- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
- คำนำเมื่อพิมพ์ครั้งแรก
- ประวัติสุนทรภู่
- บันทึกเรื่องผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
- อธิบาย ว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่
- ปกิรณะกะประวัติของสุนทรภู่
- ตอนที่ ๑ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๓ ศรีสุวรรณเข้าเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
- ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
- ตอนที่ ๖ ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน
- ตอนที่ ๗ ศรีสุวรรณพยาบาลนางเกษรา
- ตอนที่ ๘ อภิเษกศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๙ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
- ตอนที่ ๑๐ พระอภัยได้นางเงือก
- ตอนที่ ๑๑ นางสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเล
- ตอนที่ ๑๒ พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๓ พระอภัยมณีโดยสารเรือนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๔ พระอภัยมณีเรือแตก
- ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง
- ตอนที่ ๑๖ สินสมุทรพบศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๑๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๑๘ พระอภัยมณีโดยสารเรืออุศเรน
- ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร
- ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรรบกับอุศเรน
- ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๒ พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๓ พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๔ กำเนิดสุดสาคร
- ตอนที่ ๒๕ สุดสาครเข้าเมืองการะเวก
- ตอนที่ ๒๖ อุศเรนตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๗ เจ้าละมานตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๘ สุดสาครตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๓๐ พระอภัยมณีตีเมืองใหม่
- ตอนที่ ๓๑ พระอภัยมณีพบนางละเวง
- ตอนที่ ๓๒ ศรีสุวรรณอาสาตีด่านดงตาล
- ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ
- ตอนที่ ๓๔ นางละเวงคิดหย่าทัพ
- ตอนที่ ๓๕ พระอภัยติดท้ายรถ
- ตอนที่ ๓๖ พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง
- ตอนที่ ๓๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๓๘ นางสุวรรณมาลีข้ามไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๓๙ นางสุวรรณมาลีมีสารตัดพ้อ
- ตอนที่ ๔๐ สุดสาครถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๔๑ นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม
- ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์
- ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม
- ตอนที่ ๔๔ กษัตริย์สามัคคี
- ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร
- ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง
- ตอนที่ ๔๗ อภิเษกสินสมุทร
- ตอนที่ ๔๘ นางเสาวคนธ์หนี
- ตอนที่ ๔๙ นางเสาวคนธ์แปลงเป็นฤๅษี
- ตอนที่ ๕๐ นางเสาวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
- ตอนที่ ๕๑ สุดสาครตามนางเสาวคนธ์
- ตอนที่ ๕๒ พระอภัยมณีทำศพท้าวสุทัศน์
- ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๔ มังคลาชิงโคตรเพชร
- ตอนที่ ๕๕ มังคลาจับนางสุวรรณมาลีและท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๗ สุดสาครรบมังคลา
- ตอนที่ ๕๘ นางละเวงวัณฬาช่วยนางสุวรรณมาลีแลท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๙ พระอภัยมณีศรีสุวรรณไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
- ตอนที่ ๖๑ สังฆราชบาทหลวงเผาเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๒ พระอภัยเข้าเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย
- ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช
- ตอนที่ ๖๕ พระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีทัพไปเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๖๖ วลายุดาครองเมืองสินชัย
- ตอนที่ ๖๗ วายุพัฒน์เป็นอุปราชเมืองเซ็น
- ตอนที่ ๖๘ หัสกันครองเมืองสุลาลัย
- ตอนที่ ๖๙ พระอภัยมณีเยี่ยมศพนางมณฑา
- ตอนที่ ๗๐ พระมังคลายกทัพเรือมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
- ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๗๔ ทัพพันธมิตรเมืองกำพลเพชรยกมาช่วยพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๕ พระมังคลาล่าทัพไปถึงเกาะกาหวี
- ตอนที่ ๗๖ ทหารเมืองกำพลเพชรตามนางกฤษณาพบพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๗ พระมังคลาได้นางดวงแขลูกสาวเจ้าเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๗๘ อภิเษกพระกฤษณากับนางเทพินไปครองเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
- ตอนที่ ๘๐ พระมังคลายกทัพเมืองสำปันหนาไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
- ตอนที่ ๘๒ โจรสลัดคุมกำปั่นปล้นเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๘๓ ศรีสุวรรณมาช่วยเมืองรมจักรรบโจรสลัด แล้วอภิเษกตรีพลำกับอัมพวันและเทวัญกับนิลกัณฐี
- ตอนที่ ๘๔ พระมังคลากับพระบาทหลวงแตกทัพไปเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ
- ตอนที่ ๘๕ พระมังคลาไปถึงเมืองโรมพัฒน์ได้นางบุษบง
- ตอนที่ ๘๖ พระบาทหลวงกับพระมังคลายกทัพเรือเมืองโรมพัฒน์ไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๗ สุดสาครทราบข่าวศึก
- ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา
- ตอนที่ ๘๙ ทัพสุดสาครตีทัพพระมังคลาพ่าย จนเทวสินธุ์ตามไปถึงเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๙๐ ท้าวรายากับพระเทวสินธุ์ไปถึงเมืองกำพลเพชร แล้วยกทัพไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๙๑ หกกษัตริย์ยกทัพมาช่วยเมืองลังกาทำศึก
- ตอนที่ ๙๒ พระบาทหลวงรบศึกหกกษัตริย์จนลมแดงซัดเรือรบพลัดกัน
- ตอนที่ ๙๓ สุดสาครตีเมืองด่านแตก
- ตอนที่ ๙๔ พระเทวสินธุ์พบพระมังคลาจนเจ็ดกษัตริย์เตรียมรบ
- ตอนที่ ๙๕ พระมังคลากับพระบาทหลวงยกทัพเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๙๖ ทัพเจ็ดกษัตริย์ตีทัพพระบาทหลวงแตก
- ตอนที่ ๙๗ พระบาทหลวงเตรียมตีเมืองปากน้ำคืน
- ตอนที่ ๙๘ พระบาทหลวงขับท้าวรายากับนางบุษบงไปจากกองทัพ จนพระมังคลาหนี
- ตอนที่ ๙๙ พระบาทหลวงยกเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๑๐๐ สินสมุทรตีทัพพระบาทหลวงจนถูกยาเบื่อ
- ตอนที่ ๑๐๑ พระอภัยมณีเยือนลังกา
- ตอนที่ ๑๐๒ พระบาทหลวงปล่อยโคมไฟไปตกเมืองลังกา จนถึงพระอภัยมณีห้ามทัพ
- ตอนที่ ๑๐๓ หกกษัตริย์ตีโต้ทัพพระบาทหลวงล่าไปเมืองปตาหวี
- ตอนที่ ๑๐๔ พระอภัยมณีกลับไปเขาสิงคุตร
- ตอนที่ ๑๐๕ อภิเษกหัสกันกับนางวันชายา
- ตอนที่ ๑๐๖ พระอภัยมณีไปเยี่ยมนางเงือกที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๐๗ พระบาทหลวงเข้าเมืองปตาหวีแล้วตามไปพบพระมังคลาที่เมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๐๘ พระมังคลาและนางบุษบงออกมารับพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๐๙ ท้าวโกสัยบอกพระมังคลาให้รู้อุบายพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๐ พระบาทหลวงตีด่านเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๑๑ พระมังคลามีสารง้อศรีสุวรรณสุดสาครและสินสมุทร ให้มาช่วยรบพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๒ ทัพพระมังคลารบกับทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๓ ทัพศรีสุวรรณกับสี่กษัตริย์ตีกระหนาบทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๕ ศรีสุวรรณกับพวกพาพระมังคลากลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๗ พระมังคลาไปงานโสกันต์ระเด่นกินเรศ
- ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง
- ตอนที่ ๑๑๙ สุดสาครไปเยี่ยมนางเงือกและพระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๒๐ สุดสาครกลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๓ เจ็ดกษัตริย์ยกทัพมาตีเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๔ นรินทร์รัตน์ขอราเมศมาเป็นอุปราชกรุงรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๕ นรินทร์รัตน์กับราเมศมาช่วยเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๖ เจ็ดกษัตริย์ตายสี่หนีสาม
- ตอนที่ ๑๒๗ นรินทร์รัตน์หลงนางเกศพัฒน์เมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๘ อภิเษกพระราเมศกับนางดวงประภา
- ตอนที่ ๑๒๙ ภัทวงศ์ไปไหว้เทวรูปจนพบนางเกสรสุมาลัย
- ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์
- ตอนที่ ๑๓๑ พระสังฆราชบาทหลวงยกทัพมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๓๒ ตัดหางสุพรรณมัจฉาแล้วสถาปนาเป็นจันทวดีพันปีหลวง
ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาเชื่อวายุพัฒน์ | ว่าซื่อสัตย์มั่นคงไม่สงสัย |
ให้ตรวจตราว่าพหลพลไกร | ให้อยู่ในค่ายตั้งหลังพลับพลา |
แต่รอรั้งตั้งมั่นหลายวันนัก | ไม่เห็นพักตร์เผ่าพงศ์พวกวงศา |
จึงให้ไพร่ไปตะโกนโพนทนา | ประกาศก้องร้องว่าหน้าประตู |
ว่าตัวนายหายไปข้างไหนเสีย | หรือกอดเมียคลอแคลแม่อีหนู |
ไม่สู้รบหลบมุดนอนคุดคู้ | ออกมาสู้ดูฝีมือให้ลือชา ฯ |
๏ สุดสาครร้อนจิตคิดมานะ | บอกองค์พระมเหสีที่ปรึกษา |
ยืมเอาแก้วแคล้วคลาดคาดกายา | เหน็บสาตราชื่อภุขรรค์อันเป็นเพชร |
ถือไม้ท้าวดาวบสสู้กรดได้ | ไฟไม่ไหม้ลุกลามไม่ขามเข็ด |
จะแก้ไขใช้ปัญญากาละเม็ด | ครั้นสรรพเสร็จทรงพระยาม้ามังกร |
กับโยธาการะเวกเมืองผลึก | ชำนาญศึกถือดาบกำซาบศร |
ล้วนทองแดงแต่งการจะราญรอน | สุดสาครนำหน้าโยธาตาม |
แล้วยกออกนอกวังคนคั่งคับ | หยุดประทับที่กว้างกลางสนาม |
ให้ปักธงตรงหน้าสง่างาม | ตั้งโห่สามลาลั่นสนั่นดัง ฯ |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าผ่าน | ยกทหารแห่ตามมาหลามหลัง |
ถึงที่หยุดหยุดประทับยืนยับยั้ง | ฝ่ายฝรั่งมังคลาร้องว่าไป |
พวกตัวนายหายไปข้างไหนเสีย | ไม่พาเมียมาช่วยรบหลบไปไหน |
ยังน้องชายฝ่ายนางพวกข้างใน | ทำไมไม่ออกมาช่วยราวี |
สุดสาครย้อนว่าอุลามก | สัตว์นรกยกกายไม่อายผี |
สำแดงฤทธิ์ขวิดพ่อเหมือนทรพี | หมายว่ามีรี้พลมาปล้นชิง |
อันพวกเราเจ้าของยกกองทัพ | ช่วยกันจับโจรร้ายทั้งชายหญิง |
แนะฝรั่งมังคลาแม้นกล้าจริง | จงมาชิงชัยลองกันสองคน |
ตัวชนะจะสมอารมณ์แน่ | ฆ่าพ่อแม่พี่น้องครองสิงหล |
เราชนะจะผูกคอทรชน | ลากไปขว้างกลางวนพ้นแผ่นดิน ฯ |
๏ พระมังคลาว่าพี่ชายไม่อายปาก | พูดสำรากอุตริมาติฉิน |
ทวีปวังลังกาในวาริน | เป็นที่ถิ่นท้าวไทยอัยกา |
แต่โบราณผ่านพิภพจบจังหวัด | สืบกษัตริย์สุริย์วงศ์เผ่าพงศา |
โดยลำดับนับกษัตริย์ถัดถัดมา | จนเราราชาภิเษกเป็นเอกองค์ |
เพราะพวกพ้องของตัวไม่กลัวบาป | เห็นแต่ลาภโลภจิตคิดประสงค์ |
มาช่วยชิงสิงหลรณรงค์ | จึงได้ขาดญาติวงศ์ทำสงคราม |
เดิมบิดาย่าปู่อยู่จังหวัด | บุรีรัตนาภาษาสยาม |
ก็เป็นญาติชาติเชื้อทำเหลือลาม | คบคิดข้ามเขตฝั่งมาลังกา |
ไม่มีจริงชิงเอาของเราเสีย | ยกแต่ตัวผัวเมียมารักษา |
ชะเจ้าของครองสมบัติกษัตรา | ยังมีหน้าว่าได้ช่างไม่อาย |
เลือกที่รักมักที่ชังทำดั่งนี้ | มิใช่พี่น้องเนื้อในเชื้อสาย |
ตัวก็รู้ดูถูกลูกผู้ชาย | มากลับกลายหมายจะทำแต่ลำพัง ฯ |
๏ สุดสาครค่อนแค้นว่าแสนชาติ | ไม่หมายมาดปรารถนาเป็นฝาหรั่ง |
เดิมพระบาทมาตุรงค์ครองวงวัง | ถวายลังกากับพระชิณกา |
ครั้นเกิดมึงจึงสมเด็จพระบิตุเรศ | คิดสมเพศเผ่าพงศ์พวกวงศา |
มอบสมบัติพัสถานให้มารดา | จึงแต่งตั้งมังคลาครองธานี |
ไม่ซื่อต่อพ่อแม่กอแก่เกก | ตีการะเวกรมจักรถือศักดิ์ศรี |
จับพระน้องสองธิดาแม่มาลี | พระอัยกีอัยกาเอามาไว้ |
จนชั้นแต่แม่วัณฬาลงมาห้าม | ยังหยาบหยามฆ่าขอเฝ้าพวกบ่าวไพร่ |
กลับตลบรบพุ่งเผากรุงไกร | ผิดวิสัยในแผ่นดินสิ้นทั้งปวง |
เขาเห็นชั่วทั่วพิภพรบพ่อแม่ | เว้นเสียแต่เอ็งบังอาจกับบาทหลวง |
สั่งสอนมึงจึ่งมุทะลุทะลวง | กระทำล่วงเกินผิดจริตบุราณ |
สองกษัตริย์ขัตติยวงศ์ทรงเห็น | ไม่ควรเป็นปิ่นเกศประเทศฐาน |
จึ่งถอดมึงซึ่งเป็นโทษโปรดประทาน | ให้กูผ่านบ้านเมืองให้เลื่องลือ |
พวกสิงหลคนดูก็รู้เห็น | กูไม่เป็นเจ้าของครอบครองหรือ |
มึงลูกเด็กเล็กจิ๋วเท่านิ้วมือ | ทำดึงดื้อซื้อรู้ถือครูโกง |
สาระยำทำวิบัติไอ้สัตว์บาป | ไม่เข็ดหลาบหยาบคายจะตายโหง |
มีเวทมนตร์ดลเอกเสกลำโพง | พากันโกงกอแกด้วยแก่วัด |
ไม่รู้คุณบุญบาปทำหยาบหยาม | เสียชื่อนามหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ |
กลับหยิบผิดบิดาสารพัด | จะต้องมัดตัดศีรษะเสียบประจาน ฯ |
๏ มังคลาว่าเจ้าเข้าด้วยพ่อ | พลอยสอพลอขอสมบัติพัสถาน |
ติเตียนพระจะไปตกนรกนาน | ยมบาลท่านจะคอยตบต่อยยับ |
เมียของเจ้าเสาวคนธ์ขโมยเพชร | เอาแก้วเก็จของเราไว้จึ่งไปจับ |
ยายมาลีมิใช่การแต่งสารลับ | มาพลอยรับสมอ้างเอากลางคัน |
ข้างเราเป็นลูกเต้าไม่เข้าด้วย | กลับไปช่วยการะเวกแกล้งเสกสรรค์ |
ทั้งรมจักรรักเขาพูดเข้ากัน | ไม่เที่ยงธรรม์กลอกกลับจึ่งจับมา |
ไม่รู้ตัวมัวเมาใจเบานัก | ไม่รู้จักรักวงศ์เผ่าพงศา |
ไปเลี้ยงไว้ในวังเมืองลังกา | บิดามาก็ไม่ถามตามธรรมเนียม |
เข้ากับเขาเฝ้าดูถูกแต่ลูกหลาน | เหมือนบูราณท่านว่าเข้าพร้าเสียม |
ความเจียมตัวกลัวมนุษย์ก็สุดเจียม | ท่านเหี้ยมเกรียมกริ้วโกรธยกโทษเรา |
ช่างกระไรไม่มีดีเท่าขี้เล็บ | คอยแต่เก็บเจ็บแค้นเถียงแทนเขา |
ไม่ยอมแพ้แม่พ่อกดคอเรา | เอาปี่เป่าให้เราหลับแล้วจับตัว |
ทำเช่นนี้ดีแท้ทั้งแม่พ่อ | น่าหัวร่อพระกำเนิดบังเกิดหัว |
สำทับถมข่มเหงเหลือเกรงกลัว | ไม่มีชั่วตัวเอกโกกเกกโกง |
ให้สำเร็จเสร็จสรรพแล้วกลับคืน | จะเป็นฟืนเช่นเขาว่าผ่าโผงโผง |
อันวิสัยใจเราเสากระโดง | ใครคดโกงเขาก็รู้อยู่ทุกคน |
ชาติสอพลอทรลักษณ์เพราะรักยศ | มันเลี้ยวลดคดงอคิดฉ้อฉล |
วิสัยช้างสร้างงามาจะชน | ไม่ย่อย่นเยินยู่มาสู้กัน |
ทั้งสองข้างทางขยับขับสินธพ | ออกรับรบกลางแปลงด้วยแข็งขัน |
มังคลาถาโถมโจมประจัญ | ต่างตีรันฟันฟอนราญรอนรบ |
ด้วยฤทธิ์แก้วแววตาทั้งตราแก้ว | ต่างคลาดแคล้วพลาดเพลี่ยงหลีกเลี่ยงหลบ |
ม้าต่อม้าสามารถชาติสินธพ | ต่างดีดขบคางโขกกระโชกชิด |
มังกรกัดฟัดม้ามังคลาโลด | กลับกระโดดดิ้นสลัดมันกัดติด |
นายต่อนายหมายสังหารผลาญชีวิต | ต่างฟันฟาดพลาดผิดหวิดหวิดตัว |
มังคลาม้าล้มลุกถลัน | พระขรรค์ฟันม้าเป็นไฟโพลงไหม้หัว |
มังคลาโดดโลดถลาด้วยตามัว | ตัวต่อตัวนายพลัดตกอัสดร |
มังคลาตาลายข้างฝ่ายพี่ | ม้าก็หนีลงทะเลเที่ยวเร่ร่อน |
ต่างออกห่างต่างพาพลากร | เข้านครเข้าค่ายชายชลา ฯ |
๏ สุดสาครร้อนตัวกลัวพระขรรค์ | จะแก้กันการศึกจึงปรึกษา |
พวกอยู่ค่ายฝ่ายฝรั่งมังคลา | ก็กลัวม้ามังกรหยุดรอนราญ |
ข้างน้องชายหมายคอยเมืองน้อยใหญ่ | มามากได้พร้อมพรักเข้าหักหาญ |
ข้างพี่คอยพี่กับอานุชาชาญ | ได้คิดการกลศึกหยุดตรึกตรา ฯ |
๏ จะกล่าวเรื่องเมืองผลึกฉลองศพ | สมโภชครบเจ็ดวันต่างหรรษา |
พอเรือใช้เข้าไปฟังข่าวลังกา | รีบกลับมาทูลถึงทัพที่รับรบ |
ฤทธิ์พระขรรค์ฟันใครเป็นไฟติด | ต้องพระกฤษณาจนม้าสลบ |
รบทีไรไพร่นายตายทับทบ | ยังต้องรบสู้กันประจัญบาน |
ศรีสุวรรณสินสมุทรสุดวิตก | จะรีบยกทัพไปด้วยได้ช่วยหลาน |
หัสไชยให้เสนาตรวจตราการ | ขนข้าวสารเกลือเสบียงเลี้ยงโยธา ฯ |
๏ ฝ่ายเทพินนิลกัณฐีตรีพลำนั้น | กับเทวัญอัมพวันใฝ่ฝันหา |
เมื่อชักศพพบกันจำนรรจา | ลาบวชหน้าศพสิ้นด้วยยินดี |
เป็นดาบสงดงามตามรุ่นรุ่น | ด้วยเคยคุ้นขอตามสามฤๅษี |
พระอภัยวัณฬาสุมาลี | ไม่พาทีไต่ถามถึงความทัพ |
ศรีสุวรรณนั้นกับหลานจัดการรบ | แต่งเรือครบเครื่องสำเร็จไว้เสร็จสรรพ |
ลาสิทธามาพร้อมน้อมคำนับ | แล้วยกทัพทั้งสามตามกันมา |
พระอภัยได้พี่น้องทั้งสองหลาน | สามกุมารมุนีประสีประสา |
ลงเรือลำทำใหม่ค่อยไคลคลา | ไปภูผาสิงคุตรอยู่กุฎี ฯ |
๏ ฝ่ายสามทัพนับแสนลอยแล่นเลื่อน | ไปทางเดือนหนึ่งจึงถึงกรุงศรี |
ขึ้นตั้งค่ายรายรักษาหน้าธานี | ทุกราตรีตีฆ้องก่อกองไฟ |
ศรีสุวรรณนั้นอยู่วังกับทั้งหลาน | คิดอ่านการผันแปรจะแก้ไข |
แต่สินสมุทรกับพระหัสไชย | จะใคร่ไปรบฝรั่งมังคลา |
จึงจัดแจงแต่งทหารชำนาญศึก | พลผลึกล้วนฉกรรจ์ขันอาสา |
ทองแดงทองเหลืองเครื่องอาวุธยุทธนา | พวกโยธาการะเวกปลุกเสกมนต์ |
เคี้ยวขมิ้นกินอ่านเครื่องอานผูก | ตะกรุดลูกสะกดร้อยสายสร้อยสน |
ใส่แหวนพิรอดปรอทกลมอมทุกคน | ล้วนคงทนแทงฟันไม่พรั่นใจ |
ครั้นพร้อมพรั่งตั้งถ้วนกระบวนทัพ | แลสลับธงทิวปลิวไสว |
ฝ่ายสององค์สรงสนานสำราญใจ | ต่างสอดใส่เกาะเก็จเพชรทั้งนั้น |
ไม่ทรงเสื้อเผื่อไฟจะไหม้ติด | พระสัมฤทธิ์สำหรับรับพระขรรค์ |
ครั้นเสร็จออกนอกวังคับคั่งกัน | ฝ่ายศรีสุวรรณกฤษณาสุดสาคร |
ขึ้นคอยดูอยู่บนป้อมพร้อมทหาร | หน้าปราการกองทัพสลับสลอน |
พร้อมพระวงศ์พงศานรากร | เจริญพรหน่อนรินทร์ให้ภิญโญ |
พวกทหารกรานกราบถือดาบดั้ง | หอกปืนทั้งทวนหลาวแหลนง้าวโล่ |
พระพี่น้องสององค์ทรงสิงโต | ทหารโห่แห่แหนเนื่องแน่นนันต์ ฯ |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลากับวายุพัฒน์ | ต่างทรงเครื่องเรืองจำรัสล้วนจัดสรร |
พระขรรค์ร้อยสร้อยกระหวัดผูกหัตถ์พัน | ทรงม้าสีจันทน์ผูกเครื่องรุ่งเรืองรอง |
วายุพัฒน์จัดองค์ทรงกระบี่ | ขี่ม้าสีมรกตผยดผยอง |
อ้ายยักษาหน้าหมีใส่หมวกทอง | แบกกระบองเคียงม้าวายุพัฒน์ |
แล้วยกออกนอกค่ายหมายทหาร | ตีฆ้องขานโห่แห่อยู่แออัด |
พวกไพร่พลคนธรรพ์ล้วนสันทัด | ต่างแกว่งกวัดหอกดาบแปลบปลาบตา |
พอถึงทัพยับยั้งหยุดตั้งมั่น | ดูแน่นนันต์นายทัพออกรับหน้า |
วายุพัฒน์มัสการท่านบิดา | พระมังคลาสาระวนดูคนกลอง |
หน่อนรินทร์สินสมุทรเห็นบุตรไหว้ | รู้วิสัยในกลคนทั้งสอง |
จึงร้องเรียกมังคลาว่าพระน้อง | เจ้ายกกองทัพมาจะราวี |
พยาบาทมาดหมายไม่หายเหตุ | พระบิตุเรศเล่าก็ถือเป็นฤๅษี |
ไม่คุมแค้นแม้นว่ามาโดยดี | ประสาพี่น้องเห็นจะเป็นการ |
ต้องรบสู้ผู้คนพลไพร่ | พลอยบรรลัยแหลกลงน่าสงสาร |
แต่ล้วนเหล่าเผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน | มาล้างผลาญกันอย่างนี้ไม่ดีเลย ฯ |
๏ พระมังคลาว่าเป็นลูกก็ปลูกฝัง | ครองเมืองทั้งสะใภ้ทั้งไขเขย |
อันน้องนี้วิสัยบุญไม่คุ้นเคย | เหมือนเชลยลับชื่อไม่ลือชา |
อันที่จริงสิงหลมณฑลทวีป | ได้ชูชีพชนชาติศาสนา |
แต่ทวดเฒ่าเหล่ากอต่อต่อมา | เมืองลังกาก็มากลับลอยลับลิบ |
เหมือนพระพี่มีสุขลูกกษัตริย์ | ผ่านสมบัติเมียน้อยนับร้อยสิบ |
แต่ตัวน้องต้องอายผู้ร้ายริบ | เที่ยวหักดิบฉิบหายไม่วายคิด |
เสียที่ถิ่นสิ้นญาติสิ้นชาติเชื้อ | เห็นแต่เสือซ่อนเล็บคนเหน็บกริช |
ปากปราศรัยใจประสงค์ปลงชีวิต | ทั้งโคตรคิดเข้าเป็นหมู่เราผู้เดียว ฯ |
๏ สินสมุทรหยุดฟังชังน้ำหน้า | โมโหหน้าหมกมุ่นให้ฉุนเฉียว |
อ้ายมังคลาพาทีเช่นนี้เจียว | พลางเข่นเขี้ยวขับสิงห์วิ่งเข้ารบ |
ขยับทวนสวนแทงพลิกแพลงพลาด | พระน้องฟาดฟันเปรี้ยงหลีกเลี่ยงหลบ |
คอยเขม้นเห็นได้ใกล้สินธพ | โถมประจบจับน้องด้วยว่องไว |
มังคลาง่าขยับพี่จับหัตถ์ | เบือนสะบัดผัดผันฟันไม่ได้ |
พอเพลี่ยงพลาดฟาดฟันพระขรรค์ไฟ | เพลิงโพลงไหม้ขนสิงห์วิ่งตะกาย |
สินสมุทรสุดทนร่ายมนต์เป่า | เพลิงที่เผาพิษร้อนค่อยผ่อนหาย |
น้องเข้าขวางกางกั้นกันพี่ชาย | เขม้นหมายมังคลาเข้าราวี ฯ |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาให้วายุพัฒน์ | รับพระหัสไชยรบไม่หลบหนี |
หัสไชยไล่รุกเข้าคลุกคลี | อ้ายยักษ์หมีตีรันประจัญบาน |
สินสมุทรสุดร้อนผ้าผ่อนไหม้ | สู้แข็งใจยืนยันกันทหาร |
เห็นยักษ์ใหญ่ไล่นุชาถาทะยาน | เข้าต่อต้านตีรันประจัญรบ |
เห็นเพลี่ยงพลั้งมังคลาขับม้าไล่ | หัสไชยไสสิงห์วิ่งเข้าขบ |
ตะกายกัดฟัดคว่ำปล้ำสินธพ | ล้มสลบซบดิ้นสิ้นชีวี |
สินสมุทรผลุดผลักจากยักษ์ใหญ่ | ทะลึ่งไล่วายุพัฒน์เลี้ยวลัดหนี |
พอโพล้เพล้เพลาจะราตรี | เห็นรูปผีเสื้อสกัดกั้นนัดดา |
สินสมุทรสุดเขม้นเห็นพระแม่ | จำได้แน่นอบนบซบเกศา |
แล้วคลับคล้ายหายไปกับนัยนา | พอเพลามือเขม้นไม่เห็นกัน |
มังคลาลาทัพกลับเข้าค่าย | พวกพี่ชายกลับพหลพลขันธ์ |
เข้าค่ายตั้งวังนิเวศน์ขอบเขตคัน | ต่างตั้งมั่นอั้นอ้นคิดกลการ ฯ |
๏ ฝ่ายเรือใช้ที่ไปแต่นางแม่เลี้ยง | ต่างแล่นเลี่ยงไปถึงสิ้นทุกถิ่นฐาน |
จึ่งแจงความตามเรื่องเคืองรำคาญ | ให้เชิญท่านท้าวพระยาทุกธานี ฯ |
๏ ฝ่ายไทท้าวเก้าองค์ล้วนวงศ์ญาติ | ทั้งมิตรสหายร้ายกาจดั่งราชสีห์ |
กับเมืองน้อยร้อยเอ็ดเอกโทตรี | เกณฑ์โยธีทุกทุกเมืองยกเนื่องมา |
แต่พระเสาร์เจ้าเกาะเงาะงวนนั้น | ใช้กำปั่นไม้แตนทำแน่นหนา |
กำลังต้นทนคลื่นฝืนคงคา | กับโยธามาก็น้อยสักร้อยเดียว |
สานใบแตนแผ่นใหญ่ทำใบคลี่ | ได้ลมดีแล่นลำออกน้ำเขียว |
ไม่มีสาตราวุธยุทธ์ธงเทียว | น้ำตาลเคี่ยวแช่กับดินกินทุกวัน ฯ |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลานราราช | เมื่อไสยาสน์หวาดจิตนิมิตฝัน |
ว่านัดดาวายุพัฒน์เคืองขัดกัน | เอาดาบฟันกรบาทขาดกระเด็น |
ตัวก็ตายยายแก่ผู้แม่เลี้ยง | ประคองเคียงนวดฟั้นในฝันเห็น |
ที่กลัดกลุ้มรุมร้อนค่อยหย่อนเย็น | พอกลับเป็นขึ้นก็ตื่นพลิกฟื้นกาย |
ยังจนใจในนิมิตคิดประหลาด | พอสังฆราชขึ้นมาหาเวลาสาย |
จึงเล่าตามความฝันบรรยาย | จะดีร้ายโปรดแปลให้แน่นอน ฯ |
๏ บาทหลวงนั่งฟังที่เก้าอี้ตั้ง | นับโฉลกโลกภวังค์วิสังหรณ์ |
แล้วจับยามตามตำราพยากรณ์ | ราหูจรถึงจันทร์จะอันตราย |
วายุพัฒน์ตัดบาทแขนขาดนั้น | ระวังนะพระขรรค์จะพลันหาย |
ที่หญิงแก่แก้รอดไม่วอดวาย | คือท่านยายนั้นจะช่วยด้วยปัญญา |
แล้วพาทีมิให้ดังสอนสั่งศิษย์ | อย่าไว้จิตหลานรักนั้นนักหนา |
จะเกิดเข็ญเป็นวิบัติเพราะนัดดา | ฟังกูว่านะอย่าให้มาใกล้กราย |
เฝ้าสั่งซ้ำกำชับแล้วกลับหลัง | ฝ่ายพระมังคลานั้นมิ่งขวัญหาย |
ให้หงุดหงิดจิตใจไม่สบาย | เห็นหลานชายเฉยเชือนไม่เหมือนเคย |
วายุพัฒน์นัดดาเข้ามาเฝ้า | ทั้งเย็นเช้าเข้าไปหาเห็นอาเฉย |
ดูท่วงทีมิได้ไว้พระทัยเลย | ไม่เหมือนเคยคิดแค้นด้วยแสนอาย |
เข้าในห้องตรองตรึกฝึกไอ้ยักษ์ | มึงหาญหักลักให้ได้ดังใจหมาย |
ฝ่ายยักษ์ใหญ่ไปแอบดูแยบคาย | พอเบี่ยงบ่ายฝ่ายพระมังคลา |
จึงจัดแจงแต่งองค์ทรงพระขรรค์ | สายสร้อยพันผูกรัดกับหัตถา |
ทรงฉลองรองบาทเยื้องยาตรา | กับเสนามหาดเล็กเด็กน้อยน้อย |
เที่ยวแลดูดูค่ายนายทหาร | ทุกหน้าด้านเดินไขว่คนใช้สอย |
ไอ้ยักษ์มองจ้องจะจับขยับคอย | เห็นเดินคล้อยโถมกระหวัดรวบรัดกาย |
กระชากฉุดยุดแย่งพระแสงขรรค์ | หักสร้อยพันผูกขาดเหมือนมาดหมาย |
ชูพระขรรค์ฟันไล่พวกไพร่นาย | ต่างวุ่นวายพรูวิ่งเข้าชิงยักษ์ |
มันฟันไฟไหม้พลุ่งกระทุ้งถีบ | จับตัวบีบบี้แบนขาแขนหัก |
ต่างล้มตายนายไพร่ไส้ทะลัก | แล้วไอ้ยักษ์วิ่งมาเข้าหานาย |
ยื่นพระขรรค์นั้นให้ไหว้วายุพัฒน์ | หน่อกษัตริย์เสร็จสมอารมณ์หมาย |
พระมังคลามาตามสิ้นความอาย | เรียกหลานชายว่าพ่อขอให้อา |
วายุพัฒน์กวัดแกว่งพระแสงขยับ | คนกลัวกลับล้มกลิ้งวิ่งถลา |
แล้วร้องถามความหลังพระมังคลา | ไม่ดูหน้าข้านั้นด้วยอันใด |
เข้าไปเฝ้าเล่าก็เมินทำเดินเฉย | ไม่เหมือนเคยแค้นน่าเลือดตาไหล |
เขาทำมั่งยังจะมาว่ากระไร | เป็นผู้ใหญ่ได้อยู่หรือทำถือตัว |
พระมังคลาว่าวอนด้วยอ่อนหวาน | ผิดแล้วหลานอนุกูลเถิดทูนหัว |
ด้วยทำศึกตรึกตรองให้หมองมัว | อานี้ชั่วเฉยเจ้าด้วยเบาใจ |
เจ้าก็รู้อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ | ไม่มีที่พึ่งพาที่อาศัย |
แม้นมิให้พระขรรค์เหมือนบรรลัย | จงคืนให้ไว้กับอาได้ปรานี ฯ |
๏ วายุพัฒน์ตัดความจะห้ามมั่ง | จะมาตั้งรบพุ่งเอากรุงศรี |
ไปกราบไหว้อัยกาหาอัยกี | รู้จักพี่เผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน |
จึงจะได้ให้คืนแม้นขืนดื้อ | ก็ไม่ถือเธอแล้วว่าเป็นอาหลาน |
มังคลาบ้าเลือดดุเดือดดาล | เรียกทหารหุ้มห้อมเข้าล้อมไว้ |
แล้วว่ากูผู้เป็นอาได้มาขอ | มึงขัดคอแค้นน่าเลือดตาไหล |
หลานหัวร่อล้ออาจะลาไป | เรียกยักษ์ใหญ่หน้าหมีขึ้นขี่คอ |
แกว่งพระขรรค์ฟันฝ่ายทั้งซ้ายขวา | คนถลาล้มกลิ้งลุกวิ่งสอ |
พระมังคลามาข้างหลังต้องรั้งรอ | อ้ายยักษ์บอแบกย่างง้างกระบอง |
แล้วหวดซ้ายป่ายขวาโยธาหาญ | วิ่งลนลานหลีกหลบสยบสยอง |
เลยลงลำกำปั่นให้ลั่นฆ้อง | ตั้งโห่ร้องรบกันสนั่นดัง |
พระมังคลาอาลัยในพระขรรค์ | ลงกำปั่นแล่นตามมาหลามหลัง |
ยิงปืนใหญ่ไฟฟูมตูมตึงตัง | เรือฝรั่งมังคลามาห้าร้อย |
เรือนัดดาห้าสิบไม่รีบแล่น | คอยตอบแทนรบล่อทำท้อถอย |
พวกอาตามหลามทางสล้างลอย | พวกหลานคอยใกล้ถึงยิงตึงตัง ฯ |
๏ ฝ่ายพระวลาอาหลานอยู่ด้านเหนือ | ทอดทัพเรือเรียงสลับอยู่คับคั่ง |
เสียงครื้นเครงเร่งเรือใช้ให้ไปฟัง | รู้ว่ามังคลาไล่วายุพัฒน์ |
ออกกำปั่นพรั่งพร้อมเข้าล้อมหลัง | ไม่หยุดยั้งแล่นลอยคอยสกัด |
กำดัดดึกครึกครื้นทั้งคลื่นซัด | ปืนใหญ่ยัดยิงลั่นเสียงครั่นครื้น |
ฝ่ายฝรั่งมังคลาเหมือนบ้าเลือด | กำดัดเดือดนัดดาสู้ฝ่าฝืน |
เร่งเรือทัพคับคั้งประดังปืน | เสียงพิลึกครึกครื้นทั้งคลื่นซัด |
ฝ่ายฝรั่งลังกาพวกม้าใช้ | ไปสืบได้ข่าวศึกดึกกำดัด |
ว่าทัพพระมังคลาวายุพัฒน์ | กับทั้งหัสกันรบสมทบกัน ฯ |