือมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
- ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๗๔ ทัพพันธมิตรเมืองกำพลเพชรยกมาช่วยพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๕ พระมังคลาล่าทัพไปถึงเกาะกาหวี
- ตอนที่ ๗๖ ทหารเมืองกำพลเพชรตามนางกฤษณาพบพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๗ พระมังคลาได้นางดวงแขลูกสาวเจ้าเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๗๘ อภิเษกพระกฤษณากับนางเทพินไปครองเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
- ตอนที่ ๘๐ พระมังคลายกทัพเมืองสำปันหนาไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
- ตอนที่ ๘๒ โจรสลัดคุมกำปั่นปล้นเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๘๓ ศรีสุวรรณมาช่วยเมืองรมจักรรบโจรสลัด แล้วอภิเษกตรีพลำกับอัมพวันและเทวัญกับนิลกัณฐี
- ตอนที่ ๘๔ พระมังคลากับพระบาทหลวงแตกทัพไปเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ
- ตอนที่ ๘๕ พระมังคลาไปถึงเมืองโรมพัฒน์ได้นางบุษบง
- ตอนที่ ๘๖ พระบาทหลวงกับพระมังคลายกทัพเรือเมืองโรมพัฒน์ไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๗ สุดสาครทราบข่าวศึก
- ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา
- ตอนที่ ๘๙ ทัพสุดสาครตีทัพพระมังคลาพ่าย จนเทวสินธุ์ตามไปถึงเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๙๐ ท้าวรายากับพระเทวสินธุ์ไปถึงเมืองกำพลเพชร แล้วยกทัพไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๙๑ หกกษัตริย์ยกทัพมาช่วยเมืองลังกาทำศึก
- ตอนที่ ๙๒ พระบาทหลวงรบศึกหกกษัตริย์จนลมแดงซัดเรือรบพลัดกัน
- ตอนที่ ๙๓ สุดสาครตีเมืองด่านแตก
- ตอนที่ ๙๔ พระเทวสินธุ์พบพระมังคลาจนเจ็ดกษัตริย์เตรียมรบ
- ตอนที่ ๙๕ พระมังคลากับพระบาทหลวงยกทัพเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๙๖ ทัพเจ็ดกษัตริย์ตีทัพพระบาทหลวงแตก
- ตอนที่ ๙๗ พระบาทหลวงเตรียมตีเมืองปากน้ำคืน
- ตอนที่ ๙๘ พระบาทหลวงขับท้าวรายากับนางบุษบงไปจากกองทัพ จนพระมังคลาหนี
- ตอนที่ ๙๙ พระบาทหลวงยกเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๑๐๐ สินสมุทรตีทัพพระบาทหลวงจนถูกยาเบื่อ
- ตอนที่ ๑๐๑ พระอภัยมณีเยือนลังกา
- ตอนที่ ๑๐๒ พระบาทหลวงปล่อยโคมไฟไปตกเมืองลังกา จนถึงพระอภัยมณีห้ามทัพ
- ตอนที่ ๑๐๓ หกกษัตริย์ตีโต้ทัพพระบาทหลวงล่าไปเมืองปตาหวี
- ตอนที่ ๑๐๔ พระอภัยมณีกลับไปเขาสิงคุตร
- ตอนที่ ๑๐๕ อภิเษกหัสกันกับนางวันชายา
- ตอนที่ ๑๐๖ พระอภัยมณีไปเยี่ยมนางเงือกที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๐๗ พระบาทหลวงเข้าเมืองปตาหวีแล้วตามไปพบพระมังคลาที่เมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๐๘ พระมังคลาและนางบุษบงออกมารับพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๐๙ ท้าวโกสัยบอกพระมังคลาให้รู้อุบายพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๐ พระบาทหลวงตีด่านเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๑๑ พระมังคลามีสารง้อศรีสุวรรณสุดสาครและสินสมุทร ให้มาช่วยรบพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๒ ทัพพระมังคลารบกับทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๓ ทัพศรีสุวรรณกับสี่กษัตริย์ตีกระหนาบทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๕ ศรีสุวรรณกับพวกพาพระมังคลากลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๗ พระมังคลาไปงานโสกันต์ระเด่นกินเรศ
- ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง
- ตอนที่ ๑๑๙ สุดสาครไปเยี่ยมนางเงือกและพระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๒๐ สุดสาครกลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๓ เจ็ดกษัตริย์ยกทัพมาตีเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๔ นรินทร์รัตน์ขอราเมศมาเป็นอุปราชกรุงรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๕ นรินทร์รัตน์กับราเมศมาช่วยเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๖ เจ็ดกษัตริย์ตายสี่หนีสาม
- ตอนที่ ๑๒๗ นรินทร์รัตน์หลงนางเกศพัฒน์เมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๘ อภิเษกพระราเมศกับนางดวงประภา
- ตอนที่ ๑๒๙ ภัทวงศ์ไปไหว้เทวรูปจนพบนางเกสรสุมาลัย
- ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์
- ตอนที่ ๑๓๑ พระสังฆราชบาทหลวงยกทัพมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๓๒ ตัดหางสุพรรณมัจฉาแล้วสถาปนาเป็นจันทวดีพันปีหลวง
ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
๏ ป่างพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ | ออกแท่นรัตน์รจนามุกดาหาร |
กับสุดสาครนัดดาปรีชาชาญ | ว่าราชการขอบเขตนิเวศน์วัง |
ขุนนางพร้อมน้อมประนมบังคมบาท | จึ่งทูลราชการศึกดั่งนึกหวัง |
แล้วบอกสารอ่านถวายที่ในวัง | ให้พระฟังเรื่องคดีที่มีมา |
ว่ากำปั่นคับคั่งฝรั่งแขก | มาทอดแยกเรียงรายทั้งซ้ายขวา |
ล้วนเรือรบเรือเสาเหล่าชวา | วิลันดาเรือทรายมาหลายคน |
มาทอดท่าหน้าอ่าวแต่เช้าตรู่ | สังเกตดูไม่ถนัดยังขัดสน |
ถือสาตราถ้วนทั่วทุกตัวคน | แต่ล้วนพลแขกชวามลายู ฯ |
๏ พระทรงฟังเรื่องศึกนึกถวิล | ไม่รู้สิ้นการนครจนอ่อนหู |
แล้วตรัสสั่งเสนาใหญ่ให้ไปดู | ทุกป้อมคูปากน้ำที่สำคัญ |
จงกะเกณฑ์กองทัพไปนับหมื่น | ทหารปืนกรมแสงล้วนแข็งขัน |
พวกดั่งดาบทวนง้าวสักเก้าพัน | ทั้งกริชสั้นเสโล่โตมรา |
ที่ปากน้ำสำคัญอยู่แห่งหนึ่ง | เอาโซ่ขึงค่ายคูดูรักษา |
พรุ่งนี้เช้าตัวเราจะยาตรา | เอาปืนผายิงไปให้เป็นจุณ |
สินสมุทรสุดสาครบวรนาถ | พ่อเปรื่องปราดจงนำกลับเป็นทัพหนุน |
ทั้งลูกดินขนลงไปไว้เป็นทุน | เดชะบุญสวัสดีคงมีชัย |
พระสั่งเสร็จแล้วเสด็จยุรยาตร | ขึ้นปราสาทสั่งรำภาอัชฌาสัย |
พี่จะยกแสนยารีบคลาไคล | เจ้าจงไปบอกกล่าวเสาวคนธ์ |
ให้ดูแลรั้ววังในจังหวัด | แม้นข้องขัดสิ่งไรใช้พหล |
อย่าไว้ใจไพรีนีฤมล | ให้ผู้คนนายหมวดตรวจระวัง ฯ |
๏ จะกล่าวฝ่ายมังคลานราราช | กับครูบาทหลวงสมอารมณ์หวัง |
จะยกเข้าคราวนี้ตีประดัง | ให้กระทั่งเมืองด่านชานกำแพง |
ถึงโซ่ตรึงขึงตรึงตราไว้หน้าป้อม | เข้าไปพร้อมช่วยกันให้ขันแข็ง |
เอาน้ำกรดรดลงไปเป็นไฟแดง | โซ่คงแข็งขาดป่นไม่ทนทาน |
แล้วยิงปืนจังกาประดาใส่ | พลไพร่ถ้วนทั่วตัวทหาร |
โดดขึ้นฝั่งไล่ฟันประจัญบาน | ตีเอาด่านเสียให้ได้ดังใจปอง |
แกสั่งเสร็จกลับเข้าไปท้ายบาหลี | ขึ้นเก้าอี้กินเหล้ากับเข้าของ |
สบายใจหมายสมอารมณ์ปอง | นั่งตรึกตรองนึกกระหยิ่มอิ่มในใจ ฯ |
๏ จะกล่าวฝ่ายในลังกาอาณาจักร | ทหารพรักพร้อมพรั่งนั่งไสว |
คอยจอมนครินทร์ปิ่นเวียงชัย | มาพร้อมในหน้าพระลานชานชลา ฯ |
๏ ป่างพระจอมจักรพงศ์องค์กษัตริย์ | จากแท่นรัตน์แต่งองค์ทรงภูษา |
แล้วสวมเครื่องพิชัยยุทธ์บุษรา | ทรงมาลาสำหรับประดับนิล |
ฉลององค์พื้นดำกำมะหยี่ | ขัดกระบี่เพราะเพริศดูเฉิดฉิน |
เสด็จประทับเกยชลาหน้าบุรินทร์ | มาพร้อมสิ้นทั้งพระวงศ์พงศ์ประยูร ฯ |
๏ ฝ่ายโหรามาพร้อมน้อมประณต | เฉลิมยศในพระปิ่นบดินทร์สูร |
พอได้ฤกษ์ตามตำรับแล้วกราบทูล | พวกประยูรลั่นฆ้องกลองประโคม |
พระเสด็จทรงรถาเสนาแห่ | เสียงสังข์แตรก้องกึกอยู่ฮึกโหม |
พวกทหารยิงปืนครึกครื้นโครม | พลโหมโห่เร้าจะเอาชัย |
สารถีตีม้าอาชาชาติ | ระดาดาษธงธิวปลิวไสว |
ตรงไปด่านธารท่าชลาลัย | สองหน่อไทกระบวนหนุนเร่งขุนพล ฯ |
๏ ข้างฝ่ายพระมังคลานราราช | กับครูบาทหลวงสันทัดจัดพหล |
ให้ออกลำกำปั่นรบสมทบพล | เร่งพหลแขกชวามลายู |
ให้เข้าตีเชิงชานด่านปากน้ำ | ยิงปืนซ้ำเสียงลั่นสนั่นหู |
เอาน้ำกรดเข้ารดสายโซ่ดู | เป็นช่องคูขาดป่นไม่ทนทาน |
เรือกำปั่นแล่นเข้าไปได้สะดวก | แกเร่งพวกแขกชวาโยธาหาญ |
ให้ขึ้นตั้งค่ายล้อมป้อมปราการ | ตีเอาด่านให้จงได้เร่งไพร่พล ฯ |
๏ จะกล่าวฝ่ายข้างพระยารักษาด่าน | ขับทหารขึ้นป้อมพร้อมพหล |
ให้ยิงปืนใหญ่น้อยคอยประจญ | เสียงผู้คนครื้นครั่นสนั่นดัง |
หลอมตะกั่วคั่วทรายเอาปรายสาด | ดูเกลื่อนกลาดซ้ายขวาทั้งหน้าหลัง |
พวกพหลพลชวาดาประดัง | กรูขึ้นฝั่งยกล้อมป้อมกำแพง ฯ |
๏ ฝ่ายพระจอมมังคลานราราช | กับครูบาทหลวงขึ้นม้าดูกล้าแข็ง |
ให้ตั้งค่ายริมท่าหน้ากำแพง | เอาทองแดงทำวิหลั่นกั้นลูกปืน |
บาทหลวงถอยลงมาหลังคอยรั้งท้าย | ทหารรายเดินแซงล้วนแข็งขืน |
พวกชวากล้าหาญชำนาญปืน | ยิ่งครึกครื้นเสียงดังก้องกังวาน |
พวกในเมืองเปิดประตูกรูกันออก | ถือดาบหอกเดินกระบวนล้วนทหาร |
ตะลุมบอนฟอนฟันประจัญบาน | พลทหารแขกชวาเข้าราวี |
บ้างแทงฟันกันตายลงเกลื่อนกลาด | สังฆราชร้องเร่งสารถี |
ให้ขับรถเร็วหวาตีพาชี | ไปถึงที่พวกทหารเข้าราญรอน |
แกว่งกระบี่แม่ทัพสำหรับยุทธ์ | แกเร่งรุดเหล่าทหารชาญสมร |
ใครถอยหลังเหหันจะฟันฟอน | แล้วคอยต้อนพลรบสมทบกัน ฯ |
๏ ฝ่ายชาวเมืองเปลืองกำลังถอยหลังกลับ | แตกย่อยยับเสียพหลพลขันธ์ |
ทั้งไพร่นายตายทับลงนับพัน | ต้องกลับหันเข้าในด่านชานบุรี |
ปิดประตูลงเขื่อนแล้วเตือนต้อน | ราษฎรให้เข้าไปกรุงศรี |
ตาบาทหลวงอิ่มใจเห็นได้ที | เร่งให้ตีกองรบสมทบพล |
เอาปืนใหญ่ยิงประตูกรูกันเข้า | เอาไฟเผาเมืองด่านชานสิงหล |
พวกชาวเมืองต่อต้านไม่ทานทน | ก็แตกย่นจากด่านชานนคร |
บ้างฉวยได้เชิงกรานทิ้งบ้านช่อง | ที่เก็บของเรียกลูกแบกฟูกหมอน |
ของสำคัญเก็บเอาไปจะได้นอน | แม่ลูกอ่อนผัวพาเข้าป่าไป ฯ |
๏ บาทหลวงตีได้ด่านชานสมุทร | เข้ายั้งหยุดโยธาได้อาศัย |
จึงให้หาพวกทหารอันชาญชัย | ทั้งนายไพร่พร้อมหน้ามาหารือ |
เราจะยกเข้าไปชิงเอาสิงหล | พวกคงทนแขกฝรั่งมีบ้างหรือ |
อยู่อาวุธสาตราจงหารือ | จะให้ถือแหลนหลาวกับง้าวทวน |
เป็นเสือป่าแมวเซาเข้าสมทบ | ตีประจบวิ่งกลมเหมือนลมหวน |
สำหรับตีตัดทอนต้อนกระบวน | ให้ถี่ถ้วนสารพัดตัดเสบียง |
เสนาแขกรับว่าอย่าวิตก | เปรียบเหมือนนกกลางหาวบินก้าวเฉียง |
พวกชวาเคยสันทัดตัดเสบียง | ไม่หลีกเลี่ยงเคยประจญรณรงค์ |
บาทหลวงเฒ่าเจ้าความคิดสมจิตหมาย | จะอุบายเอาให้สมอารมณ์ประสงค์ |
คิดเอาเมืองให้ได้ดั่งใจจง | ถึงจะลงทุนไว้ก็ให้ปัน |
ไปเบื้องหน้าหากำไรคงได้ดอก | ถึงเสียจอกนานไปคงได้ขัน |
คิดเอาใจเหล่าทหารชาญฉกรรจ์ | ให้เค็มมันถึงใจคงได้การ ฯ |
๏ จะกล่าวกลับทัพพระศรีสุวรรณราช | ระดาดาษเดินพหลพลทหาร |
รู้ว่าเสียปากน้ำยิ่งรำคาญ | ทั้งอาหลานเร่งรัดจัตุรงค์ |
ถึงชายป่าหยุดยั้งให้ตั้งค่าย | โดยพิชัยสงครามตามประสงค์ |
พยัคฆ์นามสามค่ายริมชายดง | ปักเทียวธงเสือคำรามตามตำรา |
แล้วสั่งให้พวกทหารชำนาญรบ | เร่งสมทบหลายหมื่นถือปืนผา |
ทั้งปลัดหัสกันวิลันดา | พวกอาสาเกณฑ์หัดเร่งจัดแจง |
พรุ่งนี้เช้าฤกษ์ดีจะตีด่าน | ฟังอาการข้าศึกอย่านึกแหนง |
จะรบสู้ในระหว่างที่กลางแปลง | แม้ต่อแย้งมีชัยแก่ไพรี |
แล้วสั่งพวกม้าใช้ให้ไปนัด | จงเร่งรัดออกมารบอย่าหลบหนี |
พวกม้าเร็วรีบไปบอกไพรี | ครั้นถึงที่เมืองด่านชานนคร |
บอกกับพวกเฝ้าประตูให้รู้เรื่อง | ว่าบาทเบื้องบพิตรอดิศร |
ให้เรามานัดการจะราญรอน | จงรีบร้อนเข้าไปแจ้งแสดงความ ฯ |
๏ นายประตูรีบเข้าไปที่ในด่าน | แล้วแจ้งการตามกระทรวงบาทหลวงถาม |
ว่าเขามาอยู่ที่ไหนเร่งไปตาม | แกเรียกล่ามออกมาไว้จะได้แปล ฯ |
๏ ฝ่ายเสนามาบอกพวกม้าใช้ | พาเข้าไปแล้วก็นั่งฟังกระแส |
บาทหลวงเป็นผู้ถามให้ล่ามแปล | ครั้นรู้แน่นัดรบแกตบมือ |
หัวร่อร่าว่าไปอย่าได้ช้า | ยกออกมาแล้วอย่าชิงกันวิ่งตื๋อ |
ไปบอกกับพวกลังกาเร่งหารือ | มารับมือกูไม่กลัวเจ้าตัวดี ฯ |
๏ พวกม้าใช้กลับมาทูลมูลเหตุ | ให้ทรงเดชทราบเบื้องบทศรี |
บาทหลวงแกขู่ขับทับทวี | พูดเป็นทีเยาะหยันจำนรรจา ฯ |
๏ พระทรงฟังสั่งสุดสาครหลาน | จงเตรียมการไว้แต่ดึกเร่งปรึกษา |
กับอาจารย์พรหมพักตร์จักรา | จะตรึกตรากะการสถานใด ฯ |
๏ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ | อภิวาทออกมาแจ้งแถลงไข |
กับท่านครูผู้ประสิทธิ์ฤทธิไกร | เสนาในทวยหาญชาญณรงค์ ฯ |
๏ ฝ่ายท่านพราหมณ์ผู้ชำนาญในทางเวท | จึงแจ้งเหตุตั้งรับเป็นทัพหงส์ |
แล้วสั่งพวกเกณฑ์หัดจัตุรงค์ | ในถือธงสี่หมู่เป็นคู่กัน |
ทั้งเขียวแดงดำม่วงล่วงไปก่อน | อาวุธซ่อนไว้กับกายเร่งผายผัน |
พวกปืนแดงแซงประทับสำหรับกัน | เหล่ากริชสั้นเสโล่โตมรา |
พวกตั้งเขนเกณฑ์ไว้รับพวกทัพหนุน | ขวานญี่ปุ่นทัพชเลยเคยอาสา |
จัดกระบวนล้วนทุกหมวดแล้วตรวจตรา | คอยเวลาเจ้าพิภพจบสกล ฯ |
๏ ป่างพระจอมนรินทร์ปิ่นกษัตริย์ | ครั้นไตรตรัจสุริยาเวหาหน |
สรงวารีชำระประน้ำมนต์ | ทรงเครื่องต้นตามสีรวีวัน |
จับพระแสงเนาวรัตน์ประภัสสร | บทจรนาดกรายค่อยผายผัน |
มาทรงรถพรรณรายลายสุวรรณ | โหราลั่นฆ้องชัยดังใจจง |
ให้เดินทัพแสนยาโยธาหาญ | ก้องสะท้านครบถ้วนกระบวนหงส์ |
เสียงแตรสังข์ดังลั่นสนั่นดง | แล้วโบกธงโห่ร้องก้องกังวาน ฯ |
๏ ฝ่ายบาทหลวงมังคลานราราช | พร้อมอำมาตย์แขกชวาโยธาหาญ |
ให้ยกทัพรีบออกนอกปราการ | จากเมืองด่านเดินพหลพลชวา |
พอถึงทางกลางย่านให้หยุดพัก | เอาธงปักเรียงรายทั้งซ้ายขวา |
บาทหลวงเห็นทัพไทยในลังกา | ยกออกมาหลายหมื่นพื้นฉกรรจ์ |
จึงว่ากับมังคลาสานุศิษย์ | เองจงคิดแยกพหลพลขันธ์ |
เป็นสองทางแม้เข้ารบสมทบกัน | แล้วผ่อนผันตัดหลังอย่ารั้งรอ |
แกสั่งให้ทัพหน้าบรรดาแขก | ตีให้แตกช้าอยู่ไยไฉนหนอ |
ปืนนกสับคาบชุดอย่าหยุดรอ | ต่างวิ่งสอยิงลั่นสนั่นดัง ฯ |
๏ ข้างฝ่ายพวกลังกาเห็นข้าศึก | ก็โหมฮึกรุกไปดั่งใจหวัง |
ปล่อยปืนตับผางผึงเสียงตึงตัง | พวกฝรั่งหนุนแน่นเอาแหลนแทง |
ข้างพวกไทยคอยระวังเอาดั้งรับ | วิ่งขยับเข้าไล่ฟันด้วยขันแข็ง |
ชุลมุนวุ่นวางกันกลางแปลง | บ้างทิ่มแทงกันตายลงหลายพัน |
ทั้งสองฝ่ายตายกลาดลงดาษดื่น | บาทหลวงยืนเร่งพหลพลขันธ์ |
แขกชวากล้าแข็งเข้าแทงฟัน | วิ่งถลันรำกริชไม่คิดตาย |
ทหารไทยป้องกันฟันด้วยง้าว | แตกเป็นเหล่าวิ่งวุ่นบ้างสูญหาย |
ทหารไทยไล่ฆ่าบรรดานาย | แตกกระจายยับย่นไม่ทนทาน ฯ |
๏ บาทหลวงเห็นทัพหน้าโยธาแขก | พากันแตกยับย่นพลทหาร |
เสียน้ำใจไม่รู้แห่งจะแจ้งการ | ดูทหารก็น้อยถอยกำลัง |
เห็นทัพไทยไล่กระชั้นยิ่งครั่นคร้าม | พยายามเห็นไม่สมอารมณ์หวัง |
ถอยเข้าด่านชานชลาละล้าละลัง | ไทยประดังปืนรบสมทบกัน |
พังประตูกรูไล่เข้าในด่าน | เหล่าทหารฟันแทงล้วนแข็งขัน |
แต่ฆ่าพวกแขกตายลงหลายพัน | ศรีสุวรรณเร่งรถบทจร |
เข้าในด่านธารท่าชลาสินธุ์ | สมถวิลบพิตรอดิศร |
พลางเร่งพวกโยธาพลากร | เข้าราญรอนเคี่ยวขับจับคนพาล |
สังฆราชมังคลามาให้ได้ | จะตั้งให้เป็นใหญ่ฝ่ายทหาร |
ต้อนพหลพลขันธ์ประจัญบาน | อลหม่านทัพแขกแตกกระจาย ฯ |
๏ ฝ่ายบาทหลวงมังคลานราราช | ให้หวั่นหวาดคิดไปแล้วใจหาย |
ลงจากรถรีบไปทั้งไพร่นาย | วิ่งกระจายรีบออกนอกประตู |
พวกทัพไทยไล่จับสังฆราช | พระหน่อนาถหยิบตราพระราหู |
ขึ้นกวัดแกว่งแสงปลาบลุกวาบวู | เป็นไฟฟู่แสงสว่างกระจ่างตา |
ทหารไทยไล่รุดต้องหยุดยั้ง | ยืนสะพรั่งดูไปทั้งซ้ายขวา |
เป็นควันพลุ่งรุ่งโรจน์โชตินา | อำนาจตราบังกายทั้งไพร่พล ฯ |
๏ บาทหลวงวิ่งไม่ใคร่ไหวใจจะขาด | ถึงชายหาดแล้วสำเหนียกเรียกต้นหน |
ให้พยุงจูงลงเรือกูเหลือทน | หนีให้พันข้าศึกได้ตรึกตรอง |
แขกฝรั่งทั้งนั้นรีบผันผาย | พาเจ้านายวุ่นวิ่งทิ้งข้าวของ |
ลงเรือได้ให้ตรวจทุกหมวดกอง | เสียข้าวของคนตายลงหลายพัน ฯ |
๏ จะกล่าวฝ่ายทัพบกที่ยกไล่ | ติดตามไปเร่งพหลพลขันธ์ |
ลากปืนใหญ่ขึ้นป้อมพร้อมด้วยกัน | ยิงกำปั่นโจนลงในคงคา |
ที่ถูกเสาเพลาใบหักสะบั้น | คนเหล่านั้นดับชีวังสิ้นสังขาร์ |
ที่จมน้ำมิได้เหลือเป็นเหยื่อปลา | พวกลังกายิงกระหน่ำพอค่ำลง |
บาทหลวงกับมังคลาสานุศิษย์ | เป็นสุดคิดเสียใจเร่งไต้ก๋ง |
ให้ออกเรือรีบไปดั่งใจจง | แล่นไปตรงรีบออกนอกสันดอน |
พอลมตรงส่งท้ายออกได้หมด | ให้แล่นลดเลียบตลิ่งริมสิงขร |
เอาเข็มตั้งไปให้ชิดทิศอุดร | หมายนครใช้ใบไปกำพล ฯ |
๏ จะกล่าวฝ่ายลังกาอาณาจักร | ก็พร้อมพรักเลิกทัพกลับสิงหล |
ชนะศึกจับได้ทั้งไพร่พล | ให้แบกขนเครื่องอาวุธยุทธนา ฯ |
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ | เข้าจังหวัดพร้อมวงศ์เผ่าพงศา |
ให้รางวัลเสนีผู้ปรีชา | แต่บรรดาไปณรงค์ทำสงคราม |
ทั้งพหลพลไพร่นายทหาร | ได้ประมาณทั่วทุกกองทั้งสองสาม |
ที่เลื่อนที่มียศดูงดงาม | สมกับความชอบทั่วทุกตัวคน ฯ |