ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์

๏ จะกล่าวกลับจับเรื่องเมืองวายุภักษ์ กษัตริย์ศักดิ์สูงชาติวาสนา
เมื่อให้หน่อภัทวงศ์องค์บุตรา ไปวันทาเทวฐานเห็นนานครัน
เกินกำหนดนานหนักหนาไม่มาถึง ท้าวรำพึงแสนวิโยคยิ่งโศกศัลย์
มเหสีโหยหวนรัญจวนครัน พระญาติวงศ์พงศ์พันธุ์ต่างทุกข์ทน ฯ
๏ ป่างพระปิ่นนคเรศเกศกษัตริย์ โทมนัสมิได้แจ้งแห่งนุสนธิ์
จึงให้หาโหรามาบัดดล พระจุมพลตรัสถามตามสงกา
โหรคำนับรับรสพจนารถ ลงเลขคาดเดือนวันชันษา
ราหูจรตามจักรถึงลัคนา ในตำราว่าวิบัติกำจัดจร
ประเดี๋ยวนี้พุธประเวศถึงเขตจันทร์ เกษมสันต์ภิญโญสโมสร
พฤหัสบดีเป็นเดชาพยากรณ์ ทายว่าจรไปทักษิณจะภิญโญ
ท่านผู้ใหญ่ให้ลาภจะทราบข่าว ในเรื่องราวตามคัมภีร์ดีอักโข
ทั้งจะได้มิ่งมิตรเป็นอิศโร จะใหญ่โตสมวงศ์พงศ์ประยูร
ในเจ็ดวันไม่ช้าจะมาถึง เหมือนคำนึงทูลไทเจ้าไอศูรย์
ตามตำรับขับไล่ในตระกูล นเรนทร์สูรจงทราบคำข้าทำนาย ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมภพไกรยังไม่หวัง จึ่งตรัสสั่งสามนต์คนทั้งหลาย
ให้ไปหามดท้าวลงเจ้านาย จะได้ทายให้ตระหนักประจักษ์ความ
เสนารับอภิวาทจอมกษัตริย์ ต่างเดินลัดเลี้ยวไปเที่ยวไต่ถาม
หาอีเฒ่าเจ้ามารยาพวกบ้ากาม จะได้ถามเรื่องราวให้เข้าใจ
ครั้นถึงเรือนอีเฒ่าพวกเจ้าเล่ห์ ขึ้นบนเคหาพลางทางขานไข
ว่าวันนี้มีรับสั่งพระภูวไนย ให้ถามไต่ยายเฒ่าเชิญเจ้าลง
จะใคร่แจ้งแห่งคดีพระหน่อนาถ เสร็จลีลาศหายไปอย่าใหลหลง
หรือเป็นเหตุเภทภัยอย่างไรจง ท่านช่วยทรงถามเจ้าให้เข้าใจ
อียายเฒ่าเข้าในห้องเดินย่องแย่ง หยิบผ้าแดงนุ่งออกมาแล้วปราศรัย
ว่านายคอยไต่ถามเนื้อความใน จะเชิญไทอารักษ์ให้ทักทาย
แล้วมันนั่งพนมมือถือดอกไม้ ร่ำพิไรเหมือนอย่างจิตที่คิดหมาย
ประเดี๋ยวหนึ่งทำสั่นแล้วบรรยาย เจ้าทั้งหลายพากันมาเรียกหาเรา
จะไต่ถามความอะไรจงไขขาน จะบนบานเอาอะไรมาให้เขา
หรือจะถามหรือจะซักการหนักเบา เฮ้ยออเจ้าว่าไปจะใคร่ฟัง
เสวกาว่ามีรับสั่งใช้ ให้ถามไต่เจ้าพ่อที่ข้อหลัง
พระราชบุตรสุดสวาทนิราศวัง ไปไหว้ทั้งเทวฤทธิ์พระอิศรา
ที่เมืองพราหมณ์รามราชอาวาสวัด หน่อกษัตริย์หายไปอย่างไรหนา
ขอเชิญช่วยแสดงแจ้งกิจจา จะกลับมาหรือจะสูญประยูรวงศ์ ฯ
๏ ฝ่ายอีเฒ่ามารยาหลับตานิ่ง จะบอกจริงจำไว้อย่าใหลหลง
กำปั่นแตกแต่ไม่ตายวายชีวง ไปอยู่ดงแดนป่าพนาลัย
อีกสามปีตามไปจะได้ข่าว อันเรื่องราวมีมาอย่าสงสัย
แล้วมันทำสั่นงกเหมือนตกใจ เร่งรีบไปติดตามในสามปี
แล้วก็ทำล้มผางวางดอกไม้ มารยาให้เขาเห็นว่าเป็นผี
หาเข้าจริงสิงกายรู้ร้ายดี พอเป็นที่หากินด้วยลิ้นลม
อีเจ้าเล่ห์เพทุบายได้หลายอย่าง ทำท่าทางหลอกเอาข้าวขนม
ทั้งเงินเบี้ยคาวหวานพานอุดม ด้วยลิ้นลมสกปรกโกหกกิน
พวกเสนาได้ความที่ถามไต่ ก็กลับไปทูลองค์พระทรงศิลป์
ฝ่ายพระจอมนคราเจ้าธานินทร์ นิยมยินเชื่อกลอีคนทรง
ให้รุ่มร้อนผ่อนอารมณ์แทบลมจับ แล้วก็กลับหวนคิดพิศวง
ปรึกษากับอำมาตย์พระญาติวงศ์ ให้รีบลงเภตราอย่าช้าที
ทั้งเรือน้อยเรือใหญ่เอาไปด้วย จะได้ช่วยหาไปในวิถี
พวกแม่มดว่าให้ตามถึงสามปี ว่าอยู่ที่ภูผาชายสาคร
พวกเสนามาจัดเรือกำปั่น พลขันธ์คั่งคับสลับสลอน
ถือเสน่าหลาวโล่แลโตมร พร้อมนิกรรีบตรงไปลงเรือ
ขนเสบียงอาหารลงบรรทุก ทั้งดิบสุกจัดใส่ไปให้เหลือ
อีกสามวันพร้อมกันจะออกเรือ บ้างเบิกเสื้อเบิกหมวกทุกพวกไป ฯ
๏ จะกล่าวสามกำปั่นที่พรายพลัด ระลอกซัดไปตามสายน้ำไหล
สิบสามวันถึงนิเวศน์เขตกรุงไกร สุลาลัยเมืองด่านชานบุรินทร์
แวะเข้าซื้อข้าวปลากระยาหาร ที่ชาวบ้านริมท่าชลาสินธุ์
พอเบียดเบี่ยงเลี้ยงดูสู่กันกิน ออกจากถิ่นสุลาลัยใช้ใบมา
เที่ยวแวะตามเกาะแก่งทุกแห่งหน ขึ้นไปค้นทุกตำแหน่งแสวงหา
ไม่ได้ข่าวเจ้านายหลายทิวา ก็แล่นมาตามทางกลางนที
พอแลเห็นเกาะใหญ่อยู่ในน้ำ จวนจะค่ำดูแดงเป็นแสงสี
ดอกไม้เพลิงส่องสว่างกลางคิรี เสียงดนตรีอื้ออึงคะนึงใน
ลมก็เงียบเรียบคลื่นพื้นสมุทร จะแล่นรุดรีบไปก็ไม่ไหว
ต้องรอราหน้าหาดประหลาดใจ เหมือนคนฉุดยุดไว้ทั้งสามลำ
ต่างชวนกันแลเขม้นก็เห็นศาล ที่สถานพร้อยพรายเป็นลายขำ
ที่ขาวช่วงดวงมณีสอดสีดำ ที่แดงก่ำรุ้งร่วงเหมือนดวงดาว
แล้วแลเห็นเป็นรูปเทพารักษ์ ถือตรีจักรรัศมีเป็นสีขาว
ทั้งกาหลดนตรีเสียงตีกราว พวกคนเหล่านั้นขึงตะลึงตะไล
แต่เสนีที่เป็นนายเรือกำปั่น ดูเชิงชั้นมั่นคงไม่สงสัย
เห็นจะเป็นเทวาสุลาลัย อยู่ที่ในเกาะขวางกลางนที
พลางจัดแจงของบูชาสมาโทษ อ่อนศิโรตม์ขอทางกลางวิถี
ให้พบปะเจ้านายร้ายหรือดี จะจรลีไปอยู่ไหนไม่ได้ความ ฯ
๏ ฝ่ายเทวาอารักษ์ลักษมี ออกจากที่แท่นจำลองแล้วร้องถาม
ว่าจะไปไหนจงแจ้งแสดงความ ดั่งเราถามบอกไปเหมือนใจจง
ฝ่ายเสนีได้สดับคำนับแถลง แล้วเล่าแจ้งความไปที่ใหลหลง
พลัดเจ้านายตายเป็นไม่เห็นองค์ เรือก็หลงเลยมาในสาชล
เที่ยวติดตามถามไต่ไม่ได้ข่าว ทุกอู่อ่าวมิได้แจ้งทุกแห่งหน
ขอเทพไทในมหาทะเลวน แจ้งยุบลจะได้คิดไปติดตาม ฯ
๏ ฝ่ายเทพาอารักษ์ลักษมี ยกหัตถ์ชี้บอกให้ดั่งไต่ถาม
รีบไปทางทิศใต้จะได้ความ ไปอีกสามวันจะพบประสบกัน
อย่ารอราช้าอยู่ในที่นี่ ภัยจะมีพวกยักษ์มักกะสัน
มันกินคนหลงมาเสียกว่าพัน รีบผายผันไปให้พ้นตามหนทาง
แล้วอารักษ์ลักษมีกลับที่อยู่ พวกคนผู้เรือเคลื่อนพอเดือนสาง
ลมก็พัดริ้วริ้วเป็นทิวทาง แล่นสล้างตามกันมาในสาคร ฯ
๏ จะกล่าวข้างกำปั่นสุวรรณหงส์ ใช้ใบตรงออกชะวากจากสิงขร
พอรุ่งรางสว่างสีรวีวร ก็รีบจรลมจัดสนัดใบ
ข้ามละเมาะเกาะแก่งทุกแห่งหน ทั้งผู้คนยินดีจะมีไหน
ต่างแล่นล่องมาในท้องสมุทรไท กำหนดได้เจ็ดวันดั่งสัญญา
พอพบลำกำปั่นมาทันเข้า แถลงเล่าเรื่องความที่ตามหา
ได้ประสบพบเพราะเทวดา ท่านชี้มาตามห้องท้องนที ฯ
๏ ฝ่ายพระหน่อภัทวงศ์พงศ์กษัตริย์ โทมนัสมาในทางหว่างวิถี
พอโพล้เพล้เวลาในราตรี พระภูมีสถิตนั่งบัลลังก์ทอง
เผยพระแกลแลดูจันทร์กระจ่าง ช่วงสว่างแจ่มศรีไม่มีหมอง
คะนึงนุชสุดขืนอารมณ์ปอง พระทัยหมองหมางซ้ำระกำตรม
ทำไฉนจึงจะได้ยุพาพักตร์ มาร่วมรักร่วมชิดสนิทสนม
ลงแนบนิ่งพิงหมอนอ่อนอารมณ์ ทรวงระบมบอบช้ำแต่คร่ำครวญ
พิศดูเดือนเหมือนวงนลาฏนุช ยิ่งแสนสุดดิ้นโดยเฝ้าโหยหวน
เป็นลมว่าวหนาวในใจรัญจวน คิดถึงนวลขนิษฐาสุมาลัย
ยุพินพี่ปานฉะนี้จะหวนโหย อาดูรโดยพูนเทวษน้ำเนตรไหล
พระคิดพลางทางสะท้อนถอนฤทัย สุมาลัยของพี่เอ๋ยได้เคยยล
เชิญเทวาอารักษ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยนำกิจไปแถลงแจ้งนุสนธิ์
ที่ทรวงฉันร้อนเริงดั่งเพลิงลน เป็นสุดทนแสนทุกข์สุขไม่มี
ทั้งพระพายชายพัดระบัดโบก ช่วยนำโศกไปบอกนางในปรางค์ศรี
ว่าทรวงเรียมเตรียมตรมระทมทวี ทุกวันนี้เรือพามาแต่กาย
อันดวงจิตอยู่ที่มิตรสมรมิ่ง เป็นความจริงโดยประสงค์จำนงหมาย
ขอเชิญช่วยชักนำคำภิปราย ไปขยายมิ่งมิตรเหมือนจิตปอง
แม้นสมหวังจะสังเวยที่สิ่งหวาน เครื่องสักการนานาบูชาฉลอง
สักเจ็ดวันเหมือนประสงค์จำนงปอง แต่ตรองตรองจนแจ้งแสงอุทัย
เรือก็ล่องมาในท้องกระแสสินธุ์ ลมก็กินใบตรงทิวธงไสว
สิบห้าวันบรรลุถึงกรุงไกร เข้าทอดในหน้าป้อมพรั่งพร้อมกัน
พอพวกเรือจะไปตามต่างถามทัก แจ้งประจักษ์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
นำเอาข่าวเข้าทูลพระทรงธรรม์ ว่าโอรสจอมขวัญถึงธานี ฯ
๏ พระจอมวังยินดีเป็นที่สุด ไม่ยั้งหยุดเรียกหาสารถี
ให้เทียมราชรถาผูกพาชี จะจรลีลงไปด่านชานชลา
กระบวนหน้าตามเสด็จมาเตรียมพร้อม ป่างพระจอมนครินทร์ปิ่นมหา
เสด็จทรงรถที่นั่งอลังการ์ ตำรวจหน้านำริ้วเป็นทิวไป
ถึงเมืองด่านธารท่าชลาสินธุ์ พระภูมินทร์เห็นเรือทอดจอดไสว
หยุดประทับตำหนักท่าชลาลัย พลไพร่ล้อมรอบเป็นขอบคัน
ฝ่ายพระหน่อภัทวงศ์พงศ์กษัตริย์ โสมนัสคลายวิโยคที่โศกศัลย์
ขึ้นจากเรือที่นั่งบัลลังก์พลัน มาอภิวันท์ทรงฤทธิ์พระบิดร ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมนครินทร์ปิ่นวายุภักษ์ เห็นลูกรักภิญโญสโมสร
จึ่งตรัสว่าแต่เจ้าไปไกลนคร พ่อนี้ร้อนรนใจไม่สบาย
ให้ลงมดลงท้าวพวกเจ้าผี บอกคดีว่าเรือแยกแตกสลาย
บิดาจัดแจงพหลพลนิกาย ลงเรือรายลำไว้จะไปตาม
แต่โหรเฒ่าเขาว่าจะมาถึง ก็สมซึ่งคำถวายทายข้อถาม
ถ้วนเจ็ดวันพลันเห็นนาวาตาม เรือที่นั่งสง่างามข้ามสาคร
ใครจัดแจงแต่งมาให้หลายหลาก มากกว่ามากธงชัยเรือไกรสร
หน่อกษัตริย์กราบก้มประนมกร กษัตริย์สุดสาครกรุงลังกา
เกิดวิบัติเรือซัดไปถึงเกาะ พอจำเพาะรุ่งสว่างกลางเวหา
รู้ว่าถึงนครังกรุงลังกา แวะเข้าหาเครื่องเสบียงพอเลี้ยงพล
ทราบถึงองค์ทรงเดชเกศกษัตริย์ เธอให้จัดข้าวปลาผลาผล
ทั้งคาวหวานมาประทานเมื่อคราวจน พระคุณล้นเหลือดีที่เมตตา
พอรุ่งเช้าขึ้นไปเฝ้าพระทรงฤทธิ์ เธอสนิทจงรักเป็นนักหนา
พาไปเที่ยวท้ายวังเมืองลังกา เก็บเพชรนิลจินดามาประทาน
แล้วฝากมาถวายองค์พระทรงเดช ของวิเศษมากมายหลายสถาน
ลูกขึ้นไปอยู่ห้าทิวาวาร พระภูบาลพาเข้าไปจนในวัง
ให้เฝ้าสองมเหสีผู้มีศักดิ์ บำรุงรักชิดเชื้อเหมือนเนื้อหนัง
ครั้นลูกไปทูลลากลับมาวัง พระตรัสสั่งให้จัดแจงแต่งเภตรา
ให้ขุนนางกรมท่ามาส่งด้วย สั่งให้ช่วยกันศัตรูหมู่มิจฉา
พระจอมเจ้านคเรศเกศลังกา รับสั่งมาถึงองค์พระทรงธรรม์
ว่าเหมือนญาติขาดเหลือจะเกื้อหนุน จงเคยคุ้นกันไว้สองไอศวรรย์
แม้นข้าศึกฮึกโหมมาโรมรัน จงช่วยกันดับเข็ญให้เย็นทรวง
๏ พระฟังทูลพูนสวัสดิ์เหมือนฉัตรชั้น มากางกั้นดีพระทัยเป็นใหญ่หลวง
เสด็จกลับกับพหลพลทั้งปวง ครรไลล่วงกลับหลังทั้งกุมาร
รับขุนนางลังกาตามมาหมด ไปขึ้นรถขึ้นม้ามาสถาน
ถึงเวียงวังสั่งพวกพนักงาน ให้จัดการที่อยู่เลี้ยงดูกัน
พระพาบุตรสุดสวาทไปอาสน์รัตน์ เฝ้านางกษัตริย์มเหสีที่โศกศัลย์
นางเห็นบุตรสุดชื่นอารมณ์ครัน ที่ทุกข์นั้นองค์ยุพินสิ้นโศกา
นางตรัสถามความยากแต่พรากพลัด หน่อกษัตริย์บังคมก้มเกศา
ทุกเรื่องหลังทั้งนั้นมาพรรณนา ทูลมารดาบิตุรงค์ให้ทรงฟัง
ลูกหมายมาดพระบุตรีศรีสมร ด้วยบังอรมุ่งมาดสวาทหวัง
ว่ามาถึงนคเรศนิเวศน์วัง ให้ลูกบังคมทูลมูลิกา
ขอพระองค์จงแต่งพระราชสาร ไปว่าขานสู่ขอต่อมหา
กษัตริย์เจ้าจอมวงศ์องค์บิดา แม้นเนิ่นช้านางนั้นจะบรรลัย
พระทราบสิ้นยินดีเป็นที่สุด จึ่งปลอบบุตรอย่าพะวงนึกสงสัย
บิดาจะไปขออรไท เจ้ามาไปด้วยกันให้ทันที
อย่าพักให้เสนาไปว่ากล่าว ฉวยรานร้าวเรื่องรักเสียศักดิ์ศรี
พ่อจะไปงอนง้อต่อภูมี จึ่งจะงามตามที่เธอเมตตา
พระตรัสพลางทางสั่งให้จัดของ เครื่องเงินทองหลายหลากมากนักหนา
ประทานพวกขุนนางเมืองลังกา แต่บรรดาไพร่นายให้ทุกคน
แล้วแต่งสารลานทองใส่กล่องเพชร จัดแจงเสร็จบทเบื้องเรื่องนุสนธิ์
มอบให้เสนาใหญ่เป็นนายพล แจ้งยุบลปิ่นเกล้าเจ้าลังกา
แล้วให้แห่ราชสารใส่ยานุมาศ สำรับราชธิบดินทร์ปิ่นนาถา
กับสิ่งของรองเรืองเครื่องบรรณา กับแพรผ้ามีใบไม้เงินทอง
พวกขุนนางต่างทูลลาพระทรงเดช จากนิเวศน์นครินทร์สิ้นทั้งผอง
เชิญราชสารไปลงเรือหงส์ทอง ต่างแล่นล่องใช้ใบไปลังกา
สิบห้าวันบรรลุถึงนคเรศ ขึ้นเฝ้าองค์ทรงเดชปิ่นมหา
ถวายเครื่องบรรณาการสารสารา ธิบดินทร์ปิ่นประชาเจ้าสากล ฯ
๏ ป่างพระสุดสาครบวรนาถ ตรัสประภาษให้อ่านสารนุสนธิ์
ขุนอาลักษณ์กราบกรานอ่านยุบล ในเบื้องต้นศุภลักษณ์อักขรา
องค์พระจอมขัตติยาเมืองวายุภักษ์ กษัตริย์ศักดิ์ธิบดินทร์ปิ่นมหา
บังคมบาทภูวนาถกรุงลังกา พระโปรดปรานีบุตรยุติธรรม
ได้พึ่งพาบารมีเป็นที่ยิ่ง ไปพักพิงพระช่วยชุบอุปถัมภ์
ได้พ้นทุกข์พ้นยากที่ตรากตรำ พระคุณล้ำเลิศลบภพไกร
ขอสนองมุลิกาฝ่าพระบาท ภูวนาถกรุงกษัตริย์จนตักษัย
สองนครจะสมัครรักกันไป ตามที่ในแผ่นทองฉลองมา
แล้วจะไปอภิวาทบาทบงกช กับโอรสได้บังคมก้มเกศา
พอจบสารผ่านเกล้าเจ้าลังกา เธอปรีดาในพระทัยใครจะปาน
เราก็วงศ์ขัตติยามหากษัตริย์ ผ่านสมบัติภพไกรอันไพศาล
แล้วตรัสสั่งเสนีปรีชาชาญ จัดปรางค์มาศราชฐานไว้รับรอง
ให้สมยศสมศักดิ์ที่รักใคร่ สองเวียงชัยจะผูกมิตรสนิทสนอง
ปลูกโรงเลี้ยงโรงรับประคับประคอง ยังอีกสองเดือนจะมาถึงธานี
ขุนอำมาตย์รับราชบรรหาร มาจัดการปรางค์มาศปราสาทศรี
ให้ซ่อมแซมเขียนวาดสะอาดดี ทั้งทาสีปิดทองละอองตา
ปลูกโรงยาวเก้าห้องสิบเอ็ดหลัง ไว้รับทั้งไพร่นายซ้ายและขวา
ครั้นสำเร็จเสร็จสถานการพารา ไว้คอยรับกษัตราต่างเวียงชัย ฯ
๏ ฝ่ายพระนุชบุตรีศรีสวัสดิ์ ได้ทราบอรรถยินดีจะมีไหน
ดั่งได้ผ่านฟากฟ้าสุลาลัย อิ่มฤทัยเปรมปราสถาวร
ทุกข์ร้อนอ่อนอารมณ์เห็นสมหมาย ค่อยสบายที่ในทรวงดวงสมร
พระพักตร์เหมือนเดือนกระจ่างกลางอัมพร สองพี่เลี้ยงบังอรค่อยวายตรม
เข้าเคียงอาสน์เนาวรัตน์ประภัสสร พลางกล่าวกลอนกล่อมแต่ครั้งปางปฐม
โอ้จันทรจรมาอย่าปรารมภ์ คงได้ชมแสงสว่างกระจ่างตา
พอทรงรถบทจรมาตามทวีป เห็นจะรีบเร่งราชรถา
แลเห็นแสงไรไรยังไกลตา ไม่เนิ่นช้าคงจะสมอารมณ์เอย
พระบุตรีฟังประเทียบเปรียบถวาย นางโฉมฉายตรัสว่านิจจาเอ๋ย
อย่าเสียดสีคมคายภิปรายเปรย แม้นมิเอยต้องค้างอยู่กลางคัน
พี่เลี้ยงปลอบตอบว่าอย่าปรารภ คงประสบสมตามเนื้อความฝัน
คอยฟังข่าวดูเถิดหนาสิบห้าวัน แม้นพระจันทร์ไม่ลอยมาถึงธานี
ก็ตามแต่ยุพยงจะลงโทษ นางปราโมทย์ตกรางวัลผ้าส่านสี
ต่างอิ่มเอมเปรมปราทุกราตรี กับสองพี่เลี้ยงนางในปรางค์ทอง ฯ
๏ จะกลับกล่าวเจ้าพาราวายุภักษ์ กษัตริย์ศักดิ์เร่งรัดจัดข้าวของ
ให้เอากำปั่นใหญ่ใส่เครื่องทอง ทั้งสิ่งของจัดใส่ในเภตรา
พร้อมกระบวนทวนธงเครื่องยงยุทธ์ ทั้งอาวุธเรียงรายทั้งซ้ายขวา
จัดสำเร็จเสร็จประสงค์ลงนาวา ชวนบุตราลงที่นั่งบัลลังก์ทรง
พอฤกษ์ดีตีฆ้องก้องสนั่น ยิงปืนลั่นแล่นเป็นคู่ดูระหง
ลมก็เรื่อยเฉื่อยฉ่ำออกลำทรง ให้แล่นตรงไปทรงกลางทะเล
ต้นหนตั้งเข็มท้ายไปทักษิณ ประเทศถิ่นคัดหางเสือให้เรือเห
ออกแล่นหลามตามกันไปในทะเล หมายคะเนฟากฝั่งเกาะลังกา
เรื่องชมสัตว์มัจฉาในสาคเรศ ถิ่นประเทศมากมายหลายภาษา
ก็กล่าวไว้แต่หลังทุกครั้งครา จะพรรณนาเรื่องราวจะยาวนาน
ขอตัดบทลดหย่อนลงเสียมั่ง ถึงกระทั่งลังกามหาสถาน
เจ้านิเวศน์เกศกษัตริย์ให้จัดการ ทั้งทวยหาญรถรัตน์อัสดร
เครื่องเกณฑ์แห่แตรสังข์สะพรั่งพร้อม รับพระจอมบพิตรอดิศร
เข้าเวียงวังลังกาสถาพร พระภูธรเสด็จมารับต่างอภิวันท์
เชิญเข้าในพระโรงให้ร่วมแท่น ต่างก็แสนปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ถามถึงถิ่นนคเรศขอบเขตคัน สองทรงธรรม์ให้สัตย์ปฏิญาณ
กรุงลังกาแก่กว่าเมืองวายุภักษ์ ประเสริฐศักดิ์เป็นเชษฐามหาศาล
ข้างเมืองโน้นเป็นอนุชาปรีชาชาญ สมัครสมานรักใคร่เป็นไมตรี ฯ
๏ ฝ่ายไทท้าวเจ้าพาราวายุภักษ์ ทูลขอองค์นงลักษณ์วิไลฉวี
สุมาลัยนงนุชพระบุตรี ไปเป็นศรีสุณิสาให้ถาวร
พระปิ่นเกล้าเจ้าลังกามหาสถาน โปรดประทานพระบุตรีศรีสมร
เห็นควรคู่กับธิดาพงางอน พระภูธรจึ่งไม่ขัดอัธยา
แล้วเชิญให้กษัตริย์เมืองวายุภักษ์ ไปสำนักปรางค์มาศปราสาทขวา
จะคิดอ่านจัดงานการวิวาห์ กษัตราสองนิเวศน์เกศบุรินทร์
จะอภิเษกเศวตฉัตรพิพัฒน์ผล การมงคลยังในพระทัยถวิล
สั่งเรือใช้ให้ไปทุกธานินทร์ ประเทศถิ่นแต่บรรดาศานุวงศ์ ฯ
๏ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ เสด็จลีลาศกับกษัตริย์ราชหงส์
ทั้งพระหน่อศรีสวัสดิ์ภัทวงศ์ ไปเฝ้าองค์พระนักสิทธ์ผู้บิดร
ทั้งพระบาทมาตุรงค์ผู้ทรงศีล ในแถวถิ่นรุกขาหน้าสิงขร
ที่เขาเขินเนินมหิงส์สิงคุตร หยุดนิกรรถาหน้ากุฎี
สองกษัตริย์กับพระหน่อวรนาถ ก็ลีลาศไปตามทางกลางวิถี
ถึงประทับศาลาหน้ากุฎี ที่ฤๅษีขบฉันพรรณผลา ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงศีลมุนินทร์นาถ ตื่นไสยาสน์ออกโรงฉันด้วยหรรษา
สถิตแท่นแผ่นเผินเนินศิลา เห็นกษัตริย์สองรามาบังคม
พระตรัสทักกวักหัตถ์มาให้ใกล้ แล้วปราศรัยเหมือนกับอย่างปางปฐม
นั่นกษัตริย์ไหนเจ้าพามาบังคม ถึงพนมแนวป่าพนาวัน
กษัตริย์สุดสาครบวรนาถ อภิวาททูลไปเจ้าไอศวรรย์
เธออยู่เมืองวายุภักษ์ร่วมรักกัน ขอเป็นวงศ์พงศ์พันธุ์โดยสัญญา
กุมารนั้นเป็นบุตรของไทท้าว มาว่ากล่าวขอบุตรีเป็นสุณิสา
จึงพาเธอมาประมูลทูลกิจจา ให้ทราบเบื้องบาทาพระทรงญาณ
พระอภัยมุนินทร์ปิ่นฤๅษี ตรัสว่าดีแล้วหนาพาลูกหลาน
คิดปลูกฝังดั่งประสงค์สืบวงศ์วาน จงแต่งการให้ปันเห็นทันตา
อันตัวเราเล่าชราก็มาถึง อายุกึ่งเกือบพันแล้วท่านขา
คิดก็เป็นอนิจจังสังขารา จะเร็วช้าดับขันธ์ไปวันไร
ตัวข้าเจ้าเล่าจะได้เป็นปู่ชวด ช่างเร็วรวดจริงเจียวน่าเสียวไส้
แต่งเสียทันตาเห็นได้เย็นใจ งานเมื่อไรจะไปช่วยอำนวยพร ฯ
๏ ฝ่ายพระปิ่นนคราวายุภักษ์ กษัตริย์ศักดิ์ภิญโญสโมสร
เธอชื่นชมเปรมปรีดิ์ชุลีกร ทูลลาจรจากบรรณศาลา
กษัตริย์สุดสาครบวรนาถ พาลีลาศมาประนมก้มเกศา
เฝ้าสองดาบสินีต่างปรีดา นางโอภาไต่ถามตามทำนอง
สุดสาครทูลแจ้งแถลงเรื่อง ให้ทราบเบื้องบาทมูลทูลสนอง
ดาบสินีแจ้งความตามทำนอง กษัตริย์สองทูลลากลับมาวัง
แล้วสั่งงานการที่จะอภิเษก อติเรกฤกษ์พาวันหน้าหลัง
ตั้งมณฑลบนปราสาทราชวัง เหมือนแต่ครั้งก่อนเก่าเข้าพิธี ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายทุกพาราคณาญาติ ได้ทราบบาทบงกชบทศรี
ก็ต่างองค์ต่างมาทุกธานี ถึงบุรีลังกาสถาพร
รับเข้าวังพรั่งพร้อมล้วนจอมกษัตริย์ ขึ้นปรางค์รัตน์แท่นสุวรรณบรรจถรณ์
พระนักสิทธ์เสด็จมาแต่ป่าดอน พร้อมนิกรมุนีตามลีลา
สวดมนต์ครบสามวันฉันสำเร็จ เลี้ยงดูเสร็จตามประสงค์พวกวงศา
เหมือนเหมือนกันแต่หลังทุกครั้งครา การวิวาห์เสร็จสมอารมณ์ปอง
แต่หาวันฤกษ์ดีที่ประสงค์ จะได้ส่งตัวให้ชมประสมสอง
พฤหัสบดีสี่ค่ำตามทำนอง เวลาสองทุ่มส่งองค์บุตรี ฯ
๏ ฝ่ายนางนาฏเสาวคนธ์วิมลพักตร์ กับนงลักษณ์มารดาของมารศรี
จึ่งจัดแจงแต่งตัวให้บุตรี แล้วจรลีพาไปในปรางค์ปรา
ภัทวงศ์ลดองค์จากแท่นรัตน์ ประนมหัตถ์อภิวันท์ด้วยหรรษา
เชิญให้สองนงคราญผู้มารดา สถิตแท่นรจนาอันอำไพ
ทั้งสองนางพลางฝากนางนงลักษณ์ พ่อจงรักแผ่เผื่อเหมือนเนื้อไข
แม้นผิดพลั้งสั่งสอนอย่าร้อนใจ แม่มอบให้เป็นอันขาดเหมือนญาติกัน
ภัทวงศ์ทรงสดับตอบรับสั่ง พระคุณดั่งดินฟ้าสุธาสวรรค์
จะรักใคร่ในนุชเหมือนร่วมครรภ์ ไม่เดียดฉันท์ขนิษฐายุพาพาล
นางฟังคำรำพันแล้วกลั้นยิ้ม เห็นหงิมหงิมพูดจาน่าสงสาร
จึ่งอวยชัยอย่าให้มีราคีพาน ตามบุราณกล่าวมาจงถาวร
จึ่งว่าแม่ก็จะลาจงผาสุก อย่ามีทุกข์ภิญโญสโมสร
ทั้งสองนางทางลุกบทจร สายสมรสุมาลัยจะไปตาม
ภัทวงศ์ทรงกุมข้อพระหัตถ์ นางสะบัดเมียงเมินด้วยเขินขาม
พระรับขวัญกัลยาพะงางาม จะด่วนตามเสด็จไปทำไมมี
นางตอบรสพจนาประสาซื่อ วางข้อมืออย่าจับต้องน้องไม่หนี
พลางแกะหัตถ์ผลักพลิกทั้งหยิกตี นี่หรือพี่น้องกันไม่ทันไร
มาจับถือยื้อยุดแล้วฉุดคร่า เรื่องมารยาของสตรีเป็นนิสัย
ถึงสาวแก่ไว้ตัวชั่วเมื่อไร มันเป็นไปตามแผลข้างแสงอน
พระจุมพิตชิดเชยเฉลยตอบ แม่ว่าชอบอยู่ทุกสิ่งมิ่งสมร
แต่ความรักหนักใจอาลัยวอน มิผันผ่อนพี่ต้องลายุพาพิน
ไปบวชตัวเสียให้ขาดในชาตินี้ ไม่ขอมีคู่ครองมาปองถวิล
พลางอุ้มขวัญกัลยายุพาพิน สถิตถิ่นแท่นในที่ไสยา
พระต้องเต้าเต็มหัตถ์นางปัดป้อง ตามทำนองศรีสวัสดิ์ผลักหัตถา
แล้วตอบคำหน่อกษัตริย์ภัสดา จะบรรพชาแล้วเป็นไรไปหรือยัง
พระปลอบพลางทางว่าช้าไว้ก่อน มิผันผ่อนก็ต้องไปเหมือนใจหวัง
นางเยื้อนยิ้มพริ้มพรายฉันไม่ฟัง วางเสียมั่งเถิดอย่ากวนเฝ้ายวนยี
พระอิงแอบแนบเคล้าเยาวมิตร นางยิ่งบิดพระยิ่งเบียดเข้าเสียดสี
ต้องโอนอ่อนหย่อนตามประเพณี สุมาลีบานแบ่งรับแสงทอง
พยุพยับอับฟ้าเวหาหน ร้องคำรนเปรี้ยงเปรี้ยงเสียงสยอง
พิรุณโรยโปรยปรายกระจายฟอง เป็นน้ำนองมืดมัวทั่วอำพน
เมขลาโยนแก้วแววสว่าง อสูรขว้างขวานฟ้าโกลาหล
มัติมิงคล์กลิ้งเกลือกเสือกสกนธ์ ในสาชลเป็นระลอกกระฉอกดัง
ทุกเถื่อนถ้ำลำเนาภูเขาเขิน บนแนวเนินมืดชะอ่ำเป็นน้ำขัง
ทะเลลมยมนาสาครัง ทั้งกุ้งกั้งเต่ากระว่ายปะปน
นาคราชผาดแผลงแสดงฤทธิ์ ขึ้นพ่นพิษโปรยปรอยดั่งฝอยฝน
เมรุไกรไหวหวั่นถึงชั้นบน ปลาอนนต์พลิกครีบทวีปเอียง
วิหคหงส์ลงเล่นชลาสินธุ์ ภุมรินแซ่ซ้องกึกก้องเสียง
โกกิลากาแกแซ่สำเนียง ร้องจำเรียงบินกลาดดาษดา
สองภิรมย์สมสนิทพิศวาส ไม่ห่างบาทบทเรศพระเชษฐา
ต่างภิรมย์สมสวาทไม่คลาดคลา ดั่งสุริยาเคียงกันกับจันทร
พึ่งแรกรุ่นคุ้นเคยได้เชยชิด ถนอมสนิทมิใคร่จะไกลสมร
อัศจรรย์ไม่รู้วายหายหาวนอน จนศศิธรล่วงลับบรรพตา ฯ
๏ อโณทัยไขแสงแจ้งกระจ่าง พื้นนภางค์เรืองรองท้องเวหา
กาดุเหว่าเร้าเร่งพระสุริยา สกุณาโผผินบินทะยาน
ไก่กระชั้นขันเอกวิเวกแว่ว จะเจื้อยแจ้วจำเรียงเสียงประสาน
พระสุริยาเปล่งสีรวีวาร พระผู้ผ่านนคเรศนิเวศน์วัง
ส่งเสด็จพระอภัยไปสิงคุตร แต่งงานบุตรเสร็จสมอารมณ์หวัง
สิบกษัตริย์ขัตติยาลาไปวัง ยังรอรั้งอยู่องค์เดียวแต่เกี่ยวดอง
ด้วยจะพาศรีสะใภ้ไปนคเรศ มอบนิเวศน์กรุงไกรให้ทั้งสอง
พระจอมวังลังกาฝ่าละออง ก็จะต้องเสด็จไปช่วยอำนวยการ
แต่รั้งรอพอให้ถึงเดือนยี่ เป็นเดือนดีฤกษ์ใหญ่อันไพศาล
จะได้ราชาภิเษกพระกุมาร ให้ขึ้นผ่านภพไกรในนคร ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ