- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
- คำนำเมื่อพิมพ์ครั้งแรก
- ประวัติสุนทรภู่
- บันทึกเรื่องผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
- อธิบาย ว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่
- ปกิรณะกะประวัติของสุนทรภู่
- ตอนที่ ๑ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๓ ศรีสุวรรณเข้าเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
- ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
- ตอนที่ ๖ ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน
- ตอนที่ ๗ ศรีสุวรรณพยาบาลนางเกษรา
- ตอนที่ ๘ อภิเษกศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๙ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
- ตอนที่ ๑๐ พระอภัยได้นางเงือก
- ตอนที่ ๑๑ นางสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเล
- ตอนที่ ๑๒ พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๓ พระอภัยมณีโดยสารเรือนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๔ พระอภัยมณีเรือแตก
- ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง
- ตอนที่ ๑๖ สินสมุทรพบศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๑๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๑๘ พระอภัยมณีโดยสารเรืออุศเรน
- ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร
- ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรรบกับอุศเรน
- ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๒ พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๓ พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๔ กำเนิดสุดสาคร
- ตอนที่ ๒๕ สุดสาครเข้าเมืองการะเวก
- ตอนที่ ๒๖ อุศเรนตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๗ เจ้าละมานตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๘ สุดสาครตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๓๐ พระอภัยมณีตีเมืองใหม่
- ตอนที่ ๓๑ พระอภัยมณีพบนางละเวง
- ตอนที่ ๓๒ ศรีสุวรรณอาสาตีด่านดงตาล
- ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ
- ตอนที่ ๓๔ นางละเวงคิดหย่าทัพ
- ตอนที่ ๓๕ พระอภัยติดท้ายรถ
- ตอนที่ ๓๖ พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง
- ตอนที่ ๓๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๓๘ นางสุวรรณมาลีข้ามไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๓๙ นางสุวรรณมาลีมีสารตัดพ้อ
- ตอนที่ ๔๐ สุดสาครถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๔๑ นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม
- ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์
- ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม
- ตอนที่ ๔๔ กษัตริย์สามัคคี
- ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร
- ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง
- ตอนที่ ๔๗ อภิเษกสินสมุทร
- ตอนที่ ๔๘ นางเสาวคนธ์หนี
- ตอนที่ ๔๙ นางเสาวคนธ์แปลงเป็นฤๅษี
- ตอนที่ ๕๐ นางเสาวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
- ตอนที่ ๕๑ สุดสาครตามนางเสาวคนธ์
- ตอนที่ ๕๒ พระอภัยมณีทำศพท้าวสุทัศน์
- ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๔ มังคลาชิงโคตรเพชร
- ตอนที่ ๕๕ มังคลาจับนางสุวรรณมาลีและท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๗ สุดสาครรบมังคลา
- ตอนที่ ๕๘ นางละเวงวัณฬาช่วยนางสุวรรณมาลีแลท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๙ พระอภัยมณีศรีสุวรรณไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
- ตอนที่ ๖๑ สังฆราชบาทหลวงเผาเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๒ พระอภัยเข้าเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย
- ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช
- ตอนที่ ๖๕ พระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีทัพไปเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๖๖ วลายุดาครองเมืองสินชัย
- ตอนที่ ๖๗ วายุพัฒน์เป็นอุปราชเมืองเซ็น
- ตอนที่ ๖๘ หัสกันครองเมืองสุลาลัย
- ตอนที่ ๖๙ พระอภัยมณีเยี่ยมศพนางมณฑา
- ตอนที่ ๗๐ พระมังคลายกทัพเรือมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
- ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๗๔ ทัพพันธมิตรเมืองกำพลเพชรยกมาช่วยพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๕ พระมังคลาล่าทัพไปถึงเกาะกาหวี
- ตอนที่ ๗๖ ทหารเมืองกำพลเพชรตามนางกฤษณาพบพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๗ พระมังคลาได้นางดวงแขลูกสาวเจ้าเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๗๘ อภิเษกพระกฤษณากับนางเทพินไปครองเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
- ตอนที่ ๘๐ พระมังคลายกทัพเมืองสำปันหนาไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
- ตอนที่ ๘๒ โจรสลัดคุมกำปั่นปล้นเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๘๓ ศรีสุวรรณมาช่วยเมืองรมจักรรบโจรสลัด แล้วอภิเษกตรีพลำกับอัมพวันและเทวัญกับนิลกัณฐี
- ตอนที่ ๘๔ พระมังคลากับพระบาทหลวงแตกทัพไปเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ
- ตอนที่ ๘๕ พระมังคลาไปถึงเมืองโรมพัฒน์ได้นางบุษบง
- ตอนที่ ๘๖ พระบาทหลวงกับพระมังคลายกทัพเรือเมืองโรมพัฒน์ไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๗ สุดสาครทราบข่าวศึก
- ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา
- ตอนที่ ๘๙ ทัพสุดสาครตีทัพพระมังคลาพ่าย จนเทวสินธุ์ตามไปถึงเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๙๐ ท้าวรายากับพระเทวสินธุ์ไปถึงเมืองกำพลเพชร แล้วยกทัพไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๙๑ หกกษัตริย์ยกทัพมาช่วยเมืองลังกาทำศึก
- ตอนที่ ๙๒ พระบาทหลวงรบศึกหกกษัตริย์จนลมแดงซัดเรือรบพลัดกัน
- ตอนที่ ๙๓ สุดสาครตีเมืองด่านแตก
- ตอนที่ ๙๔ พระเทวสินธุ์พบพระมังคลาจนเจ็ดกษัตริย์เตรียมรบ
- ตอนที่ ๙๕ พระมังคลากับพระบาทหลวงยกทัพเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๙๖ ทัพเจ็ดกษัตริย์ตีทัพพระบาทหลวงแตก
- ตอนที่ ๙๗ พระบาทหลวงเตรียมตีเมืองปากน้ำคืน
- ตอนที่ ๙๘ พระบาทหลวงขับท้าวรายากับนางบุษบงไปจากกองทัพ จนพระมังคลาหนี
- ตอนที่ ๙๙ พระบาทหลวงยกเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๑๐๐ สินสมุทรตีทัพพระบาทหลวงจนถูกยาเบื่อ
- ตอนที่ ๑๐๑ พระอภัยมณีเยือนลังกา
- ตอนที่ ๑๐๒ พระบาทหลวงปล่อยโคมไฟไปตกเมืองลังกา จนถึงพระอภัยมณีห้ามทัพ
- ตอนที่ ๑๐๓ หกกษัตริย์ตีโต้ทัพพระบาทหลวงล่าไปเมืองปตาหวี
- ตอนที่ ๑๐๔ พระอภัยมณีกลับไปเขาสิงคุตร
- ตอนที่ ๑๐๕ อภิเษกหัสกันกับนางวันชายา
- ตอนที่ ๑๐๖ พระอภัยมณีไปเยี่ยมนางเงือกที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๐๗ พระบาทหลวงเข้าเมืองปตาหวีแล้วตามไปพบพระมังคลาที่เมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๐๘ พระมังคลาและนางบุษบงออกมารับพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๐๙ ท้าวโกสัยบอกพระมังคลาให้รู้อุบายพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๐ พระบาทหลวงตีด่านเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๑๑ พระมังคลามีสารง้อศรีสุวรรณสุดสาครและสินสมุทร ให้มาช่วยรบพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๒ ทัพพระมังคลารบกับทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๓ ทัพศรีสุวรรณกับสี่กษัตริย์ตีกระหนาบทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๕ ศรีสุวรรณกับพวกพาพระมังคลากลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๗ พระมังคลาไปงานโสกันต์ระเด่นกินเรศ
- ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง
- ตอนที่ ๑๑๙ สุดสาครไปเยี่ยมนางเงือกและพระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๒๐ สุดสาครกลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๓ เจ็ดกษัตริย์ยกทัพมาตีเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๔ นรินทร์รัตน์ขอราเมศมาเป็นอุปราชกรุงรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๕ นรินทร์รัตน์กับราเมศมาช่วยเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๖ เจ็ดกษัตริย์ตายสี่หนีสาม
- ตอนที่ ๑๒๗ นรินทร์รัตน์หลงนางเกศพัฒน์เมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๘ อภิเษกพระราเมศกับนางดวงประภา
- ตอนที่ ๑๒๙ ภัทวงศ์ไปไหว้เทวรูปจนพบนางเกสรสุมาลัย
- ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์
- ตอนที่ ๑๓๑ พระสังฆราชบาทหลวงยกทัพมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๓๒ ตัดหางสุพรรณมัจฉาแล้วสถาปนาเป็นจันทวดีพันปีหลวง
ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
๏ อันเรื่องพระกฤษณาขอช้าไว้ | จะกล่าวไปถึงพระองค์ทรงสิกขา |
พระอภัยมณีศรีโสภา | ทั้งวันฬาสุมาลีพวกชีไพร |
ส่งนัดดาแล้วเสร็จเสด็จกลับ | ไปประทับนคราที่อาศัย |
ขึ้นทรงราชรถาให้คลาไคล | เสด็จไปเนินสิงคุตรที่กุฎี |
พร้อมพระวงศ์พงศาคณาญาติ | ก็ตามราชรถไปในวิถี |
ส่งเสด็จเสร็จไปถึงกุฎี | เข้านั่งที่โรงฉันในศัลลา ฯ |
๏ พระอภัยมณีฤๅษีสิทธ์ | สำรวมจิตแจ้งเหตุเทศนา |
พระไตรลักษณ์ชักเรื่องเนื่องกันมา | อนิจจาทุกขังไม่ยั่งยืน |
เกิดแล้วตายว่ายวงในสงสาร | ทางกันดารมรรคาไม่ฝ่าฝืน |
คิดก็เป็นอนิจจังไม่ยั่งยืน | เป็นแต่พื้นเน่าจมถมแผ่นดิน |
เกิดมาแล้วก็คงตายวายชีวาตม์ | อย่าหมายมาดรักใคร่ใฝ่ถวิล |
เพราะกิเลสเจตนาจึ่งราคิน | ให้สัตว์ดิ้นอยู่ในบ่วงคือห่วงมาร |
ติดในธรรมกรรมฐานนิพพานเถิด | จะประเสริฐหนักแน่นเป็นแก่นสาร |
อันตัวเราเล่าประโยชน์โพธิญาณ | หมายนิพพานภาคหน้าสถาวร |
อันโลโภโทโสแลโมหะ | จงสละเชื่อฟังเราสั่งสอน |
เกิดมาในสงสารต้องราญรอน | ชิงนครบ้านเมืองเรื่องอบาย |
ให้เขาพลัดญาติวงศ์เผ่าพงศา | อนิจจาอนิจจังสิ้นทั้งหลาย |
ต้องรบราฆ่าฟันกันล้มตาย | ตกอบายเสียเปล่าเปล่าไม่เข้ายา |
ได้แต่ความทุกขังเกิดสังเวช | กองกิเลสผูกพันเพราะตัณหา |
เราเบื่อหน่ายในจิตคิดศรัทธา | บรรพชาเสียให้พ้นทนทรมาน |
หมายประโยชน์โปรดสัตว์สันทัดเที่ยง | จึ่งหลีกเลี่ยงจากห่วงบ่วงสงสาร |
เป็นฤๅษีชีไพรใจสำราญ | สมาทานยึดมั่นในขันตี ฯ |
๏ พอจบธรรมกรรมฐานการสิกขา | พระยถาสำรวมจิตกิจฤๅษี |
พวกเผ่าพงศ์วงศาบรรดามี | อัญชลีกราบก้มประนมกร |
แล้วทูลลากลับหลังยังนิเวศน์ | ออกจากเขตเขาเขินเนินสิงขร |
ชมวิหคเหมหงส์ในดงดอน | ถึงนครเวลาพอสายัณห์ |
เสด็จเข้าวังลังกาอาณาจักร | อยู่พร้อมพรักกันที่ในไอศวรรย์ |
วลายุดาวายุพัฒน์หัสกัน | มาพร้อมกันทูลลาไปธานี ฯ |
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ | สั่งให้จัดแจงเหล่านางสาวศรี |
ที่แรกรุ่นชันษาสิบห้าปี | ลูกผู้ดีมิใช่คนพลเมือง |
ทั้งเครื่องอานพานพระศรีสำหรับยศ | กระบี่กรดฝักทองละอองเหลือง |
ประดับเพชรเม็ดงามอร่ามเรือง | กับทั้งเครื่องสร้อยสุวรรณพรรณราย |
มงกุฎเก็จเพชรประดับสลับสี | แกมมณีเนาวรัตน์จำรัสฉาย |
ฉลององค์ตาดปักจำหลักลาย | ประทานสายสุดาสวาทราชนัดดา |
สินสมุทรสุดสาครบวรนาถ | ก็พระราชทานของโอรสา |
ทั้งเครื่องทรงมงกุฎบุษรา | ทั้งอนุชาที่จะไปก็ให้ปัน ฯ |
๏ ทั้งสามองค์น้อมคำนับอัภิวาท | แม้นมีราชการร้อนจงผ่อนผัน |
จะมาเฝ้าบาทบงสุ์พระทรงธรรม์ | ให้พร้อมกันทั้งสามตามสัญญา |
แล้วไปเฝ้าชนนีที่ปราสาท | ทั้งสามนาฏรับขวัญด้วยหรรษา |
แล้วสอนสั่งเจ้าจงฟังคำมารดา | จงรักษาญาติวงศ์พงศ์ประยูร |
อย่าทำให้ขัดเคืองในเบื้องบาท | ชนกนาถที่เป็นปิ่นบดินทร์สูร |
ศรีสวัสดิ์พัฒนาอย่าอาดูร | จงเพิ่มพูนภิญโญเดโชชัย ฯ |
๏ สามกษัตริย์ขัตติยานราราช | ฟังพระมาตุรงค์ว่าน้ำตาไหล |
ลูกจะขอทูลลามารดาไป | เพราะว่าได้มีคู่อยู่ด้วยกัน |
แล้วก็ได้พาราราชาภิเษก | ในเศวกระฉัตรชัยไอศวรรย์ |
ลูกจะขอเชิญให้ไปด้วยกัน | จะได้วันทารองฉลองคุณ |
ทั้งสามนางต่างว่ามารดานี้ | ดาบสินีขาดเหลือได้เกื้อหนุน |
แล้วก็มีท้องไส้ไม่เป็นคุณ | จะไปวุ่นวายอยู่ดูไม่ดี |
พ่อไปเถิดให้เป็นสุขอย่าทุกข์ร้อน | ถึงมารดรเลยจงมุ่งไปกรุงศรี |
นางจัดเครื่องสำอางที่อย่างดี | ฝากให้ศรีสะใภ้ด้วยแม่อวยพร ฯ |
๏ สามกษัตริย์ทูลลามารดาแล้ว | ค่อยผ่องแผ้วภิญโญสโมสร |
เสร็จมาลงเรือที่นั่งลำมังกร | สามนครแยกย้ายรายกันไป |
แต่กษัตริย์หัสกันนั้นปั่นป่วน | ให้เรรวนร้อนจิตพิสมัย |
ออกกำปั่นแล่นล่องตีฆ้องชัย | ให้ใช้ใบเลยมาในสาคร |
พระนั่งแนบแอบวันชายาน้อง | ค่อยประคองโฉมฉายสายสมร |
นางอิงแอบแนบเคล้าเฝ้าวิงวอน | บนบรรจถรณ์ท้ายบาหลีพระปรีดิ์เปรม |
แต่ยังเยาว์เคยเคล้าคลึงพระพี่ | เข้าเซ้าซี้ปล้ำปลุกสุขเกษม |
สนิทสนมชมพี่ยิ่งปรีดิ์เปรม | นางอิ่มเอมซื่อตรงเหมือนวงศ์วาน |
แต่องค์พระหัสกันจิตรันทด | เหลือจะอดออมรักสมัครสมาน |
ค่อยอิงแอบแนบโฉมประโลมลาน | ให้เสียวซ่านอยู่ในจิตแต่คิดอาย ฯ |
๏ พระสุริยงเย็นพยับลงลับฟ้า | พระจันทราแจ่มกระจ่างสว่างฉาย |
เผยพระแกลแลชมดาราราย | พระพายชายเฉื่อยฉ่ำในอัมพร |
พระปลอบนางทางอุ้มขึ้นใส่ตัก | จุมพิตพักตร์ค่อยประโลมโฉมสมร |
นางพาซื่อถือว่าพี่ชุลีกร | พลางทูลวอนกล่อมฉันให้บรรทม |
พระว่าแน่แม่วันชายาน้อง | จะให้ต้องกล่อมอย่างป่างประถม |
นี่ก็จนเป็นสาวคราวประทม | จะให้ชมเชยถนอมทั้งกล่อมไกว |
จะมิต้องผูกเปลขึ้นเห่ช้า | ในเภตราจนจิตผิดวิสัย |
มาเถิดมาแม่มาจะพาไป | บรรทมในแท่นรัตน์ชัชวาล |
พลางจูงกรกัลยาพาไปห้อง | ขึ้นแท่นทองรจนามุกดาหาร |
มียี่ภู่ปูลาดดาดเพดาน | พระชวนมิ่งเยาวมาลย์ให้นิทรา |
เผยพระแกลแขส่องมาต้องพักตร์ | กำเริบรักรวนเรเสน่หา |
พระอิงแอบแนบขวัญวันชายา | ค่อยต้องเต้าเต่งอุราสุดาดวง |
พึ่งครัดเคร่งเต่งตั้งกำลังรุ่น | เพราะว่าคุ้นเคยตามไม่ห้ามหวง |
พระสวมสอดกอดประทับไว้กับทรวง | จนเลยล่วงม่อยหลับระงับไป ฯ |
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์หัสกันพี่ | ร้อนฤดีพลิกกลับไม่หลับใหล |
พิศดูขวัญวันชายายิ่งอาลัย | คิดจะใคร่ปลอบประโลมนางโฉมยง |
แต่นางนั้นสัตย์ซื่อถือว่าพี่ | ก็เป็นที่จนจิตพิศวง |
ให้รุ่มร้อนถอนจิตคิดพะวง | พิศดูทรงแล้วสะท้อนถอนฤทัย |
นึกจะปลุกกัลยาสุดาโฉม | ค่อยประโลมปลอบน้องให้ผ่องใส |
ฉวยนางร้องวุ่นวายก็อายใจ | ทำกระไรแสนวิตกโอ้อกรา |
แล้วหุนหวนป่วนปั่นกระสันเสียว | ชำเลืองเหลียวอกใจดั่งไฟเผา |
แล้วหักจิตคิดความตามลำเนา | ผิดก็เข้าปล้ำกันเท่านั้นเอง |
พลางหวนฮึกนึกคิดจิตขยับ | ฉวยตื่นกลับท้าคารมว่าข่มเหง |
คิดยักย้ายหลายความไปตามเพลง | ชาตินักเลงเจ้าชู้รู้กระบวน |
ค่อยปลอบปลุกลุกเถิดสมรมิ่ง | ประหลาดจริงหนาวอารมณ์เป็นลมหวน |
เจียนจะเจ็บจับไข้ให้รัญจวน | ขอเชิญนวลนุชเจ้าลำเพาพาล ฯ |
๏ ฝ่ายโฉมวันชายาผวาตื่น | นางพลิกฟื้นวิงวอนด้วยอ่อนหวาน |
พระประชวรเป็นไฉนให้รำคาญ | เยาวมาลย์ทูลถามตามธรรมเนียม |
พระปลอบพลางทางชวนสมัครสมาน | เยาวมาลย์รู้อุบายนึกอายเหนียม |
พระก็ค่อยสอดประคองทำลองเลียม | นางฟุบเฟี้ยมเอียงอายภิปรายเปรย |
แกล้งทูลพระหัสกันว่าฉันนี้ | ดูพระพี่ชิงชังนิ่งนั่งเฉย |
หรือขัดเคืองเรื่องอะไรพระไม่เคย | ทำเฉยเมยมิใคร่ตรัสน่าอัศจรรย์ |
พระอุ้มนางวางเพลาว่าเจ้าพี่ | อย่าพาทีขึ้งเคียดคิดเดียดฉันท์ |
พี่รักเจ้าเท่าเทียมกับชีวัน | ขอเชิญขวัญนัยนาจงปรานี |
พระจุมพิตกนิษฐายุพาพักตร์ | ขอฝากรักแม่อย่าอางขนางหนี |
พลางอิงแอบแนบทรวงดูท่วงที | ประเวณีไม่ต้องสอนเหมือนกลอนเพลง |
แต่พอมาตาหูรู้ว่ารัก | ไม่ต้องชักชิดชมต้องข่มเหง |
ถึงปากปิดมิดเม้นก็เป็นเอง | กระบวนเพลงบทนี้ไม่มีครู |
พระสวมสอดกอดมิ่งนางนิ่งเฉย | ตระกองเกยวิงวอนแทบอ่อนหู |
เหมือนอุบลเมื่อยังตูมกระพุ่มพู | อันเรณูยังไม่เผยระเหยนวล |
แมงภู่ผึ้งคลึงเคล้าจะเอากลิ่น | เที่ยวโบกบินเวียนชมเมื่อลมหวน |
เข้าเฟ้นฟอนในเกสรเรณูนวล | ยังไม่ควรที่จะแย้มแกมผกา |
เหมือนเรือน้อยถอยค้ำเมื่อน้ำแห้ง | พลิกคะแคงเสือกกระทั่งเกยฝั่งฝา |
พิรุณโรยโปรยปรายกระจายมา | ในธารท่าห้วยเหวเป็นเปลวไฟ |
สุนีบาตฟาดเปรี้ยงเสียงสนั่น | พิลึกลั่นโกลาสุธาไหว |
ทะเลลมยมนาคงคาลัย | เป็นคลื่นใหญ่ครื้นเครงละเวงวน |
อากาศกลุ้มคลุ้มมัวทั่ววิถี | ในถิ่นที่ท้องฟ้าเวหาหน |
ไม่เห็นดวงจันทราดารากล | เป็นแต่ฝนตกพร่ำเป็นน้ำพราว |
ฟ้าก็แลบแปลบปลาบวาบสว่าง | พื้นนภางค์แดงจ้าเวหาหาว |
เป็นหมอกมัวทั่ววิถีไม่มีดาว | บังเกิดหนาวเย็นฉ่ำทั้งลำเรือ |
พวกนายท้ายไต้ก๋งหลงประเทศ | ไม่แจ้งเหตุว่าจะไปข้างใต้เหนือ |
ชลธีท่วมนองในท้องเรือ | ลงจานเจือชื่นชุ่มทุกพุ่มพวง |
สองสนิทพิศวาสบนอาสน์อ่อน | จนเกสรบานทั่วกลีบบัวหลวง |
ชื่นอารมณ์สมรักประจักษ์ทรวง | เปรียบดั่งดวงสุริยันกับจันทร |
ไม่ห่างคู่อยู่ในท้ายบาหลี | กับพระพี่หัสกันบนบรรจถรณ์ |
ปรนนิบัติกษัตราไม่อาวรณ์ | ยิ่งกว่าก่อนหลายเท่าทั้งเคล้าคลึง |
เมื่อแรกเริ่มเดิมยังไม่เดียงสา | ครั้นวัฒนาหาเปรียบไม่เทียบถึง |
เพราะความรักผูกจิตดั่งกริชตรึง | เปรียบเหมือนหนึ่งน้ำตาลที่หวานมัน |
ได้เชยชิมลิ้มลองที่ของสด | โอชารสซาบเนื้อเหลือขยัน |
ไม่ห่างองค์พงศ์กษัตริย์หัสกัน | อยู่บนบรรรถรณ์สบายท้ายเภตรา ฯ |
๏ จะกล่าวถึงวลายุดากับวายุพัฒน์ | ออกแล่นลัดเร็วพลันด้วยหรรษา |
แต่ออกจากฟากฝั่งเมืองลังกา | นับทิวาเดือนครึ่งถึงบุรี |
เมืองของใครเล่าก็ไปอยู่เป็นสุข | ไม่มีทุกข์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี |
พระหัสกันวันชายากุมารี | มาถึงที่บ้านเมืองเนื่องกันไป ฯ |