ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก

๏ จะกล่าวถึงนคราเมืองกาศึก ให้ตั้งฝึกพวกทหารชาญสมร
สะพรั่งพร้อมเสนาประชากร เจ้านครนามนรินทร์ท้าวสินชัย
มเหสีมีนามตามภาษา ชื่อบุษยาดวงมณีผ่องสีใส
มีบุตรีสวยสำอางอยู่ปรางค์ชัย ชื่อระเด่นดวงประไพวิไลทรง
ดังดวงจิตบิตุเรศเกศกษัตริย์ ท้าวเธอจัดสาวที่รุ่นสกุลหงส์
เป็นพี่เลี้ยงนุชนางสำอางองค์ แต่ล้วนวงศ์พวกผู้ดีมีตระกูล
เฉลิมยศพระบุตรีนารีรัตน์ ตามกษัตริย์ธิบดินทร์นรินทร์สูร
อันกาศึกเมืองนี้บริบูรณ์ ทั้งตระกูลเศรษฐีพวกมีเรือ
รับสั่งของต่างต่างขึ้นห้างไว้ แล้วขนไปเที่ยวขายข้างฝ่ายเหนือ
ทั้งยุ้งฉางใหญ่ใหญ่ใส่ข้าวเกลือ ใครขาดเหลือจับจ่ายให้เป็นทาน
แต่เมืองขึ้นนั้นก็มีถึงสี่ร้อย มิใช่น้อยล้วนเป็นสุขสนุกสนาน
มีแต่ความสุโขมโหฬาร ทุกเมืองบ้านผาสุกไม่ทุกข์ภัย ฯ
๏ จะกล่าวถึงสังฆราชพระบาทหลวง แต่แล่นล่วงข้ามมหาชลาไหล
สิบห้าวันบรรลุถึงทรงไกร แกสั่งให้ทอดท่าหน้าสันดอน
ฝ่ายเรือใช้ไปตระเวนเห็นกำปั่น ประมาณพันจอดรายชายสิงขร
จึงแวะเข้าไต่ถามนามกร ว่าเรือจรมาแต่ไหนหรือไพรี
ฝ่ายพวกแขกในกำปั่นนั้นจึ่งว่า เราแล่นมาจากเมืองปตาหวี
เจ้าพารามาเที่ยวชมนที ลมมันตีพัดพาเภตราไป
ถึงห้าเดือนเหมือนอย่างว่าใช่ข้าศึก อย่าได้นึกเคลือบแคลงแหนงไฉน
สิ้นแผนที่แล่นหลงเวียนวงไป จำไม่ได้ขอบเขตประเทศทาง
ขออาศัยซื้อหากระยาหาร ทางกันดารสารพัดจะขัดขวาง
ขัดเสบียงอาหารลงย่านกลาง ไพร่ขุนนางเดิมทีไม่มีกิน
จะขอซื้อข้าวปลากระยาหาร ทั้งคาวหวานพอได้สมอารมณ์ถวิล
แล้วก็จะขอลาไปธานินทร์ ประเทศถิ่นนคราเหมือนอาวรณ์ ฯ
๏ พวกตระเวนแจ้งกิจจาพากันกลับ มาบอกกับขุนด่านชาญสมร
ว่ากำปั่นที่มาหน้าสันดอน เจ้านครปตาหวีบุรีเรือง
มาเที่ยวชมยมนาสาคเรศ บังเกิดเหตุลมกล้าฟ้าก็เหลือง
ตีกำปั่นปัดส่งหลงบ้านเมือง ทั้งขัดเคืองของเสบียงเลี้ยงโยธา
ขุนด่านแจ้งบอกเข้าไปในนิเวศน์ นำเอาเหตุเรื่องราวไปกล่าวหนา
กับท่านขุนเสนีผู้ปรีชา ให้ทูลฝ่าบาทบงสุ์ดำรงวัง
พวกเสมียนเขียนสารให้ม้าใช้ รีบเข้าไปแจ้งยุบลเหมือนหนหลัง
คนที่รับหนังสือไปเข้าในวัง ส่งให้ยังเสนาในธานี
พอไทท้าวเจ้านิเวศน์เสด็จออก รีบเอาบอกเข้าประณตบทศรี
อ่านถวายเจ้าจังหวัดปัถพี ตามคดีขุนด่านให้สารมา ฯ
๏ ในอักษรว่ากำปั่นสักพันเศษ เจ้าประเทศปตาหวีมียศถา
จากประเทศไปเที่ยวชมยมนา พลัดพาราหลงทางไปกลางชล
ถึงห้าเดือนเฟือนทางสิ้นแผนที่ หลงมานี้สารพัดจะขัดสน
สิ้นเสบียงเลี้ยงเสนาประชาชน ไปตกวนแทบจะตายวายชีวัน
มาขอซื้อข้าวปลากระยาหาร พอสำราญอิ่มเอมเกษมสันต์
ขออยู่ซื้อหาสักพอห้าวัน พระทรงธรรม์จะโปรดปรานสถานใด ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพิภพจบจังหวัด โองการตรัสโปรดปรานแล้วขานไข
คิดก็น่าเวทนามาแต่ไกล ทั้งพลัดไพร่พลัดเมืองเคืองรำคาญ
เหมือนอกเราอกเขาก็เร่าร้อน ต้องอาวรณ์หลงมาน่าสงสาร
อย่าต้องซื้อต้องหาให้ช้าการ กับอาหารไม่กระไรจะให้ปัน
จงไปเชิญเจ้าพาราขึ้นมาก่อน มีทุกข์ร้อนเป็นไฉนจึ่งผายผัน
อันข้าวของเครื่องเสบียงจะเลี้ยงกัน เราให้ปันดอกให้คนมาขนไป
เสนารับอภิวันท์รีบผันผาย ไปบรรยายทูลแจ้งแถลงไข
ฝ่ายท่านท้าวปตาหวีก็ดีใจ จึ่งเล่าให้กับท่านอาจารย์ฟัง ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่าดีใจไปเถิดหวา เจ้าพาราชื่นชมแล้วสมหวัง
เขาเมตตาปรานีดีกว่าชัง ขึ้นไปฟังเจ้าพาราจะปรานี
กูไปด้วยจะได้ช่วยพูดประจบ ให้เขาคบเขารักเป็นศักดิ์ศรี
ได้ผูกพันกันไว้เป็นไมตรี คุณจะมีอยู่ดอกหวาพากันไป
แล้วบอกกับเสวกาที่มาแจ้ง ท่านชี้แจงทูลพระองค์อย่าสงสัย
พรุ่งนี้เช้าเราจะชวนอาจารย์ไป เฝ้าภูวไนยจอมประเทศเขตนคร
เสนารับอภิวันท์แล้วผันผาย ลงเรือพายรีบมาหน้าสิงขร
ขึ้นไปเฝ้าท้าวสินชัยในนคร ทูลภูธรตามที่ฟังแต่หลังมา
ฝ่ายไทท้าวเจ้ามิ่งมไหสวรรย์ จึ่งมีบัญชาตรัสให้จัดหา
เครื่องกระบวนทวนธงอลงการ์ กับรถาลงไปรับประคับประคอง
ให้สมยศเจ้าพาราปตาหวี ไปให้ขี่จากเภตรามาทั้งสอง
กับสังฆราชรีบไปรับประคับประคอง อย่าให้ข้องเคืองขัดอัธยา
แล้วให้แต่งพระโรงคัลที่ชั้นนอก เราจะออกรับสู้ผู้มาหา
ตำมะหงงรับรสพจนา คลานออกมาสั่งเสร็จสำเร็จการ
พอเช้าตรู่สุริยาภาณุมาศ ให้เคลื่อนคลาดพวกพหลพลทหาร
เอารถรัตน์เทียมม้าอาชาชาญ ออกทวารนครารีบคลาไคล
เดินกระบวนทวนธงตรงไปด่าน ถึงสถานเมืองท่าชลาไหล
ให้หยุดพวกจัตุรงค์ทั้งธงชัย คอยท้าวไทจะขึ้นมาจากสาคร ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายเจ้าพาราปตาหวี ครั้นสุริย์ศรีแจ่มจำรัสประภัสสร
กับบาทหลวงที่จะไปในนคร พลางรีบร้อนลงเรือบดหมดด้วยกัน
กับสิ่งของต่างต่างอย่างฝรั่ง เครื่องแขวงตั้งสารพัดแกจัดสรร
เอาขึ้นไปตามทำนองของกำนัล รีบผายผันมาถึงท่าหน้าบุรินทร์
พวกเสนาลงมาอยู่คอยรับ ต่างคำนับชื่นชมสมถวิล
เชิญให้ขึ้นรถาไปธานินทร์ พร้อมกันสิ้นแห่เข้าไปในนคร ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นกษัตริย์ ออกแท่นรัตน์ขุนนางเข้าเฝ้าสลอน
ขุนเสนีกราบก้มประนมกร เจ้านครแล้วทูลมูลคดี
ว่าบาทหลวงกับพระยาขึ้นมาเฝ้า เชิญให้เข้าหยุดพักตำหนักศรี
ฝ่ายพระจอมจังหวัดปัถพี ทราบคดีสั่งมหาเสนาใน
ให้ไปเชิญเจ้าพาราปตาหวี เข้ามาที่พระโรงรัตน์จำรัสไข
กับบาทหลวงอาจารย์อันชาญชัย เสนาไปกราบประณตบทบงสุ์
แล้วเชิญท้าวเจ้าพาราปตาหวี ให้จรลีเข้าในวังดั่งประสงค์
กับบาทหลวงเดินไปดั่งใจจง เขานำตรงเข้าไปในพระโรง
ป่างพระปิ่นสินชัยปราศรัยทัก เชิญให้พักบนบัลลังก์ที่นั่งโถง
แต่อาจารย์เก้าอี้ตั้งกลางพระโรง ดูโอ่โถงเชิญให้นั่งอย่างธรรมเนียม ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี อัญชลีท้าวไทไม่อายเหนียม
เพราะเธอแก่แลเห็นเป็นธรรมเนียม แล้วฟุบเฟี้ยมยอบตัวต้องกลัวเกรง
ข้างบาทหลวงแกคำนับพลางจับหัตถ์ ท้าวเธอตรัสไพเราะดูเหมาะเหมง
ว่าดูก่อนท้าวกุลาท่านอย่าเกรง ใจข้าเองนับเนื้อเหมือนเชื้อวงศ์
จะต้องการสิ่งไรมิได้ขัด สารพัดข้าวของต้องประสงค์
เราจงรักกันไว้ดั่งใจจง โดยจำนงตามกษัตริย์ขัตติยา
ฝ่ายบาทหลวงแกให้บ่าวยกข้าวของ เครื่องเงินทองหลายอย่างต่างภาษา
มาถวายท่านท้าวเจ้าพารา ปรารถนาจะประสงค์เป็นวงศ์วาน ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวสินชัยให้โอกาส แก่สังฆราชโดยนัยปราศรัยสาร
แล้วจึ่งว่าข้าแต่พระอาจารย์ จะต้องการสิ่งใดในบุรินทร์ ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่าเสาวนาท้าวปราศรัย แกอิ่มใจอิ่มอารมณ์สมถวิล
จำจะให้ไทท้าวเจ้าแผ่นดิน นิยมยินรักใคร่ที่ในกู
จะได้เป็นที่หวังเห็นอย่างคิด เอาเป็นศิษย์อีกนครให้อ่อนหู
แล้วจะได้ตรึกตรองหาช่องคู ปราบศัตรูแก้แค้นที่แน่นทรวง
แกจึงว่าข้าแต่ท้าวเจ้าพิภพ ขอนอบนบพระคุณไท้นั่นใหญ่หลวง
ข้าพเจ้ามิได้ปองของทั้งปวง อันในดวงจิตข้าผู้อาจารย์
หวังประโยชน์แต่จะโปรดคนมีทุกข์ ให้เป็นสุขอิ่มเอมเกษมศานต์
เที่ยวสั่งสอนศาสนามาช้านาน ทุกถิ่นฐานนคราให้ถาวร
พอไปถึงพาราปตาหวี ท้าวยินดีชวนให้อยู่เป็นครูสอน
แล้วพากันเที่ยวมาในสาคร เกิดทุกข์ร้อนลมวิบัติให้ซัดมา
แกเล่าความตามเรื่องที่เคืองขัด ให้กษัตริย์เธอฟังที่กังขา
ครั้นเสร็จสิ้นเรื่องยุบลสนทนา ท้าวให้หาเครื่องเสวยทั้งเนยนม
สารพัดจัดสรรพรรณลูกไม้ ทั้งเป็ดไก่เครื่องลุดตี้มีขนม
ยกขึ้นตั้งแต่งไว้ในโต๊ะกลม ของอุดมหลายหลากดูมากมี
ยกเก้าอี้ฝรั่งมาตั้งเสร็จ เชิญเสด็จเจ้าพาราปตาหวี
กับบาทหลวงมาพลันด้วยทันที ขึ้นนั่งที่เรียงตามกันสามองค์
ท้าวสินชัยเชิญให้บาทหลวงฉัน พร้อมด้วยกันโดยในพระทัยประสงค์
ท้าวสินชัยนับเนื้อเหมือนเชื้อวงศ์ ด้วยจำนงชื่นบานสงสารครัน
เสวยพลางทางว่าเจ้าอย่าคิด เรารักสนิทเปรียบปานดั่งหลานขวัญ
จงยับยั้งพอสบายให้หลายวัน พลขันธ์จะได้นอนผ่อนสบาย
ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ประสานหัตถ์ทูลไปดั่งใจหมาย
พระคุณล้นพ้นที่จะอภิปราย ขอถวายความสัตย์ปัฏิญาณ
แม้นเคืองเข็ญเป็นอย่างไรจงใช้ข้า ตามประสาใจรักสมัครสมาน
เสวยเสร็จท้าวจึ่งเยื้อนเอื้อนโองการ ให้จัดสถานเก๋งใหญ่ในบุรินทร์
ทั้งผู้คนปรนนิบัติปัจถรณ์ ที่นั่งนอนแต่งตั้งอย่างถวิล
เชิญไปพักให้สบายในบุรินทร์ จงอยู่กินเหมือนอย่างวงศ์พงศ์ประยูร
กับท่านครูอยู่ให้สุขสิ้นทุกข์ร้อน จึ่งค่อยจรกลับไปยังไอศูรย์
ไปสำนักพักพาราอย่าอาดูร จงเพิ่มพูนภิญโญเดโชชัย
ท้าวสั่งเสร็จแล้วเสด็จยุรยาตร เข้าปรางค์มาศนพรัตน์จำรัสไข
แล้วตรัสสั่งมเหสีที่ข้างใน เอาใจใส่กินอยู่ช่วยดูการ
เขาเป็นเจ้านคราปตาหวี พลัดถิ่นที่เอ้องค์น่าสงสาร
แต่เรือซัดขัดขวางทางกันดาร โดยประมาณห้าเดือนไม่เคลื่อนคลา
มเหสีฟังสารโองการสั่ง นางจัดทั้งเครื่องอานพานสลา
ทั้งสิ่งของเอมโอชโภชนา ทุกเวลาจัดนางพวกข้างใน
ที่รูปทรงรื่นรวยสวยสะอาด ให้เชิญภาชนะทองอันผ่องใส
ไปถวายกษัตรามาแต่ไกล เอาใจใส่มิให้ขาดราชการ ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายพระธิดาพระยาหญิง สมรมิ่งดวงประไพอยู่ในสถาน
ได้ยินว่าท้าวกุลากับอาจารย์ จากสถานพลัดมาพาราเรา
พระบิตุรงค์โองการให้อยู่พัก ในตำหนักกรุณาเมตตาเขา
จึ่งรับสั่งให้หามารดาเรา ขึ้นไปเฝ้าที่ชานพักตำหนักจันทน์
ให้เลี้ยงดูอยู่กับพระฝรั่ง สถิตวังข้างฉนวนริมสวนขวัญ
นางจึ่งเรียกพี่เลี้ยงมาเร็วพลัน พี่ชวนกันออกไปดูครูอาจารย์
ว่ารูปร่างอย่างไรพระสังฆราช จึงองอาจศักดาทั้งกล้าหาญ
พี่จงรีบออกไปดูอย่าอยู่นาน พระอาจารย์รูปร่างจะอย่างไร
สี่พี่เลี้ยงเสาวนีย์คดีสดับ น้อมคำนับแล้วก็มาที่อาศัย
พลางแต่งตัวเรียกหาพวกข้าไท แล้วรีบไปที่ข้างหน้าเห็นอาจารย์
กับท่านท้าวเจ้าพาราปตาหวี นั่งเก้าอี้ทั้งสองกินของหวาน
ทั้งสี่นางหยุดดูเป็นครู่นาน เห็นอาจารย์รูปร่างสำอางตา
แล้วดูท้าวเจ้าพาราปตาหวี ก็งามดีหมดจดสมยศถา
แต่ท่านครูผู้อาจารย์พานชรา ดูผิวหน้าแดงก่ำเป็นน้ำนวล
ทั้งสี่นางต่างกลับเห็นสรรพเสร็จ เข้าไปเพ็ดทูลอนงค์ทรงพระสรวล
เขาแต่งตัวอย่างไรในกระบวน ดูสมควรหรือว่านุ่งพะรุงพะรัง
พี่เลี้ยงเล่าชี้แจงแถลงไข เขาสวมใส่หมวกดำทำด้วยหนัง
ใส่เสื้อสีตากุ้งไม่รุงรัง ดูเหมือนอย่างพวกข้างเราเข้ากะดี
พี่เลี้ยงกล่าวรูปทรงส่งสัณฐาน พระอาจารย์กับพระยาปตาหวี
พระนางได้ทราบสิ้นก็ยินดี ให้นึกมีใจจิตคิดศรัทธา ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวสินชัยในนิเวศน์ ให้คิดเจตนานึกอยากศึกษา
จิตประสงค์คงจะเพียรเรียนวิชา กับพระอาจารย์เจ้าให้เข้าใจ
แล้วท้าวเธอเสด็จไปใกล้สังฆราช พลางประภาษพจนาอัชฌาสัย
ทั้งไทท้าวปตาหวีก็ดีใจ บังคมไทเจ้านิเวศน์เกศนคร ฯ
๏ บาทหลวงเฒ่าลุกขยับมาจับหัตถ์ จอมกษัตริย์บพิตรอดิศร
ว่าขอบใจไทท้าวเจ้านคร ค่อยวายร้อนบางเบาบรรเทาทรวง
พระคุณล้ำดินฟ้ามหาสถาน ท้าวต้องการสิ่งไรมิได้หวง
ทั้งวิชาสารพันการทั้งปวง ไม่แหนหวงแต่พระองค์อย่าสงกา ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราเมืองกาศึก สมที่นึกมุ่งมาดปรารถนา
อยากจะใคร่พากเพียรเรียนวิชา ขอเป็นสานุศิษย์ท้าวเจ้าประคุณ ฯ
๏ บาทหลวงว่าข้าแต่ท้าวเจ้าพิภพ อย่าปรารภขาดเหลือจะเกื้อหนุน
การวิชาขอเป็นของสนองคุณ จะการุญบอกกล่าวให้ท้าวไท
ไม่อำพรางทางที่จะประสงค์ แม้นจำนงแล้วจะแจ้งแถลงไข
ท่านจะชอบวิชาการสถานใด สุดแต่ใจเถิดจะบอกไม่หลอกลวง ฯ
๏ ท้าวทมิฬสินชัยได้สดับ จึ่งคำนับสังฆราชพระบาทหลวง
เชิญครูสอนให้ชำนาญการทั้งปวง จะได้ล่วงรู้วิชาทางฟ้าดิน ฯ
๏ บาทหลวงว่าวันดีที่คำนับ เชิญมารับเอาตำราอย่าถวิล
จะชี้แจงให้แก่ท้าวเจ้าแผ่นดิน ให้รู้สิ้นการวิชาสารพัน
พูดกันเสร็จท้าวก็ลามาปราสาท ยุรยาตรเข้าข้างในไอศวรรย์
ออกขุนนางที่นั่งโถงพระโรงคัล อีกสามวันเราจะไปไหว้เทวา
ที่เขาใหญ่ท้ายเมืองจัดเครื่องสรวง จะบำบวงเทวฤทธิ์ทุกทิศา
ตามเยี่ยงอย่างปีใหม่ไหว้วันทา ขุนเสนาเร่งรัดไปจัดการ
ปลูกโรงครัวเลี้ยงดูหมู่พหล เครื่องบวงบนแกะไก่ของไหว้ศาล
ทั้งเต้นรำตามธรรมเนียมจงเตรียมการ พวกลูกหลานคนข้างในจะได้ดู ฯ
๏ ท้าวสั่งเสร็จแล้วเสด็จขึ้นจากอาสน์ ขุนอำมาตย์เรียกกันสนั่นหู
แต่บรรดาคนใช้ให้ไปดู หมายตามหมู่นอกในไพร่ทั้งปวง
ปลูกโรงร้านรายทางข้างถนน เร่งจ่ายคนสมทบกับไพร่หลวง
หมู่ของใครเร่งไปทำตามกระทรวง เบิกของหลวงให้ทุกนายรายกันไป
ทั้งจอบเสียมไม้ไหล้เร่งให้ขน ถ้วนทุกคนหาบหามตามไสว
นายกำกับบ่าวตนให้ขนไป ที่เขาใหญ่ชักนำให้ทำการ
ปลูกพลับพลาฝาเลื่อนแต่งเรือนหลวง ตามกระทรวงเร่งรัดให้จัดศาล
แล้วแต่งทั้งบายศรีพิธีการ ดาดเพดานม่านผูกทุกตำบล
ครั้นแล้วเสร็จทูลท้าวเจ้าจังหวัด กรุงกษัตริย์ทราบความตามนุสนธิ์
เธอจึงสั่งเสนาพลาพล จะจรดลออกไปบวงสรวงเทวา
ขุนเสนารับโองการคลานมาสั่ง กรมวังตำรวจในทั้งซ้ายขวา
ให้เตรียมรถพระที่นั่งอลังการ์ เทียมอาชามาประทับไว้กับเกย
รถประเทียบเรียบเรียงเคียงขนาน ทั้งเครื่องอานชูเชิดดูเปิดเผย
กระบวนแห่แตรสังข์เหมือนอย่างเคย ดาบเชลยหอกคู่ดูตระการ
จัดสำเร็จเสร็จถ้วนกระบวนแห่ ออกอัดแอในพาราที่หน้าฉาน
ครั้นรุ่งรางสางสีรวีวาร ท้าวผู้ผ่านนคราเจ้าธานี
พลางแต่งองค์สรงสนานสำราญจิต ขึ้นสถิตแท่นทองละอองศรี
แล้วตรัสชวนนงนุชพระบุตรี มเหสีสาวสุรางค์นางกำนัล
ให้แต่งองค์ทรงเครื่องเรืองจำรัส ล้วนแก้วเก้าเนาวรัตน์ทุกสิ่งสรรพ์
เสด็จเดินด้วยสุรางค์นางกำนัล จรจรัลไปขึ้นรถบทจร
ฝ่ายท้าวไทบิตุรงค์ขึ้นทรงรถ มีกลิ้งกลดเกณฑ์แห่แลสลอน
สารถีตีกัณฐัศว์อัสดร จากนครแห่ไปท้ายบุรินทร์
ถึงสถานที่พักตำหนักใหม่ ฝ่ายท้าวไทชื่นชมสมถวิล
มเหสีพระธิดายุพาพิน พร้อมกับสิ้นบนพลับพลาหน้าคีรี
แล้วจึ่งให้ไปเชิญบาทหลวงเฒ่า กับองค์ท้าวเจ้าพาราปตาหวี
ให้เร่งรัดแสนยาพวกพาชี ไปรับที่เก๋งใหญ่ที่ท้ายวัง
ฝ่ายเสนีก็ไปรับคำนับน้อม ว่าพระจอมนครินทร์ถวิลหวัง
ให้เชิญไปเขาใหญ่ที่ท้ายวัง ท้าวเธอตั้งสรวงไหว้ไทเทวา
บาทหลวงเฒ่าชวนท้าวปตาหวี ขึ้นพาชีรีบไปไวไวหวา
ไปให้ทันการท้าวเจ้าพารา ต่างขึ้นม้าตำมะหงงนำตรงไป ฯ
๏ ครั้นถึงที่ประทับก็ยับยั้ง พร้อมสะพรั่งเกณฑ์แห่แลไสว
ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์ท้าวสินชัย เสด็จไปคำนับรับอาจารย์
กับไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี ให้นั่งที่แท่นสุวรรณแล้วบรรหาร
เราเชิญเจ้ากับพระครูผู้อาจารย์ มาดูการเต้นรำตามทำนอง
ในวันนี้ปีใหม่เคยไหว้ศาล แต่งสักการนานาบูชาฉลอง
ท้าวกุลาว่าไปดั่งใจปอง ในเมืองของข้าเจ้าเขาก็ทำ
ท้าวสินชัยว่าไปกับเราเถิด เทพจะเชิดช่วยชุบอุปถัมภ์
เมื่อกลับไปถึงจังหวัดจึ่งจัดทำ เหมือนถ้อยคำเราว่าอย่าอาวรณ์
ท้าวกุลามาลีศรีสวัสดิ์ ประสานหัตถ์ทูลบพิตรอดิศร
ฝ่ายไทท้าวเจ้านิเวศน์เขตนคร บทจรเดินไปไหว้เทวา
ทั้งไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี ลุกจากที่ตามไปพลันด้วยหรรษา
บาทหลวงเฒ่าต่างนิสัยไม่ศรัทธา ทำเป็นว่าสรรเสริญเจริญดี
สองท้าวไทไปไหว้แล้วบวงสรวง ตามกระทรวงจุดไฟตั้งบายศรี
กับทั้งพวกฝ่ายพหลแลมนตรี ไปไหว้ที่บนเขาลำเนาเนิน
ทั้งสองท้าวไหว้เสร็จเสด็จกลับ มาประทับบนแท่นที่แผ่นเผิน
ฝ่ายนงนุชบุตรีที่จำเริญ นางก็เชิญเครื่องสักการตามมารดา
ยุรยาตรนาดนวยระทวยทด ดูอ่อนชดงามขำล้ำเลขา
ทั้งทรวดทรงราวกับหงส์เหมรา ลักขณาพริ้มพร้อมละม่อมละไม
เหล่าสุรางค์นางห้ามตามเสด็จ ใส่แหวนเพชรดูก็งามตามวิสัย
ท้าวกุลาดูเพลินจำเริญใจ จะพิศไหนงามสิ้นทั้งอินทรีย์
จนลืมตัวมัวแต่ดูพึ่งรู้จัก กำเริบรักอิ่มเอมเกษมศรี
นึกในใจแม้นได้พระบุตรี จะพลีเทเวศร์สักเจ็ดวัน ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้านิเวศน์เกศกษัตริย์ สั่งให้จัดเครื่องเสวยนมเนยขยัน
ทั้งเป็ดไก่หลายอย่างต่างต่างกัน มัสมั่นเนื้อแพะแกะกระทิง
เครื่องกับข้าวคาวหวานใส่จานแก้ว ตั้งเป็นแถวไก่ต้มขนมผิง
เครื่องลูกไม้หลายอย่างมะปรางปริง แต่ละสิ่งเอมโอชโภชนา
ตั้งไว้บนโต๊ะใหญ่ใส่สำเร็จ เชิญเสด็จเสวยพลันด้วยหรรษา
ตั้งเก้าอี้ที่สำหรับบนพลับพลา ท้าวลีลามาทั้งสองแล้วร้องเชิญ
ให้อาจารย์ท่านนั่งยังเก้าอี้ ขึ้นตามที่โดยหวังสังรเสริญ
ขอเจ้าคุณหนุนนำให้จำเริญ ข้าขอเชิญขบฉันอันมงคล
แล้วสั่งให้เล่นงานการฉลอง โดยทำนองจัดแจงทุกแห่งหน
บ้างรำเต้นเล่นสนุกทั่วทุกคน ตามถนนพวกดูเป็นหมู่มุง
ปะผู้หญิงเดินตามไล่ถามไต่ เข้าคว้าไขว่รวบรุมนางกุมถุง
พวกที่ตามนางดำเนินเชิญกระบุง เดินออกยุ่งเกี้ยวพานสำราญใจ ฯ
๏ ฝ่ายท่านท้าวเจ้าพาราเสวยเสร็จ จะเสด็จไปลำเนาเขาไสว
จึ่งชวนองค์พระอาจารย์อันชาญชัย กับท้าวไทปตาหวีให้ลีลา
ลงจากอาสน์นาดกรายไปท้ายเขา ตามลำเนาสิงขรชะง่อนผา
เป็นโตรกตรอกซอกหินล้วนศิลา มีธาราไหลย้อยดูพรอยพราย
ที่สีเขียวดูเขียวดั่งมรกต เป็นหลั่นลดสีแดงดั่งแสงฉาย
ที่ขาวช่วงพวงพู่ดูกระจาย บ้างเป็นสายสีดำดั่งน้ำนิล
มีธารท่าหน้าชะง่อนสิงขรเขา เป็นวุ้งเว้าดั่งมหาชลาสินธุ์
มีโกสุมปทุมมาศดูดาษดิน ภุมรินคลึงเคล้าเสาวคนธ์
บาทหลวงแกเดินดูตามภูผา เห็นจินดาของวิเศษแจ้งเหตุผล
แก่ไทท้าวเจ้าพาราจอมสากล ถ้าแม้นฝนแล้งไปให้บูชา
อันแก้วนี้วิเศษมีเหตุผล จะสุกล้นส่องสว่างกลางเวหา
ข้าเคยเห็นมีจำเพาะเกาะลังกา เมื่อศึกมาตั้งประชิดติดนคร
ที่ลุกช่วงดวงใหญ่เหมือนไข่เป็ด สีเหมือนเพชรแจ่มจำรัสประภัสสร
จงจำไว้เถิดท้าวเจ้านคร จะเย็นร้อนแจ้งเหตุในเภทภัย
เจ้าบุรินทร์ปิ่นเกศประเทศสถาน ฟังอาจารย์ชี้แจงแถลงไข
พระอาจารย์บอกเล่าให้เข้าใจ ของที่ในเขาเขินเนินอรัญ
ท้าวยินดีปรีดาจะหาไหน ในดวงใจอิ่มเอมเกษมสันต์
จวนจะย่ำสุริยาลงสายัณห์ สั่งแต่บรรดาพหลสกลไกร
จงกลับเข้าวังในอย่าได้ช้า เรียกรถากระบวนแห่แลไสว
ทั้งธงเทียวเขียวขำอันอำไพ ฝ่ายท้าวไทขึ้นรถบทจร
เชิญบาทหลวงกับพระยาปตาหวี เอารถมณีแจ่มจำรัสประภัสสร
มาให้ทรงองค์ละรถบทจร ไปนครเวียงชัยดั่งใจปอง ฯ
๏ ฝ่ายโฉมยงองค์ประไพวิไลลักษณ์ มาพร้อมพรักกับมารดามาทั้งสอง
ขึ้นทรงรถมีกระจังที่นั่งรอง ทำด้วยทองโปร่งปรุฉลุลาย
บาทหลวงเฒ่าแลดูเห็นผู้หญิง อีนี่พริ้งเพราเพริศดูเฉิดฉาย
พลางตั้งคอแลดูไม่รู้วาย ทั้งร่างกายงามพร้อมไม่ผอมพี
ขอให้ท้าวปตาหวีเห็นดีเหลือ ได้เป็นเชื้อร่วมรักสมศักดิ์ศรี
ถึงเมียอ้ายมังคลาชมว่าดี กับอีนี่มันก็ไม่กระไรกัน
แกนิ่งนึกอยู่ในใจแม้นได้ช่อง กูจะลองขอสู่เป็นคู่ขัน
ให้อ้ายท้าวปตาหวีจะดีครัน ได้ผูกพันหน่วงเหนี่ยวเป็นเกี่ยวดอง
แล้วจะได้ไปตีลังกาเกาะ เห็นจะเหมาะด้วยกำลังคนทั้งสอง
แต่นิ่งนึกตรึกไปดั่งใจปอง พอถึงท้องถนนใหญ่ในบุรินทร์
แล้วลงจากรถามาที่อยู่ ขึ้นไปสู่เก๋งใหญ่ดั่งใจถวิล
ฝ่ายไทท้าวเจ้าจังหวัดปัฐพิน มาพร้อมสิ้นเข้าเขตนิเวศน์วัง ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราปตาหวี แจ้งคดีเรื่องต้นแต่หนหลัง
แถลงเล่าให้ท่านอาจารย์ฟัง ข้านึกหวังอยากจะใคร่ได้อนงค์
บาทหลวงเฒ่าจึ่งว่าดูน่ารัก มีใครชักเอาให้มึงไหลหลง
เป็นเที่ยงแท้แต่อนุชบุษบง มึงยังหลงบ่นบ้าสารพัน
ต้องรบพุ่งยุ่งยิ่งจริงไหมหวา เอ็งมันบ้ากามอยู่ดูมันขัน
ยังมาปะอีนี่มันดีครัน อย่าหุนหันไปเลยหวาได้ท่าทาง
กูจะพูดกับอ้ายพ่อค่อยขอสู่ จะจู่สู่ฉวยเขาตัดจะขัดขวาง
แม้นมึงได้เขาเป็นเมียไม่เสียทาง ตามเยี่ยงอย่างพวกแขกไม่แปลกปน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ