ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร

๏ ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลลักษณ์ ไม่สิ้นรักวัณฬามารศรี
คิดจะพาไปอยู่ร่วมบูรี เกรงสุวรรณมาลีจะมิยอม
ดูผิวพรรณวัณฬาผิดกว่าเก่า พระพักตร์เศร้าโศกรูปก็ซูบผอม
ยิ่งทอดทิ้งยิ่งจะตรมอารมณ์ตรอม จะหายหอมดินถนันเพราะรัญจวน
จะปราศรัยไม่ถนัดให้ขัดข้อง พระยิ้มย่องตอบความทรามสงวน
เวลารุ่งพรุ่งนี้พี่จะชวน ไปชมสวนเพชรนิลดังจินดา
แล้วแลดูสุมาลีทำทีหึง เกรงใจจึงตรองตรึกเป็นปรึกษา
จะหยุดพักสักสองสามเวลา ให้โยธาชื่นทั่วทุกตัวคน
แล้วเลิกทัพกลับไปเมืองรมจักร เสกหลานรักร่วมชีวาสถาผล
เหมือนตัดห่วงบ่วงหลังสิ้นกังวล จะได้พ้นทุกข์ร้อนนอนสำราญ
แล้วจะได้ไปพาราการะเวก คิดจะเสกฝังปลูกทั้งลูกหลาน
คิดจะใคร่ให้วัณฬายุพาพาล ไปช่วยงานอภิเษกเอกโอรส
แต่คนอยู่บูรีหามีไม่ หนทางไกลเกลือกว่าจะเกิดกบฏ
จงครองวังลังการักษายศ เลี้ยงโอรสที่ในครรภ์ของกัลยา
พี่จากไปใจจริงไม่ทิ้งขว้าง พอว่างว่างวายธุระจะมาหา
ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงเกรงบัญชา กลั้นน้ำตาตอบรสพจมาน
ได้พึงบุญทูลกระหม่อมจอมกษัตริย์ ดังชั้นฉัตรกั้นเกศประเทศสถาน
ฤกษ์ใดดีวิวาห์ปรึกษาการ โปรดให้ฉานทราบความจะตามไป
เป็นสัจจังหวังจิตสนิทสนอง ตามทำนองน้ำเนื้อในเชื้อไข
แม้ลังกาธานีไม่มีภัย จะตามไปธานีกับพี่นาง
ขอเป็นน้องรองบาทเหมือนมาดมุ่ง โปรดบำรุงรับสัตย์อย่าขัดขวาง
แม้ทุกข์โศกโรคภัยถึงไกลทาง ให้ทราบบ้างน้องจะได้เวียนไปเยือน ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีปรานีสนอง สงสารน้องหาไหนจะได้เหมือน
จะรักใคร่ให้สนิทไม่บิดเบือน ประสาเพื่อนผู้หญิงไม่ทิ้งกัน
จริงจริงนะจะใคร่ได้แม่ไปด้วย จะได้ช่วยว่ากล่าวฝูงสาวสรรค์
สาพิภักดิ์รักองค์พระทรงธรรม์ ไม่เดียดฉันท์โฉมยงอย่าสงกา
แม่ทรงครรภ์รัญจวนประชวรไฉน พี่จะได้ฟูมฟักเฝ้ารักษา
ด้วยลูกเจ้าเล่าก็น้องของธิดา ไม่ฉันทาทิ้งขว้างให้ห่างไกล
ไม่โกรธขึ้งหึงหวงล่อลวงน้อง อย่าเศร้าหมองหมางจิตคิดไฉน
จะร่วมรู้คู่ชีวิตร่วมจิตใจ เชิญแม่ไปบูรีกับพี่ยา ฯ
๏ นางละเวงเกรงตอบให้ชอบโสต ซึ่งทรงโปรดน้องรักคุณหนักหนา
แม้มิกีดรีตฝรั่งในลังกา จะอุส่าห์ตามปองสนองคุณ
ด้วยบรรดาฝรั่งสิ้นทั้งหลาย ทั้งหญิงชายมีบุตรได้อุดหนุน
เฝ้ากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรักษาด้วยการุญ ครั้นสิ้นบุญแม่พ่อมรณา
ฝ่ายลูกเต้าเอาศพไปกลบฝัง คอยระวังเวียนพิทักษ์อยู่รักษา
ถ้าทิ้งไว้ไปบุรีกับพี่ยา จะนินทาทั่วจังหวัดปัถพี
ว่าทิ้งญาติศาสนาพวกฝรั่ง จะรุมชังรบพุ่งเอากรุงศรี
นิคมคามพราหมณ์มหุ่มกระฎุมพี ไม่มีที่พึ่งพาจะอาดูร
ซึ่งออกโอษฐ์โปรดน้องจะครองเลี้ยง พระคุณเพียงฟ้าดินไม่สิ้นสูญ
เห็นมั่นคงทรงพระอนุกูล จะเพิ่มพูนผาสุกทุกเวลา
ขอยั้งอยู่บูรีสักปีหนึ่ง เป็นที่พึ่งพวกญาติศาสนา
รำลึกถึงจึงจะได้เวียนไปมา ขอพึ่งพาพี่นางจนวางวาย ฯ
๏ ทั้งสองข้างต่างคิดสนิทสนอง เหมือนพี่น้องน้ำเนื้อในเชื้อสาย
ทั้งองค์พระอภัยพระทัยสบาย พลอยอภิปรายปรองดองทั้งสองนาง
แต่โฉมยงองค์ละเวงกริ่งเกรงตรึก จะอยู่ดึกนึกก็คิดเหมือนกีดขวาง
ชลีลาสามีทั้งพี่นาง ค่อยเยื้องย่างเข้าในห้องทองประทม
แต่องค์พระมเหสีอยู่ที่เฝ้า คิดอายเหล่าห้ามแหนแสนสนม
จะว่าเราเฝ้าจนดึกนึกนิยม น้อมบังคมคืนไปห้องไสยา ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงโฉมประโลมสวาท เชิงฉลาดในเล่ห์เสนหา
รู้ทำนองสองนางต่างอัชฌา แกล้งหลีกลาไปเสียห้องจะลองเรา
ดูท่าทางนางละเวงเห็นเกรงมาก หมายจะฝากพวกพ้องพี่น้องเขา
นางมาลีนี่ก็ใจดีไม่เบา จะเล่นเราท่าไรก็ไม่รู้
อันถ่านเก่าเถ้าคงจะต่อติด แต่ให้คิดเขินขวยด้วยอดสู
แล้วหวนฮึกนึกว่าเราก็เจ้าชู้ ถึงจะขู่ก็คงปลอบให้ชอบใจ
แต่นั่งยิ้มกริ่มตรึกจนดึกดื่น จนเที่ยงคืนกาลศัพท์คนหลับใหล
คลุมประทมห่มองค์แล้วตรงไป เข้าห้องในทัศนาสุมาลี
เห็นนางยังนั่งสอนสาวน้อยน้อย ให้ตะบอยเจียนหมากดิบจีบพระศรี
เข้าแอบหลังนั่งเฉยเหมือนเคยดี นางสาวน้อยถอยหนีไปที่นอน
นางเห็นองค์ทรงธรรม์แล้วกลั้นยิ้ม ลดลงริมแท่นสุวรรณบรรจถรณ์
ตั้งเครื่องอานพานพระศรีชลีกร เขนยอ่อนแอบอิงให้พิงองค์
ทำผินผันหันคว้าหาพระแส้ เที่ยวดูแลเป่าปัดสลัดผง
ช่วยพัดวีมิได้ถือทำซื่อตรง คอยฟังองค์ภัสดาจะพาที
พระอภัยใจพรั่นหวั่นหวิวหวิว ทำนับนิ้วพลางว่ากับมารศรี
พี่พลัดพรากจากน้องมาสองปี บัดเดี๋ยวนี้ได้คิดที่ผิดพลั้ง
อันความเก่าเรายกเสียเถิดหนอ คิดแต่ต่อไปข้างหน้าดีกว่าหลัง
จวนจะกลับหลับนอนผ่อนกำลัง อย่านิ่งนั่งทนหนาวจะหาวนอน
พี่จะมาหารืออย่าถือผิด เชิญสถิตแท่นสุวรรณบรรจถรณ์
เมื่อเคราะห์ร้ายพรายพลัดกำจัดจร ไม่ม้วยมรณ์ก็ได้มาเห็นหน้ากัน ฯ
๏ นางยิ้มเยื้อนเหมือนจะเย้ยเฉลยฉลอง อันใจน้องไม่รังเกียจคิดเดียดฉันท์
แต่อายเหล่าสาวสุรางค์นางกำนัล จึงป้องกันผ่อนปรนให้พ้นภัย
เขาจะว่ามาถึงก็หึงผัว เฝ้าคุมตัวมิได้ห่างไปข้างไหน
ทำรังแกแม่ละเวงไม่เกรงใจ เชิญพระไปห้องนางเหมือนอย่างเคย
จะมาพลอยน้อยจิตว่าปิดป้อง อย่าขัดข้องบิดเบือนทำเชือนเฉย
ได้คลาดแคล้วแล้วก็พระสละเลย ใช่ไม่เคยนอนเดียวต้องเปลี่ยวทรวง
ซึ่งอุส่าห์มาตามด้วยความยาก หมายจะฝากชีวาเป็นข้าหลวง
อันห้ามแหนแสนสุรางค์นางทั้งปวง ไม่หึงหวงห้ามปรามตามพระทัย ฯ
๏ พระฟังเปรียบเฉียบแหลมยิ้มแย้มหยอก จะออกนอกราชการคิดอ่านไฉน
ที่โทษผิดติดพันมาฉันใด พี่จะให้ดอกเบี้ยไม่เสียดาย
หรือจะมาลาบวชให้ชวดอีก จึงเลี่ยงหลีกลดเลื่อนซ่อนเงื่อนสาย
แต่ฝ่ายพี่นี้เห็นเมียยังเสียดาย จะเป็นม่ายอยู่เปล่าเปล่าจึงเฝ้าง้อ
เจ้าปล่อยปละละเลยทำเฉยได้ ไม่อะไรกันกับพี่แล้วสิหนอ
แต่หากว่าถ้าปลอบเห็นชอบพอ จะปลูกหอขึ้นให้งามเพราะความรัก
จะอ่อนน้อมยอมดีกับพี่อีก หรือจะหลีกไปไฉนให้ประจักษ์
ถึงเริศร้างนางวัณฬาไม่ช้านัก ด้วยเคียงพักตร์พบเห็นทุกเย็นเช้า
แต่จากน้องสองปีเข้านี่แล้ว ต้องคลาดแคล้วมิได้เห็นเหมือนเช่นเขา
ครั้นมาหาว่าให้นอนก็ค่อนเอา จะให้เปล่าไปแล้วหรือทำดื้อดึง ฯ
๏ นางว่าเบื่อเหลืออดสูกระทู้หลวง ครั้นห้ามหวงแล้วว่าตามมาหึง
ครั้นไม่ห้ามความเห็นเป็นมึนตึง ว่าดื้อดึงจึงให้อายในใจคอ
เพราะปีเถาะเคราะห์กรรมเกิดน้ำมาก ขึ้นท่วมปากท่วมลิ้นเสียสิ้นหนอ
ตามแต่ว่าสารพัดจะตัดพ้อ จะปลูกหอให้หม่อมฉันไม่ทันรู้
จะอุส่าห์ทาขมิ้นใส่กลิ่นด้วย ไว้ผมมวยปักพุ่มใส่ตุ้มหู
ด้วยเข้าหอพอให้เห็นน่าเอ็นดู จะได้อยู่ห้องน้องสักสองปี
จึงจะไม่ได้เปล่าทุกเช้าค่ำ ไม่ต้องจำใจรักสมศักดิ์ศรี
เหมือนเช่นน้องของเก่าลูกเต้ามี มันสิ้นดีไปเสียหมดไม่งดงาม
แต่อยู่ใกล้ในห้องก็ต้องกริ้ว ว่าบิดพลิ้วห่างเหินไม่เขินขาม
คงขัดเคืองเรื่องที่พากันมาตาม จะปราบปรามให้เหมือนไก่อยู่ในมือ
หรือพระมีที่รักไม่พักเรียก เคยสำเหนียกนึกได้ทันใจหรือ
น้องจนใจไม่สันทัดได้หัดปรือ ต้องดึงดื้อด้วยวิบากกระดากกระเด็น ฯ
๏ น้อยหรือเจ้าเฝ้าแต่แกะแคะแผลเจ็บ ทั้งเขี้ยวเล็บซ่อนไว้มิให้เห็น
เจ้าแหละหรือซื่อราวกับลาวเป็น เคยรู้เช่นชาวผลึกที่ลึกซึ้ง
ถึงเฒ่าแก่แม่ลูกอ่อนยังงอนช้อย สาวน้อยน้อยก็ไม่เปรียบประเทียบถึง
สังเกตดูรู้ดอกเจ้ายังเพราพรึง ไม่รู้หึงหวงห้ามช่างตามใจ
จริงจริงนะจะขอถามทรามสงวน จะกระบวนให้ตะบึงไปถึงไหน
ฝีปากพี่นี้ยอมแพ้มาแต่ไร เคยลวงได้หลายหนแต่ต้นมือ
บวชเมื่อสาวคราวหนึ่งครั้นถึงแก่ จะปรวนแปรเลี่ยงหลีกไปอีกหรือ
ใช่คนอื่นตื้นลึกเคยฝึกปรือ มิควรถือโทษทัณฑ์รำพันพ้อ
ยิ่งเชื้อเชิญก็เหมือนกับจะจับผิด สำแดงฤทธิ์ราวกับงูจะสู้หมอ
นี่แน่นางอย่างไรในใจคอ ให้เจ้าของต้องง้อต่อความคิด
ก็ตามทีพี่จะของ้ออีกเล่า ขอเชิญเจ้าสาวน้อยมากลอยจิต
ความรักนางดังจะดิ้นสิ้นชีวิต อย่าตะบิดตะบอยอยู่หน่อยเลย ฯ
๏ นางยิ้มเยือนเอื้อนอายธิบายแก้ เหมือนสาวแส้สมจะเรียงเคียงเขนย
นี่ก็รู้อยู่ว่าเบื่อด้วยเหลือเคย จึงเฉยเมยมิได้เหมือนเพื่อนทั้งปวง
เป็นเจ้าของน้องก็รู้อยู่แล้วละ เมื่อพบปะพระองค์คงเสียขวง
ไปพบอื่นชื่นชุ่มเหมือนพุ่มพวง ไม่หลอกลวงดอกเจ้าข้าว่าให้ควร
มาประเดี๋ยวเฉียวฉุนให้ขุ่นขิ่น เหมือนเงี่ยนฝิ่นใฝ่ฝันหุนหันหวน
ว่าชักช้าทารกรรมทำกระบวน พระจะด่วนไปข้างไหนหรือใครคอย ฯ
๏ พระแกล้งว่าข้านี้แพ้แก้ไม่หลุด เจ้ามันสุดแสนงอนเหมือนช้อนหอย
กลับถามไต่ใครเล่าเฝ้าตะบอย ให้ข้าคอยข้างเดียวต้องเที่ยวเชือน
จะหาไหนได้เหมือนเจ้าถึงเฒ่าแก่ นางสาวแส้เหล่านี้ไม่มีเหมือน
เมื่อกระนั้นนั่นสิน้องไม่ต้องเตือน เดี๋ยวนี้เบือนบิดตะกูดช่างพูดเพราะ
เกือบจะเป็นเช่นเขาร่ำร้องจ้ำจี้ แม่ม่ายขี่คอนเรือมะเขือเปราะ
อยากจะใคร่ได้ลูกมาปลูกเพาะ กลับกะเทาะหน้าแว่นเพราะแสนงอน
พี่ก็รู้อยู่ว่ายากกระดากกระเดื่อง ด้วยเต็มเคืองสุขุมเหมือนสุมขอน
ถึงรักใคร่ใจจริงจะวิงวอน ก็เคืองค้อนร่ำไรพูดไค้แคะ
ถือว่าเราเจ้าของไม่ต้องห้าม ถึงถ้อยความสู้กันกระนั้นแหละ
พลางอิงแอบแนบหลังนั่งกระแซะ ปะเหลาะปะแหละลูบต้องทำนองใน
ประคองนางวางแท่นแสนสวาท สัมผัสพาดเพิ่มจิตพิสมัย
อัศจรรย์ลั่นเลื่อนสะเทื้อนไป ที่ถ่านไฟเก่าดับก็กลับโพลง
เหมือนเมื่อปีมีวันจันทร์อังฆาต โลกธาตุเลื่อนลั่นควันโขมง
เขาเนมินท์อิสินธรเคลื่อนคลอนโคลง ทะเลโล่งลมคลื่นเสียงครื้นครึก
พวกสำเภาเหล่าที่รอค้างมรสุม ออกแล่นกลุ้มกลางคืนจนดื่นดึก
สู้กรำฝนทนหนาวออกอ่าวลึก ต่างสมนึกเลยหลับระงับไป ฯ
๏ แต่ตึกที่ศรีสุวรรณนั้นยังตื่น คิดจะคืนกองทัพกลับไม่หลับใหล
แว่วยามสองฆ้องเร้าเข้าห้องใน พระปราศรัยอัคเรศเกษรา
เสียแรงพี่นี้ชำนาญในการยุทธ มาโทรมซุดเสียด้วยเล่ห์เสนหา
ให้ฟั่นเฟือนเหมือนไม่มีนัยนา นึกก็น่าอดสูพึ่งรู้ฤทธิ์
จนถึงน้องสองกษัตริย์ต้องจัดทัพ มาตามรับครั้งนี้โทษพี่ผิด
โฉมเฉลาเจ้าก็เหมือนเพื่อนชีวิต อย่าควรคิดขุ่นข้องจะหมองนวล
แม้ขัดเคืองเรื่องไรอย่าได้นิ่ง แม่แจ้งจริงเจ้าจงห้ามเถิดทรามสงวน
ด้วยครั้งนี้พี่ก็ผิดคิดก็ควร เจ้าจงข่วนเสียให้สมที่ตรมตรอม
จะหาไหนได้เหมือนเจ้าเพื่อนยาก สู้ลำบากตามผัวจนตัวผอม
จะกลับไปไตรจักรให้พรักพร้อม งามละม่อมแม่อย่าหมางระคางความ
ได้พบกันวันนี้ยินดีสุด ไฉนนุชห่างเหินเหมือนเขินขาม
เมื่อตะกี้ตีฆ้องย่ำสองยาม เชิญโฉมงามขึ้นบนเตียงเคียงพี่ยา ฯ
๏ นางฟังตรัสมธุรสพจนารถ แสนสวาทหวั่นจิตกนิษฐา
สู้กลืนกลั้นน้ำเนตรเวทนา ขอสมาหมอบเมียงค่อยเคียงคลาน
ขึ้นแท่นรัตน์หัตถ์ประนมบังคมบาท ภูวนาถแอบองค์น่าสงสาร
สะอื้นร่ำกำสรดแล้วพจมาน โปรดประทานโทษาฝ่าธุลี
น้องก็รู้อยู่ว่าข้ามมาทำศึก ใช่จะนึกเสนหารำภาสะหรี
แต่ฤทธิ์เดชเวทมนตร์ดลเขาดี จึงเสียทีถูกเสน่ห์หลงเล่ห์กล
ได้ทราบความตามมาว่าจะช่วย เจียนจะม้วยเสียวันละพันหน
นี่หากมีพี่พราหมณ์ทั้งสามคน จึงได้พ้นภัยตลอดไม่วอดวาย
เดชะบุญทูลกระหม่อมอยู่พร้อมพรั่ง คิดความหลังแล้วก็ให้จิตใจหาย
ไม่หึงหวงจ้วงจาบให้หยาบคาย ขอถวายความสัตย์ปฏิญาณ
ซึ่งร้องไห้ใช่จะเคืองที่เรื่องร้าง ด้วยเหินห่างพระองค์ก็สงสาร
เคยผุดผ่องหมองคล้ำคิดรำคาญ จะอยู่งานนวดฟั้นให้บรรทม
ทั้งมดหมอเล่าก็มีพรุ่งนี้เช้า จะให้เขาทำครบประคบผงม
พระรับขวัญกัลยาอย่าปรารมภ์ ให้เจ้ากรมหมอมาพยาบาล
ตั้งแต่พี่มิได้พบประสบเจ้า ดูโศกเศร้าซูบลงน่าสงสาร
เพราะเริศร้างห่างชมมานมนาน อย่าอยู่งานเลยขยับมาหลับนอน
พี่ก็ซูบรูปเจ้าก็เศร้าผอม แต่ยังหอมอยู่ไม่หายเลยสายสมร
พลางอิงแอบแนบน้องประคองกร ถนอมช้อนเชยพุ่มปทุมทอง
กอดประทับกับกายสายสวาท นุชนาฏถนอมจิตสนิทสนอง
เสน่ห์แนบแอบเอียงเคียงประคอง ตามทำนองสองสนิทไม่บิดพลิ้ว
อัศจรรย์หวั่นไหวไม่เร่งรัด เป็นลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยฉิว
ช่อใบไม้ไหวกระดิกริกริกริ้ว ระหวยหิวหอบระเหยเลยหลับไป ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลสมร อนาถนอนนิ่งตรับไม่หลับใหล
ฟังปรึกษาว่าจะกลับกองทัพไป สองกรุงไกรเริ่มงานการวิวาห์
เห็นทีพระจะไปขอต่อบิตุเรศ ให้สมสองครองนิเวศน์กับเชษฐา
แค้นพระพี่ที่ไม่รักพระพักตรา น้อยหรือมามีเมียจนเสียตัว
จนลูกเต้าเล่าก็มีกับอีฝรั่ง มันก็หวังว่าเราวิ่งมาชิงผัว
ยิ่งนึกนึกตรึกตรองยิ่งหมองมัว จะหลีกตัวออกได้ฉันใดดี
แม้มิพ้นจนใจจะให้อยู่ คงจะสู้ซอกซอนสัญจรหนี
พรุ่งนี้เช้าเราจะลาไปธานี อยู่ที่นี่อีทมิฬจะนินทา
แต่นิ่งนึกตรึกไตรมิใคร่หลับ ให้กระสับกระส่ายจิตกนิษฐา
ทั้งโฉมยงองค์อรุณขุ่นวิญญาณ์ ด้วยตรึกตราโกรธพระพี่ว่ามีเมีย
จะเสกสองครองคู่ดูเป็นน้อย ต้องต่ำต้อยเต็มอายสู้ตายเสีย
คะนึงนอนร้อนฤทัยดังไฟเลีย น้ำตาเรี่ยรดแขนแน่นอุรา
แว่วสำเนียงเสียงเสาวคนธ์สะอื้น รู้ว่าตื่นค่อยค่อยถามตามประสา
แม่เป็นไรให้สะท้อนถอนวิญญาณ์ หรือโรคาขัดขวางเป็นอย่างไร ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์คิดอ้นอั้น ข้อสำคัญสุดจะแจ้งแถลงไข
พลางประเทียบเปรียบปราบเป็นภายใน น้องตรอมใจตรองตรึกให้นึกกลัว
เกิดเป็นหญิงสิ่งสำหรับอัปยศ ต้องถอยยศศักดิ์ศรีเพราะมีผัว
พิเคราะห์ดูบุรุษก็สุดมัว น้องนี้กลัวจะเป็นน้อยถึงย่อยยับ
จะตั้งสัตย์ตัดขาดเสียชาตินี้ ไม่ขอมีคู่ครองร่วมห้องหับ
ขอพี่นางต่างพยานที่การลับ แม้กลายกลับก็มิใช่ใจสตรี ฯ
๏ อรุณน้อยพลอยว่าถ้าเช่นนั้น ก็เช่นกันกับวิตกในอกพี่
จะถือคำทำสัตย์สวัสดี ไม่ขอมีคู่ครองเหมือนน้องนึก
ต่างคาดคั้นสัญญาประสารุ่น ให้เฉียวฉุนขุ่นข้องไม่ตรองตรึก
ต่างหยิบมีดขีดหัตถาเหมือนจารึก ลืมรำลึกจะได้เห็นเหมือนเช่นตรา
ต่างตรึกไตรไม่หลับกระสับกระส่าย ทั้งเสียดายทั้งรักก็หนักหนา
พอรุ่งเช้าเสาวคนธ์สุมณฑา ค่อยลอบมาแจ้งความยายพราหมณี
จะลาออกนอกวังสั่งกำชับ ฉันจะกลับข้ามคุ้งไปกรุงศรี
ทั้งสาวสรรค์บรรดาฝูงนารี ใครอยู่ที่ไหนให้ไปเรียกมา ฯ
๏ ยายพราหมณ์ฟังนั่งคิดผิดสังเกต ก็เห็นเหตุโกรธขึ้งด้วยหึงสา
จึงทูลความห้ามให้ไว้อัชฌา ด้วยได้มารบพุ่งถึงกรุงไกร
เข้าเหยียบวังลังกาได้ปรากฏ เกียรติยศยืนยงอสงไขย
เข้าเตรียมกันวัณฬาจะพาไป ชมดอกไม้แก้วเตร็จกับเพชรนิล
แม่จะได้ไปด้วยจะช่วยแนะ อย่าเก็บแกะเพชรออกอยู่นอกหิน
อันเพชรดีมีอยู่คู่แผ่นดิน เป็นมวกหินหุ้มพอกดังดอกบัว
อยู่กลางโขดโคตรเตร็จเป็นเพชรเอก สีเหมือนเมฆหมอกหมดสดสลัว
แม้นเขาให้ได้มาแล้วอย่ากลัว จะฦๅทั่วไทท้าวทุกด้าวแดน
เอาไปใส่ในภูเขาเมืองเรานั้น จะเกิดพลันเพชรสำหรับประดับแหวน
เป็นเพชรงอกออกเหมือนดังว่ารังแตน สำหรับแผ่นดินเมืองได้เลื่องฦๅ
จงหยุดยั้งฟังยายอย่าอายเหนียม ตามธรรมเนียมนิ่งเฉยไม่เคยถือ
อย่าด่วนทำน้ำพระทัยดังไฟฮือ ให้เลื่องฦๅซื่อตรงตามวงศ์วาน
นางคำนับรับคำยายพราหมณ์เฒ่า ลาไปเข้าที่ทรงสรงสนาน
บรรดาเหล่าเยาวลักษณ์พนักงาน เตรียมเครื่องอานไว้แต่เช้าคอยเจ้านาย ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์วัณฬามารศรี สุลาลีนางผกาเวลาสาย
ให้ระคางร้างคู่ไม่สู้สบาย แต่ซังตายฝืนหน้าทุกนารี
มาเฝ้าองค์พระอภัยเชิญไปสวน ต่างชื่นชวนปรีดิ์เปรมเกษมศรี
ท้าวทศวงศ์นงนุชพระบุตรี มาพร้อมที่พระอภัยทั้งใหญ่น้อย
นางวัณฬาพาสิบห้ากษัตริย์เสด็จ ไปเนินเพชรกับนางในพวกใช้สอย
เที่ยวชมสวนล้วนบุปผาระย้าย้อย ทั้งสนสร้อยสายหยุดพุดพะยอม
อีกสุกกรมนมแมวแก้วกุหลาบ เหล่าอังกาบโกฐกระถินส่งกลิ่นหอม
นางสาวสาวเหล่าผู้หญิงเหนี่ยวกิ่งน้อม บ้างพลอยปลอมเก็บปลิดที่ติดพวง
ถึงสระศรีสี่เหลี่ยมต่างเยี่ยมหยุด ชมปลาผุดเห็นตัวทั้งบัวหลวง
บ้างแตกขาวง่าวงอกเป็นดอกดวง เกสรร่วงโรยรายขจายจร
ปลาเงินทองล่องลอยขึ้นคอยคาบ กลีบอังกาบโกมินทร์กินเกสร
ดอกบัวเผื่อนเหมือนจีบเป็นกลีบซ้อน บานสลอนแลขาวดังดาวราย
ที่ร่มรอบขอบสระรุกขชาติ แปลกประหลาดหลากหลากดูมากหลาย
มีที่แท่นแผ่นผาศิลาลาย เก้าอี้รายสำหรับชมทุกร่มไม้
บ้างก็หยุดบ้างก็เดินเพลินประพาส รุกขชาติช่อดอกออกไสว
มะเดื่อดูกลูกเหลืองมะเฟืองมะไฟ นางสาวใช้ชิงกันเก็บเสียเล็บเยิน ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระอภัยเดินไปหน้า สองธิดาเคียงข้างไม่ห่างเหิน
มเหสีลีลาศนาดดำเนิน กำนัลเชิญเครื่องตามล้วนงามคม
ท้าวทศวงศ์องค์อรุณอัคเรศ ทั้งแก้วเกษราสุรางค์นางสนม
เที่ยวเก็บลูกรุกขชาติประพาสชม ระรื่นร่มรวยรินกลิ่นผกา
เก็บยี่สุ่นให้อรุณรัศมี กับบุตรีต่างคำนับรับบุปผา
แล้วเก็บให้นางห้ามที่ตามมา นางพระยายังไม่ได้ขัดใจจริง
ว่าเก็บให้แต่เหล่านางสาวแส้ สวนคนแก่เหมือนหนึ่งไม่ใช่ผู้หญิง
เข้าหยิกทึ้งหึงหวงพลางช่วงชิง เอามาทิ้งให้ข้าหลวงที่ช่วงใช้
ท้าวทศวงศ์ทรงพระสรวลสำรวลร่า นี่ยายบ้าวิ่งแร่มาแต่ไหน
แล้วนำนางย่างเยื้องชำเลืองไป ชมดอกไม้ต่างต่างริมทางเดิน
แต่นงเยาว์เสาวคนธ์วิมลมิ่ง กับพวกหญิงสาวตามไม่ขามเขิน
ทั้งองค์พระอนุชาพาดำเนิน ซังตายเพลินหลีกเลี่ยงค่อยเมียงบัง
ศรีสุวรรณนั้นนำสินสมุทร กับทั้งสุดสาครจรตามหลัง
เก็บดอกไม้ให้สาวสาวนางชาววัง ประทานทั้งกนิษฐาสุดาดวง
สุดสาครร้อนจิตค่อยพิศพักตร์ เห็นน้องรักเดินหน้าพวกข้าหลวง
พระลดเลี้ยวเที่ยวหาบุปผาพวง ได้ดอกดวงแล้วปลิดให้ติดใบ
ให้นงเยาว์เสาวคนธ์วิมลสมร นางยอกรรับบุปผาอัชฌาสัย
น่าหัวร่อหน่อกษัตริย์หัสไชย คิดอาลัยสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา
เก็บดอกไม้ได้ดีจำปีขาว ซ่อนพี่สาวเสียมิให้ได้บุปผา
ตามกระบวนพระอภัยรีบไคลคลา ให้จำปาพระน้องทั้งสององค์
นางดีใจว่าพี่อยู่นี่เถิด อย่าเตลิดไปเสียนะฉันจะหลง
แล้วนงนุชยุดมือด้วยซื่อตรง อยู่เคียงองค์เชษฐาทั้งขวาซ้าย
พระหัสไชยไม่กล้าพูดจาเกี้ยว แต่พาเที่ยวเดินชมนิยมหมาย
นางเด็ดดอกมาลีให้พี่ชาย ไม่รู้อายหยอกเอินคอยเดินตาม ฯ
๏ นางวัณฬาพาเดินขึ้นเนินเพชร ดูพรายเตร็จรัศมีสีอร่าม
ตะวันส่องต้องแก้วดูแวววาม เรืองอร่ามทั้งเนินน่าเพลินใจ
นางวัณฬาว่าองค์พงศ์กษัตริย์ จะเก็บจัดเอาไปเล่นเป็นไฉน
ไม่ห้ามปรามตามประสงค์จำนงใน แต่ต้องใส่ฉลองบาทจึงยาตรา
ไม่ใส่เกือกเลือกเพชรแล้วเตร็จยอก จะช้ำชอกเช่นกับมีดขีดมังสา
แล้วจะได้ไปสรงพระคงคา ที่เนินหน้าเขาใหญ่ไขวาริน ฯ
๏ ฝ่ายเหล่าองค์พงศ์กษัตริย์ไม่ขัดข้อง ทรงฉลองพระบาทเดินขึ้นเนินหิน
ชำเลืองเลียบเหยียบเตร็จชมเพชรนิล กระจ่างจินดาดวงดูร่วงรุ้ง
เรืองจำรัสรัศมีสีต่างต่าง บ้างเขียวด่างสีกุหร่าดังตากุ้ง
บ้างเหลือบลายพรายแพรวแววนกยูง อร่ามรุ่งเรืองงามอยู่วามแวม
บ้างเขียวขาวพราวพร้อยทั้งน้อยใหญ่ เหมือนเจียระไนเรียบเรียมเป็นเหลี่ยมแหลม
สีเมฆหมอกดอกตะแบกขึ้นแซกแซม บ้างเกิดแกมเตร็จแก้วดูแพรวพราว
ท้าวทศวงศ์องค์มิ่งมเหสี เลือกเพชรดีไปประทานให้หลานสาว
สอนให้รู้ดูเพชรถึงเจ็ดคราว แม้นแตกร้าวอย่าเอาไปจัญไรร้าย
เออนั่นแม่แม่เอ๋ยเหมือนมรกต ดูน้ำสดสังวาลประสานสาย
นั่นทับทิมริมเตร็จเม็ดเพริศพราย ราคาขายสามสิบหยิบเอาไว้
ริมก้อนหินนิลสีบริสุทธิ์ นั่นก็บุษราคัมดูน้ำใส
แต่ก้อนเหลี่ยมเรียมเรี่ยดังเจียระไน คือเพชรไพฑูรย์ขาวดูวาววับ
ที่แดงก่ำปัทมราชดังชาดเสน แก้วโกเมนโมรามุกดาสลับ
โน่นหมู่เม็ดเพชรหลีกปีกแมงทับ ดูซ้อนซับใหญ่น้อยล้วนพลอยเพชร
แก้วการีสีอินทนิลคล้ำ นั่นเพชรน้ำตะกั่วตัดดูตรัจเตร็จ
เหมือนหิ่งห้อยพรอยพรายกระจายเม็ด เกิดกับเตร็จก้อนหินซอกศิลา
นางสอนหลานวานเก็บให้มากมาก เอาไปฝากเผ่าพงศ์พระวงศา
ทั้งจัดแจงแต่งตัวให้ตุ๊กตา พระนัดดาอายเอียงหลีกเลี่ยงเดิน ฯ
๏ แต่นงเยาว์เสาวคนธ์ใส่กลเฉย ไม่เก็บเลยเลียบทางทำห่างเหิน
นางละเวงเกรงใจปราศรัยเชิญ ไยแม่เมินไม่ดูเตร็จเก็บเพชรนิล
นางนบนอบตอบว่าถ้าแม้โปรด จะขอโคตรไข่เพชรก้อนเตร็จหิน
นางวัณฬาว่าสิ่งไรในแผ่นดิน ฉันให้สิ้นสารพัดไม่ขัดใจ
นางเสาวคนธ์ค้นเพชรพบเตร็จงอก ดูดังดอกบุษบงไม่สงสัย
ค่อยสั่นคลอนถอนหลุดหลากสุดใจ แผ่นดินไหวเลื่อนลั่นเสียงครั่นครื้น
ทวีปวังลังกาสุธาหย่อน เหมือนจะคลอนโคลงคว่ำน้ำเป็นคลื่น
ทุกแถวทางหว่างถนนผู้คนยืน ถลาลื่นล้มลุกสนุกจริง
ชาวบ้านช่องท้องตลาดวิ่งกลาดเกลื่อน บ้างโดนเพื่อนวุ่นวายทั้งชายหญิง
ดูปั่นป่วนหวนเหียนอยู่เวียนวิง ทั้งสัตว์สิงวิ่งตื่นอยู่ครื้นเครง
สาวสนมล้มปะทะบ้างผละผลัก กระชากชักผ้าห่มว่าข่มเหง
เห็นครึกโครมโฉมยงองค์ละเวง ให้กริ่งเกรงกราบกษัตริย์ภัสดา
เหตุไฉนไหวหวั่นเป็นฉันนี้ ไม่เคยมีมาแต่หลังให้กังขา
พระอภัยไม่สู้รู้ตำรา จึงตรัสว่าวันนี้ฤกษ์ดีนัก
มาชมเตร็จเพชรนิลแผ่นดินไหว เพราะจะได้ปรากฏเป็นยศศักดิ์
ไม่วุ่นวายร้ายรองดอกน้องรัก ทั้งไตรจักรจะเป็นสุขสนุกสบาย
นางคำนับรับพรถาวรสวัสดิ์ เชิญกษัตริย์สิ้นทั้งนั้นให้ผันผาย
ขึ้นสรงชลบนบัลลังก์ที่นั่งราย เขาไขสายกลไกข้างใต้ดิน
น้ำทะลุพุพุ่งขึ้นฟุ้งฟ้า ดูดังห่าฝนกระจายเป็นสายสินธุ์
ลงโซมองค์สรงชลสิ้นมลทิน ระรื่นกลิ่นกลั่นฟุ้งจรุงใจ
เหมือนอาบฝนบนอากาศซึ่งสาดซัด โสมนัสนั่งเล่นน้ำเย็นใส
ทั้งห้ามแหนแสนสนมกรมใน สำราญใจพอเวลาตีห้าโมง
นางวัณฬาพาองค์พระทรงศักดิ์ มาหยุดพักพุ่มพฤกษ์เป็นตึกโถง
นั่งเก้าอี้ที่ห้องท้องพระโรง ข้างนอกโล่งเลี่ยนรื่นพื้นสุธา
ต้นไม้ร่มลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยพัด โต๊ะเขาจัดแต่งไว้ทั้งซ้ายขวา
พอพร้อมกันลั่นระฆังสั่งสัญญา โต๊ะก็มาเกลื่อนกล่นด้วยกลไก
ลูกล้อกลิ้งวิ่งเวียนเหมือนเกวียนขับ พร้อมสำรับหวานคาวขวดเหล้าใส่
เสียงกริ่งกร่างต่างเขม้นไม่เห็นใคร แต่โต๊ะใหญ่ไปถึงทั่วทุกตัวคน
นางเชิญองค์พงศาบรรดากษัตริย์ เสวยมัจฉะมังสาผลาผล
นางหม่อมห้ามนั่งเรียงเคียงโต๊ะกล ข้าหลวงคนใช้นั้นเป็นหลั่นไป
บ้างลองลิ้มชิมเหล้าจนเมาหมด เปรียบประชดเถียงกันเสียงหวั่นไหว
ส่วนเผ่าพงศ์วงศ์กษัตริย์นั้นหัสไชย สนุกใจชิมเหล้าอยากเมาลอง
ฤทธิ์สุรากล้าหาญให้ร่านรัก ชวนนงลักษณ์ร่วมบัลลังก์อยู่ทั้งสอง
ส่งสุราว่าอร่อยแม่น้อยน้อง เสวยลองเล่นสักนิดจะติดใจ
สร้อยสุวรรณจันทร์สุดารับมาเสวย ยังไม่เคยเมาเหลือจนเหื่อไหล
ต่างองค์โทษโกรธกษัตริย์หัสไชย ว่าลวงให้กินเหล้าจนเมามาย
เข้าหยิกตีมิหนำยังซ้ำข่วน ใครใช้ชวนฉันทำไมแก้ให้หาย
หน่อกษัตริย์ปัดป้องประคองกาย ได้กลิ่นอายแอบอิงเหมือนผิงไฟ
พงศ์กษัตริย์ขัตติยาบรรดาเสวย แกล้งเมินเฉยตามประสาอัชฌาสัย
ด้วยยังเยาว์เมามายสบายใจ พระหัสไชยชิงปล้ำถอดธำมรงค์
เพชรรังแตนแหวนมณฑปนพรัตน์ มาใส่หัตถ์ชื่นชมสมประสงค์
แกล้งเลียนล้อขอน้องทั้งสององค์ นางโฉมยงยกให้มิได้แคลง ฯ
๏ ฝ่ายยุพาผการำภาสะหรี ไขดนตรีที่ตั้งกำบังแฝง
เหมือนคนตีปี่พาทย์ไม่พลาดแพลง เสียงกระแสงซ้อนเพลงวังเวงใจ
กระจับปี่สีซอเสียงกรอกรีด บัณเฑาะว์ดีดดนตรีปี่ไฉน
นางสำหรับขับร้องทำนองใน บ้างขับไม้มโหรีให้ปรีดิ์เปรม
เป็นภาษาฝรั่งว่าครั้งนี้ จะเป็นที่เสน่ห์สนุกสุขเกษม
จะชื่นแช่มแย้มยิ้มให้ปริ่มเปรม เที่ยวชมเหมหงส์อื่นไม่ชื่นเลย
บรรดานั่งฟังขับให้วับวาบ ด้วยเสียวซาบโสตเสนาะเฉลาะเฉลย
บ้างชมผลกลไกด้วยไม่เคย กระไรเลยลั่นเองเป็นเพลงการ
ครั้นอิ่มหนำสำเร็จสิ้นเสร็จสรรพ โต๊ะก็กลับกลิ้งไปเข้าในม่าน
ข้าหลวงเหล่าสาวสรรค์พนักงาน แสนสำราญกับฝรั่งชาวลังกา ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลพักตร์ เห็นพร้อมพรักเผ่าพงศ์พระวงศา
จึงทูลความทรามชมก้มวันทา ลูกขอลาเลิกทัพกลับธานี
พระบิตุราชมาตุรงค์พงศ์กษัตริย์ อย่าเคืองขัดขุ่นข้องให้หมองศรี
มาหยุดยั้งตั้งทัพอยู่นับปี พระชนนีบิดาจะอาวรณ์ ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลลักษณ์ ด้วยความรักเสาวคนธ์วิมลสมร
จะห้ามปรามทรามวัยมิให้จร จะอาวรณ์ด้วยยังกำลังเยาว์
จึงเรียกมาหน้าที่นั่งบัลลังก์รัตน์ ยื่นพระหัตถ์ลูบประโลมโฉมเฉลา
นิจจาเอ๋ยเคยเห็นทุกเย็นเช้า พ่อรักเท่าเชษฐาสุดสาคร
เป็นเพื่อนยากฝากชีวิตสนิทนัก ยังอ่อนศักดิ์รู้ฟังคำสั่งสอน
พ่อไม่ห้ามตามแต่แม่จะจร ไปนครด้วยคิดถึงบิดา
แม่ไปถึงจึงช่วยทูลมูลเหตุ ว่าบิตุเรศฝากรักไว้หนักหนา
จะรั้งรอพอกำหราบปราบประชา แล้วบิดาจะตามไปในทางเรือ ฯ
๏ ฝ่ายสุวรรณมาลีนารีราช แสนสวาทเสาวคนธ์นั้นล้นเหลือ
เคยอยู่ด้วยช่วยชีวิตได้ชิดเชื้อ เหมือนหนึ่งเนื้อพี่น้องทั้งสององค์
แล้วสวมสอดกอดจูบแล้วลูบไล้ แสนอาลัยทรามสงวนนวลหง
มิเสียทีมีฝีมือทั้งซื่อตรง แม่นี้สงสารเจ้ายังเยาว์นัก
จะหาไหนได้เหมือนแม่เพื่อนยาก จะจำจากใจหายเสียดายหนัก
สะอื้นไห้ไม่หยุดด้วยสุดรัก นางซบพักตร์ลงเช็ดพระชลนัยน์
ทั้งนงเยาว์เสาวคนธ์หล่อชลเนตร พระบิตุเรศวงศาน้ำตาไหล
เป็นทุกข์แท้แต่กษัตริย์หัสไชย เหลืออาลัยสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา
นั่งอยู่ใกล้ได้สั่งนางทั้งสอง พี่จะต้องไปประเทศกับเชษฐา
แค้นพี่นางช่างไม่ไว้อัชฌา มาด่วนลาไปก่อนพระภูวไนย ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อบพิตรอดิศร สุดสาครขัตติยาอัชฌาสัย
เห็นเสาวคนธ์มณฑาทูลลาไป นึกตกใจเห็นจะเคืองด้วยเรื่องเรา
ไม่ปรึกษาหารือยังถือแค้น พระคิดแสนโศกทรวงให้ง่วงเหงา
แล้วแข็งขืนกลืนกลั้นให้บรรเทา มาก้มเกล้ากราบชิดพระบิดา
ลูกขอลาฝ่าละอองด้วยน้องรัก ไปพร้อมพรักกับพระกนิษฐา
ด้วยจากทั้งสองกษัตริย์ขัตติยา มานานช้าเหินห่างเพราะทางไกล ฯ
๏ พระอภัยใจอาวรณ์ถอนสะอื้น สุดจะขืนกลืนกล้ำน้ำตาไหล
ต่างครวญคร่ำร่ำว่าด้วยอาลัย พระหัสไชยโศกาด้วยอาวรณ์
สุมาลีมิได้วายเสียดายสุด รักเหมือนบุตรเกิดกับกายสายสมร
สาพิภักดิ์หักหาญช่วยราญรอน จะจำจรจากแม่ไปแลลับ
กอดกษัตริย์หัสไชยไห้สะอื้น ไม่มีชื่นช้ำอารมณ์จนลมจับ
ท่านเถ้าแก่แซ่ซ้องประคองรับ แก้ไขกลับฟื้นอารมณ์สมประดี
ต่างอำนวยอวยพรถาวรสวัสดิ์ ให้กำจัดเหตุภัยในวิถี
พอโพล้เพล้เวลาเข้าราตรี กลับมาที่ปรางค์มาศปราสาททอง
นางเสาวคนธ์ตรงมาพลับพลาค่าย แต่น้องชายแวะสั่งนางทั้งสอง
ฝ่ายเชษฐาอารมณ์ให้ตรมตรอง คอยท่าน้องหน่อกษัตริย์หัสไชย
สร้อยสุวรรณจันทร์สุดาว่ากับพี่ ไปธานีน้องด้วยกันเถิดฉันไหว้
ต่างห้ามปรามตามประสาคิดอาลัย พระหัสไชยก็มิอาจจะคลาดคลาย ฯ
๏ ฝ่ายสุลาลีวันมีครรภ์อ่อน สุดสาครเขาจะไปก็ใจหาย
เห็นง่วงเหงาเศร้าหมองคอยน้องชาย ทำเดินกรายเข้าไปใกล้ก็ไม่ทัก
คิดถึงที่มีคุณทั้งบุญบาป คลานมากราบผัวลงที่ตรงตัก
สะอื้นไห้ใจหายเสียดายนัก พระเคยรักร่วมห้องมาสองปี
จะจำจากพรากไปน่าใจหาย เหมือนพระแกล้งแหนงหน่ายเสน่ห์หนี
โอ้พระมิ่งทูลกระหม่อมจอมโมลี ในชาตินี้มิได้มาเห็นหน้าน้อง
ไม่มีครรภ์ฉันหมายจะวายวอด ไม่ขอรอดอยู่เป็นคนให้หม่นหมอง
นี่เวทนาอาลัยลูกในท้อง จึงจะต้องอยู่เป็นคนทนทรมาน
แต่ปางหลังหวังใจจะได้พึ่ง ก็ไม่ถึงยืดยาวมาร้าวฉาน
อย่าเคืองขัดตัดประโยชน์จงโปรดปราน ขอประทานโทษาฝ่าธุลี ฯ
๏ สุดสาครร้อนใจอาลัยรัก แต่เกรงนักด้วยพระน้องทั้งสองศรี
สู้กลืนกลั้นชลนาแล้วพาที อยู่จงดีเถิดข้าจะลาแล้ว
แม้คลอดลูกปลูกเลี้ยงไว้เคียงพักตร์ ให้สืบศักดิ์ว่านเครือเป็นเชื้อแถว
แม้มิตายหมายมาดไม่คลาดแคล้ว เมื่อเคราะห์แล้วก็ให้เป็นไปเช่นนี้
แล้วถอดแหวนแทนองค์ออกส่งให้ จงใส่ไว้แหวนยันต์ได้กันผี
แม้นคลอดลูกผูกหัตถ์สวัสดี กลับไปที่เถิดเจ้าอย่าเศร้าใจ ฯ
๏ ฝ่ายสุลาลีวันกลั้นสะอื้น น้ำตาขืนก็กลับตกซกซกไหล
เฝ้าอวยพรวอนวิงทุกสิ่งไป ประเดี๋ยวใจพระจะกลับไปลับองค์
ขอนั่งอยู่ดูให้เต็มนัยน์เนตร พระปิ่นเกศกษัตริย์ชาติราชหงส์
ถึงหมื่นปีมิได้พบประสบองค์ ธำมรงค์ลูกรักต่างพักตรา ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์เตรียมพลพร้อม ให้คนด้อมดูเหตุพระเชษฐา
เห็นเขายังสั่งกันจำนรรจา กับสุลาลีวันที่บัลลังก์
ทั้งให้แหวนแทนองค์ไว้วงหนึ่ง ยิ่งตรึกถึงความต้นแต่หนหลัง
ด้วยรุ่นรักหักใจเห็นไม่ฟัง จึงตรัสสั่งเสนาบรรดานาย
ให้ยกพวกพลรบจุดคบส่อง ตามแถวท้องทางเถื่อนดังเดือนหงาย
รถที่นั่งลังกาให้ตายาย ขึ้นนั่งท้ายรถาไม่พาที
รถพี่เลี้ยงเคียงตามอร่ามคบ พลรบรู้แนวแถววิถี
ออกตามทุ่งกรุงลังกาในราตรี แสงอัคคีโคมสว่างหนทางเดิน
พอเดือนขึ้นชื่นฉ่ำด้วยน้ำค้าง เข้าป่ากว้างหว่างลำเนาภูเขาเขิน
ทั้งข้าไทใหญ่น้อยก็พลอยเพลิน ต่างหยอกเอินกันไปพลางในกลางไพร ฯ
๏ ฝ่ายสุดสาครนั่งสั่งผู้หญิง ข้าหลวงวิ่งมาแจ้งแถลงไข
ว่าองค์พระกนิษฐายกคลาไคล พระตกใจเรียกพระอนุชา
ออกจากวังสั่งสี่พระพี่เลี้ยง ให้พร้อมเพรียงไพร่นายทั้งซ้ายขวา
ให้ดูฤกษ์เลิกทัพจากพลับพลา พลางสั่งพระอนุชาด้วยอาวรณ์
พระน้องจงทรงรถได้ร่มฝน พาไพร่พลเดินทางหว่างสิงขร
แล้วพระองค์ทรงพระยาม้ามังกร อัสดรโดดร้องก้องโกลา
ขับม้าลัดตัดทุ่งกรุงสิงหล บัดเดี๋ยวดลทางเดินขึ้นเนินผา
อุส่าห์ตามยามสองทันน้องยา เทียบขึ้นหน้ารถนางเหมือนอย่างเคย
อายทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ แกล้งสังเกตกัลยาทำหน้าเฉย
แล้วว่าแม่แร่มาไม่ช้าเลย หรือทรามเชยขัดเคืองด้วยเรื่องไร ฯ
๏ นางฟังคำทำเป็นว่าน่าหัวร่อ จะมีข้อขัดเคืองที่เรื่องไหน
แต่พวกพ้องน้องนี้ไม่มีใคร เป็นห่วงใยยกมาประสาสบาย
เหมือนพระพี่มีห่วงต้องหน่วงหนัก จะตัดรักหักสวาทไม่ขาดหาย
ถึงตัวไปให้แหวนไว้แทนกาย น้องนึกหมายว่าจะมาเวลาเช้า ฯ
๏ สุดสาครถอนใจไฉนหนอ มาเสียดส่อร้อนใจดังไฟเผา
ปลอบประโลมโฉมยงว่านงเยาว์ เนื้อความเก่าเหมือนดังกายพี่วายชนม์
ประเดี๋ยวนี้เกิดใหม่ด้วยได้คิด ใช่จะติดใจหญิงชาวสิงหล
เมื่อได้ฤกษ์เลิกทัพจะกลับพล ก็กังวลอยู่ด้วยพระอนุชา
ลาทั้งสองน้องนุชนางยุดไว้ ต่างร่ำไรสั่งความตามประสา
ลีวันนั้นเพียงมาขอสมา ที่ต้องช้าอยู่ถนัดเพราะหัสไชย
ประเดี๋ยวนี้พี่ให้น้องป้องกองทัพ พี่รีบขับม้าเดินตามเนินไศล
มาตามน้องป้องกันให้ครรไล พี่จะได้เคียงข้างไม่ห่างกัน ฯ
๏ นางยิ้มพลางทางว่าเป็นขากลับ ต่างเดินทัพจะสมทบไม่ขบขัน
ทั้งคราวนี้มิใช่ว่ามาด้วยกัน เชิญไปบรรทมตามความสบาย
ด้วยน้องได้ท่านครูเป็นผู้ใหญ่ มาคุ้มภัยไม่วิตกกลัวหกหาย
สุดสาครร้อนจิตให้คิดอาย แกล้งกลับกลายเกลี่ยไกล่เสียให้ดี
เมื่อครูเฒ่าท่านมารักษาน้อง พี่ไม่ต้องรักษามารศรี
จงบรรทมโสมนัสสวัสดี แต่ตัวพี่จะคอยท่านุชาชาญ
กลับลงนั่งหลังม้าเวลาดึก อนาถนึกเอ้องค์น่าสงสาร
สะอื้นอั้นตันใจอาลัยลาน เหลือประมาณเหมือนครั้งเมื่อยังเยาว์
แต่หยุดม้าปรารมภ์ให้ตรมจิต จะแก้ผิดพูดประโลมโฉมเฉลา
หวั่นฤทัยในอารมณ์ให้ซมเซา กำสรดเศร้าเสียใจกระไรเลย
สงสารน้องหมองเศร้าเพราะเราผิด สุดจะคิดคืนดีเจ้าพี่เอ๋ย
คะนึงนึกตรึกความถึงทรามเชย จนหลับเลยอยู่บนหลังม้ามังกร ฯ
๏ หน่อกษัตริย์หัสไชยอยู่ในรถ ทุกข์ระทดถึงพี่น้องสองสมร
เคยพูดเล่นเจรจาให้อาวรณ์ มาจำจรจากน้องทั้งสององค์
โอ้จนจิตคิดไฉนจะได้นุช เห็นยากสุดที่จะสมอารมณ์ประสงค์
เฝ้ากอดจูบลูบคลำธำมรงค์ คิดถึงองค์อาลัยด้วยไกลกัน
เคยพูดพลอดกอดพี่เป็นที่รัก ไม่รู้จักรังเกียจคิดเดียดฉันท์
นึกจะเกี้ยวเจียวเมื่อไปอยู่ใกล้กัน กลับหวนหันไปเสียได้เจียวใจคอ
นึกคะนึงถึงที่เขาเป็นเจ้าชู้ จะเรียนรู้ไว้อย่างไรที่ไหนหนอ
ผู้หญิงรักลักลอบมาชอบพอ แม้พบหมอเหมือนเช่นนั้นขยันจริง
จะเรียนร่ำทำอะไรไม่ลำบาก มันยอดยากอย่างเดียวเกี้ยวผู้หญิง
ถึงยามดึกนึกนอนแนบหมอนอิง เรไรหริ่งเรื่อยริมหิมวา
เสียงจังหรีดแว่ววับตรับสำเหนียก ว่าร้องเรียกนึกสงสารร้องขานจ๋า
จนรู้สึกนึกสะอื้นกลืนน้ำตา ตามประสามิตรจิตมิตรใจ ฯ
๏ สุดสาครนอนหลับพอทัพถึง ตื่นตะลึงลืมองค์นึกสงสัย
พอเห็นคนพลรบถือคบไฟ จึงจำได้เดินมาหากองทัพ
ขึ้นรถทองน้องนอนค่อยอ่อนแอบ ถนอมแนบอนุชานิทราหลับ
ดำริพลางทางสั่งให้ตั้งทัพ ลงเรือกลับข้ามคุ้งไปกรุงไกร ฯ
๏ ฝ่ายลูกสาวเจ้าลังกาตรึกตราเหตุ ซึ่งอาเพศเพชรนิลแผ่นดินไหว
จะร้ายดีมิได้แจ้งยังแคลงใจ จึงตรัสใช้นางรำภาอย่าช้าการ
ไปแจ้งความถามพระสังฆราช ซึ่งหวั่นหวาดไหวสิ้นทุกถิ่นฐาน
จะดีร้ายภายหน้าให้อาจารย์ ท่านแจ้งการแล้วมาเล่าให้เราฟัง ฯ
๏ นางรำภาลาออกนอกตำหนัก มีพร้อมพรักคนหามมาตามหลัง
ครั้นถึงครูผู้เฒ่าเล่าให้ฟัง ฝ่ายพระสังฆราชเล่าก็เข้าใจ
กูจับยามตามตำราไตรดายุค ยังเป็นทุกข์ที่ว่าสุธาไหว
โศลกว่านารีจะหนีไป เอาหัวใจเมืองออกนอกบุรินทร์
นางรำภาว่าเห็นแน่แล้วแต่ต้น เมื่อเสาวคนธ์ขอเพชรก้อนเตร็จหิน
กระชากฉุดหลุดก็ไหวในแผ่นดิน ฉันได้ยินเที่ยงแท้เห็นแน่ความ
พระสังฆราชตวาดก้องร้องขู่คุ แกเดือดดุด่าละเวงไม่เกรงขาม
มันรักผัวชั่วช้าอีบ้ากาม ช่างบอกความเพชรนิลจนสิ้นตัว
เสียแผ่นดินถิ่นที่แล้วมิหนำ ยังกลับซ้ำปั้นเจ๋อบำเรอผัว
เอาเพชรดีสีออกเหมือนหมอกมัว เท่าดอกบัวอยู่บนโขดเป็นโคตรเพชร
มันให้เขาเอาไปเสียได้แล้ว ที่เนินแก้วก็จะเริศไม่เกิดเตร็จ
มันมีครูรู้ตำรากาลเม็ด เอาโคตรเพชรไปสำหรับประดับเมือง
แม้ใส่ไว้ในศิลาข้าจะบอก เป็นเพชรงอกแวววาวเขียวขาวเหลือง
จะบริบูรณ์สมบัติไม่ขัดเคือง แต่พวกเมืองลังกาจะอาดูร
แต่ลูกมันนั้นประเสริฐเกิดมาเล่า จะกลับเอามาได้ยังไม่สูญ
จะต้องขาดญาติวงศ์พงศ์ประยูร เพราะเค้ามูลแม่เพชรเตร็จมณี
ไปบอกเล่าเจ้ามึงหมายพึ่งผัว ไม่รอดตัวเช่นบำรุงซึ่งกรุงศรี
เร่งรำลึกตรึกตรองคืนของดี มาไว้ที่ลังกาให้ถาวร ฯ
๏ นางรำภานารีชลีฉลอง จะตรึกตรองตามพระคุณการุญสอน
แล้วกราบลามาวังทูลบังอร นางทุกข์ร้อนรู้ว่าคิดนั้นผิดพลั้ง
เป็นคราวเคราะห์เพราะว่ากรรมจะทำเข็ญ เผอิญเป็นผิดอย่างแต่ปางหลัง
ไม่บอกกล่าวเล่าให้ผู้ใดฟัง ที่ผิดพลั้งตื้นลึกไม่ตรึกตรอง
แล้วเปิดหีบหยิบชิ้นดินถนัน ดูสีสันนั้นยังดีไม่มีหมอง
นางเชือดใส่ในจานรองพานทอง เป็นส่วนของสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา
แต่ส่วนพระมเหสีนั้นที่หนึ่ง มิให้หึงจะให้รักนั้นหนักหนา
ให้บุตรีพี่น้องสองสุดา ถือตามมาหาสุวรรณมาลี
ให้พี่น้องสององค์วางตรงหน้า นางวันทาถวายพระมเหสี
แล้วเล่าความตามที่หลงในพงพี ไปถึงที่เขาอังกาศเพียงขาดใจ
เป็นบุญช่วยด้วยว่ากินดินถนัน จึงผิวพรรณพักตร์หมองก็ผ่องใส
ฝ่ายองค์พระมเหสีดีพระทัย ว่าขอบใจแม่วัณฬาหนักหนานัก
ความรักพี่ดีจริงทุกสิ่งสิ้น สมเป็นปิ่นปถพีที่มีศักดิ์
ทั้งชาตินี้พี่กับน้องจะครองรัก สาพิภักดิ์พึ่งพาพระบารมี
แล้วหยิบชิ้นดินถนันนั้นเสวย พลางชวนเชยสองรามารศรี
สร้อยสุวรรณจันทร์สุดากุมารี อัญชลีแล้วเสวยชื่นเชยชม
ต่างโอภาปราศรัยด้วยใจซื่อ มิได้ถือชอบชิดสนิทสนม
เดชะฌานท่านโยคีให้นิยม ปลงอารมณ์รักกันไม่ฉันทา ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ