ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา

๏ จะกลับกล่าวเสาวคนธ์วิมลสมร สุดสาครขัตติยาอัชฌาสัย
คอยรอรั้งฟังข่าวสองท้าวไท พอเรือใช้กลับมาทูลอาการ
ว่าฝรั่งลังกาชื่อวายุพัฒน์ กับชื่อหัสกันหนุ่มคุมทหาร
ข้ามมหาสาครมารอนราญ จุดเผาบ้านเมืองไหม้ฆ่าไพร่พล
พังภูเขาเอาเพชรแก้วเก็จได้ จับพวกไพร่ชายหญิงไปสิงหล
พระภูวนาถราษฎรได้ร้อนรน ทุกตำบลบุรีไม่มีสบาย
นางเสาวคนธ์อ้นอั้นให้ตันจิต ยิ่งซ้ำผิดเพิ่มทวีเพราะหนีหาย
แค้นฝรั่งดังอุระจะทลาย พระพี่ชายช่วยว่าอย่าช้าที
เกณฑ์โยธาวาหุโลมเข้าสมทบ ยกไปรบลังกาเถิดมารศรี
ได้แก้แค้นแทนที่มาเผาธานี นางเห็นดีได้คิดแข็งจิตใจ
จึงจัดแจงแต่งคำทำหนังสือ ให้ทูตถือขึ้นไปแจ้งแถลงไข
ฝ่ายอุปราชมาตยาเสนาใน นำเข้าไปทูลตามเนื้อความมี ฯ
๏ เจ้าวาโหมโสมนัสจบหัตถ์รับ เป็นคำนับนับถือพระฤๅษี
แล้วให้อ่านสารว่าพระอัคนี พบพระพี่มาแถลงให้แจ้งการ
ว่าลังกาฝรั่งทำบังอาจ มารบราชนิเวศน์ประเทศสถาน
พระบิตุราชมาตุรงค์ทั้งวงศ์วาน ร้อนรำคาญเคืองแค้นทั้งแดนไตร
จะสึกออกบอกโยมวาโหมด้วย ยกไปช่วยปราบปรามตามวิสัย
ทั้งสองเมืองเบื้องหน้าได้มาไป เป็นมิตรไมตรีกันไม่ฉันทา ฯ
๏ ฝ่ายวาโหมโสมนัสตรัสประภาษ สั่งอำมาตย์มูลนายทั้งซ้ายขวา
พระอัคนีนี้เราคิดเหมือนบิดา จะอาสาซื่อตรงต่อทรงธรรม์
จงเร่งรัดจัดพหลพลทหาร ที่รอนราญเรี่ยวแรงเข้มแข็งขัน
สักห้าหมื่นยืนยงคงกระพัน ทัพหน้านั้นน้องเราเจ้าโอรส
กับเรือใช้ใหญ่น้อยสักร้อยเศษ ไปปราบประเทศลังกาให้ปรากฏ
เสนาฟังพรั่งพร้อมน้อมประณต มารีบจดหมายเวรกะเกณฑ์พล
เป็นโยธาห้าหมื่นถือปืนดาบ ศรกำซาบสู้ศึกได้ฝึกฝน
ใส่หมวกศีรษะกระตั้วทุกตัวคน สาวนเสื้อขนสกุณีขี่ลีลา
เจ้าวาโหมโซมสนานสำราญรื่น สุคนธรสสดชื่นรื่นนาสา
ทรงเสื้อเหลืองเครื่องสำหรับประดับประดา พระมาลางามล้ำทำด้วยทอง
แล้วถือหอกออกมาตรวจตราทัพ ครั้นเสร็จสรรพทรงระมาดผาดผยอง
ยกพลออกนอกเมืองเดินเนืองนอง เสียงฆ้องกลองก้องลั่นสนั่นไป
ตัดทางตรงลงด่านชานสมุทร ประทับหยุดอยู่พลับพลาที่อาศัย
นางเสาวคนธ์อ้นอั้นตันฤทัย ต้องแข็งใจจัดแจงแต่งกายา
เหมือนอย่างพราหมณ์งามพริ้มพระยิ้มเยื้อน นางอิดเอื้อนอายองค์พระเชษฐา
แข็งพระทัยให้พระพี่นำลีลา ออกบัลลังก์นั่งหน้าพลับพลาชัย
สั่งให้หาวาโหมมาก้มกราบ เห็นสุภาพพจนาโปรดปราศรัย
เราลาพรตปลดเปลื้องซึ่งเครื่องไตร ด้วยจะไปรบฝรั่งเมืองลังกา
พระองค์นี้พี่เราจงเคารพ เลิศลบลือฤทธิ์ทุกทิศา
เป็นแม่ทัพรับสั่งฟังบัญชา พึ่งพระเดชเชษฐาข้างหน้าไป ฯ
๏ เจ้าวาโหมโสมนัสไม่ขัดข้อง ประสานสองหัตถ์ประนมบังคมไหว้
หน่อกษัตริย์ตรัสช่วยอำนวยชัย แล้วปราศรัยสนทนาประสาชาย
แกล้งชวนชอบปลอบประโลมวาโหมน้อย ให้เรียบร้อยรักใคร่เหมือนใจหมาย
แล้วว่าเช้าเราจะยกพลนิกาย ให้ไพร่นายลงประจำลำนาวา ฯ
๏ วาโหมฟังบังคมประนมหัตถ์ มารีบจัดพลนิกายทั้งซ้ายขวา
ลงเรือรบครบอาวุธยุทธนา ลำละห้าร้อยถ้วนกระบวนทัพ
เจ้าโอรสคุมทหารด่านปากน้ำ สิบห้าลำลำละร้อยลอยสลับ
ล้วนเรือตระเวนเจนจบเคยรบรับ เป็นกองทัพนำหน้าเจ้าวาหุโลม ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อบพิตรอดิศร สุดสาครเสาวคนธ์วิมลโฉม
ครั้นอุทัยไขสว่างนภางค์โพยม ทรงชโลมสายสหัสนที
แล้วแต่งองค์ทรงเครื่องเรืองระยับ เพชรประดับดวงจำรัสรัศมี
ครั้นสรรพเสร็จเสด็จมาฝั่งวารี พอฤกษ์ดีตีฆ้องก้องโกลา
พระลงลำกำปั่นโห่ลั่นเลื่อน ให้คลาเคลื่อนพลนิกายทั้งซ้ายขวา
ต่างวางเล็มเข็มตั้งตรงลังกา แล้วรีบใช้ใบมาในสาคร ฯ
๏ จะกล่าวพระหัสไชยฤทัยระทด โศกกำสรดสุดเสียดายสายสมร
มาอยู่วังดังอยู่ในกองไฟฟอน จะนั่งนอนร้อนรนกระวนกระวาย
คิดถึงน้องสององค์ที่จงรัก จนจวนจักได้สมอารมณ์หมาย
มาจำใจไกลแดนแสนเสียดาย มิได้วายหวั่นสะอื้นทุกคืนวัน
พอกองนอกบอกเรื่องเมืองผลึก ว่าข้าศึกตีได้ไอศวรรย์
อันองค์พระมเหสีบุตรีนั้น ฝรั่งมันจับไปขังไว้ลังกา ฯ
๏ พระทราบข่าวผ่าวร้อนอาวรณ์สวาท เหมือนแขนขาดจากกายทั้งซ้ายขวา
อั้นอารมณ์ลมจับวับวิญญาณ์ พวกเสนานวดฟั้นค่อยบรรเทา
จึงทูลองค์ทรงฤทธิ์บิตุราช ลูกเป็นชาติเชื้อชายคิดอายเขา
จะนิ่งให้อ้ายศัตรูมาดูเบา เหมือนหนึ่งเรารับแพ้ไม่แก้แค้น
ลูกขอลาพาทหารไปราญรบ ฟันให้ศพซ้อนซับลงนับแสน
จึงจะได้ไว้ยศได้ทดแทน ถ้ามาตรแม้นเพลี่ยงพลั้งพวกลังกา
จงห้ำหั่นบั่นศีรษะข้าพระบาท ให้สิ้นชาติชีวังสิ้นสังขาร์
ขอพระองค์ทรงพระกรุณา ให้ลูกยายกไปปราบไพรี ฯ
๏ พระจอมวังฟังบุตรสุดสวาท เห็นองอาจออกศึกไม่นึกหนี
จึงว่าพ่อก็ไม่ห้ามแล้วตามที จะไปตีแต่ว่าเจ้าอย่าเบาความ
จงคอยรับทัพผลึกรมจักร ให้ถึงพรักพร้อมพรั่งกันทั้งสาม
อย่าประมาทอาจองในสงคราม แม้คิดความขัดขวางเป็นอย่างไร
จงหยุดทัพยับยั้งบอกหนังสือ ให้ทูตถือมาแจ้งแถลงไข
ไว้ธุระบิดรไม่นอนใจ จะยกไปไล่ล้างให้วางวาย
แล้วตรัสช่วยอวยพรถาวรสวัสดิ์ ให้ปราบศัตรูได้ดังใจหมาย
สวัสดีมีชัยทั้งไพร่นาย อันตรายราคีอย่าบีฑา ฯ
๏ โอรสฟังบังคมบรมนาถ พร้อมอำมาตย์มูลนายทั้งซ้ายขวา
ต่างรีบรัดจัดพหลพลโยธา เป็นเรือห้าร้อยถ้วนกระบวนทัพ
คนประจำลำละร้อยลอยสล้าง มีขุนนางนายหมวดตรวจกำกับ
ปีกซ้ายขวาหน้าหลังแลคั่งคับ เรือสำหรับรองทรงใส่ธงทอง
ที่นั่งครุฑบุษบกกระหนกกระหนาบ เป็นนกคาบเครือวัลย์ผันผยอง
ทั้งใบดาดตาดเหลืองดูเรืองรอง เป็นแถวถ่องเทียบท่าในสาชล ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อนฤเบศร์เกศกษัตริย์ สรงสหัสธาราดั่งห่าฝน
น้ำหอมฟุ้งปรุงประพระสุคนธ์ ทรงเครื่องต้นแต่ล้วนแก้วพรายแพรวพรรณ
ครั้นสรรพเสร็จเสด็จเดินนางเชิญเครื่อง ตามแน่นเนื่องเยื้องย่างดังนางสวรรค์
ลงเรือครุฑหยุดนั่งบัลลังก์สุวรรณ ได้ฤกษ์ลั่นฆ้องโห่เป็นโกลา
ประโคมฆ้องกลองแตรเซ็งแซ่เสียง ออกเรือเรียงลำรายทั้งซ้ายขวา
ได้ลมส่งธงปลิวละลิ่วมา ชาวพาราชื่นช่วยอำนวยพร
พอออกจากปากน้ำรายกำปั่น เป็นดั้งกันเกณฑ์แห่แลสลอน
ทั้งซ้ายขวาหน้าหลังเหมือนมังกร เป็นเจ็ดตอนแล่นตามกันหลามไป ฯ
๏ สงสารหน่อวรนาถราชโอรส โศกกำสรดเศร้าหมองไม่ผ่องใส
เสียดายน้องสองสุดาเหลืออาลัย สายสุดใจจากวังไปลังกา
ต้องกักขังครั้งนี้เจ้าพี่เอ๋ย จะแลเลยลับเนตรของเชษฐา
จะทุกข์ร้อนนอนสะอื้นกลืนน้ำตา ทุกเวลาแลเหลียวจะเปลี่ยวใจ
ทั้งสงสารมารดรจะร้อนจิต จะสุดคิดแค้นน่าเลือดตาไหล
จะซูบผอมตรอมตรมระทมฤทัย การลำบากยากไร้พระไม่เคย
โอ้ป่านนี้พี่น้องจะตรองตรึก จะรำลึกถึงพี่แล้วแก้วพี่เอ๋ย
เป็นเคราะห์กรรมทำไว้ฉันใดเลย จะชวดเชยเช้าค่ำระกำตรอม
สงสารนุชบุตรีเคยมีสุข ถึงยามทุกข์พระรูปจะซูบผอม
ต้องลมแดดแผดส่องจะหมองมอม จะหายหอมเหือดสิ้นกลิ่นสุคนธ์
พี่อุส่าห์มาตามข้ามสมุทร ยังไม่สุดสายทะเลระเหระหน
พอถึงฝั่งลังกาจะพาพล ขึ้นรบจนจะได้น้องสองสุดา
แม้มิได้ไม่กลับกองทัพแล้ว ไม่ละแก้วนัยน์เนตรของเชษฐา
ถึงยงยุทธ์สุดคิดสิ้นฤทธา เกาะลังกานั้นเหมือนกับเรือนตาย
แต่ครวญคร่ำรำลึกสะอึกสะอื้น จะข่มขืนหักรักหักไม่หาย
ดูเวหาว่าเดชะขอพระพาย ช่วยส่งท้ายไปให้ถึงเหมือนหนึ่งนึก
ด้วยรุ่นหนุ่มคลุ้มคลั่งกำลังเคราะห์ เหมือนจะเหาะข้ามน้ำไปทำศึก
ไม่เข้าคุ้งมุ่งหมายออกสายลึก เสียงสะทึกสะท้านคลื่นทุกคืนวัน ฯ
๏ เข้าแว่นแคว้นแดนลังกาเห็นฝรั่ง ตระเวนระวังจังหวัดสกัดกั้น
ไม่รอรั้งสั่งให้รุกรบบุกบัน ยิงกำปั่นปืนปึงตูมตึงตัง
เรือลังกาห้าสิบพวกถีบด่าน ยิงตอบต้านแต่ว่าน้อยต้องถอยหลัง
กองทัพไล่ไม่ละยิงประดัง ถูกฝรั่งเรือทลายล้มตายยับ
ฝ่ายพวกพ้องกองลังกาเรือห้าร้อย ที่ตั้งคอยรายทางสล้างสลับ
รุมระดมสมทบออกรบรับ ยิงกองทัพรับปืนเสียงครื้นครึก
พวกหน่อไทไล่ปะทะตีกระทบ เร่งให้รบรัวกลองเสียงก้องกึก
ไม่ย่อท้อต่อต้านต่างหาญฮึก อึกทึกถึงกันฟาดฟันแทง
พวกกองทัพรับรบรู้หลบเลี่ยง พอเรือเคียงขึ้นกำปั่นล้วนขันแข็ง
ฝรั่งรันฟันฟาดพลิกพลาดแพลง พวกทัพแทงถูกตายลงก่ายกัน
กองลังกาฝรั่งหนุนหลังรบ เรือกระทบทิ่มแทงด้วยแข็งขัน
พวกการะเวกเอกกะระโถมฉะฟัน ปีนกำปั่นรบรุกไล่คลุกคลี
ฝรั่งตายนายไพร่ที่ไม่ม้วย บ้างเจ็บป่วยบอบช้ำโจนน้ำหนี
พวกกองทัพจับได้เรือไพรี สองร้อยยี่สิบลำพอค่ำพลบ ฯ
๏ พระหน่อนาถฆาตกลองหยุดกองทัพ ต่างตีรับเรียกกันเข้าบรรจบ
ทอดสมอรอรั้งตั้งสมทบ ตามขนบนาคราชไม่คลาดคลา
ที่ได้เรือเสื้อหมวกพวกฝรั่ง เสบียงทั้งเครื่องรบครบปืนผา
พอลมเข้าเผาปล่อยให้ลอยมา พายุพาลมประดังเข้าฝั่งชล ฯ
๏ ฝ่ายฝรั่งยังเหลือพวกเรือรบ ต่างหลีกหลบล่าทัพถอยสับสน
กองกำปั่นชั้นในหนีไฟพ้น ทั้งพวกพลบนบกตื่นตกใจ
ประจุปืนยืนรายทุกค่ายตั้ง ออกคับคั่งคอยรบจุดคบไสว
ทุกหมู่หมวดตรวจพลสกลไกร ทั้งนายไพร่พรั่งพร้อมป้อมเสมา
ด้วยมืดมัวกลัวศึกจะฮึกโหม เข้ารุกโรมเรียงยืนจ้องปืนผา
ฝ่ายองค์พระมังคลาวลายุดา กับทั้งวายุพัฒน์เจ้าหัสกัน
ต่างรู้ว่าข้าศึกมาฮึกหาญ ตีเรือด่านแตกเหมือนเสียเขื่อนขัณฑ์
ให้หอคอยปล่อยปืนกะปิตัน ยิงกำปั่นเชื้อไฟเสียให้ยับ
แต่ละลูกถูกกระจายทลายล่ม ลำเรือจมน้ำไปเปลวไฟดับ
เกณฑ์กำปั่นกันฝั่งออกตั้งรับ อย่าให้ทัพรุกมาในราตรี ฯ
๏ ฝ่ายหน่อท้าวเจ้าพาราการะเวก ปรึกษาเอกอำมาตย์ชื่อราชสีห์
เรารั้งรอต่อพอรุ่งขึ้นพรุ่งนี้ ยกเข้าตีเมืองจะเห็นเป็นอย่างไร ฯ
๏ ฝ่ายมหาเสนาปรีชาหาญ จึงทัดทานทูลห้ามตามวิสัย
เราหักด่านวันนี้ก็มีชัย ทั้งนายไพร่พลนิกรอ่อนกำลัง
ทั้งลมเข้าเราจะยกขึ้นบกนั้น ถ้าแม้มันโอบอ้อมออกล้อมหลัง
ระดมปืนฟืนไฟใส่ประดัง จะเสียเรือเหลือกำลังระวังภัย
จงรออยู่ดูทีไพรีก่อน จะแข็งอ่อนผ่อนปรนเล่ห์กลไฉน
เห็นชนะจะได้รุกบุกเข้าไป ตีเมืองใหม่ไล่ล้างให้วางวาย ฯ
๏ หน่อกษัตริย์ตรัสตอบว่าชอบอยู่ ท่านรอบรู้ราชการประมาณหมาย
แล้วสั่งให้ไพร่พหลพลนิกาย ทั้งตัวนายนั่งนอนผ่อนผลัดกัน
แต่พระองค์ทรงนั่งบัลลังก์อาสน์ ไม่ไสยาสน์ยามวิโยคเฝ้าโศกศัลย์
คิดถึงสองน้องน้อยสร้อยสุวรรณ กับทั้งจันทร์สุดาจะอาวรณ์
อ้ายฝรั่งขังไว้แม้ไม่รบ ไหนจะพบน้องหญิงมิ่งสมร
แต่นิ่งนึกตรึกการจะราญรอน จนทินกรรุ่งรางสว่างวัน ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาพวกฝรั่ง อยู่พร้อมพรั่งพวกพหลพลขันธ์
เห็นกองทัพคับคั่งเรือดั้งกัน ดูเรียงรันราวกับนาคปากหางมี
พินิจดูรู้ว่าพวกการะเวก ทหารเอกองอาจดังราชสีห์
จึงปรึกษาฝรั่งว่าครั้งนี้ พวกไพรีรบสันทัดล้วนจัดเจน
จะฆ่าฟันกันตายเสียดายเหลือ มันเหมือนเกลือแกลบจะรุมแลกพุมเสน
จะคิดให้ไพร่นายตายระเนน แล้วสั่งเกณฑ์กลศึกเหมือนตรึกตรา
ให้วายุพัฒน์ลัดล่องเรือสองร้อย รีบไปคอยปิดทางอยู่ข้างขวา
เจ้าหัสกันนั้นกำกับทัพโยธา สองร้อยห้าสิบถ้วนกระบวนรบ
ไปปิดทางข้างซ้ายสายสมุทร คอยยั้งหยุดอยู่ให้เรียบเงียบสงบ
เรือกองกลางข้างละร้อยคอยสมทบ ออกรุกรบล่อให้ไล่ประดัง
เห็นจวนใกล้ได้ทีเรือสี่ร้อย สองข้างคอยโอบอ้อมออกล้อมหลัง
ยิงปืนใหญ่ไฟจุดอย่าหยุดยั้ง เผาเสียทั้งกองทัพให้ยับเยิน ฯ
๏ ฝ่ายอำมาตย์มาตยานัดดาน้อง เห็นดีพร้องพร้อมกันสรรเสริญ
พระทรงยศทศธรรมจะจำเริญ เทพเชิญมาเป็นเจ้าชาวลังกา
แล้วจัดแจงแต่งทัพตามรับสั่ง ค่อยเลียบฝั่งแฝงไปทั้งซ้ายขวา
ฝ่ายองค์พระวลายุดานุชา คอยรักษาฟากฝั่งพร้อมพรั่งกัน
แม้ไพรีหนีตายขึ้นชายหาด ยิงปืนสาดซ้ำฆ่าให้อาสัญ
ฝ่ายกองกลางฟางหญ้าผ้าน้ำมัน ตระเตรียมกันครบทั่วทุกตัวคน ฯ
๏ พอฤกษ์ดีตีฆ้องเรือสองร้อย ออกเรียงลอยแล่นสล้างไปกลางหน
เห็นกองทัพคับคั่งที่วังวน ให้ไพร่พลร้องถามตามอุบาย
เหวยพวกโจรปล้นเรือเชื้อสลัด กูจะตัดเอาศีรษะไปถวาย
มาตีด่านชานสมุทรประทุษร้าย ใครเป็นนายโจรมาพูดจากัน
แม้ไม่ถือดื้อดุลุแก่โทษ จะปล่อยโปรดเสียไม่ฆ่าให้อาสัญ
มิฟังว่าถ้าแม้มึงดึงดื้อดัน จะห้ำหั่นฟันศีรษะเสียบประจาน ฯ
๏ พวกนายกองร้องว่าเหวยฝรั่ง อวดอหังการ์เกเรเดรฉาน
เจ้านายมึงซึ่งเป็นโจรจัณฑาลพาล เที่ยวรุกรานร้ายกาจชั่วชาตินัก
พระปิ่นเกล้าเจ้าพาราการะเวก ให้องค์เอกโอรสทรงยศศักดิ์
มาผลาญเผ่าเหล่ากออ้ายทรลักษณ์ ให้สิ้นพรรคพวกฝรั่งเกาะลังกา
พวกของมึงถึงที่วันนี้แล้ว ไม่คลาดแคล้วคมดาบด้วยบาปหนา
เร่งนบนอบหมอบกรานคลานเข้ามา ให้กูฆ่าโคตรขโมยเสียโดยดี ฯ
๏ พวกลังกาว่าอุแหม่กูแลแปลก อ้ายพราหมณ์แขกกะละหนากะลาสี
พวกการะเวกเลกเชลยกูเคยตี มาก็ดีแล้วจะได้ไว้ใช้การ
อันพวกพ้องของมึงเหมือนหนึ่งบ่าว ใช้ต้มเหล้าสีเสบียงเลี้ยงทหาร
ยังฮึกฮักหักโหมมาโรมราญ เหมือนฝูงฟานจะเป็นภักษ์พยัคฆา ฯ
๏ พระหัสไชยได้ฟังก็คั่งแค้น จะตอบแทนทำศึกจึงปรึกษา
เห็นสมจิตคิดคะเนเถิดเสนา เรือมันมาสองร้อยน้อยกว่าเรา
เข้ารุกโรมโหมหักเสียพักนี้ ระดมตีเมืองใหม่เอาไฟเผา
แม้ละไว้อ้ายศัตรูจะดูเบา เห็นลมเข้าเราจะได้ด้วยง่ายดาย ฯ
๏ ฝ่ายเสนาว่ามันน้อยมาลอยล้อ จะแกล้งล่อให้เราไล่เหมือนใจหมาย
จะรบรุมซุ่มพลกลอุบาย แบ่งแต่นายกองสู้ดูกำลัง
ขอพระองค์จงกำกับเรือทัพใหญ่ เผื่อพวกไพรีจะยกออกวกหลัง
จึงแยกรับทัพละร้อยคอยระวัง แม้ฝรั่งไม่อุบายออกรายรบ
ดูกองหน้าถ้าแม้ยกขึ้นบกได้ จะจุดไฟเป็นสำคัญให้ควันกลบ
ขอพระองค์จงระดมเข้าสมทบ ขึ้นรุมรบไพรีให้มีชัย ฯ
๏ พระเห็นชอบตอบว่าปัญญาลึก คาดข้าศึกสุดดีจะมีไหน
ท่านคุมทัพสัประยุทธ์ขึ้นจุดไฟ ข้างหลังไว้เป็นธุระจะระวัง ฯ
๏ ฝ่ายนายรองกองละร้อยออกถอยรบ ฝรั่งหลบเลี่ยงคอยจะถอยหลัง
ต่างตอบปืนครื้นครั่นสนั่นดัง เสียงตึงตังแตกทะลุปุปะไป
พวกหน่อนาถอาจอุกไล่รุกรบ ฝรั่งหลบหลีกเลี่ยงไม่เคียงใกล้
ที่คลื่นโยนโดนฟัดพวกหัสไชย โดดขึ้นไล่แทงฟันรุมรันรบ
พวกฝรั่งลังกาแกล้งล่าล่อ ไม่อาจรอเรือเคียงหลีกเลี่ยงหลบ
พวกหน่อไทได้ทีตีกระทบ เข้ารุมรบเรือฝรั่งถอยหลังรับ
พระหัสไชยได้ช่องยกกองหลวง เรือทั้งปวงสามร้อยลอยสลับ
ชุลมุนหนุนหลังเข้าคั่งคับ ฝรั่งกลับแล่นหลีกชักปีกกา
วายุพัฒน์หัสกันกำปั่นรบ เลี้ยวตลบล้อมรายรอบซ้ายขวา
ระดมปืนครื้นครั่นเป็นสัญญา ยิ่งลมกล้ากลัดกลุ้มเข้ารุมรบ
พวกโยธาการะเวกเอกอำมาตย์ ล้วนองอาจต่อตีไม่หนีหลบ
ฝรั่งยิ่งยิงระดมเข้าสมทบ ทิ้งเพลิงคบไปแต่ไกลไม่ใกล้ชิด
พวกกองทัพดับไฟมิได้หยุด มันซ้ำจุดเพลิงพลามลุกลามติด
จะแก้ไขไม่หยุดยิ่งสุดคิด ต่างจนจิตโจนลงในคงคา
พวกนายกองร้องว่าเรารีบเข้าฝั่ง ต่างคับคั่งขึ้นตลิ่งวิ่งถลา
ฝ่ายพวกพลบนฝั่งชาวลังกา สกัดหน้าฆ่าฟันให้บรรลัย ฯ
๏ พระหน่อนาถอาจองขึ้นทรงสิงห์ ขึ้นตลิ่งเหลือตายทั้งนายไพร่
คอยรอราท่าพลสกลไกร ที่ขึ้นได้ไม่ตายเป็นหลายพัน
ที่เรือเสียเรี่ยรายขึ้นชายหาด ยังเกลื่อนกลาดวิ่งเวียนวนเหียนหัน
พอโพล้เพล้เวลาจะสายัณห์ เที่ยวหากันขวักไขว่ทั้งไพร่นาย
บ้างถือล้วนทวนธนูคู่ชีวิต หอกดาบติดตัวไว้มิให้หาย
วิ่งหาเพื่อนเกลื่อนกลาดบนหาดทราย บ้างพบนายพบไพร่ดีใจจริง ฯ
๏ พระหัสไชยใจหนุ่มยังชุ่มชื่น อุส่าห์ยืนอยู่ริมฝั่งบนหลังสิงห์
คอยทั้งหลายนายไพร่มิได้ทิ้ง ยิ่งดึกยิ่งมากมาปรึกษากัน
จะรบแก้แต่ว่ายังกำลังอ่อน ต่างหยุดยั้งนั่งนอนคิดผ่อนผัน
ฝ่ายข้าเฝ้าเหล่าฝรั่งริมฝั่งนั้น คอยป้องกันกองทัพจะจับเป็น
ด้วยพลบค่ำกำลังควันยังกลุ้ม ดูมืดคลุ้มทั่วไปมิได้เห็น
ไว้วันรุ่งพรุ่งนี้ถึงหนีเร้น คงจับได้ใช้เล่นเป็นเชลย
แล้วสูบฝิ่นกินแหล้าทั้งบ่าวไพร่ ประมาทใจไม่ระวังนอนนั่งเฉย
สูบกัญชามาระกู่อยู่เหมือนเคย ต่างคนเลยหลับนอนผ่อนสำราญ ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์หัสไชยยังใจชื้น จนกลางคืนคอยคุมชุมนุมทหาร
ให้นับได้ไพร่นายเหลือวายปราณ มากประมาณสามหมื่นยิ่งชื่นใจ
สังเกตดูผู้คนที่บนฝั่ง พวกฝรั่งเงียบระงับนอนหลับใหล
กำดัดดึกปรึกษาเสนาใน เราก็ไม่มีเสบียงจะเลี้ยงพล
จะรบพุ่งรุ่งเช้าข้างเขามาก เราอดอยากสารพัดจะขัดสน
วันนี้ดึกศึกหลับเราขับพล ขึ้นตีปล้นอ้ายฝรั่งรบสั่งลำ ฯ
๏ พวกเสนาว่าเห็นได้ชัยชนะ เดชะบุญคุณพระจะอุปถัมภ์
แล้วสั่งไพร่ใหญ่น้อยให้คอยจำ ผ้าเปียกน้ำโพกหัวทุกตัวคน
จัดพวกพ้องกองละพันสำคัญรบ รู้หลีกหลบล้างศึกเคยฝึกฝน
ค่อยแฝงฝั่งบังไฟทั้งไพร่พล ลอบขึ้นบนบกได้เหมือนใจนึก
เห็นฝรั่งยังหลับอยู่นับหมื่น เก็บหอกปืนเสื้อผ้าพวกข้าศึก
กินเหล้าข้าวคาวหวานยิ่งหาญฮึก ต่างคนนึกแค้นใจพวกไพรี
เที่ยวห้ำหั่นฟันฟาดเสียงฉาดฉับ บ้างคอพับหัวกระเด็นตายเป็นผี
บ้างทิ่มแทงแกว่งขวานผลาญชีวี ลอบฆ่าตีตายดื่นนับหมื่นพัน
ที่รู้สึกคึกคักแล้วผลักเพื่อน เห็นตายเกลื่อนกลับกลัววิ่งตัวสั่น
สะดุดศพทบทับประกับกัน ทหารฟันเจ็บป่วยบ้างม้วยมุด
บ้างร้องว่าข้าศึกสะอึกวิ่ง หกล้มกลิ้งวิ่งปะทะอุตลุด
พวกหน่อไทได้ทีตามตีรุด เอาเพลิงจุดเรือนโรงขึ้นโพลงควัน
ฝรั่งตื่นครื้นครึกข้าศึกไล่ ต่างหลงใหลตลบเวียนวิ่งเหียนหัน
พระมังคลากับวลายุดานั้น วายุพัฒน์หัสกันอยู่ชั้นใน
เสียงครึกครื้นขึ้นเชิงเทินเนินหน้าที่ เรียกมนตรีตรวจกันเสียงหวั่นไหว
หอรบป้อมพร้อมพรั่งระวังภัย เห็นเพลิงไหม้ไพรีเข้าตีพล
ให้ยิงปืนครื้นครั่นกันข้าศึก เสียงก้องกึกโกลาดังห่าฝน
หน่อกษัตริย์หัสไชยเร่งไล่พล ขึ้นปีนปล้นชิงค่ายชายชลา
เหล่าทหารราญรบไม่หลบเลี่ยง เข้าพร้อมเพรียงไพร่นายหนุนซ้ายขวา
ทั้งสองข้างต่างตายวายชีวา จนเวลารุ่งรางสว่างวัน ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาตรวจหน้าที่ เห็นไพรีเรี่ยวแรงเข้มแข็งขัน
ให้นัดดากับวลายุดานั้น ออกช่วยกันไล่ไพร่รบไพรี ฯ
๏ ฝ่ายโยธาการะเวกเอกอำมาตย์ เผ่นพิฆาตข้าศึกไม่นึกหนี
ต่างต่อแย้งแทงฟันประจัญตี ได้ท่วงทีโถมไล่พวกไพร่พล
พวกฝรั่งพรั่งพร้อมล้อมสกัด ต่างพุ่งซัดศัสตราดังห่าฝน
พระหัสไชยไสสิงห์วิ่งเวียนวน เห็นนายพลเผ่นโผนโจนทะยาน
แกว่งพระขรรค์ฟันวลาวายุพัฒน์ ต่างรับรองป้องปัดประหัตประหาร
ทั้งหัสกันหันเหซวนเซซาน ต่างลนลานหลบปนพลไกร
พวกโยธาฝรั่งออกคั่งคับ ช่วยรบรับโรมรันเสียงหวั่นไหว
เข้าหุ้มห้อมล้อมพระหัสไชย ขับสิงห์ไล่ไพร่พลัดกระจัดกระจาย ฯ
๏ จะกล่าวกลับทัพสุดสาครรีบ ถึงทวีปลังกาเวลาสาย
เห็นเพลิงไหม้ไฟกรุ่นดูวุ่นวาย เรือทลายล่มลอยล้วนรอยไฟ
พวกโยธาการะเวกที่ว่ายน้ำ รับขึ้นลำเล่าแจ้งแถลงไข
รู้กระแสแน่ว่าพระหัสไชย รีบตรงไปเข้าฝั่งเกาะลังกา
พระทรงหลังมังกรขึ้นก่อนทัพ รีบควบขับโจนโจมโถมถลา
แลเขม้นเห็นพระอนุชา เข้ารบราฝรั่งกลุ้มตะลุมบอน
แกว่งไม้เท้าน้าวหวดเร็วรวดรบ ข้าศึกหลบล้มทับสลับสลอน
ถูกไพร่นายตายสลบเสือกซบซอน ม้ามังกรกีดกัดฟาดฟัดตาย
พวกโยธาการะเวกเอกอำมาตย์ เห็นหน่อนาถนึกสำเร็จเหนื่อยเหน็ดหาย
กลับโห่ครื้นชื่นใจทั้งไพร่นาย ทั้งขวาซ้ายแทรกซ้อนเข้ารอนราญ ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลโฉม ชวนวาโหมขึ้นบกยกทหาร
ยับโยธาวาหุโลมโถมทะยาน เข้ารุกรานรบฝรั่งเมืองลังกา
กองทมิฬบินบกสูงหกศอก แกว่งดาบหอกหวดฝรั่งดับสังขาร์
ที่เหลือตายพ่ายพังถอยหลังมา ทั้งวลายุพัฒน์เจ้าหัสกัน
เห็นกองหนุนวุ่นวายมาหลายพวก ใส่เสื้อหมวกเหมือนอย่างนกโผผกผัน
ต่างถอยทัพกับฝรั่งสิ้นทั้งนั้น เข้าตั้งมั่นเมืองใหม่ในกำแพง
ขึ้นรักษาหน้าที่ทั้งสี่ด้าน ป้อมปราการเกณฑ์กันล้วนขันแข็ง
ทั้งซ้ายขวาสารวัดตรวจจัดแจง ตามตำแหน่งนายทัพกำกับพล ฯ
๏ ฝ่ายหัสไชยได้ค่ายริมชายฝั่ง ยกเข้าตั้งตามถนัดไม่ขัดสน
มีข้าวน้ำสำหรับแก้อับจน ทั้งเสาวคนธ์เชษฐาสุดสาคร
ยกขึ้นตั้งฝั่งน้ำประจำค่าย พร้อมไพร่นายหลายทัพสลับสลอน
พระหัสไชยไหว้พี่ชลีกร ต่างอวยพรอนุชาแล้วพาที
ถามถึงการบ้านเมืองตามเรื่องหลัง เมื่อฝรั่งรบพุ่งเผากรุงศรี
อนึ่งพระชนกชนนี ยังกริ้วพี่นักหรือจะค่อยประทัง ฯ
๏ น้องคำนับกลับเล่าความเก่าก่อน เหมือนทุกข์ร้อนเรื่องต้นแต่หนหลัง
จนทูลลาพาพลข้ามวนวัง มารบรับกับฝรั่งพวกลังกา
ครั้นเสียเรือเหลือคนเข้าปล้นค่าย ฆ่าไพร่นายตายดื่นได้ปืนผา
ต้องรบพุ่งรุ่งค่ำนั้นร่ำมา หากเชษฐาสององค์ช่วยยงยุทธ์
มันจึงแตกแยกย้ายได้ค่ายตั้ง พอโยธีมีกำลังได้ยั้งหยุด
โน่นพวกไหนได้สมทบช่วยรบรุด ดูดังครุฑบินได้ทั้งไพร่นาย ฯ
๏ ฝ่ายเสาวคนธ์นงเยาว์จึงเล่าเรื่อง เหมือนรบเมืองหมู่ทมิฬสิ้นทั้งหลาย
ตามความหลังตั้งแต่ต้นมาจนปลาย พระน้องชายชอบทีชมพี่นาง
แล้วเสาวคนธ์บ่นว่าแม้ข้าศึก พอจะตรึกตรองกำจัดไม่ขัดขวาง
นี่เหล่ากอหน่อเนื้อเป็นเยื่อยาง จะรบล้างลูกหลานรำคาญใจ
ถึงชั่วช้าทารกจะยกผิด ก็ควรคิดถึงคนดีตามวิสัย
ทูลกระหม่อมจอมกษัตริย์สั่งหัสไชย ให้รอไว้คอยท่าสองธานี
เป็นธุระพระบิดาพาราผลึก จะปราบศึกทรงบำรุงสามกรุงศรี
จะทำเองเกรงจะขาดราชไมตรี พ่อควรที่ผ่อนผันตามบัญชา
เราบอกเรื่องเมืองผลึกรมจักร ให้ทรงศักดิ์ทราบเหตุทั้งเชษฐา
คอยรั้งรอพอให้เสร็จเสด็จมา เถิดหรือพระอนุชาช้าจะดี ฯ
๏ หน่อกษัตริย์หัสไชยคิดใฝ่ฝัน ถึงสร้อยสุวรรณจันทร์สุดามารศรี
จึงตอบว่าฝรั่งคิดครั้งนี้ ใช่แต่ตีเมืองเราจะเบาความ
มันรบพุ่งกรุงผลึกรมจักร เอามากักขังข่มเหงไม่เกรงขาม
เราเจ็บแค้นแทนพระองค์มาสงคราม จะได้ความผิดคิดเห็นผิดที
ถึงเข่นฆ่าฝรั่งเสียทั้งหมด ได้ท้าวทศวงศ์องค์มเหสี
กับมาตุรงค์นงนุชพระบุตรี คืนบุรีดีกว่าไว้ช้าการ
จะละให้อ้ายลูกดูถูกพ่อ ก็เป็นข้อครหาจะว่าขาน
มันกักขังรั้งราไว้ช้านาน แสนสงสารสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา
จะซูบผอมตรอมตรมระทมเทวษ ไม่สมเพชบ้างหรือจ๊ะพระเชษฐา
สุดสาครผ่อนผันจำนรรจา ซึ่งพ่อว่านี้ก็ควรมันกวนใจ
แม่เสาวคนธ์มณฑาก็ว่าชอบ ด้วยรอบคอบคิดเผื่อว่าเนื้อไข
เวลารุ่งพรุ่งนี้พี่จะไป ให้พบไอ้มังคลาพูดจากัน
ให้คืนน้องสององค์วงศ์กษัตริย์ แม้นขืนขัดจึงค่อยฆ่าให้อาสัญ
พระบิตุรงค์องค์อาเชษฐานั้น ถึงเขตคันคงจะมาช่วยราวี
พ่อบอกเหตุเชษฐาให้ข้าเฝ้า ไปเมืองเราทูลประณตบทศรี
ให้ทราบถึงพระชนกชนนี พอคลายที่กริ้วโกรธได้โปรดปราน
แล้วบอกความตามเรามารบศึก ให้เมืองผลึกส่งเสบียงเลี้ยงทหาร
เป็นนับถือซื่อตรงตามวงศ์วาน ช่วยทำการแก้แค้นแทนพระองค์
น้องคำนับรับสั่งแต่งหนังสือ ให้ทูตถือไปตามความประสงค์
พอพลบค่ำย่ำอัสดงลง จึงต่างองค์ต่างไปค่ายเรียงรายกัน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ