- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
- คำนำเมื่อพิมพ์ครั้งแรก
- ประวัติสุนทรภู่
- บันทึกเรื่องผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
- อธิบาย ว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่
- ปกิรณะกะประวัติของสุนทรภู่
- ตอนที่ ๑ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๓ ศรีสุวรรณเข้าเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
- ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
- ตอนที่ ๖ ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน
- ตอนที่ ๗ ศรีสุวรรณพยาบาลนางเกษรา
- ตอนที่ ๘ อภิเษกศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๙ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
- ตอนที่ ๑๐ พระอภัยได้นางเงือก
- ตอนที่ ๑๑ นางสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเล
- ตอนที่ ๑๒ พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๓ พระอภัยมณีโดยสารเรือนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๔ พระอภัยมณีเรือแตก
- ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง
- ตอนที่ ๑๖ สินสมุทรพบศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๑๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๑๘ พระอภัยมณีโดยสารเรืออุศเรน
- ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร
- ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรรบกับอุศเรน
- ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๒ พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๓ พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๔ กำเนิดสุดสาคร
- ตอนที่ ๒๕ สุดสาครเข้าเมืองการะเวก
- ตอนที่ ๒๖ อุศเรนตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๗ เจ้าละมานตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๘ สุดสาครตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๓๐ พระอภัยมณีตีเมืองใหม่
- ตอนที่ ๓๑ พระอภัยมณีพบนางละเวง
- ตอนที่ ๓๒ ศรีสุวรรณอาสาตีด่านดงตาล
- ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ
- ตอนที่ ๓๔ นางละเวงคิดหย่าทัพ
- ตอนที่ ๓๕ พระอภัยติดท้ายรถ
- ตอนที่ ๓๖ พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง
- ตอนที่ ๓๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๓๘ นางสุวรรณมาลีข้ามไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๓๙ นางสุวรรณมาลีมีสารตัดพ้อ
- ตอนที่ ๔๐ สุดสาครถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๔๑ นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม
- ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์
- ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม
- ตอนที่ ๔๔ กษัตริย์สามัคคี
- ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร
- ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง
- ตอนที่ ๔๗ อภิเษกสินสมุทร
- ตอนที่ ๔๘ นางเสาวคนธ์หนี
- ตอนที่ ๔๙ นางเสาวคนธ์แปลงเป็นฤๅษี
- ตอนที่ ๕๐ นางเสาวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
- ตอนที่ ๕๑ สุดสาครตามนางเสาวคนธ์
- ตอนที่ ๕๒ พระอภัยมณีทำศพท้าวสุทัศน์
- ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๔ มังคลาชิงโคตรเพชร
- ตอนที่ ๕๕ มังคลาจับนางสุวรรณมาลีและท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๗ สุดสาครรบมังคลา
- ตอนที่ ๕๘ นางละเวงวัณฬาช่วยนางสุวรรณมาลีแลท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๙ พระอภัยมณีศรีสุวรรณไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
- ตอนที่ ๖๑ สังฆราชบาทหลวงเผาเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๒ พระอภัยเข้าเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย
- ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช
- ตอนที่ ๖๕ พระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีทัพไปเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๖๖ วลายุดาครองเมืองสินชัย
- ตอนที่ ๖๗ วายุพัฒน์เป็นอุปราชเมืองเซ็น
- ตอนที่ ๖๘ หัสกันครองเมืองสุลาลัย
- ตอนที่ ๖๙ พระอภัยมณีเยี่ยมศพนางมณฑา
- ตอนที่ ๗๐ พระมังคลายกทัพเรือมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
- ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๗๔ ทัพพันธมิตรเมืองกำพลเพชรยกมาช่วยพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๕ พระมังคลาล่าทัพไปถึงเกาะกาหวี
- ตอนที่ ๗๖ ทหารเมืองกำพลเพชรตามนางกฤษณาพบพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๗ พระมังคลาได้นางดวงแขลูกสาวเจ้าเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๗๘ อภิเษกพระกฤษณากับนางเทพินไปครองเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
- ตอนที่ ๘๐ พระมังคลายกทัพเมืองสำปันหนาไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
- ตอนที่ ๘๒ โจรสลัดคุมกำปั่นปล้นเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๘๓ ศรีสุวรรณมาช่วยเมืองรมจักรรบโจรสลัด แล้วอภิเษกตรีพลำกับอัมพวันและเทวัญกับนิลกัณฐี
- ตอนที่ ๘๔ พระมังคลากับพระบาทหลวงแตกทัพไปเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ
- ตอนที่ ๘๕ พระมังคลาไปถึงเมืองโรมพัฒน์ได้นางบุษบง
- ตอนที่ ๘๖ พระบาทหลวงกับพระมังคลายกทัพเรือเมืองโรมพัฒน์ไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๗ สุดสาครทราบข่าวศึก
- ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา
- ตอนที่ ๘๙ ทัพสุดสาครตีทัพพระมังคลาพ่าย จนเทวสินธุ์ตามไปถึงเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๙๐ ท้าวรายากับพระเทวสินธุ์ไปถึงเมืองกำพลเพชร แล้วยกทัพไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๙๑ หกกษัตริย์ยกทัพมาช่วยเมืองลังกาทำศึก
- ตอนที่ ๙๒ พระบาทหลวงรบศึกหกกษัตริย์จนลมแดงซัดเรือรบพลัดกัน
- ตอนที่ ๙๓ สุดสาครตีเมืองด่านแตก
- ตอนที่ ๙๔ พระเทวสินธุ์พบพระมังคลาจนเจ็ดกษัตริย์เตรียมรบ
- ตอนที่ ๙๕ พระมังคลากับพระบาทหลวงยกทัพเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๙๖ ทัพเจ็ดกษัตริย์ตีทัพพระบาทหลวงแตก
- ตอนที่ ๙๗ พระบาทหลวงเตรียมตีเมืองปากน้ำคืน
- ตอนที่ ๙๘ พระบาทหลวงขับท้าวรายากับนางบุษบงไปจากกองทัพ จนพระมังคลาหนี
- ตอนที่ ๙๙ พระบาทหลวงยกเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๑๐๐ สินสมุทรตีทัพพระบาทหลวงจนถูกยาเบื่อ
- ตอนที่ ๑๐๑ พระอภัยมณีเยือนลังกา
- ตอนที่ ๑๐๒ พระบาทหลวงปล่อยโคมไฟไปตกเมืองลังกา จนถึงพระอภัยมณีห้ามทัพ
- ตอนที่ ๑๐๓ หกกษัตริย์ตีโต้ทัพพระบาทหลวงล่าไปเมืองปตาหวี
- ตอนที่ ๑๐๔ พระอภัยมณีกลับไปเขาสิงคุตร
- ตอนที่ ๑๐๕ อภิเษกหัสกันกับนางวันชายา
- ตอนที่ ๑๐๖ พระอภัยมณีไปเยี่ยมนางเงือกที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๐๗ พระบาทหลวงเข้าเมืองปตาหวีแล้วตามไปพบพระมังคลาที่เมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๐๘ พระมังคลาและนางบุษบงออกมารับพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๐๙ ท้าวโกสัยบอกพระมังคลาให้รู้อุบายพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๐ พระบาทหลวงตีด่านเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๑๑ พระมังคลามีสารง้อศรีสุวรรณสุดสาครและสินสมุทร ให้มาช่วยรบพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๒ ทัพพระมังคลารบกับทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๓ ทัพศรีสุวรรณกับสี่กษัตริย์ตีกระหนาบทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๕ ศรีสุวรรณกับพวกพาพระมังคลากลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๗ พระมังคลาไปงานโสกันต์ระเด่นกินเรศ
- ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง
- ตอนที่ ๑๑๙ สุดสาครไปเยี่ยมนางเงือกและพระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๒๐ สุดสาครกลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๓ เจ็ดกษัตริย์ยกทัพมาตีเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๔ นรินทร์รัตน์ขอราเมศมาเป็นอุปราชกรุงรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๕ นรินทร์รัตน์กับราเมศมาช่วยเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๖ เจ็ดกษัตริย์ตายสี่หนีสาม
- ตอนที่ ๑๒๗ นรินทร์รัตน์หลงนางเกศพัฒน์เมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๘ อภิเษกพระราเมศกับนางดวงประภา
- ตอนที่ ๑๒๙ ภัทวงศ์ไปไหว้เทวรูปจนพบนางเกสรสุมาลัย
- ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์
- ตอนที่ ๑๓๑ พระสังฆราชบาทหลวงยกทัพมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๓๒ ตัดหางสุพรรณมัจฉาแล้วสถาปนาเป็นจันทวดีพันปีหลวง
ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
๏ ฝ่ายจอมพงศ์องค์อาอยู่หน้าป้อม | เห็นพรั่งพร้อมไพร่พหลพลขันธ์ |
สั่งหน่อนาถราชนัดดาอยู่ช้าพลัน | ออกช่วยกันทันเห็นจะเป็นการ |
สินสมุทรสุดสาครออกต้อนไพร่ | ทั้งหัสไชยกฤษณาล้วนกล้าหาญ |
ต่างทรงสิงห์มิ่งม้าอาชาชาญ | ตีฆ้องขานโห่ลั่นเสียงครั่นครึก |
พวกโยธีสี่ทัพนั้นนับแสน | ปืนหามแล่นลากล้อเข้าต่อศึก |
เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทื้อนสะทึก | กำดัดดึกเดือนสว่างในกลางคืน |
พวกผลึกลังกาแขกฝาหรั่ง | ถือแตะบังตัวตนคนละผืน |
ไว้สำหรับทับขวากที่ฟากพื้น | บ้างยิงปืนปีนค่ายทลายฟัน ฯ |
๏ พวกในค่ายไล่ทหารขึ้นราญรับ | บ้างสวนทัพคอยแทงล้วนแข็งขัน |
บ้างปล่อยตับทัพชนวนบ้างสวนควัน | พวกคนธรรพ์แทงฟาดด้วยสาตรา |
ถอนทลายค่ายพังฝรั่งแขก | เข้าลุยแหลกแหกค่ายเข้าซ้ายขวา |
ไล่คนธรรพ์กันลงในคงคา | ฝ่ายพวกฝาหรั่งรุมตะลุมบอน |
ด้วยพวกเพชรกำพลผู้คนน้อย | บ้างลงลอยน้ำหนีบ้างขี่ขอน |
พวกทัพเรือเหลือพหลพลนิกร | ต่างรีบร้อนถอนสมอขันช่อใบ |
เมื่อกลางคืนปืนฝรั่งยิงพังค่าย | เสียงเหมือนสายฟ้าผ่าสุธาไหว |
พระมังคลาให้พะว้าพะวังใจ | ถอยทหารราญไล่รุกรบมา |
พอเช้าตรู่ดูค่ายทลายแหลก | ค่ายเรือแตกแยกย้ายไปซ้ายขวา |
เรือผลึกรมจักรนัครา | ทั้งเรือการะเวกพร้อมห้อมล้อมรบ |
เหลือกำลังมังคลานั่งหน้าจ๋อย | เที่ยวแล่นลอยหากันเข้าบรรจบ |
ทั้งหลีกปืนคลื่นซ้ำจนค่ำพลบ | ต้องถอยทบหลบไปข้างต้นทางมา |
ฝ่ายเรือตามสามทัพก็กลับหลัง | เช้าจอดฝั่งต่างก็ขึ้นเก็บปืนผา |
ฝ่ายพวกพ้องกองทัพวลายุดา | กับทั้งวายุพัฒน์หัสกัน |
ต่างเข้าฝั่งลังกาปรึกษาพร้อม | จะนอบน้อมบิตุเรศคืนเขตขัณฑ์ |
พระวลาวายุพัฒน์หัสกัน | เข้าเฝ้าพระศรีสุวรรณจำนรรจา ฯ |
๏ ข้าทั้งสามความผิดได้คิดคด | ทรยศโยโสขอโทษา |
จะขอเป็นเกือกทองรองบาทา | สนองคุณมุลิกาข้างหน้าไป |
ศรีสุวรรณครั้นเห็นพระลูกหลาน | แสนสงสารเสนหาตรัสปราศรัย |
แต่หนหลังยังเยาว์คิดเบาใจ | เดี๋ยวนี้ใหญ่อย่าให้เป็นเหมือนเช่นนั้น |
แล้วแย้มเยื้อนเอื้อนอรรถดำรัสสอน | สินสมุทรสุดสาครคิดผ่อนผัน |
แล้วให้วลาวายุพัฒน์หัสกัน | อภิวันท์สินสมุทรสุดสาคร |
แล้วก็ให้ไหว้พระหัสไชยว่า | เขาเป็นอานะจงฟังเธอสั่งสอน |
สามรับสั่งบังคมประนมกร | ต่างอวยพรภิญโญเดโชชัย ฯ |
๏ อันเรื่องราวกล่าวความสามหน่อนาถ | ล้วนวงศ์ญาติชาติเชื้อในเนื้อไข |
ครั้นเข้าหาพาทีก็ดีไป | ตามวิสัยสุริย์วงศ์เผ่าพงศ์พันธุ์ ฯ |
๏ ฝ่ายฝรั่งมังคลาซึ่งล่าทัพ | คอยรอรับเรือพหลพลขันธ์ |
ถึงเกาะใหญ่ใต้ลังกาทางห้าวัน | จึงหยุดจอดทอดกำปั่นเป็นหลั่นลอย |
ที่เรือแตกแยกคลาดตรึงกราดเหล็ก | ทั้งเรือเล็กเรือใหญ่เรือใช้สอย |
ให้นับเรือเหลือตามมาสามร้อย | ตั้งรอคอยกองทัพหยุดยับยั้ง |
คนทั้งหลายนายไพร่เจ็บไข้ผอม | คิดรวมรอมพร้อมทัพจะกลับหลัง |
สิ้นข้าวปลาพากันต้มขนมปัง | องค์พระมังคลาอุราระกำ |
เป็นไข้ใจไม่มีสุขด้วยทุกข์ร้อน | จะนั่งนอนถอนสะอื้นทุกคืนค่ำ |
ให้หิวโหยโรยราจนหน้าดำ | บาทหลวงพร่ำนั่งสอนให้หย่อนคลาย |
อย่าทุกข์นักหักจิตคิดมานะ | อุตสาหะจะได้สมอารมณ์หมาย |
เมื่อทัพแตกแรกหนีมีแต่กาย | เที่ยวขวนขวายร่ายเร่พเนจร |
จนได้ผ่านบ้านเมืองรุ่งเรืองเดช | ทั่วประเทศเกรงจบสยบสยอน |
อันวิสัยในการจะราญรอน | ต้องผันผ่อนแพ้ชนะอย่าละเพียร |
แต่องค์พระนารายณ์ยังพ่ายศึก | จงตรองตรึกศึกษาตำราเขียน |
อุตส่าห์ดูที่ตำรับฉบับเรียน | อย่าวนเวียนเพียรเอาเมืองให้เลื่องลือ |
พระฟังเตือนเหมือนหนึ่งหยิบน้ำทิพรส | เห็นดีหมดอตส่าห์นั่งดูหนังสือ |
ที่ตื้นลึกปรึกษาได้หารือ | จะชิงชัยไว้ชื่อให้ลือชา |
ท่านยายแก่แม่เลี้ยงอยู่เคียงข้าง | ไม่เริศร้างห่างเหเสนหา |
ด้วยขัดขวางกลางชเลทุกเวลา | จนนางพระยานารีนั้นมีท้อง |
ด้วยระดูรู้ในน้ำใจหญิง | จะบอกจริงกริ่งกลัวผัวจะหมอง |
อยากเปรี้ยวเปรี้ยวให้เที่ยวหาผักมาดอง | ให้ท้อแท้แพ้ท้องอยู่ห้องใน ฯ |
๏ ศรีสุวรรณครั้นเห็นศึกเว้นว่าง | ค่อยเสื่อมสร่างเศร้าหมองผุดผ่องใส |
พาหน่อนาถราชนัดดากับข้าไท | เสด็จไปเขาสิงคุตรที่กุฎี |
พากันเข้าเฝ้าองค์พระทรงพรต | น้อมประณตทูลความสามฤๅษี |
ว่านัดดาพากันมาอัญชลี | ด้วยภักดีโดยจริงทุกสิ่งอัน |
แล้วทูลความตามศึกที่ฮึกเหิม | จะต่อเติมเพิ่มพหลพลขันธ์ |
เพราะยายเฒ่าเจ้าประเทศเขตคนธรรพ์ | มาด้วยมันแม่เลี้ยงเคียงประคอง ฯ |
๏ ฝ่ายสามองค์ทรงพรตสู้อดจิต | มิใช่กิจผิดระบอบไม่ตอบสนอง |
แต่ปราศรัยไต่ถามตามทำนอง | ถึงพวกพ้องญาติวงศ์เผ่าพงศ์พันธุ์ |
เสือกกระบะสลาออกมาตั้ง | แล้วนิ่งนั่งหวังจะเลยเสวยสวรรค์ |
สอนวลาวายุพัฒน์หัสกัน | อย่าดุดันหันหวนไม่ควรการ |
อันกำเนิดเกิดตายทั้งชายหญิง | ไม่มีสิ่งแน่นแฟ้นเป็นแก่นสาร |
จงนึกในไตรลักษณ์มรรคญาณ | พระนิพพานนั้นแหละนะแสนสบาย |
อันวิสัยในโลกโสโครกครบ | คืออาศพอสุภังสิ้นทั้งหลาย |
จงคิดปลงลงให้เห็นที่เป็นตาย | อันร่างกายกลายเป็นพระอนิจจัง |
จึงลุงป้าย่าปู่นี้สู้อด | เห็นปรากฏยศคือยุคะทุกขัง |
ถึงจะห้ามปรามใครก็ไม่ฟัง | เหลือจะสั่งสอนซ้ำให้รำคาญ |
ด้วยลูกดื้อถือทิฐิติแม่พ่อ | ผ่าเหล่ากอเกเรเดรฉาน |
เพราะคบพาลพาหลงล้างวงศ์วาน | ถ้าคบท่านชาญฉลาดเป็นปราชญ์ดี |
เอ็งอุตส่าห์หาครูที่รู้หลัก | อยู่สำนักจะได้เลิศประเสริฐศรี |
ถึงยากเย็นเช่นกับกูเป็นมุนี | อยู่กุฎีมีสุขทุกเวลา |
บรรดาฟังทั้งพระอารับสาธุ | ยังไม่ลุก็แต่พระกฤษณา |
พอเทพินผินมาปะนัยนา | ค่อยหลีกเลี่ยงเมียงมาหาห้ามุนี |
ตรีพลำอัมพวันพระเทวัญ | เทพเทพินนิลกัณฐีฤๅษี |
ทำยิ้มพรายชายตาแล้วพาที | พระอยู่ดีดอกหรือจ๋าทั้งห้าองค์ |
ขอส่วนบุญคุณช่วยฉันด้วยมั่ง | ให้สมหวังดังจิตคิดประสงค์ |
ฉันรำลึกนึกในน้ำใจจง | เสร็จณรงค์คงจะลารักษาพรต |
มาอยู่ด้วยช่วยกันฉันลูกไม้ | ก็จะได้ไปสวรรค์ด้วยกันหมด |
หรือลืมหลังหวังสวรรค์ชั้นโสฬส | พระดาบสบอกบ้างอย่างหมางเมิน ฯ |
๏ ฝ่ายฤๅษีสี่องค์ว่าทรงศีล | ตรวจวารินรำพันสรรเสริญ |
นึกอวยชัยให้พระองค์จงจำเริญ | จึ่งจะเชิญเชษฐารักษาพรต |
เทพินพี่ปรีชาว่ามาบวช | ถือศีลสวดภาวนาตามดาบส |
แบ่งผลาอานิสงส์ให้ทรงยศ | ด้วยปรากฏทศทิศเป็นนิรันดร์ |
พระกฤษณาสาธุสะพระนักสิทธ์ | ฉันนี้คิดเลื่อมใสเฝ้าใฝ่ฝัน |
จะบวชบ้างสร้างสมพรหมจรรย์ | ไปสวรรค์ชั้นเดียวกันเจียวจริง |
พระฤๅษีสององค์ทรงพระสรวล | พี่สาวม้วนเมินหน้าประสาหญิง |
ต่างพูดจาปราศรัยไว้ประวิง | ไม่สิ้นสิ่งเสนหาด้วยอาลัย |
พระกฤษณาว่าพระตรีพลำจ๊ะ | เจ้าคุณจะบวชตะบึงไปถึงไหน |
มาอยู่ป่าช้านานสำราญใจ | นิมนต์ไปชมมั่งเมืองลังกา |
ฟังไกกลดนตรีมีต่างต่าง | ดุริยางค์ช่างเสนาะเพราะหนักหนา |
ฉันนิมนต์ปรนนิบัติด้วยศรัทธา | ฉันในวังลังกาทังห้าองค์ |
พระฤๅษีตรีพลำรับคำจ๊ะ | ต้องกิจพระจะไปตามความประสงค์ |
แล้วทูลความสามนักสิทธ์บิตุรงค์ | ตามจำนงพระจะไปตามความประสงค์ ฯ |
๏ สามดาบสอดยิ้มพริ้มพระพักตร์ | ด้วยเดิมรู้อยู่ว่ารักกันหนักหนา |
ไม่ห้ามปรามตามคหัสถ์เขาศรัทธา | ราธนาพากันไปเป็นไรมี |
ศรีสุวรรณกลั้นสรวลพลอยชวนด้วย | ฉันจะช่วยเข้าทำบุญคุณฤๅษี |
พอจวนค่ำอำลาห้ามุนี | ต่างเข้าที่อาศรมต่างห่มดอง |
ชฎาทรงวงกระหวัดจีบจัดยอด | ประคำสอดสวมพระหัตถ์ถือพัดป้อง |
องค์พี่สาวก้าวจรจรัลเทวัญรอง | ที่สามน้องนิลกัณฐีตรีพลำ |
อัมพวันนั้นอยู่หลังพร้อมทั้งห้า | เยื้องยาตราน่าชมล้วนคมขำ |
ค่อยเรียงรอจรลีบริกรรม | พี่ชายนำห้าองค์มาทรงรถ |
สานุศิษย์กฤษณาเป็นสารถี | ห้ามุนีนั่งบัลลังก์มาทั้งหมด |
มาตามทางกลางอรัญริมบรรพต | ข้างหลังรถศรีสุวรรณตามกันมา |
ครั้นราตรีมีประทับที่ยับยั้ง | เขาก่อตั้งตึกรายทั้งซ้ายขวา |
ครั้นแจ่มแจ้งแสงอุทัยเคลื่อนไคลคลา | ชมรุกขาเขียวชอุ่มเป็นพุ่มพวง |
ที่บานแบ่งแมงภู่เวียนวู่ว่อน | เชยเกสรเสาวคนธ์บ้างหล่นร่วง |
พระตรัสใช้ไพร่พลคนทั้งปวง | ให้เก็บดวงพวงผกาสุมาลี |
ทั้งพุดจีบปีบจำปาแก้วกาหลง | พะยอมประยงค์นางแย้มสอดแซมศรี |
รสสุคนธ์มณฑาสารภี | มะลุลีเลือกสรรค์ล้วนจันทน์อิน ฯ |
๏ พระกฤษณาหาดอกรักหักกิ่งโศก | แซมดอกโมกกุหลาบอังกาบกระถิน |
ถวายตรงองค์เทพเทพิน | นางทราบสิ้นสาธุสะโมทนา |
ส่วนมุนีสี่องค์ได้น้อยน้อย | ชะโงกคอยจ้องหัตถ์ริมรัถา |
ต่างฉวยชักหักกิ่งชิงผกา | ลืมรักษากิจกรมพรหมจรรย์ |
ต่างสอดเสียบเรียบร้อยห้อยไว้รอบ | ต่างชื่นชอบชมชวนกันสรวลสันต์ |
ได้ดอกดีตรีพลำให้อัมพวัน | เทวัญนั้นให้กัณฐีต่างชี้ชวน |
เจ้าอามาข้างหลังเห็นทั้งสิ้น | ไม่ติฉันผินผันกลั้นพระสรวล |
ทำไม่เห็นเล่นห้ามตามกระบวน | ด้วยเด็กล้วนรุ่นราวคราวคะนอง |
ถึงเวียงวังลังกาเชิญดาบส | ทั้งห้าองค์ลงจากรถเดินจดจ้อง |
ขึ้นอยู่บนมนเทียรที่เขียนทอง | เหล่าพวกพ้องพงศ์พันธุ์มาวันทา |
เห็นเทพินนิลกัณฐีตรีพลำ | ล้วนน่าชมคมขำล้ำเลขา |
ทั้งแก่สาวชาววังเมืองลังกา | พากันมาเฝ้าแหนดูแน่นนันต์ |
บ้างค่อยว่าน่าชมสมกันสิ้น | พระเทพินกฤษณาหน้าคมสัน |
พระเทวัญกัณฐีพอดีกัน | พระตรีพลำอัมพวันสมกันดี |
พวกท้าวนางต่างห้ามอย่าหยามหยาบ | ไม่กลัวบาปบ้างดอกหรือพระฤๅษี |
ต่างได้ดวงพวงบุปผาสุมาลี | ของใครมีมาบูชาทั้งห้าองค์ |
ครั้นรุ่งเช้าคาวหวานเครื่องอานเพียบ | มาตั้งเรียบเรียงเรียงเหมือนเลี้ยงสงฆ์ |
พร้อมสุรางค์นางนาฏพระญาติวงศ์ | กับทั้งองค์ศรีสุวรรณจำนรรจา |
ประเคนขันสำรับด้วยนับถือ | นิมนต์ฤๅษีฉันด้วยหรรษา |
ของเติมเต็มเอมโอชโภชนา | อิ่มพร้อมกันฉันน้ำชาประหม่าใจ |
แล้วนั่งที่พี่น้องพัดป้องพักตร์ | ด้วยหนุ่มนักนึกพรั่นประหวั่นไหว |
แต่พี่สาวดาวบสสะกดใจ | กระแอมไอให้กระดากอายปากคอ |
ขึ้นยถาว่าจังหวะไม่จะแจ้ง | เสียงสั่นแปร่งแห้งแหบเหมือนแสบคอ |
น้องจะรับสัพพีแล้วรีรอ | ต้องหัวร่อริกริกขิกขิกไป |
พระญาติวงศ์องค์อาพากันสรวล | ต่างสำรวลฤๅษีใช่วิสัย |
แล้วตรวจน้ำอำลาต่างคลาไคล | ครั้นเช้าไปนิมนต์ฉันทุกวันมา |
ครั้นราตรีพี่ชายถวายหวาน | น้ำชุบานท่านฉันต่างหรรษา |
แล้วไขกลดนตรีปี่ชวา | กลองฝรั่งบังกะหล่ามโหรี |
ด้วยสามองค์ทรงศีลถวิลหวัง | พอใจฟังสังคีตข้างดีดสี |
บ้างขันไกไขกลดูดนตรี | ล้วนแรกรุ่นมุนีต่างปรีดา ฯ |