ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา

๏ ฝ่ายพระจอมโมลีศรีสวัสดิ์ โองการตรัสสั่งพหลคนทั้งหลาย
กลาโหมกรมท่าเสนานาย เร่งบาดหมายเกณฑ์กันให้ทันการ
จัดกำปั่นบรรทุกทั้งข้าวของ เครื่องเงินทองมากมายหลายสถาน
ของที่จะเอาไปใช้ในงาน จงจัดการให้สำเร็จทั้งเจ็ดเวร
เครื่องอาวุธสาตราหาให้ครบ ทหารรบจัดไปบ้างทั้งดั้งเขน
พวกสมนอกสมในเร่งจ่ายเกณฑ์ จัดนายเวรขุนหมื่นพื้นฉกรรจ์
สักห้าสิบรีบลงลำที่นั่ง ให้พร้อมพรั่งมีครบเครื่องขบฉัน
ทั้งเสบียงเลี้ยงไพร่ได้น้ำมัน ลงเรือกัลปังหาอย่าช้าที
ผู้รับสั่งตั้งหมายจ่ายสิ่งของ เครื่องเงินทองเสื้อผ้ากะลาสี
ให้ขนไปในเภตราท่าบุรี จัดลงที่ห้องหับสำหรัมนอน ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงพิภพจบจังหวัด โองการตรัสสั่งพระหลานชาญสมร
วายุพัฒน์นัดดาพากันจร ไปสิงขรเชิญเสด็จประเวศวัง
เอารถทรงเรือนมณีสีสลับ ออกไปรับสามพระองค์จำนงหวัง
เอาเสนีรี้พลคนในวัง รีบไปยังเขาเขินเนินอรัญ
วายุพัฒน์หัสกันรีบผันผาย พาไพร่นายพวกพหลพลขันธ์
สองพระองค์ตรงไปป่าพนาวัน ถึงเขตคันเฝ้าไทอัยกา
ประณตนอบหมอบบังคมบรมนาถ เชิญพระบาทสามพระองค์ทรงสิกขา
พระอภัยมุนีศรีโสภา เห็นนัดดามาภิวาทบาทบงสุ์
จึ่งตรัสถามตามประสงค์แก่องค์หลาน เขาจัดการเสร็จสมอารมณ์ประสงค์
มากับปู่ย่าไปดั่งใจจง จะได้ลงกำปั่นไปวันไร
วายุพัฒน์หัสกันทูลฉลอง ยังคอยสองพาราอัชฌาสัย
เมืองผลึกการะเวกเอกเวียงชัย แล้วก็ไปพาราวาหุโลม ฯ
๏ พระทรงฟังสั่งเหล่าพวกดาวบส พร้อมกันหมดทั้งสองนางสำอางโฉม
จะไปพักอยู่ลังกาคอยวาหุโลม เจ้าวาโหมมาจะได้ไปด้วยกัน
แล้วตรัสว่าเหนื่อยมาหนาหลานรัก จงผ่อนพักพวกพหลพลขันธ์
ต่อรุ่งรางสว่างสีรวีวรรณ จึ่งพากันรีบไปในลังกา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ สั่งอำมาตย์เร็วไวทั้งซ้ายขวา
รีบเชิญสารลานทองกล่องลงยา ไปพาราสามนครอย่านอนใจ
การะเวกวาหุโลมเมืองผลึก ออกให้ลึกข้ามมหาชลาไหล
จึ่งจะเร็วรีบพากันคลาไคล เสนาในกราบก้มบังคมลา
ลงกำปั่นใช้ใบไปทั้งสาม แยกไปตามทิศทางกลางมหา
ชลาสินธุ์ถิ่นประเทศเขตพารา ทางไปวาหุโลมนั้นแสนกันดาร
แต่ลมส่งตรงไปมิได้ช้า ถึงขึ้นท่าเดินไปในไพรสาณฑ์
พวกบ้านดงส่งไปได้สำราญ ถึงสถานเจ้าประเทศนิเวศน์วัง ฯ
๏ ท้าววาโหมทราบสารสำราญจิต ประกาศิตสั่งเสนาฝ่ายหน้าหลัง
ให้จัดแจงแต่งกำปั่นมีบัลลังก์ จะข้ามฝั่งไปลังกาหาเจ้านาย
ให้เลี้ยงดูเสวกาที่มาเสร็จ ท้าวเสด็จจรจรัลรีบผันผาย
มาลงเรือพร้อมบรรดาเสนานาย ก็ผันผายจากพาราวาหุโลม
พวกกำปั่นไปพาราการะเวก เสนาเอกเฝ้าองค์พระทรงโฉม
การแห่สารคล้ายพาราวาหุโลม พระทราบโสมนัสในพระทัยเธอ
แล้วให้อ่านสารศรีที่ประสงค์ ถึงพระองค์อนุชามาเสนอ
เชิญไปช่วยเสกการพระหลานเธอ ให้เปรมเปรอครองจังหวัดรัตนา
พระทราบสิ้นยินดีเป็นที่สุด จะเสกบุตรเสาวคนธ์บนมหา
นิเวศน์วังจังหวัดกรุงรัตนา เราเป็นตาต้องไปช่วยอำนวยพร
เจ้าหัสไชยไปด้วยได้ช่วยเขา หลานของเราจะสุโขสโมสร
พระจึ่งสั่งเสนาพลากร เป็นการร้อนจัดกำปั่นให้ทันที
เอาล้าต้าต้นหนคนสำหรับ ให้พร้อมสรรพที่นั่งใหญ่ชักใบสี
ทั้งรอกกว้านทำเสียใหม่จัดให้ดี วันพรุ่งนี้เราจะไปทั้งไพร่พล
ขุนเสนีที่ตำแหน่งมาแต่งเสร็จ พอเช้าเจ็ดนาฬิกาสถาผล
พระจอมวังย่างเยื้องจรดล จากไพชยนต์ลงกำปั่นให้ลั่นปืน
พระหัสไชยตามเสด็จกรุงกษัตริย์ ให้แล่นตัดเข้าลังกาไม่ฝ่าฝืน
ไม่หยุดยั้งรั้งราสิบห้าคืน ทั้งลมคลื่นส่งกระทั่งถึงลังกา
พวกที่ไปเมืองผลึกเหมือนนึกหมาย ลมพระพายพัดกระทั่งเข้าฝั่งฝา
ถึงปากน้ำก็พอย่ำสนธยา พลางขึ้นหาขุนด่านชานบุรินทร์
เล่าแถลงแจ้งการสารสวัสดิ์ จอมกษัตริย์บรมวงศ์ประสงค์ถวิล
มีราชสารไปให้หาทุกธานินทร์ จอมนรินทร์ทุกประเทศเขตนคร
ขุนด่านเร่งม้าใช้ไปนิเวศน์ ทูลทรงเดชบพิตรอดิศร
พวกม้าใช้รีบไปถึงนคร พอภูธรออกที่นั่งบัลลังก์ชัย
ขุนนางพร้อมน้อมประนมบังคมบาท พระถามราชการกิจวินิจฉัย
เสนากราบทูลองค์พระทรงชัย ภูวไนยรมจักรเฉลิมวงศ์
ให้ทูตถือสารามาประณต พระทรงยศโดยหวังดังประสงค์
ฝ่ายพระจอมสินสมุทรภุชพงศ์ สั่งให้ลงไปรับสารามา
กระบวนแห่แตรสังข์ตั้งขนัด ตามกษัตริย์พร้อมหมดสมยศถา
ทั้งกลิ้งกลดบดบังพระสุริยา แห่ขึ้นมาเร็วพลันด้วยทันใด
เข้าในวังสั่งให้อ่านสารอักษร ขุนสุนทรทูลแจ้งแถลงไข
ศุภลักษณ์จอมนรินทร์ปิ่นเวียงชัย เฉลิมในรมจักรนัครินทร์
เชิญพระหลานมาลังกาพาราสถาน ช่วยจัดการตามรับสั่งดั่งถวิล
จะภิเษกนัดดาไปธานินทร์ เจ้านรินทร์รัตน์กุมารผ่านบุรี
พระทราบความตามสนองโองการตรัส ให้เร่งจัดกำปั่นใหญ่ใส่ธงสี
จะรีบไปลังกาอย่าช้าที ขุนมนตรีจัดทหารชาญณรงค์
พระสั่งให้เลี้ยงผู้ถือหนังสือสาร แล้วประทานเงินทองของประสงค์
ทูตทูลลากลับไปดั่งใจจง ฝ่ายพระองค์ขึ้นข้างในที่ไสยา
สั่งอนงค์องค์มิ่งมเหสี อันตัวพี่จะรีบไปในมหา
ชลาสินธุ์ถิ่นประเทศเขตลังกา องค์พระอารับสั่งให้ไปนคร
จะราชาภิเษกหลานเป็นการใหญ่ ต้องรีบไปแต่งตั้งช่วยสั่งสอน
พอเย็นใจไพร่ฟ้าประชากร ก็จะจรรีบมาไม่ช้าที ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์อรุณทูลฉลอง อันตัวน้องจะตามไปในวิถี
ได้เฝ้าองค์พระชนกชนนี พระฤๅษีบิตุลาป้าของเรา
สินสมุทรตรัสว่าดีที่คำนับ ต้องไปรับการด้วยได้ช่วยเขา
มิใช่คนต่างสถานหลานของเรา มาไปเฝ้าช่วยงานการพารา
ครั้นรุ่งรางสางแสงพระสุริยง ทั้งสององค์จอมกษัตริย์ผลัดภูษา
แล้วทรงเครื่องเยื้องย่างจากปรางค์ปรา พวกกัลยาตามเสด็จจากเขตคัน
ลงกำปั่นลำใหญ่ทั้งไพร่พร้อม เรือแวดล้อมเหล่าพหลพลขันธ์
กำปั่นสองร้อยลำแล่นตามกัน สิบแปดวันถึงลังกาให้ซาใบ
ทอดสมอรอราอยู่ท่าป้อม ทหารพร้อมเซ็งแซ่แลไสว
เมืองการะเวกทอดตามกันหลามไป จุดฟืนไฟตามระยางสว่างตา
พอพาราวาหุโลมก็มาถึง อึงคะนึงล้วนทมิฬกินปักษา
เข้าจอดเรียงเคียงกันเป็นหลั่นมา ชาวพารารีบไปทูลมูลคดี
สามนครพาราเสร็จมาถึง พวกข้าจึ่งมาประณตบทศรี
พระทรงทราบสั่งขุนพลแลมนตรี วันพรุ่งนี้จัดกระบวนแลทวนธง
รถที่นั่งฝังพลอยย้อยระยับ เอาไปรับจอมกษัตริย์ราชหงส์
แต่วาโหมเอารถไม้ใช่พระวงศ์ แต่เทียวธงดนตรีมีเหมือนกัน
แห่ข้างหลังรั้งท้ายจ่ายทหาร เป็นสามด้านใส่เสื้อแดงให้แข็งขัน
พรุ่งนี้เช้าสุริย์ฉายขึ้นพรายพรรณ จงพากันลงไปรับประคับประคอง
สุดสาครกับวลายุดาราช ไปเชิญพระบาทแล้วประมูลทูลฉลอง
ว่าอาวุ่นมิได้ไปดั่งใจปอง เชิญฝ่าละอองการะเวกเอกบุรี
ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ บังคมบาทบงกชบทศรี
กับอนุชามาพลันด้วยทันที ขึ้นพาชีเร่งพหลพลไกร ฯ
๏ จะกล่าวข้างพระมุนินทร์ปิ่นนักสิทธ์ สำราญจิตจากกุฎีที่อาศัย
มาทรงราชรถารีบคลาไคล สองอรไทนางชีก็ลีลา
มาขึ้นรถหมดด้วยกันให้ผันผาย กระบวนท้ายตามติดด้วยศิษย์หา
พวกนักพรตหมดด้วยกันดั่งพรรณนา พระหัสกันนำหน้าพลาพล
ข้างเบื้องท้ายวายุพัฒน์กระบวนหลัง เดินคับคั่งมาในป่าพนาสณฑ์
ระรื่นร่มลมอ่อนอ่อนไม่ร้อนรน หอมเสาวคนธ์ตามทางข้างอรัญ
สารภีพิกุลกุหลาบเทศ การะเกดสุกรมนมสวรรค์
มะลุลีมะลิลาชบาบรรณ ประยงค์แย้มแกมกันมีนานา
สาวหยุดพุดซ้อนเสาวรส ดอกไม้สดร่วงหรุบล้วนบุปผา
ทั้งกาหลงชงโคโยทะกา จำปีจำปาเกดแก้วตามแถวทาง
ครั้นจะไม่ชี้แจงแห่งบุปผา หลวงชีมาทั้งสองจะหมองหมาง
ต้องว่าบ้างตามที่วิถีทาง เป็นที่ว่างของสตรีพอปรีดิ์เปรม
ถึงแก่เฒ่าเล่าก็ยังเห็นบุปผา เจตนาแก้ทุกข์สุขเกษม
ไม่เกลียดชังหวังเชยชิมพออิ่มเอม ต้องปรีดิ์เปรมแก่บุปผาสุมาลัย
ครั้นถึงวังลังกาอาณาเขต เสร็จประเวศเก๋งทองอันผ่องใส
พวกนักสิทธ์เสนาพากันไป อยู่ที่ในเคหสถานตามบ้านโยม ฯ
๏ จะกล่าวข้างสามพาราแห่มาถึง ตำหนักซึ่งทำไว้ท่าท้าววาโหม
กั้นห้องหับประดับประดาระย้าโคม เชิญวาโหมให้เข้าไปในบุรี ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมนคราการะเวก อติเรกเชิญลีลาศปราสาทศรี
หน่อนรินทร์สินสมุทรสุดภักดี กับอรุณรัศมีสองพระองค์
นำเสด็จเจ้าพาราการะเวก อดิเรกพร้อมประยูรสกุลหงส์
ชวนกันมาอภิวาทบาทบงสุ์ กษัตริย์ทรงปราศรัยในตระกูล
ศรีสุวรรณมาบังคมแล้วก้มกราบ ศิโรราบในพระปิ่นบดินทร์สูร
กษัตริย์สุริโยไทยอันไพบูลย์ เธอเพิ่มพูนปรีดาตรัสว่าไป
พ่อพาพี่ไปเฝ้าพระนักสิทธ์ ท่านสถิตเข้าพักตำหนักไหน
ศรีสุวรรณนำเสด็จเสร็จข้างใน พวกวงศาตามกันไปถึงเก๋งทอง ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ผู้ดำรงการะเวก อติเรกกราบก้มประนมสนอง
พอทราบสารการรับสั่งเหมือนอย่างปอง มาฉลองในพระคุณพระมุนี ฯ
๏ พระอภัยมุนีฤๅษีสิทธ์ ว่าขอบจิตน้องรักเป็นศักดิ์ศรี
พ่อมาด้วยจะได้ช่วยการพิธี ได้เป็นศรีสุขสวัสดิ์แก่นัดดา
อีกสามวันจึ่งจะได้ใช้กำปั่น ไปพร้อมกันทั้งพวกวงศ์เผ่าพงศา
หยุดประทับยับยั้งอยู่ลังกา พอเป็นผาสุกสบายจะได้จร ฯ
๏ ฝ่ายเสาวคนธ์มณฑาสุสาลี จัดเครื่องที่จะเลี้ยงองค์พระทรงศร
ทั้งเจ๊กแขกผัดอั้วคั่วสุกร ฝรั่งตั้งเครื่องร้อนสารพัน
แม่ครัวไทยไก่พะแนงแกงเป็ดนก เสียงสากครกรัวถี่ขมีขมัน
เครื่องกับข้าวเต่ายำของสำคัญ กุ้งทอดมันจัดใส่ลงในจาน
บ้างเทียบเครื่องกษัตรายกมาตั้ง บนบัลลังก์ส่งท่านท้าวทั้งคาวหวาน
พวกสาวสาวเหล่านางพนักงาน รับเครื่องอานขึ้นไปตั้งบ้างนั่งคอย
พวกอยู่งานการบำเรอเสนอขับ มาคั่งคับอยู่ข้างในรับใช้สอย
พนักงานคลานมานั่งระวังคอย ล้วนน้อยน้อยน่ารักลักขณา ฯ
๏ ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลพักตร์ ลงตำหนักจรจรัลด้วยหรรษา
ไปเชิญเสด็จจักรพรรดิกษัตรา เสด็จมาเสวยพลันด้วยทันที
พร้อมพระวงศ์พงศาคณาญาติ มาร่วมอาสน์สวรรยางค์ในปรางค์ศรี
เสวยของต่างต่างล้วนอย่างดี พระภูมีเสด็จเสวยเลยลีลา
แล้วจัดของเลี้ยงเสนาท้าววาโหม เสียงครึกโครมเลี้ยงทมิฬกินปักษา
ครั้นอิ่มเอมกินอยู่หมู่เสนา ฝ่ายท้าววาโหมเข้าเฝ้ามุนินทร์
พระปราศรัยไต่ถามตามประสงค์ ในเชื้อวงศ์ชื่นชมสมถวิล
ยังอิ่มเอมเปรมปราหรือราคิน ทั่วแผ่นดินนคเรศเขตนคร ฯ
๏ ฝ่ายวาโหมโสมนัสฟังตรัสถาม จึ่งทูลความถวายองค์พระทรงศร
อันเขตแคว้นแดนดินถิ่นนคร ไม่ทุกข์ร้อนราคีไม่มีภัย ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงศิลมุนินทร์นาถ ตรัสประภาษปรีดาพลางปราศรัย
พรุ่งนี้เช้าเราจะพากันคลาไคล ไปที่ในจังหวัดกรุงรัตนา ฯ
๏ ฝ่ายวาโหมทูลลามาที่อยู่ พอเช้าตรู่ไปกำปั่นด้วยหรรษา
ครั้นรุ่งรางสางแสงพระสุริยา กษัตราพร้อมวงศ์พวกพงศ์พันธ์ ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงศิลมุนินทร์นาถ เสด็จจากอาสน์พรรณรายต่างผายผัน
ดาบสินีชีตามเสด็จพลัน ลงเรือกัลปังหาไม่ช้าที
พวกเสนานักสิทธ์ติดตามเสด็จ พร้อมกันเสร็จโดยจริตกิจฤๅษี
ออกลอยลำตามวนชลธี พระภูมีเสร็จสบายท้ายเภตรา ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์ขัตติวงศ์ลงกำปั่น พร้อมด้วยกันสุริย์วงศ์เผ่าพงศา
ลงกำปั่นลั่นปืนเป็นสัญญา ออกเภตราแล่นหลามตามทะเล
วาหุโลมรั้งท้ายเป็นฝ่ายหลัง ทหารตั้งขานโห่เสียงโจ๋เจ๋
พวกถือปืนยืนจ้องมองคะเน ทางทะเลเคยศึกฝึกชำนาญ
แต่เรือลำกำปั่นสักพันเศษ ข้ามประเทศลังกามหาสถาน
ลมก็เรื่อยเฉื่อยฉ่ำไปสำราญ ไม่พบพานศัตรูหมู่อรินทร์
มีแต่สัตว์มัจฉาว่ายคลาคล่ำ บ้างผุดดำในมหาชลาสินธุ์
ฝูงกระโห่โลมาในวาริน กระเบนบินปลาทุกังฝูงมังกง
เหล่ายี่สนนนทรีมีสะพรั่ง ทั้งกุ้งกั้งว่ายเปิดเตลิดหลง
จะละเม็ดดาษเดียรว่ายเวียนวง ฝูงกระพงแหวกว่ายในสินธู
ฉนากฉลามตามคลื่นมีดื่นดาษ ผุดเกลื่อนกลาดพิมพาแลราหู
ตะเพียนทองล่องลอยตามสินธู ทั้งหอยปูหมึกสายขึ้นรายเรียง
ฝูงเต่ากระคละเคล้าเป็นเหล่าหลาก ว่าแต่ปากแจ้งอรรถฉวัดเฉวียง
ฝูงแมงดาดาดาษชายหาดเรียง ว่าแต่เพียงเล็กน้อยตามรอยทาง
สุริยงเย็นพลับลงลับฟ้า พระจันทราเปล่งแสงขึ้นสางสาง
ดารากรแจ่มดวงช่วงนภางค์ ส่องสว่างเรืองรองท้องทะเล ฯ
๏ ฝ่ายกำปั่นแต่บรรดาแล่นมาพร้อม ค่อยแวดล้อมเรียงกันไม่หันเห
พอเดือนครึ่งถึงชะวากปากทะเล หมายคะเนเมืองด่านชานนคร
กรุงรัตนาธานีบุรีรัตน์ ต่างเลี้ยวลัดเข้าถึงท่าหน้าสิงขร
ทอดสมอรอราชายสาคร ราษฎรรู้สิ้นต่างยินดี
พากันมาชมกำปั่นกัลปังหา ดาษดาเกลื่อนไปในวิถี
ต่างยกมือไหว้บุญพระมุนี แล้วพาทีพูดกันสนั่นไป
เราเคยเห็นแต่เขาทำเป็นด้ำมีด อันหนีดหนีดชาวพาราหามาได้
นี้เป็นเรือพระที่นั่งบัลลังก์ชัย ช่างโตใหญ่จริงหนออี่พ่อคุณ
ลางคนว่าบารมีพระนักสิทธ์ เทวฤทธิ์แผ่เผื่อช่วยเกื้อหนุน
ของอย่างนี้มีที่ไหนใครมีบุญ ราวกับจุลจักรพรรดิสวัสดี
นี่เจ้าราวกับองค์พระอมเรศ ของวิเศษจึ่งประจักษ์เป็นศักดิ์ศรี
ด้วยเดชะบุญญาบารมี ต่างยินดีชื่นชมในสมภาร
ฝ่ายเสนีปรีชาลงมาพร้อม ประณตน้อมเชิญเข้าเขตนิเวศน์สถาน
กระบวนแห่แตรสังข์กังสดาล ราชยานวอสุวรรณอันบรรจง ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมมุนีฤๅษีสิทธ์ สำรวมกิจท่าทางเหมือนอย่างสงฆ์
เสร็จขึ้นจากกำปั่นอันบรรจง กับสององค์นางชีศรีสำอาง
ฝ่ายพระองค์ทรงราชยานรัตน์ กั้นเศวตฉัตรลายจำหลักหักทองขวาง
สองพระองค์ทรงวอมาตามทาง พวกขุนนางสานุศิษย์เดินติดไป
พวกพระวงศ์พงศาคณาญาติ เสร็จทรงราชรถทองอันผ่องใส
ตามเสด็จพระมุนินทร์ปิ่นอภัย เข้าเวียงชัยรัตนาในธานินทร์
เสวกาจัดแจงแต่งปราสาท เชิญพระบาทสุริย์วงศ์พระทรงศีล
สถิตยังปรางค์ศรีมณีนิล พร้อมกันสิ้นเขยสะใภ้เข้าในปรางค์
แล้วเลี้ยงดูหมู่พหลพลทหาร อิ่มสำราญสารพัดไม่ขัดขวาง
พวกนักสิทธ์ให้สถิตศาลากลาง อยู่กว้างขวางหลับนอนผ่อนสบาย
พวกวิเสทจัดแจงแต่งสำรับ มาคั่งคับตั้งเคียงเรียงถวาย
ให้ขบฉันวันละสองเวลาราย ฉันสบายเอมโอชโภชนา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ สั่งอำมาตย์มุลนายทั้งซ้ายขวา
ให้จัดแจงแต่งที่นั่งอลังการ์ บนปรางค์ปราสาทชัยในมณฑล
ตั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์สุวรรณรัตน์ อย่างกษัตริย์อภิเษกสถาผล
สำหรับท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นมณฑล ทั้งเครื่องต้นตามอย่างทางบุราณ
แล้วปลูกโรงเลี้ยงดูหมู่พหล ริมถนนใหญ่โตรโหฐาน
สำหรับเลี้ยงเสนาข้าราชการ ฝ่ายทหารทุกบุรีเสนีนาย
ปักราชวัติฉัตรธงอลงกต ตามกำหนดรอบบุรินทร์สิ้นทั้งหลาย
ครั้นจะกล่าวรำพันบรรยาย ก็มากมายเรื่องราวจะยาวความ ฯ
๏ ถึงวันดีมีฤกษ์ก็ตั้งสวด พวกนักบวชตามบรรดาภาษาสยาม
พร้อมทั้งพวกโหราพฤฒาพราหมณ์ นั่งอยู่ตามแท่นทรงอลงกรณ์
ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์มุนินทร์นาถ ก็ลีลาศสำรวมกิจอดิศร
กับสองดาบสินีชุลีกร ตามภูธรขึ้นปรางค์รัตน์ชัชวาล
ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราการะเวก อติเรกขึ้นปราสาทราชฐาน
กับพระศรีสุวรรณท้าวผู้เจ้างาน ทั้งวงศ์วานจอมกษัตริย์ขัตติยา
พลางแต่งองค์ทรงเครื่องพระหน่อนาถ ให้ยุรยาตรตามองค์เผ่าพงศา
ไปเข้าที่มณฑลบนปรางค์ปรา พระสิทธาสวดมนต์สนธยาย
แต่นักพรตฤๅษีมีตบะ เปรียบเหมือนพระที่บวชสวดถวาย
ประโรหิตหมอบเคียงกันเรียงราย คอยถวายน้ำสังข์หลั่งคนที
พอสวดจบพลบค่ำให้ย่ำฆ้อง ประโคมกลองแตรฝรั่งทั้งดีดสี
บ้างร้องรับขับไม้มโหรี เสียงอึงมี่วังเวงบรรเลงพิณ
บ้างตั้งเครื่องกษัตราสุธาโภช ล้วนเอมโอชเสร็จสมอารมณ์ถวิล
เชิญกษัตริย์ขัตติยาทุกธานินทร์ พร้อมกันสิ้นนั่งเสวยทั้งเนยนม
พวกมุนีที่สวดเลี้ยงลูกไม้ น้ำตาลใส่ต่างต่างอย่างขนม
ฉันเสร็จชักประคำสำรวมอารมณ์ เดินจงกรมตามกันในศาลา
ฝ่ายพระวงศ์พงศาระดาดาษ ก็ยุรยาตรไปพักตำหนักขวา
แต่ฟังสวดครบตามสามเวลา เช้าจะราชาภิเษกเป็นเอกองค์ ฯ
๏ ครั้นรุ่งรางสุริยาภานุมาศ พร้อมพระญาติพวกประยูรสกูลหงส์
กับเสนีชีพราหมณ์อิศรพงศ์ กับเอกองค์พระมุนินทร์ปิ่นอภัย
เสด็จมาพร้อมพรั่งทั้งนักสิทธ์ สำรวมกิจบนปรางค์ทองอันผ่องใส
ฝ่ายหน่อนาถแต่งองค์ทรงประไพ แลวิไลผ่องสีรวีวาร
ทรงเศวตพัสตราภูษาขาว เสด็จก้าวขึ้นไปนั่งบัลลังก์สนาน
พระญาติวงศ์พงศาพฤฒาจารย์ ถวายสนานมูรธาสรงวารี
พวกประโคมก็ประโคมขึ้นเซ็งแซ่ กระทั่งแตรสังคีตทั้งดีดสี
ลั่นฆ้องชัยให้พิพัฒน์สวัสดี ตีดนตรีบัณเฑาะว์เสนาะพิณ
เปิดสุหร่ายพรายพรอยดั่งฝอยฝน ต้องสกนธ์โปรยปรายสายกระสินธุ์
พระญาติวงศ์พงศารดวาริน พร้อมกันสิ้นโหราพฤฒาจารย์
ครั้นเสร็จสรงทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ ล้วนแก้วเก้าเนาวรัตน์มุกดาหาร
ให้นั่งใต้เศวตฉัตรชัชวาล มอบสิงคารให้เป็นท้าวเจ้านคร ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ผู้ทรงภพ อันเลิศลบบพิตรอดิศร
ถวายพระแสงอัษฎาค่านคร ทั้งศิลป์ศรเครื่องกษัตริย์กรุงรัตนา ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครบวรนาถ ประทานของให้พระราชโอรสา
พระแสงดาบโยคีมีฤทธา กับจินดาเทพไทส่งให้พลัน
นรินทร์รัตน์กราบก้มบังคมบาท บรรดาญาติทุกเวียงวังนรังสรรค์
ต่างอวยชัยให้พรรษาพ่อกว่าพัน ดำรงขัณฑเสมาอย่าอาวรณ์ ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ บวรนาถบพิตรอดิศร
สั่งให้เตรียมเสนาพลากร เลียบนครตามอย่างทางบุราณ
จัดกระบวนทวนธงเครื่องยงยุทธ์ ถืออาวุธแต่บรรดาโยธาหาญ
ทั้งเครื่องแห่แตรสังข์กังสดาล ให้พร้อมการตามสั่งทั้งขุนพล
ครั้นสั่งเสร็จพระเสด็จยุรยาตร ขุนอำมาตย์ฝ่ายตำรวจตรวจพหล
จัตุรงค์แสนยาพลาพล มาเกลื่อนกล่นในพระลานชานชลา ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่ออธิบดินทร์นรินทร์รัตน์ พร้อมกษัตริย์เผ่าพงศ์พระวงศา
ช่วยกันแต่งเครื่องทรงอลงการ์ ให้นัดดาตามอย่างทางบุราณ
ทรงมหามาลาขนการเวก อติเรกดังออกศึกดูฮึกหาญ
เสร็จให้ทรงยานุมาศราชยาน พวกทหารโห่แห่แซ่สำเนียง
กลองชนะโครมครึกเสียงกึกก้อง ประสานซ้องสังข์แตรเซ็งแซ่เสียง
จะแจ้วปี่ชวานำส่งสำเนียง ก้องจำเรียงเดินพลตามหนทาง
พวกดูแห่แซ่ซ้องท้องถนน มาเกลื่อนกล่นตามถนัดไม่ขัดขวาง
พวกสาวสาวชาวละมุนเมียขุนนาง นุ่งลายอย่างห่มสีไว้กิริยา
มีบ่าวตามหลามล้นกันคนผู้ เป็นหมู่หมู่เดินรายทั้งซ้ายขวา
ใส่ตุ้มหูเพชรมณีมีราคา ทั้งผัดหน้าจับกระเหม่าคล้ายชาววัง
ราษฎรเบียดเสียดกันเยียดยัด มาแออัดชื่นชมเพราะสมหวัง
จะคอยดูเจ้าประเทศนิเวศน์วัง มาคับคั่งตามถนนริมหนทาง
พอกระบวนแห่หน้ามานำริ้ว เดินเป็นทิวใส่เสื้อปักหักทองขวาง
พระโปรยเงินให้ทานตามย่านทาง ทั้งสองข้างเขตขอบรอบนคร
บ้างชมงามความยินดีเป็นที่สุด ล้ำบุรุษในจังหวัดประภัสสร
พลางพากันอวยชัยถวายพร จงถาวรในสมบัติกษัตรา
ครั้นแห่รอบขอบเขตประเทศสถาน สำเร็จการนครินทร์ปิ่นมหา
เข้าเวียงชัยในวังอลังการ์ ถึงเวลาออกขุนนางยังพระโรง
ขึ้นพระแท่นแทนที่ท้าวสุทัศน์ บัลลังก์รัตน์อิศโรอันโอ่โถง
ขุนนางเข้าเฝ้าแหนแน่นพระโรง จอมจรรโลงชี้ขาดราชการ ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์ขัตติยาบรรดาญาติ ทูลลาบาทพระอภัยไปสถาน
แต่บรรดามาช่วยภิเษกการ มีเครื่องอานทำขวัญกันทุกราย ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์สินสมุทร กับนงนุชอรุณศรีมณีฉาย
ประทานพวกนางกำนัลให้หลายชาย ล้วนโฉมฉายผุดผ่องละอองตา
ป่างพระจอมธรณินมโนราษฎร์ ได้ของญาติประทานให้ไว้หนักหนา
แต่พระสุริโยไทยอัยกา ประทานข้าฝ่ายทหารชำนาญปืน
กับเครื่องทรงออกทัพสำรับหนึ่ง ราคาถึงพาราไม่ฝ่าฝืน
พระหัสไชยให้ม้าที่กล้าปืน กับทองหมื่นตำลึงได้ไว้ใช้การ
นรินทร์รัตน์กราบก้มบังคมบาท พระจอมราชอัยกาตรัสว่าหลาน
เจ้าจงอยู่สุโขมโหฬาร อย่ามีการทุกข์ยากลำบากใจ
แล้วทูลลาพระมุนินทร์ปิ่นนักพรต น้อมประณตกราบกรานแล้วขานไข
ว่าไม่มีใครอยู่ดูเวียงชัย ต้องรีบไปนคเรศนิเวศน์วัง ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงศีลมุนินทร์นาถ อนุญาตเชิญพ่อไปดั่งใจหวัง
จะได้ดูขอบเขตนิเวศน์วัง การแต่งตั้งก็เป็นเสร็จสำเร็จดี ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมรมจักรนัคเรศ พลางก้มเกศลงประณตบทศรี
ท้าวรับหัตถ์ตรัสว่าพ่ออยู่จงดี อันตัวพี่กับหลานยาจะลาจร
ป่างพระสุดสาครบวรราช กับนางนาฏเสาวคนธ์วิมลสมร
มากราบกรานทรงฤทธิ์พระบิดร พระอวยพรจงภิญโญเดโชชัย
จงผ่านกรุงลังกาให้ผาสุก อย่ามีทุกข์เคืองข้องให้ผ่องใส
อยู่เป็นเพื่อนลูกสักหน่อยจึ่งค่อยไป แต่พอได้เคยคุ้นแก่ขุนนาง
พระหัสไชยทูลลาบรรดาญาติ อภิวาทสองกษัตริย์ไม่ขัดขวาง
พ่อจะไปในเขตประเทศทาง อย่าขัดขวางจงเป็นสุขทุกทิวา ฯ
๏ ศรีสุวรรณสุดสาครไปส่งเสด็จ ท้าวเธอเสร็จขึ้นราชรถา
ฝ่ายพระจอมนรินทร์รัตน์ผู้นัดดา ก็ตามมาส่งท้าวเจ้านคร
จนลงลำกำปั่นสุวรรณมาศ ล่วงลีลาศพ้นพาราหน้าสิงขร
ก็ใช้ใบไปในทางชโลทร พากันจรไปเป็นสุขทุกบุรินทร์
สามกษัตริย์กลับหลังยังนิเวศน์ เข้านคเรศเวียงวังดั่งถวิล
พวกที่ไปหลายทิวาถึงธานินทร์ พร้อมกันสิ้นทุกพาราไม่ช้านาน ฯ
๏ ฝ่ายพระยาวาโหมจัดของขวัญ เครื่องสุพรรณภาชน์ทองใส่ของหวาน
ทั้งเงินนากมากมายหลายประการ เครื่องทหารห้าพันทำขวัญนาย
แล้วทูลลาแต่บรรดากษัตริย์เสร็จ ท้าวเสด็จลงกำปั่นรีบผันผาย
พอน้ำล่องต้องลมพระพายชาย แสนสบายแล่นมาสิบห้าวัน ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมมุนินทร์ปิ่นดาบส เจริญพรตถือคำพระธรรมขันธ์
ชวนนัดดานักพรตหมดด้วยกัน ลงกำปั่นกลับหลังยังลังกา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ เสด็จนิวัตลงกำบินด้วยหรรษา
รีบใช้ใบไปกระทั่งถึงพารา เข้ามหานคเรศนิเวศน์วัง
สุดสาครเสาวคนธ์วิมลพักตร์ ลาลูกรักจะกลับถิ่นถวิลหวัง
พระจอมเจิมเฉลิมวงศ์ดำรงวัง ถวายบังคมคัลอัญชลี
สองกษัตริย์ตรัสว่าข้าไม่ได้ ต้องรีบไปจัดการบุรีศรี
พ่อก็รู้อยู่กับใจว่าไพรี มักเกิดมีไม่ใคร่เว้นเห็นแก่ตา
พระว่าพลางทางลงจากปราสาท ยุรยาตรพร้อมขุนนางทั้งซ้ายขวา
เสด็จออกจากจังหวัดรัตนา กษัตราตามส่งจนลงเรือ
พอลมดีคลี่ใบขึ้นใส่รอก ให้แล่นออกใบสะบัดคัดหางเสือ
พระสุริย์ฉายบ่ายคลุ้มลงคลุมเครือ บรรดาเรือแล่นหลามข้ามสันดอน ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์นรินทร์รัตน์ ส่งกษัตริย์บิตุรงค์พระทรงศร
เสด็จกลับคืนหลังยังนคร บทจรเข้าข้างในที่ไสยา
พร้อมขุนนางมหาดเล็กล้วนเด็กหนุ่ม เฝ้าประชุมแสนสนุกเป็นสุขา
เวลาบ่ายชายแสงพระสุริยา เสด็จออกหน้าสนามหัดจัตุรงค์
ให้จัดหาคนดีที่เปรมปราด สำราญราชกิจตามความประสงค์
มาชุบเลี้ยงไว้ในวังดั่งจำนง ตามเผ่าพงศ์คนดีมีวิชา
กิตติศัพท์ลือไปในชนบท ก็ปรากฏแจ้งจิตทุกทิศา
แต่พวกเหล่าคนดีมีวิชา ก็เข้ามาถวายตัวทั่วกันไป
แต่บรรดาเมืองขึ้นก็ตื่นแตก ทั้งไทยแขกคนดีอยู่ที่ไหน
สามิภักดิ์เข้ามาเป็นข้าไท พระโปรดให้เป็นขุนนางต่างต่างกัน
กรุงรัตนาธานีบุรีรัตน์ ศรีสวัสดิ์อิ่มเอมเกษมสันต์
บ้านเศรษฐีเล่าก็มีขึ้นครามครัน ในขอบขัณฑเสมามากกว่าเดิม
มีอาจารย์การวิชาสารพัด รอบจังหวัดอยู่ตึกดูฮึกเหิม
ประโรหิตโหรามากกว่าเดิม ต่างฮึกเหิมทั่วอาณาประชาชี
เพราะพระองค์ผู้ดำรงอาณาเขต แผ่พระเดชคิดบำรุงชาวกรุงศรี
ทั้งเสนาข้าบาทราชกวี ก็เปรมปรีดิ์ไปด้วยยศหมดด้วยกัน ฯ
๏ จะกล่าวถึงผู้อยู่ป่าพนาวาศ เป็นเชื้อปราชญ์มาแต่ก่อนรู้ผ่อนผัน
เรื่องวิชาสามารถฉลาดครัน เป็นพงศ์พันธุ์ประโรหิตติดกันมา
ชื่อพรหเมศอาจารย์อยู่บ้านใหญ่ พวกไหนไหนก็มาติดเป็นศิษย์หา
ทั้งดูแลแน่นักประจักษ์ตา ในดินฟ้าเหตุการณ์สถานใด
รู้ชำนาญกลศึกที่ลึกลับ ตำราตำหรับมากมีคัมภีร์ไสย
บรรดาพวกบ้านดงชาวพงไพร ได้อาศัยท่านพฤฒาสารพัน
พอรู้ข่าวว่ามีเจ้าพิภพแล้ว ก็ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
จึ่งจับยามตามสังเกตดูเขตคัน ก็รู้มั่นใจแท้ไม่แชเชือน
ว่ากษัตริย์องค์นี้จะมีเดช ทุกประเทศธานีไม่มีเหมือน
เปรียบดั่งดวงสุริยันตะวันเดือน อันลอยเลื่อนส่องฟ้านภาลัย
จะส่องโลกให้สว่างกระจ่างศรี ดั่งมณีนพรัตน์จำรัสไข
จำจะคิดเข้าไปเฝ้าให้ท้าวไท รู้จักไว้ได้เป็นข้าฝ่าละออง
พลางเรียกศิษย์แต่บรรดาที่มาอยู่ ไปกับครูชมสถานการทั้งผอง
แม้นได้สมใจนึกอย่างตรึกตรอง ทั้งพวกพ้องจะสบายหลายประการ
ดำริพลางทางลงจากเคหา หมายมรรคาตรงตัดลัดไพรสาณฑ์
เข้านิเวศน์เขดแคว้นแสนสำราญ ชมเมืองบ้านนคราสง่างาม
ถึงหน้าบ้านท่านเศรษฐีเขารู้จัก เชิญให้พักปราศรัยแล้วไต่ถาม
ต่างเลี้ยงดูหมู่ศิษย์ที่ติดตาม เชิญท่านพราหมณ์เสพอาหารทั้งหวานมัน
แล้วถามว่าท่านมานี่มีประสงค์ โดยจำนงสิ่งไรไฉนท่าน
ตาพรหเมศแจ้งเหตุเศรษฐีพลัน ว่าเรานั้นอยากจะเฝ้าเจ้าบุรินทร์
เศรษฐีว่าฉันก็พาไปเฝ้าได้ แต่ท้าวไทเธอประสงค์จำนงถวิล
คงจะชวนให้ท่านอยู่ในบูรินทร์ ต้องละถิ่นบ้านไพรที่ในดง
ท่านพราหมณ์ว่าข้าแผ่นดินถิ่นประเทศ จะโปรดเกศก็ตามความประสงค์
ท่านเศรษฐีพาไปดั่งใจจง แล้วเดินตรงเข้าไปที่ในวัง ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ผู้ดำรงอาณาเขต ทอดพระเนตรเห็นพฤฒามาโดยหวัง
กับเศรษฐีพัฒกามาในวัง พระจึ่งสั่งเสวกาให้มาเชิญ
ท่านเศรษฐีพาอาจารย์คลานเข้าเฝ้า แล้วก้มเกล้าอภิวันท์สรรเสริญ
พระปราศรัยไต่ถามความเจริญ แล้วชวนเชิญให้นั่งตั้งพระทัย
จะเกลี้ยกล่อมท่านครูผู้วิเศษ อันเรืองเวทโดยวิธีคัมภีร์ไสย
ขอเชิญท่านช่วยบำรุงซึ่งกรุงไกร แต่พอได้บูชาได้หารือ ฯ
๏ ฝ่ายนิกรมพรหเมศสดับอรรถ พงศ์กษัตริย์เธอบังคับเห็นนับถือ
จะให้อยู่ในพาราไว้หารือ ครั้นจะดื้อดึงไปก็ไม่ดี
จึ่งทูลว่าถ้าพระองค์ประสงค์ข้า ก็ต้องมาน้อมประณตบทศรี
ฉลองคุณมุลิกาฝ่าธุลี พอเป็นที่พึ่งพาเหมือนอาวรณ์
พระทรงฟังสังรเสริญสมเป็นปราชญ์ เฉลียวฉลาดรู้จักใจคิดไถ่ถอน
พระจึงสั่งเสวกาข้านคร จงรีบร้อนหาบ้านอย่านานวัน
แม้นชอบอยู่ตรงไหนอย่าได้ขัด ไปรีบจัดก่อกำแพงให้แข็งขัน
ทำตึกใหญ่ให้อยู่พลางเป็นรางวัล ระดมกันทำให้ครูผู้อาจารย์
ครั้นสั่งเสร็จพระเสด็จยุรยาตร ขึ้นปรางค์มาศรจนามุกดาหาร
สถิตแท่นอิศโรอันโอฬาร ในสถานทิพอาสน์ปราสาทชัย ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ