ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา

๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาเชื่อวายุพัฒน์ ว่าซื่อสัตย์มั่นคงไม่สงสัย
ให้ตรวจตราว่าพหลพลไกร ให้อยู่ในค่ายตั้งหลังพลับพลา
แต่รอรั้งตั้งมั่นหลายวันนัก ไม่เห็นพักตร์เผ่าพงศ์พวกวงศา
จึงให้ไพร่ไปตะโกนโพนทนา ประกาศก้องร้องว่าหน้าประตู
ว่าตัวนายหายไปข้างไหนเสีย หรือกอดเมียคลอแคลแม่อีหนู
ไม่สู้รบหลบมุดนอนคุดคู้ ออกมาสู้ดูฝีมือให้ลือชา ฯ
๏ สุดสาครร้อนจิตคิดมานะ บอกองค์พระมเหสีที่ปรึกษา
ยืมเอาแก้วแคล้วคลาดคาดกายา เหน็บสาตราชื่อภุขรรค์อันเป็นเพชร
ถือไม้ท้าวดาวบสสู้กรดได้ ไฟไม่ไหม้ลุกลามไม่ขามเข็ด
จะแก้ไขใช้ปัญญากาละเม็ด ครั้นสรรพเสร็จทรงพระยาม้ามังกร
กับโยธาการะเวกเมืองผลึก ชำนาญศึกถือดาบกำซาบศร
ล้วนทองแดงแต่งการจะราญรอน สุดสาครนำหน้าโยธาตาม
แล้วยกออกนอกวังคนคั่งคับ หยุดประทับที่กว้างกลางสนาม
ให้ปักธงตรงหน้าสง่างาม ตั้งโห่สามลาลั่นสนั่นดัง ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าผ่าน ยกทหารแห่ตามมาหลามหลัง
ถึงที่หยุดหยุดประทับยืนยับยั้ง ฝ่ายฝรั่งมังคลาร้องว่าไป
พวกตัวนายหายไปข้างไหนเสีย ไม่พาเมียมาช่วยรบหลบไปไหน
ยังน้องชายฝ่ายนางพวกข้างใน ทำไมไม่ออกมาช่วยราวี
สุดสาครย้อนว่าอุลามก สัตว์นรกยกกายไม่อายผี
สำแดงฤทธิ์ขวิดพ่อเหมือนทรพี หมายว่ามีรี้พลมาปล้นชิง
อันพวกเราเจ้าของยกกองทัพ ช่วยกันจับโจรร้ายทั้งชายหญิง
แนะฝรั่งมังคลาแม้นกล้าจริง จงมาชิงชัยลองกันสองคน
ตัวชนะจะสมอารมณ์แน่ ฆ่าพ่อแม่พี่น้องครองสิงหล
เราชนะจะผูกคอทรชน ลากไปขว้างกลางวนพ้นแผ่นดิน ฯ
๏ พระมังคลาว่าพี่ชายไม่อายปาก พูดสำรากอุตริมาติฉิน
ทวีปวังลังกาในวาริน เป็นที่ถิ่นท้าวไทยอัยกา
แต่โบราณผ่านพิภพจบจังหวัด สืบกษัตริย์สุริย์วงศ์เผ่าพงศา
โดยลำดับนับกษัตริย์ถัดถัดมา จนเราราชาภิเษกเป็นเอกองค์
เพราะพวกพ้องของตัวไม่กลัวบาป เห็นแต่ลาภโลภจิตคิดประสงค์
มาช่วยชิงสิงหลรณรงค์ จึงได้ขาดญาติวงศ์ทำสงคราม
เดิมบิดาย่าปู่อยู่จังหวัด บุรีรัตนาภาษาสยาม
ก็เป็นญาติชาติเชื้อทำเหลือลาม คบคิดข้ามเขตฝั่งมาลังกา
ไม่มีจริงชิงเอาของเราเสีย ยกแต่ตัวผัวเมียมารักษา
ชะเจ้าของครองสมบัติกษัตรา ยังมีหน้าว่าได้ช่างไม่อาย
เลือกที่รักมักที่ชังทำดั่งนี้ มิใช่พี่น้องเนื้อในเชื้อสาย
ตัวก็รู้ดูถูกลูกผู้ชาย มากลับกลายหมายจะทำแต่ลำพัง ฯ
๏ สุดสาครค่อนแค้นว่าแสนชาติ ไม่หมายมาดปรารถนาเป็นฝาหรั่ง
เดิมพระบาทมาตุรงค์ครองวงวัง ถวายลังกากับพระชิณกา
ครั้นเกิดมึงจึงสมเด็จพระบิตุเรศ คิดสมเพศเผ่าพงศ์พวกวงศา
มอบสมบัติพัสถานให้มารดา จึงแต่งตั้งมังคลาครองธานี
ไม่ซื่อต่อพ่อแม่กอแก่เกก ตีการะเวกรมจักรถือศักดิ์ศรี
จับพระน้องสองธิดาแม่มาลี พระอัยกีอัยกาเอามาไว้
จนชั้นแต่แม่วัณฬาลงมาห้าม ยังหยาบหยามฆ่าขอเฝ้าพวกบ่าวไพร่
กลับตลบรบพุ่งเผากรุงไกร ผิดวิสัยในแผ่นดินสิ้นทั้งปวง
เขาเห็นชั่วทั่วพิภพรบพ่อแม่ เว้นเสียแต่เอ็งบังอาจกับบาทหลวง
สั่งสอนมึงจึ่งมุทะลุทะลวง กระทำล่วงเกินผิดจริตบุราณ
สองกษัตริย์ขัตติยวงศ์ทรงเห็น ไม่ควรเป็นปิ่นเกศประเทศฐาน
จึ่งถอดมึงซึ่งเป็นโทษโปรดประทาน ให้กูผ่านบ้านเมืองให้เลื่องลือ
พวกสิงหลคนดูก็รู้เห็น กูไม่เป็นเจ้าของครอบครองหรือ
มึงลูกเด็กเล็กจิ๋วเท่านิ้วมือ ทำดึงดื้อซื้อรู้ถือครูโกง
สาระยำทำวิบัติไอ้สัตว์บาป ไม่เข็ดหลาบหยาบคายจะตายโหง
มีเวทมนตร์ดลเอกเสกลำโพง พากันโกงกอแกด้วยแก่วัด
ไม่รู้คุณบุญบาปทำหยาบหยาม เสียชื่อนามหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์
กลับหยิบผิดบิดาสารพัด จะต้องมัดตัดศีรษะเสียบประจาน ฯ
๏ มังคลาว่าเจ้าเข้าด้วยพ่อ พลอยสอพลอขอสมบัติพัสถาน
ติเตียนพระจะไปตกนรกนาน ยมบาลท่านจะคอยตบต่อยยับ
เมียของเจ้าเสาวคนธ์ขโมยเพชร เอาแก้วเก็จของเราไว้จึ่งไปจับ
ยายมาลีมิใช่การแต่งสารลับ มาพลอยรับสมอ้างเอากลางคัน
ข้างเราเป็นลูกเต้าไม่เข้าด้วย กลับไปช่วยการะเวกแกล้งเสกสรรค์
ทั้งรมจักรรักเขาพูดเข้ากัน ไม่เที่ยงธรรม์กลอกกลับจึ่งจับมา
ไม่รู้ตัวมัวเมาใจเบานัก ไม่รู้จักรักวงศ์เผ่าพงศา
ไปเลี้ยงไว้ในวังเมืองลังกา บิดามาก็ไม่ถามตามธรรมเนียม
เข้ากับเขาเฝ้าดูถูกแต่ลูกหลาน เหมือนบูราณท่านว่าเข้าพร้าเสียม
ความเจียมตัวกลัวมนุษย์ก็สุดเจียม ท่านเหี้ยมเกรียมกริ้วโกรธยกโทษเรา
ช่างกระไรไม่มีดีเท่าขี้เล็บ คอยแต่เก็บเจ็บแค้นเถียงแทนเขา
ไม่ยอมแพ้แม่พ่อกดคอเรา เอาปี่เป่าให้เราหลับแล้วจับตัว
ทำเช่นนี้ดีแท้ทั้งแม่พ่อ น่าหัวร่อพระกำเนิดบังเกิดหัว
สำทับถมข่มเหงเหลือเกรงกลัว ไม่มีชั่วตัวเอกโกกเกกโกง
ให้สำเร็จเสร็จสรรพแล้วกลับคืน จะเป็นฟืนเช่นเขาว่าผ่าโผงโผง
อันวิสัยใจเราเสากระโดง ใครคดโกงเขาก็รู้อยู่ทุกคน
ชาติสอพลอทรลักษณ์เพราะรักยศ มันเลี้ยวลดคดงอคิดฉ้อฉล
วิสัยช้างสร้างงามาจะชน ไม่ย่อย่นเยินยู่มาสู้กัน
ทั้งสองข้างทางขยับขับสินธพ ออกรับรบกลางแปลงด้วยแข็งขัน
มังคลาถาโถมโจมประจัญ ต่างตีรันฟันฟอนราญรอนรบ
ด้วยฤทธิ์แก้วแววตาทั้งตราแก้ว ต่างคลาดแคล้วพลาดเพลี่ยงหลีกเลี่ยงหลบ
ม้าต่อม้าสามารถชาติสินธพ ต่างดีดขบคางโขกกระโชกชิด
มังกรกัดฟัดม้ามังคลาโลด กลับกระโดดดิ้นสลัดมันกัดติด
นายต่อนายหมายสังหารผลาญชีวิต ต่างฟันฟาดพลาดผิดหวิดหวิดตัว
มังคลาม้าล้มลุกถลัน พระขรรค์ฟันม้าเป็นไฟโพลงไหม้หัว
มังคลาโดดโลดถลาด้วยตามัว ตัวต่อตัวนายพลัดตกอัสดร
มังคลาตาลายข้างฝ่ายพี่ ม้าก็หนีลงทะเลเที่ยวเร่ร่อน
ต่างออกห่างต่างพาพลากร เข้านครเข้าค่ายชายชลา ฯ
๏ สุดสาครร้อนตัวกลัวพระขรรค์ จะแก้กันการศึกจึงปรึกษา
พวกอยู่ค่ายฝ่ายฝรั่งมังคลา ก็กลัวม้ามังกรหยุดรอนราญ
ข้างน้องชายหมายคอยเมืองน้อยใหญ่ มามากได้พร้อมพรักเข้าหักหาญ
ข้างพี่คอยพี่กับอานุชาชาญ ได้คิดการกลศึกหยุดตรึกตรา ฯ
๏ จะกล่าวเรื่องเมืองผลึกฉลองศพ สมโภชครบเจ็ดวันต่างหรรษา
พอเรือใช้เข้าไปฟังข่าวลังกา รีบกลับมาทูลถึงทัพที่รับรบ
ฤทธิ์พระขรรค์ฟันใครเป็นไฟติด ต้องพระกฤษณาจนม้าสลบ
รบทีไรไพร่นายตายทับทบ ยังต้องรบสู้กันประจัญบาน
ศรีสุวรรณสินสมุทรสุดวิตก จะรีบยกทัพไปด้วยได้ช่วยหลาน
หัสไชยให้เสนาตรวจตราการ ขนข้าวสารเกลือเสบียงเลี้ยงโยธา ฯ
๏ ฝ่ายเทพินนิลกัณฐีตรีพลำนั้น กับเทวัญอัมพวันใฝ่ฝันหา
เมื่อชักศพพบกันจำนรรจา ลาบวชหน้าศพสิ้นด้วยยินดี
เป็นดาบสงดงามตามรุ่นรุ่น ด้วยเคยคุ้นขอตามสามฤๅษี
พระอภัยวัณฬาสุมาลี ไม่พาทีไต่ถามถึงความทัพ
ศรีสุวรรณนั้นกับหลานจัดการรบ แต่งเรือครบเครื่องสำเร็จไว้เสร็จสรรพ
ลาสิทธามาพร้อมน้อมคำนับ แล้วยกทัพทั้งสามตามกันมา
พระอภัยได้พี่น้องทั้งสองหลาน สามกุมารมุนีประสีประสา
ลงเรือลำทำใหม่ค่อยไคลคลา ไปภูผาสิงคุตรอยู่กุฎี ฯ
๏ ฝ่ายสามทัพนับแสนลอยแล่นเลื่อน ไปทางเดือนหนึ่งจึงถึงกรุงศรี
ขึ้นตั้งค่ายรายรักษาหน้าธานี ทุกราตรีตีฆ้องก่อกองไฟ
ศรีสุวรรณนั้นอยู่วังกับทั้งหลาน คิดอ่านการผันแปรจะแก้ไข
แต่สินสมุทรกับพระหัสไชย จะใคร่ไปรบฝรั่งมังคลา
จึงจัดแจงแต่งทหารชำนาญศึก พลผลึกล้วนฉกรรจ์ขันอาสา
ทองแดงทองเหลืองเครื่องอาวุธยุทธนา พวกโยธาการะเวกปลุกเสกมนต์
เคี้ยวขมิ้นกินอ่านเครื่องอานผูก ตะกรุดลูกสะกดร้อยสายสร้อยสน
ใส่แหวนพิรอดปรอทกลมอมทุกคน ล้วนคงทนแทงฟันไม่พรั่นใจ
ครั้นพร้อมพรั่งตั้งถ้วนกระบวนทัพ แลสลับธงทิวปลิวไสว
ฝ่ายสององค์สรงสนานสำราญใจ ต่างสอดใส่เกาะเก็จเพชรทั้งนั้น
ไม่ทรงเสื้อเผื่อไฟจะไหม้ติด พระสัมฤทธิ์สำหรับรับพระขรรค์
ครั้นเสร็จออกนอกวังคับคั่งกัน ฝ่ายศรีสุวรรณกฤษณาสุดสาคร
ขึ้นคอยดูอยู่บนป้อมพร้อมทหาร หน้าปราการกองทัพสลับสลอน
พร้อมพระวงศ์พงศานรากร เจริญพรหน่อนรินทร์ให้ภิญโญ
พวกทหารกรานกราบถือดาบดั้ง หอกปืนทั้งทวนหลาวแหลนง้าวโล่
พระพี่น้องสององค์ทรงสิงโต ทหารโห่แห่แหนเนื่องแน่นนันต์ ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลากับวายุพัฒน์ ต่างทรงเครื่องเรืองจำรัสล้วนจัดสรร
พระขรรค์ร้อยสร้อยกระหวัดผูกหัตถ์พัน ทรงม้าสีจันทน์ผูกเครื่องรุ่งเรืองรอง
วายุพัฒน์จัดองค์ทรงกระบี่ ขี่ม้าสีมรกตผยดผยอง
อ้ายยักษาหน้าหมีใส่หมวกทอง แบกกระบองเคียงม้าวายุพัฒน์
แล้วยกออกนอกค่ายหมายทหาร ตีฆ้องขานโห่แห่อยู่แออัด
พวกไพร่พลคนธรรพ์ล้วนสันทัด ต่างแกว่งกวัดหอกดาบแปลบปลาบตา
พอถึงทัพยับยั้งหยุดตั้งมั่น ดูแน่นนันต์นายทัพออกรับหน้า
วายุพัฒน์มัสการท่านบิดา พระมังคลาสาระวนดูคนกลอง
หน่อนรินทร์สินสมุทรเห็นบุตรไหว้ รู้วิสัยในกลคนทั้งสอง
จึงร้องเรียกมังคลาว่าพระน้อง เจ้ายกกองทัพมาจะราวี
พยาบาทมาดหมายไม่หายเหตุ พระบิตุเรศเล่าก็ถือเป็นฤๅษี
ไม่คุมแค้นแม้นว่ามาโดยดี ประสาพี่น้องเห็นจะเป็นการ
ต้องรบสู้ผู้คนพลไพร่ พลอยบรรลัยแหลกลงน่าสงสาร
แต่ล้วนเหล่าเผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน มาล้างผลาญกันอย่างนี้ไม่ดีเลย ฯ
๏ พระมังคลาว่าเป็นลูกก็ปลูกฝัง ครองเมืองทั้งสะใภ้ทั้งไขเขย
อันน้องนี้วิสัยบุญไม่คุ้นเคย เหมือนเชลยลับชื่อไม่ลือชา
อันที่จริงสิงหลมณฑลทวีป ได้ชูชีพชนชาติศาสนา
แต่ทวดเฒ่าเหล่ากอต่อต่อมา เมืองลังกาก็มากลับลอยลับลิบ
เหมือนพระพี่มีสุขลูกกษัตริย์ ผ่านสมบัติเมียน้อยนับร้อยสิบ
แต่ตัวน้องต้องอายผู้ร้ายริบ เที่ยวหักดิบฉิบหายไม่วายคิด
เสียที่ถิ่นสิ้นญาติสิ้นชาติเชื้อ เห็นแต่เสือซ่อนเล็บคนเหน็บกริช
ปากปราศรัยใจประสงค์ปลงชีวิต ทั้งโคตรคิดเข้าเป็นหมู่เราผู้เดียว ฯ
๏ สินสมุทรหยุดฟังชังน้ำหน้า โมโหหน้าหมกมุ่นให้ฉุนเฉียว
อ้ายมังคลาพาทีเช่นนี้เจียว พลางเข่นเขี้ยวขับสิงห์วิ่งเข้ารบ
ขยับทวนสวนแทงพลิกแพลงพลาด พระน้องฟาดฟันเปรี้ยงหลีกเลี่ยงหลบ
คอยเขม้นเห็นได้ใกล้สินธพ โถมประจบจับน้องด้วยว่องไว
มังคลาง่าขยับพี่จับหัตถ์ เบือนสะบัดผัดผันฟันไม่ได้
พอเพลี่ยงพลาดฟาดฟันพระขรรค์ไฟ เพลิงโพลงไหม้ขนสิงห์วิ่งตะกาย
สินสมุทรสุดทนร่ายมนต์เป่า เพลิงที่เผาพิษร้อนค่อยผ่อนหาย
น้องเข้าขวางกางกั้นกันพี่ชาย เขม้นหมายมังคลาเข้าราวี ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาให้วายุพัฒน์ รับพระหัสไชยรบไม่หลบหนี
หัสไชยไล่รุกเข้าคลุกคลี อ้ายยักษ์หมีตีรันประจัญบาน
สินสมุทรสุดร้อนผ้าผ่อนไหม้ สู้แข็งใจยืนยันกันทหาร
เห็นยักษ์ใหญ่ไล่นุชาถาทะยาน เข้าต่อต้านตีรันประจัญรบ
เห็นเพลี่ยงพลั้งมังคลาขับม้าไล่ หัสไชยไสสิงห์วิ่งเข้าขบ
ตะกายกัดฟัดคว่ำปล้ำสินธพ ล้มสลบซบดิ้นสิ้นชีวี
สินสมุทรผลุดผลักจากยักษ์ใหญ่ ทะลึ่งไล่วายุพัฒน์เลี้ยวลัดหนี
พอโพล้เพล้เพลาจะราตรี เห็นรูปผีเสื้อสกัดกั้นนัดดา
สินสมุทรสุดเขม้นเห็นพระแม่ จำได้แน่นอบนบซบเกศา
แล้วคลับคล้ายหายไปกับนัยนา พอเพลามือเขม้นไม่เห็นกัน
มังคลาลาทัพกลับเข้าค่าย พวกพี่ชายกลับพหลพลขันธ์
เข้าค่ายตั้งวังนิเวศน์ขอบเขตคัน ต่างตั้งมั่นอั้นอ้นคิดกลการ ฯ
๏ ฝ่ายเรือใช้ที่ไปแต่นางแม่เลี้ยง ต่างแล่นเลี่ยงไปถึงสิ้นทุกถิ่นฐาน
จึ่งแจงความตามเรื่องเคืองรำคาญ ให้เชิญท่านท้าวพระยาทุกธานี ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเก้าองค์ล้วนวงศ์ญาติ ทั้งมิตรสหายร้ายกาจดั่งราชสีห์
กับเมืองน้อยร้อยเอ็ดเอกโทตรี เกณฑ์โยธีทุกทุกเมืองยกเนื่องมา
แต่พระเสาร์เจ้าเกาะเงาะงวนนั้น ใช้กำปั่นไม้แตนทำแน่นหนา
กำลังต้นทนคลื่นฝืนคงคา กับโยธามาก็น้อยสักร้อยเดียว
สานใบแตนแผ่นใหญ่ทำใบคลี่ ได้ลมดีแล่นลำออกน้ำเขียว
ไม่มีสาตราวุธยุทธ์ธงเทียว น้ำตาลเคี่ยวแช่กับดินกินทุกวัน ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลานราราช เมื่อไสยาสน์หวาดจิตนิมิตฝัน
ว่านัดดาวายุพัฒน์เคืองขัดกัน เอาดาบฟันกรบาทขาดกระเด็น
ตัวก็ตายยายแก่ผู้แม่เลี้ยง ประคองเคียงนวดฟั้นในฝันเห็น
ที่กลัดกลุ้มรุมร้อนค่อยหย่อนเย็น พอกลับเป็นขึ้นก็ตื่นพลิกฟื้นกาย
ยังจนใจในนิมิตคิดประหลาด พอสังฆราชขึ้นมาหาเวลาสาย
จึงเล่าตามความฝันบรรยาย จะดีร้ายโปรดแปลให้แน่นอน ฯ
๏ บาทหลวงนั่งฟังที่เก้าอี้ตั้ง นับโฉลกโลกภวังค์วิสังหรณ์
แล้วจับยามตามตำราพยากรณ์ ราหูจรถึงจันทร์จะอันตราย
วายุพัฒน์ตัดบาทแขนขาดนั้น ระวังนะพระขรรค์จะพลันหาย
ที่หญิงแก่แก้รอดไม่วอดวาย คือท่านยายนั้นจะช่วยด้วยปัญญา
แล้วพาทีมิให้ดังสอนสั่งศิษย์ อย่าไว้จิตหลานรักนั้นนักหนา
จะเกิดเข็ญเป็นวิบัติเพราะนัดดา ฟังกูว่านะอย่าให้มาใกล้กราย
เฝ้าสั่งซ้ำกำชับแล้วกลับหลัง ฝ่ายพระมังคลานั้นมิ่งขวัญหาย
ให้หงุดหงิดจิตใจไม่สบาย เห็นหลานชายเฉยเชือนไม่เหมือนเคย
วายุพัฒน์นัดดาเข้ามาเฝ้า ทั้งเย็นเช้าเข้าไปหาเห็นอาเฉย
ดูท่วงทีมิได้ไว้พระทัยเลย ไม่เหมือนเคยคิดแค้นด้วยแสนอาย
เข้าในห้องตรองตรึกฝึกไอ้ยักษ์ มึงหาญหักลักให้ได้ดังใจหมาย
ฝ่ายยักษ์ใหญ่ไปแอบดูแยบคาย พอเบี่ยงบ่ายฝ่ายพระมังคลา
จึงจัดแจงแต่งองค์ทรงพระขรรค์ สายสร้อยพันผูกรัดกับหัตถา
ทรงฉลองรองบาทเยื้องยาตรา กับเสนามหาดเล็กเด็กน้อยน้อย
เที่ยวแลดูดูค่ายนายทหาร ทุกหน้าด้านเดินไขว่คนใช้สอย
ไอ้ยักษ์มองจ้องจะจับขยับคอย เห็นเดินคล้อยโถมกระหวัดรวบรัดกาย
กระชากฉุดยุดแย่งพระแสงขรรค์ หักสร้อยพันผูกขาดเหมือนมาดหมาย
ชูพระขรรค์ฟันไล่พวกไพร่นาย ต่างวุ่นวายพรูวิ่งเข้าชิงยักษ์
มันฟันไฟไหม้พลุ่งกระทุ้งถีบ จับตัวบีบบี้แบนขาแขนหัก
ต่างล้มตายนายไพร่ไส้ทะลัก แล้วไอ้ยักษ์วิ่งมาเข้าหานาย
ยื่นพระขรรค์นั้นให้ไหว้วายุพัฒน์ หน่อกษัตริย์เสร็จสมอารมณ์หมาย
พระมังคลามาตามสิ้นความอาย เรียกหลานชายว่าพ่อขอให้อา
วายุพัฒน์กวัดแกว่งพระแสงขยับ คนกลัวกลับล้มกลิ้งวิ่งถลา
แล้วร้องถามความหลังพระมังคลา ไม่ดูหน้าข้านั้นด้วยอันใด
เข้าไปเฝ้าเล่าก็เมินทำเดินเฉย ไม่เหมือนเคยแค้นน่าเลือดตาไหล
เขาทำมั่งยังจะมาว่ากระไร เป็นผู้ใหญ่ได้อยู่หรือทำถือตัว
พระมังคลาว่าวอนด้วยอ่อนหวาน ผิดแล้วหลานอนุกูลเถิดทูนหัว
ด้วยทำศึกตรึกตรองให้หมองมัว อานี้ชั่วเฉยเจ้าด้วยเบาใจ
เจ้าก็รู้อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ ไม่มีที่พึ่งพาที่อาศัย
แม้นมิให้พระขรรค์เหมือนบรรลัย จงคืนให้ไว้กับอาได้ปรานี ฯ
๏ วายุพัฒน์ตัดความจะห้ามมั่ง จะมาตั้งรบพุ่งเอากรุงศรี
ไปกราบไหว้อัยกาหาอัยกี รู้จักพี่เผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน
จึงจะได้ให้คืนแม้นขืนดื้อ ก็ไม่ถือเธอแล้วว่าเป็นอาหลาน
มังคลาบ้าเลือดดุเดือดดาล เรียกทหารหุ้มห้อมเข้าล้อมไว้
แล้วว่ากูผู้เป็นอาได้มาขอ มึงขัดคอแค้นน่าเลือดตาไหล
หลานหัวร่อล้ออาจะลาไป เรียกยักษ์ใหญ่หน้าหมีขึ้นขี่คอ
แกว่งพระขรรค์ฟันฝ่ายทั้งซ้ายขวา คนถลาล้มกลิ้งลุกวิ่งสอ
พระมังคลามาข้างหลังต้องรั้งรอ อ้ายยักษ์บอแบกย่างง้างกระบอง
แล้วหวดซ้ายป่ายขวาโยธาหาญ วิ่งลนลานหลีกหลบสยบสยอง
เลยลงลำกำปั่นให้ลั่นฆ้อง ตั้งโห่ร้องรบกันสนั่นดัง
พระมังคลาอาลัยในพระขรรค์ ลงกำปั่นแล่นตามมาหลามหลัง
ยิงปืนใหญ่ไฟฟูมตูมตึงตัง เรือฝรั่งมังคลามาห้าร้อย
เรือนัดดาห้าสิบไม่รีบแล่น คอยตอบแทนรบล่อทำท้อถอย
พวกอาตามหลามทางสล้างลอย พวกหลานคอยใกล้ถึงยิงตึงตัง ฯ
๏ ฝ่ายพระวลาอาหลานอยู่ด้านเหนือ ทอดทัพเรือเรียงสลับอยู่คับคั่ง
เสียงครื้นเครงเร่งเรือใช้ให้ไปฟัง รู้ว่ามังคลาไล่วายุพัฒน์
ออกกำปั่นพรั่งพร้อมเข้าล้อมหลัง ไม่หยุดยั้งแล่นลอยคอยสกัด
กำดัดดึกครึกครื้นทั้งคลื่นซัด ปืนใหญ่ยัดยิงลั่นเสียงครั่นครื้น
ฝ่ายฝรั่งมังคลาเหมือนบ้าเลือด กำดัดเดือดนัดดาสู้ฝ่าฝืน
เร่งเรือทัพคับคั้งประดังปืน เสียงพิลึกครึกครื้นทั้งคลื่นซัด
ฝ่ายฝรั่งลังกาพวกม้าใช้ ไปสืบได้ข่าวศึกดึกกำดัด
ว่าทัพพระมังคลาวายุพัฒน์ กับทั้งหัสกันรบสมทบกัน ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ