ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา

๏ อันบทเบื้องเรื่องนี้ของดไว้ จะกล่าวในอนุสนธิ์ยุบลสนอง
ถึงกษัตริย์ขัตติย์วงศ์จำนงปอง ได้ครอบครองเหมราเจ้าธานี
ทรงพระนามตามนุสนธิ์กัมพลรัตน์ เสวยสวัสดิ์เมืองเอกภิเษกศรี
ในประเทศเขตแคว้นแดนบุรี ทั้งยาวรีใหญ่โตมโหฬาร
กำแพงทำด้วยศิลาหนาสนัด รอบจังหวัดนคเรศเขตสถาน
สะพรั่งพร้อมโหราพฤฒาจารย์ มีทหารสิบหมื่นพื้นฉกรรจ์
บ้านเศรษฐีมีทรัพย์นับด้วยโกฏิ เกิดประโยชน์มั่งมีดีขยัน
แต่เมืองขึ้นกษัตราก็กว่าพัน เรือกำปั่นทุกประเทศเขตนคร
บ้างไปมาค้าขายมิได้ขาด ประชาราษฎร์สุโขสโมสร
ก็อิ่มเอมเปรมปราสถาพร ทั่วนครไพบูลย์จำรูญเรือง
มีนงลักษณ์อัคเรศมเหสี ชื่อบุปผามาลีฉวีเหลือง
ดั่งดวงจันทร์เพ็ญบูรณ์จำรูญเรือง เป็นศรีเมืองเหมราในธานินทร์
มีสนมกรมในวิไลลักษณ์ ประไพพักตร์พริ้มเพริศดูเฉิดฉิน
ทั้งเอวองค์ทรงศอลอออินทร์ เหมือนกินรินเยื้องย่างสำอางตา
ดั่งดาวล้อมศศิธรจรกระจ่าง ส่องสว่างอำพนบนเวหา
เฉลิมยศไทท้าวเจ้าพารา ดั่งพระยาจักรพรรดิสวัสดี
พระอิ่มเอมเปรมปราเป็นผาสุก นิราศทุกข์อิศโรดั่งโกสีย์
มีเอกองค์นงนุชพระบุตรี นวลฉวีเปล่งปลั่งดั่งสุวรรณ
ทรงพระนามเยาวเรศเกศพัฒน์ พึ่งกำดัดรุ่นราวสาวสวรรค์
ประไพพริ้มนิ่มเนื้อเหมือนเจือจันทน์ ฉวีวรรณหอมหวนรัญจวนใจ
พระบิตุรงค์องค์ชนนีนาฏ แสนสวาทดั่งชีวิตพิสมัย
จัดพี่เลี้ยงลูกมหาเสนาใน ล้วนวิไลสี่นางสำอางองค์
เฉลิมยศพระบุตรีเป็นที่รัก ถนอมศักดิ์ในสกูลประยูรหงส์
ชื่ออำพันอำไพวิไลทรง อีกสองอนงค์ชื่อมณฑาสารภี
ประคองเคียงเป็นพี่เลี้ยงสุดาขนิษฐ์ เป็นที่ชิดสารพัดช่วยขัดสี
ให้เรียกคุณพระพี่เลี้ยงเคียงบุตรี อยู่ปรางค์ศรีคล้ายเจ้าจอมหม่อมอยู่งาน
อันองค์ท้าวเจ้าบุรินทร์ปิ่นพิภพ ขจรจบทุกประเทศเขตสถาน
ก็เลื่องลือชื่อเสียงมานมนาน ทุกถิ่นฐานเกรงเดชทุกเขตคัน
พวกพานิชไปมาเที่ยวค้าขาย แสนสบายปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
พวกเศรษฐีรับขึ้นไว้ขายทุกวัน หมดด้วยกันตึกห้างเขาตั้งราย
คอยรับของลูกค้าแลวาณิช สำราญจิตหมดทุกบ้านตั้งร้านขาย
ปราศจากคนพาลสำราญกาย ไม่วุ่นวายมั่งคั่งทั้งนคร
ข่าวระบือลือพระนุชบุตรท่านท้าว ว่างามราวกะอนงค์องค์อัปสร
ทุกประเทศเขตแคว้นแดนนคร มาง้องอนขออนงค์องค์ธิดา
ท้าวเธอไม่ให้ปันด้วยกันหมด ไม่สมยศสมชาติวาสนา
แต่มาง้อขออนงค์องค์ธิดา ท้าวเธอว่ามิใช่เนื้อเชื้อตระกูล
ไม่ประสงค์จงใจไว้เป็นเขย อย่าพูดเลยเร่งไปจากไอศูรย์
ไม่คบค้าพวกระยำต่ำตระกูล จะเสื่อมสูญศักดิ์ไปไม่นิยม
ทุกพาราก็ไม่รอมาขอสู่ ท้าวเธอขู่เสียออกยับทั้งทับถม
ทุกบ้านเมืองเคืองขัดอัดอารมณ์ ต้องเกรียมกรมฟังแต่ชื่อลือขจร
แม้นจะคิดรบรับเป็นทัพศึก ก็เห็นลึกจะได้ชมสมสมร
ถึงจะไปราวีตีนคร เข้าราญรอนอย่างไรเขาไม่กลัว
พวกกษัตริย์เหล่านั้นให้อั้นอ้น เป็นความจนเสียทั้งนั้นต้องสั่นหัว
คิดขยั้นครั่นคร้ามให้ขามกลัว รู้กันทั่วทุกพาราระอามือ
ถึงจะแต่งคนผู้ไปสู่ขอ จะล่วงล่อท่าไรเขาไม่ถือ
ความก็รู้กันทั่วกลัวฝีมือ ถึงจะดื้อด้านไปเขาไม่ยอม
ทุกประเทศเขตพาราระอายศ ทั่วกันหมดตรอมใจแทบไผ่ผอม
เหมือนกบเฝ้าชายกระแสจนแก่งอม ต้องอดออมเหมือนมดแดงแฝงอัมพวา ฯ
๏ จะขอกล่าวราวความไปตามเรื่อง ถึงข่าวเมืองฝ่ายสยามตามภาษา
นัครังจังหวัดกรุงรัตนา ด้วยพาราเริศร้างค้างมานาน
ไม่มีผู้บำรุงกรุงกษัตริย์ จักรพรรดิอิศรามหาศาล
ขุนเสนีปรีชาว่าราชการ แทนพระผ่านภพไกรในบุรินทร์
ก็เหลือที่จะรักษาอาณาเขต ถิ่นประเทศนัครังดั่งถวิล
จึงปรึกษากันกับเหล่าชาวบุรินทร์ จะไปถิ่นรมจักรนัครา
ต่างยินยอมพร้อมกันรีบผันผาย ทั้งไพร่นายเดินในไพรพฤกษา
สิบห้าวันบรรลุถึงพารา ขุนเสนาข้าเฝ้าเข้าในวัง ฯ
๏ ป่างพระจอมนครินทร์ปิ่นกษัตริย์ ออกแท่นรัตน์โดยในพระทัยหวัง
พร้อมเสนาข้าเฝ้าเข้าในวัง หมอบสะพรั่งดาษดาหน้าพระลาน ฯ
๏ ฝ่ายเสนีรัตนาเข้ามาเฝ้า ต่างก้มเกล้าทูลแจ้งแถลงสาร
ขอพระองค์ทรงศักดิ์จักรพาล อันถิ่นฐานธานีไม่มีใคร
จะปกครองไพร่ฟ้าอาณาเขต ผ่านนิเวศน์ปราบยุคให้สุกใส
พอปกเกล้าเหล่าประชาเสนาใน ให้เย็นใจราษฎรไม่ร้อนรน ฯ
๏ ป่างพระองค์ทรงโลกเฉลิมภพ ได้ฟังจบเขาแสดงแจ้งนุสนธิ์
โองการตรัสข้อความตามยุบล เราก็จนใจนักหนาเสนานาย
จำจะต้องไปทูลมูลเหตุ ให้ทรงเดชโปรดเกล้าเราทั้งหลาย
อย่าว้าวุ่นไปเลยเจ้าทั้งบ่าวนาย มาผันผายไปกับข้าอย่าปรารมภ์ ฯ
๏ ฝ่ายพระปิ่นนคเรศเกศกษัตริย์ สั่งให้จัดเลี้ยงขุนนางอย่างประถม
แล้วประทานรางวัลอันอุดม ทุกหมู่กรมแต่บรรดามาด้วยกัน
แล้วพระองค์ทรงสั่งกรมท่า จัดเภตราทั้งพหลพลขันธ์
เราจะไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ในเจ็ดวันจะข้ามฝั่งไปลังกา
ขุนเสนีอภิวาทมาบาดหมาย พลนิกายวังเวรเกณฑ์อาสา
พวกต้นหนคนชำนาญการเภตรา ลงนาวาลำทรงเรือหงส์บิน
ที่นั่งรองเหราเรือม้าน้ำ เป็นสองลำโดยพระองค์ประสงค์ถวิล
ทั้งเรือนำตามท้าวเจ้าบุรินทร์ จัดให้สิ้นร้อยลำประจำการ
เปลี่ยนเชือกเสาเพลาใบสายสมอ ทั้งกว้านช่อเครื่องเสบียงเลี้ยงทหาร
พระสั่งเสร็จเสด็จขึ้นมิทันนาน เข้าสถานปรางค์ปราสถาวร
ไปเฝ้าท้าวทศวงศ์ดำรงราชย์ บวรนาถบพิตรอดิศร
แล้วทูลความตามเรื่องราษฎร มาวิงวอนขอกษัตริย์ขัตติยา ฯ
๏ ท้าวทศวงศ์ทรงฟังว่าจังหวัด ไม่มีกษัตริย์ครองวังเป็นฝั่งฝา
ฉวยเกิดศึกฮึกโหมโจมเข้ามา อันพาราก็จะป่นไม่ทนทาน
ควรอยู่แล้วจะไปทูลพระนักสิทธ์ เธอช่วยคิดฝังปลูกให้ลูกหลาน
ชอบของเขาเราต้องไปจึ่งได้การ แม้นเนิ่นนานหน่วงไว้ภัยจะมี ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ ทูลลาบาทบงกชบทศรี
ท้าวอวยชัยให้พิพัฒน์สวัสดี ขออย่ามีทุกข์ภัยในคงคา
พระชนนีว่าพ่อไปในสิงหล เอาผู้คนสาวใช้ไปด้วยหนา
จะได้แต่งเอมโอชโภชนา ในคงคายากแค้นแสนกันดาร ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ ชุลีหัตถ์ทูลแจ้งแถลงสาร
เอาสตรีไปใช้ไม่ได้การ ต้องเป็นภารธุระไปในทะเล
จะด่วนไปด่วนมาไม่ช้านัก พอประจักษ์ตามแต่ท่านจะหันเห
เหลือลำบากยากใจในทะเล ก็ว้าเหว่วิญญาณ์สารพัน ฯ
๏ ท้าวทศวงศ์ทรงฟังว่ายังนี้ ไม่สู้ดีเดือดร้อนได้ผ่อนผัน
เป็นบุรุษเกิดมาในสามัญ ต้องพัวพันเครื่องหวานสมานคอ ฯ
๏ นางพระยาว่าพ่อขาฟังตาเฒ่า ตัณหาเข้ากระดูกยิ่งจริงจริงหนอ
จนฟันหักหัวหงอกพูดกลอกคอ หนุ่มตะกอสู้ไม่ได้พวกไก่ชน
ยิ่งแก่ตัวก็ยิ่งมัวด้วยอีสาว ใครว่ากล่าวโกรธาทำตาถลน
แกไม่นิ่งอดสูแก่ผู้คน ดูช่างซนสิ้นท่าพวกบ้ากาม ฯ
๏ ท้าวทศวงศ์ทรงฟังมเหสี ว่ายายนี่แกจะบาปพูดหยาบหยาม
ราวกับข้าขัดสนคนตะกลาม จะให้ตามใจยายเห็นตายจริง
จะต้องอดเหมือนกับมดเห็นของหวาน อ้ายน้ำตาลมันหายกลายเป็นขิง
ยายอย่ามาขู่ตะคอกพูดหลอกลิง เป็นความจริงข้าไม่เชื่อเหลือระอา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ มาปราสาทสองนางพลางปรึกษา
พี่จะต้องข้ามฝั่งไปลังกา เมืองรัตนาร้องทุกข์ต้องไปทูล
แก่พระจอมมุนินทร์ปิ่นนักสิทธ์ ให้ทรงฤทธิ์หาผู้ใดครองไอศูรย์
ต้องดับร้อนเสวกาหาประยูร คือตระกูลลูกหลานในว่านเครือ
ไปเป็นเจ้านคราช้าไม่ได้ ฉวยเกิดภัยรุกรานเป็นด้านเหนือ
จะเสียทั้งราชการพวกว่านเครือ ต้องเป็นเหยื่อกับศัตรูหมู่อรินทร์ ฯ
๏ มเหสีสององค์ทรงสดับ น้อมคำนับทูลถามตามถวิล
ขอตามเสด็จเสร็จไปไกลบุรินทร์ ประเทศถิ่นลังกาน้องปรารมภ์ ฯ
๏ พระตรัสว่าอย่าไปเลยน้องรัก ไม่ช้านักเสร็จธุระไม่สะสม
อยู่ระวังกรุงศรีบุรีรมย์ ไปตากลมทำไมน้องไม่ต้องการ
อยู่ปราสาทราชวังในจังหวัด ได้ปรนนิบัติสองพระองค์ดำรงสถาน
เธอป่วยไข้ก็จะได้พยาบาล แสนรำคาญด้วยพระองค์ทรงชรา
สองประนมก้มกรานประสานหัตถ์ ไม่อาจขัดทรงเดชพระเชษฐา
พระสั่งเสร็จเสด็จเข้าไสยา ขุนเสนาถอยกำปั่นออกทันที
ประทับท่าหน้าด่านเมืองปากน้ำ ลอยเรียงลำที่นั่งหงส์ปักธงศรี
มาเตรียมพร้อมทั้งพหลแลมนตรี กะลาสีลงประจำลำละพัน
ประทุกเสร็จเครื่องเสบียงเลี้ยงทหาร คอยพระผ่านภพไกรเจ้าไอศวรรย์
ฝ่ายพระจอมโมลีศรีสุวรรณ พอสุริย์ฉันส่องหล้านภาลัย
พระฟื้นองค์สรงสนานสำราญกิจ สั่งมิ่งมิตรสองสุดาพลางปราศรัย
แล้วทรงเครื่องเรืองรองทองอุไร พลางสอดใส่ฉลององค์อลงกรณ์
ทรงภูษาแย่งกระหนกเครือนกคาบ เป็นลายกาบเกี่ยวกระหวัดประภัสสร
เจียระบาดตาดแดงแย่งมังกร ชายแครงงอนลายกระหนกวิหคบิน
ตาบประดับทับทรวงดวงกุดั่น สังวาลวัลย์เพราเพริศดูเฉิดฉิน
อร่ามเรืองเฟื่องห้อยฝังพลอยนิล เข็มขัดจินดาสลับเพชรวับวาว
ทรงมหามงกุฎบุษยรัตน์ ดอกไม้ทัดจอนเกศฝังเพชรขาว
พาหุรัดทับทิมแดงสุกแสงวาว นพเก้าธำมรงค์เครื่องลงยา
ครั้นเสร็จสรรพจับพระแสงยุรยาตร มาปรางค์มาศบิตุรงค์พร้อมวงศา
ศรีสุวรรณกราบก้มบังคมลา กษัตราเสร็จออกมานอกวัง
ท้าวทศวงศ์ทรงเสลี่ยงออกไปหน้า นางพระยาทรงวอรออยู่หลัง
ศรีสุวรรณทรงรถามีฝาบัง รถข้างหลังมเหสีสองลีลา
พระกฤษณาเทพินนิลกัณฐี ทั้งองค์ตรีพลำนั้นอ่อนชันษา
อีกอัมพวันนั้นไปรถพระมารดา กษัตราเขยสะใภ้ลงไปตาม
กระบวนแห่แตรสังข์สะพรั่งพร้อม ส่งพระจอมนครินทร์ปิ่นสยาม
ทั้งเสนามนตรีที่ไปตาม ขี่คานหามขึ้นแคร่แลเป็นทิว
พอไปถึงเมืองด่านชานสมุทร พากันหยุดยับยั้งกำลังหิว
พวกปากน้ำทำของกองเป็นทิว ให้แก้หิวกินไปทั้งไพร่พล
พวกขุนนางข้างเคียงเลี้ยงสำรับ คนกำกับอยู่บนบกบ้างยกขน
ทั้งหมากพลูจับจ่ายให้ทุกคน แล้วให้ขนของถวายไปในเรือ ฯ
๏ ฝ่ายตาเฒ่าเจ้าพาราเมืองปากน้ำ แกให้ทำเลี้ยงคนของล้นเหลือ
พวกทหารที่สำหรับกำกับเรือ ใส่หมวกเสื้อกำมะหยี่ล้วนสีทอง
ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ อภิวาทแล้วประมูลทูลฉลอง
ลูกขอบังคมลาฝ่าละออง กษัตริย์สองอวยชัยไปจงดี
ปราศจากโพยภัยอย่าได้แผ้ว ให้คลาดแคล้วความทุกข์เป็นสุขี
ทั้งโรคันอันตรายอย่าได้มี จงเปรมปรีดิ์ลาภยศปรากฏไป ฯ
๏ พระคำนับรับพรถาวรสวัสดิ์ สองกษัตริย์ยินดีจะมีไหน
พอฤกษ์ดีตีกลองลั่นฆ้องชัย ภูวไนยเสด็จตรงไปลงเรือ
พอลมดีคลี่ใบขึ้นใส่รอก ให้แล่นออกกำปั่นใหญ่ไปฝ่ายเหนือ
พลางชักใบครบถ้วนกระบวนเรือ แล่นไปเหนือเกาะเรียงเฉียงอุดร ฯ
๏ พวกกษัตริย์ส่งเสร็จเสด็จกลับ มาคั่งคับทั้งทหารชาญสมร
ถึงนิเวศน์ไทท้าวเจ้านคร เสด็จจรเข้ามนเทียรวิเชียรพราย ฯ
๏ จะกล่าวลำกำปั่นสุวรรณหงส์ ออกแล่นตรงข้ามวนชลสาย
ไม่มีคลื่นชื่นบานสำราญกาย แสนสบายลมส่งไปตรงทาง
ชมละเมาะเกาะเกียนดั่งเขียนวาด รุกขชาติราวกับไม้ในกระถาง
พระสุริย์ฉายบ่ายเบนเย็นนภางค์ แล่นสล้างลมเฉื่อยเรื่อยเรื่อยไป
ฝูงกระโห่โลมาแลราหู เป็นหมู่หมู่ว่ายเรียงเคียงไสว
ฝูงพิมพาพาพวกพิมพาไป ปลาวาฬใหญ่ใหญ่เท่าสำเภาจร
ฝูงโลมามาว่ายอยู่คลายคล่ำ บ้างผุดดำดำไคลชายสิงขร
เหล่าฉลามล้วนฉลามตามกันจร สลับสลอนเวียนว่ายในสายชล
ฝูงฉนากล้วนฉนากไม่จากคู่ เป็นหมู่หมู่ว่ายเกลือกเสลือกสลน
เหล่าจระเข้เหราในสาชล บ้างผุดพ่นน้ำพรายกระจายฟอง
ฝูงเงือกงูชูหางกลางสมุทร บ้างดำผุดไล่กันผันผยอง
เหล่าม้าน้ำทำท่าม้าลำพอง ขึ้นว่ายล่องโดดด้นชลธี
ฝูงช้างน้ำนำโขลงชักโยงเพื่อน ขึ้นว่ายเกลื่อนกลาดไปในวิถี
ฝูงหมูน้ำดำวนชลธี เที่ยวว่ายรี่กลางมหาชลาลัย
พระสุริยงลงลับพยับพลบ คลื่นกระทบนาวาคงคาใส
จันทร์กระจ่างกลางมหานภาลัย ต่างแล่นใบรีบมาในวาริน
สองเดือนครึ่งถึงลังกาอาณาเขต ถิ่นประเทศทางมหาชลาสินธุ์
ให้ทอดท่าหน้าด่านชานบุรินทร์ พร้อมกันสิ้นเรือแพคนแจจัน ฯ
๏ จะกล่าวฝ่ายนายด่านเมืองปากน้ำ ตาแกจำเรือได้รีบผายผัน
เห็นลำหงส์ธงทองของสำคัญ ก็พากันรีบไปในเภตรา
เข้าเฝ้าองค์ผู้ดำรงรมจักร พระทรงศักดิ์ออกแท่นรัตน์ตรัสเรียกพา
พวกขุนนางนายด่านชานชลา พลางโอภาถามไต่ในนคร
อยู่ด้วยกันปรีดาเป็นผาสุก นิราศทุกข์ภิญโญสโมสร
ทั่วประเทศเขตแคว้นแดนนคร ก็ถาวรอิ่มเอมเกษมทรวง
ครั้นเฝ้าเสร็จทูลลากลับมาด่าน สั่งทหารรีบไปในวังหลวง
เรียกขุนนางข้าเฝ้าเจ้ากระทรวง อย่าให้หน่วงช้าไว้เร่งให้ทูล
พวกม้าใช้รีบไปถึงนิเวศน์ เข้าแจ้งเหตุท่านผู้ใหญ่ในไอศูรย์
ขุนเสนีรับไว้เข้าไปทูล มาพร้อมมูลคอยเฝ้าเจ้าลังกา ฯ
๏ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ ออกอำมาตย์บนบัลลังก์ที่นั่งขวา
ขุนเสนีกราบงามลงสามลา ทูลกิจจาบาทบงสุ์พระทรงชัย ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์ธิบดินทร์ปิ่นไอศูรย์ อำมาตย์ทูลชี้แจงแถลงไข
จึ่งดำรัสตรัสสั่งเสนาใน เราจะไปรับเสด็จประเวศวัง
จัดกระบวนถ้วนทุกหมู่มยูรฉัตร พร้อมขนัดเกณฑ์แห่ทั้งแตรสังข์
มโหระทึกกึกก้องฆ้องระฆัง พัดโบกบังสุริยาแลจามร ฯ
๏ ฝ่ายเสนีกรมวังมาสั่งหมาย ให้ทนายขุนเสมียนเขียนอักษร
เร่งบาดหมายจ่ายคนพลนิกร อัสดรรถนั่งอลังการ
ทุกหมู่หมวดตรวจตรากันมาพร้อม คอยพระจอมนครามหาศาล
ฝ่ายพระมิ่งเมืองลังกาปรีชาชาญ จากสถานเสด็จออกนอกบุรินทร์
ยกกระบวนทวนธงลงไปด่าน พร้อมทหารตรงไปท่าชลาสินธุ์
จัดบัลลังก์ที่นั่งศรีมณีนิล พร้อมกันสิ้นดั้งกันเป็นหลั่นไป
เห็นกำปั่นจอดเรียงเคียงขนาน พระผู้ผ่านลังกาตรัสปราศรัย
แล้วเสด็จขึ้นกำปั่นด้วยทันใด พลางเข้าไปกราบก้มบังคมคัล ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมนครินทร์รมจักร เห็นหลานรักปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
จึ่งปราศรัยการพาราสารพัน ถามถึงองค์ทรงธรรม์พระมุนี ฯ
๏ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ บังคมบาทบงกชบทศรี
ทูลแถลงแจ้งความสามมุนี ท่านเปรมปรีดิ์ผาสุกทุกทิวา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ ตรัสประภาษกับพระหลานด้วยหรรษา
ว่าอานี้มิมาก็ต้องมา กรุงรัตนาเขามาร้องต้องมาทูล
ว่าจะขอหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ไปครองสมบัติเวียงชัยมไหสูรย์
เขาร้องทุกข์กับอาต้องมาทูล พวกประยูรคงต้องให้ไปสักคน ฯ
๏ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ ฟังประภาษแจ้งความตามนุสนธิ์
แล้วทูลเชิญธิบดินทร์ปิ่นสกล ภูวดลเสด็จไปในลังกา
ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ ก็ยุรยาตรจากกำปั่นด้วยหรรษา
มาทรงเรือพระที่นั่งอลังการ์ กระบวนท่าเร่งพายตามชายชล
ถึงเมืองด่านธารท่าชลาสินธุ์ เชิญภูมินทร์ขึ้นรถาพาพหล
จัตุรงค์เสนาพลาพล ไปสิงหลนคเรศนิเวศน์วัง
ถึงประทับกับเกยที่นั่งรัตน์ สองกษัตริย์เสร็จสมอารมณ์หวัง
พวกเถ้าแก่แออัดจัดในวัง มาพร้อมพรั่งกราบก้มบังคมคัล
เสาวคนธ์สุลาลีศรีสวัสดิ์ มาเฝ้ากษัตริย์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
พระปราศรัยสุณิสาวิลาวัณย์ อยู่ด้วยกันผาสุกหรือทุกข์ภัย
แล้วตรัสเรียกนัดดามาหาปู่ เจ้าก็อยู่ดีหรือหนาพลางปราศรัย
นรินทร์รัตน์สุริย์วงศ์พระทรงชัย คลานเข้าไปกราบก้มประนมกร
พระลูบหลังลูบหน้าว่าไฉน ช่างโตใหญ่ขึ้นเจียวหลานชาญสมร
ทั้งรูปร่างก็ละม้ายคล้ายบิดร พระอวยพรให้พิพัฒน์สวัสดี
ทั้งสองนางพลางไปแต่งสุวรรณภาชน์ ถวายพระบาทจอมเจิมเฉลิมศรี
ทั้งเครื่องเคียงต่างต่างของอย่างดี มาตั้งที่แท่นรัตน์ชัชวาล ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมนครินทร์ปิ่นกษัตริย์ ขึ้นแท่นรัตน์เสวยข้าวของคาวหวาน
แล้วเสด็จเข้าปรางค์รัตน์ชัชวาล นางอยู่งานโบกปัดพัชนี
ปางพระสุดสาครบวรนาถ ให้เตรียมราชรถทองละอองศรี
พระเจ้าอาจะเสด็จไปคีรี เฝ้ามุนีสามพระองค์ในดงดอน
วันพรุ่งนี้มาประทับรับเสด็จ ให้พร้อมเสร็จคอยบพิตรอดิศร
ทั้งจัตุรงค์เสนาพลากร อัสดรมิ่งม้าอาชาไนย
ครั้นสั่งเสร็จแล้วเสด็จยุรยาตร เข้าปรางค์มาศเนาวรัตน์จำรัสไข
ขุนเสนามาสั่งทั้งนอกใน พลไพร่มาให้ถ้วนกระบวนเกณฑ์
เครื่องอาวุธยุทธนาอย่าให้ขาด เสื้อสักหลาดเบิกในคลังทั้งดั้งเขน
เร่งสั่งกันไปให้เสร็จทั้งเจ็ดเวร มาตามเกณฑ์อย่าให้ขาดราชการ
สัสดีเดินหมายไปทุกแห่ง ตามตำแหน่งพลอาสาโยธาหาญ
พอรุ่งแจ้งแสงสีรวีวาร พระผู้ผ่านภพไกรตื่นไสยา
แล้วสระสรงทรงเครื่องเรืองระยับ ออกประทับพระโรงคัลด้วยหรรษา
ทั้งสององค์พงศ์กษัตริย์ขัตติยา พวกเสนาพร้อมเพรียงกันเรียงราย
กระบวนแห่แลสะพรั่งตั้งขนัด ทั้งรถรัตน์ฝากระจกกระหนกฉาย
เทียมอาชามาเคียงกันเรียงราย เสนานายทุกตำแหน่งจัดแจงพล ฯ
๏ สองกษัตริย์เสด็จตรงมาทรงรถ พร้อมกันหมดแล้วให้เลื่อนเคลื่อนพหล
จัตุรงค์แสนยาพลาพล จรดลไปสิงคุตรถึงกุฎี
สองพระองค์ลงจากรถที่นั่ง ตรงไปยังพระมุนินทร์ปิ่นฤๅษี
พอพระองค์เสด็จออกนอกกุฎี ประทับที่หน้าบรรณศาลา
ศรีสุวรรณเข้าประนมบังคมบาท ภูวนาถทรงเดชพระเชษฐา
สุดสาครอ่อนเกศกราบบิดา ท่านสิทธาทักถามตามทำนอง
พ่ออยู่ดีปรีดาเป็นผาสุก หรือมีทุกข์หมกมุ่นให้ขุ่นหมอง
มีกังวลสิ่งใดในใจปอง เชิญพระน้องแจ้งอรรถวัจนา ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ อภิวาททูลเหตุพระเชษฐา
ว่าเสนีในบุรีรัตนา ชวนกันมาร้องทุกข์ว่าเหลือทน
ไม่มีใครปกป้องครองนิเวศน์ ฉวยเกิดเหตุศึกมาโกลาหล
ไม่มีเจ้าจอมอาณาประชาชน ทั้งผู้คนจะวิบัติกำจัดจร ฯ
๏ ป่างพระองค์ทรงศิลมุนินทร์นาถ ได้ทราบบาทบพิตรอดิศร
จึงเอื้อนอรรถตรัสว่าด้วยอาวรณ์ การนครแล้วแต่น้องจะตรองไป
พี่ก็ทรงบรรพชาสิกขาบท เจริญพรตมิใช่กิจผิดวิสัย
พ่อจัดแจงดูให้งามตามแต่ใจ ควรแก่ใครจะไปอยู่เป็นผู้ครอง
อันวงศ์ญาติเรานี้ก็มีถม จะปรารมภ์อะไรเล่ากะเจ้าของ
พ่อให้หามาประมวลใครควรครอง แล้วแต่น้องจะเห็นใครจงให้ปัน ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์พงศ์กษัตริย์ สนองอรรถรับโองการกับหลานขวัญ
แล้วทูลลาพระองค์ผู้ทรงธรรม์ จากเขตคันสิงคุตรไม่นอนใจ
เสด็จมาทรงรถาให้คลาเคลื่อน เข้าดงเถื่อนยางยูงสูงไสว
เดินนิกรมายังรุ่งถึงกรุงไกร เสด็จเข้าในเวียงวังเมืองลังกา
ประทับร้อนผ่อนสบายในปราสาท แล้วยุรยาตรออกขุนนางสั่งมหา
เสนีใหญ่ในนิเวศน์เกศลังกา เร่งตรวจตรากำปั่นใหญ่ไปทุกเมือง
สั่งอาลักษณ์พนักงานแต่งสารศรี ทุกบุรีแจ้งความไปตามเรื่อง
แต่บรรดาญาติวงศ์ดำรงเมือง จงเขียนเรื่องราชสารลงลานทอง
ขุนอาลักษณ์บังคมบรมนาถ ไปแต่งราชสารตามเนื้อความสนอง
พอสำเร็จเสร็จการลงลานทอง ม้วนใส่กล่องลงยาราชาวดี
พระสั่งเสร็จแล้วเสด็จยุรยาตร เข้าปรางค์มาศไพฑูรย์จำรูญศรี
พวกเสนามากำปั่นด้วยทันที ให้ขัดสีเปลี่ยนเสาทั้งเพลาใบ
จัดกัปตันแต่บรรดากะลาสี ใครรู้ที่เขตแขวงตำแหน่งไหน
กับเสนาแต่บรรดาพวกจะไป พร้อมกันในสามวันดั่งสัญญา
ครั้นเสร็จสรรพกลับเข้าไปในนิเวศน์ คอยทรงเดชพร้อมกันต่างหรรษา
พอพระจอมรมจักรนัครา เสร็จออกมาแท่นที่มณีพราย
ขุนอาลักษณ์พนักงานเชิญสารศรี มาตั้งที่ประมูลทูลถวาย
พวกเสนีที่จะไปทั้งไพร่นาย กราบถวายบังคมลาเสนาทูล ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมนครเรศเกศกษัตริย์ โองการตรัสพวกจะไปทุกไอศูรย์
ประทานเงินตามที่บริบูรณ์ มากประมูลเสื้อผ้าบรรดาไป
ครั้นเสร็จสรรพกลับเข้าปรางค์ปราสาท ขุนอำมาตย์รับสารแล้วขานไข
เอาพานทองสองชั้นใส่สารไป รีบครรไลแห่ตรงไปลงเรือ
ที่จะไปเพชรกำพลเร่งขวนขวาย เอาหัวบ่ายบากไปข้างฝ่ายเหนือ
พวกไปเมืองสุลาลัยกลับไปเรือ คัดหางเสือล่องน้ำไปตามทาง
ที่จะไปเมืองเซ็นเห็นแผนที่ ออกแล่นรี่เร็วรัดไม่ขัดขวาง
ได้ลมเรื่อยเฉื่อยฉ่ำไปตามทาง แล่นคว้างคว้างเร็วมาในสาคร
พวกไปเมืองสินชัยชักใบขึง พอลมตึงเป่าแตรแซ่สลอน
ให้ตั้งเข็มเล็มไปหมายนคร ตรงทางจรทิศใต้รีบไปพลัน
ข้ามละเมาะเกาะแก่งทุกแห่งหน ต่างเร่งร้นใช้ใบรีบผายผัน
ไม่รั้งราฝ่าคลื่นทุกคืนวัน หมายสำคัญรีบไปในคงคา
สองเดือนครึ่งถึงเมืองกำพลเพชร สั่งกันเสร็จไพร่นายทั้งซ้ายขวา
ให้บ่ายเบี่ยงเรียงทอดจอดเภตรา ชาวพาราร้องถามดูตามแคลง
ว่าเรือนี้มาแต่ไหนเห็นใหญ่นัก ไม่ประจักษ์ท่านจงกล่าวเล่าแถลง
พวกกำปั่นบอกตรงชักธงแดง รู้ตำแหน่งว่ามายังเกาะลังกา
แวะเข้าไปไต่ถามตามประสงค์ โดยจำนงสมหวังที่กังขา
รู้ว่าเรือราชสารการพารา ก็รีบมาบอกขุนด่านสารสำคัญ ฯ
๏ ฝ่ายเสนีที่ด่านรู้การชัด ก็รีบจัดคนเข้าไปไอศวรรย์
ทูลฉลองแก่พระองค์ผู้ทรงธรรม์ จะช้าวันจงไปในนคร
พวกม้าใช้รับบอกออกจากด่าน รีบลนลานไปแถลงแจ้งอักษร
แก่เจ้าพระยามหาดไทยในนคร พอภูธรออกที่นั่งบัลลังก์ทรง
พวกเสนาข้าทูลละอองบาท เข้าเฝ้านาถกรุงกษัตริย์ราชหงส์
แล้วคลี่บอกอ่านถวายดั่งใจจง พระโฉมยงทราบคดีก็ปรีดา
จึ่งรับสั่งพนักงานรับสารศรี ให้มนตรีแต่งรถตามยศถา
ลงไปรับสารเรื่องเมืองลังกา เร็วอย่าช้ารับทูตมาพูดกัน
ขุนนางรับอภิวันท์แล้วผันผาย มาสั่งหมายเร็วรวดการกวดขัน
พอพร้อมเสร็จนายไพร่รีบไปพลัน ถึงเขตคันเมืองท่าชลาลัย
เชิญราชสารขึ้นยานุมาศพร้อม ประณตน้อมเดินเคียงเรียงไสว
ราชทูตขึ้นรถารีบคลาไคล ตามเข้าไปถึงนิเวศน์เขตบุรินทร์
ลงจากรถบทจรตามราชสาร เข้าทวารเวียงวังดั่งถวิล
ไปคอยเฝ้าเจ้าจังหวัดปัถพิน พร้อมกันสิ้นทุกตำแหน่งแต่งกายา
ใส่เสื้อดำกำมะหยี่ตามที่ยศ เหมือนกันหมดนั่งรายทั้งซ้ายขวา
ฝ่ายพระจอมเวียงวังมังคลา เสด็จออกมาขึ้นพระแท่นแสนสำราญ ฯ
๏ ฝ่ายเสนาข้าเฝ้าเข้าไปพร้อม ประณตน้อมคอยสดับรับบรรหาร
ฝ่ายเสนาอาลักษณ์พนักงาน เชิญเอาพานราชสารการแผ่นดิน
กับพวกทูตลังกาเข้ามาเฝ้า ต่างก้มเกล้ากราบบังคมสมถวิล
แล้วทูลเบิกเรื่องความตามระบิล พระทราบสิ้นแล้วให้อ่านสารสารา
ขุนอาลักษณ์กราบงามลงสามหน อ่านยุบลทูลถวายลายเลขา
ศุภสารรมจักรนัครา องค์พระอาอวยพรอักษรทรง
มาถึงราชนัดดาพาราหลาน จงแจ้งการโดยในพระทัยประสงค์
ขอเชิญนาถหน่อเนื้อในเชื้อวงศ์ จงรีบตรงมาลังกาปรึกษาการ
พอจบเรื่องราชสารแล้วกรานกราบ ศิโรราบทั้งทูตถือหนังสือสาร
พระปราศรัยไต่ถามตามบุราณ แล้วประทานรางวัลเป็นหลั่นไป
อุปทูตราชทูตให้ตามยศ ต่างประณตบังคมประนมไสว
ให้เลี้ยงดูอยู่สถานสำราญใจ จึ่งค่อยไปพร้อมกันดั่งสัญญา
แล้วสั่งเหล่าเสนาพวกฝาหรั่ง เร่งจัดทั้งกำปั่นใหญ่ไวไวหนา
เราจะรีบข้ามฝั่งไปลังกา จัดล้าต้าต้นหนที่คุ้นเคย
ทั้งเรือตามเรือนำสักสามร้อย เร่งไปถอยจากอู่ดูนะเหวย
จัดทหารลงทุกลำเหมือนคามเคย อย่าช้าเลยจัดให้เสร็จในเจ็ดวัน
พระสั่งเสร็จแล้วเสด็จขึ้นจากอาสน์ ยุรยาตรเข้าในวังนรังสรรค์
ขุนเสนามาแต่งกำปั่นพลัน ในเจ็ดวันแล้วถ้วนกระบวนการ ฯ
๏ ฝ่ายพระมิ่งมังคลานราราช สั่งนุชนาฏสององค์แล้วสรงสนาน
ประดับเครื่องเนาวรัตน์ชัชวาล จากสถานโดยประสงค์ลงนาวา ฯ
๏ ฝ่ายพวกทูตตามเสด็จพร้อมเสร็จสรรพ มาคั่งคับแล่นรายทั้งซ้ายขวา
พวกเสนีที่กำปั่นถือสารตรา ไปพาราทุกตำแหน่งแจ้งคดี
เขารับรองเหมือนกันรางวัลให้ ทั่วกันไปปรีดิ์เปรมเกษมศรี
วลายุดาวายุพัฒน์จัดมนตรี ทั้งเสนีพวกทหารชาญณรงค์
ออกกำปั่นแต่บรรดาโยธาหาญ จากสถานมาตามความประสงค์
พระหัสกันจอมเจิมเฉลิมวงศ์ เสด็จลงเรือกำปั่นสุบรรณบิน
ออกนาวามากลางหว่างสิงขร ต่างรีบร้อนล่วงไปในกระสินธุ์
เอาเข็มตั้งไปลังกาตรงธานินทร์ ประเทศถิ่นแถวสถานตรงบ้านเมือง
แต่บรรดามาด้วยกันกำปั่นรบ อาวุธครบโดยจำนงใช้ธงเหลือง
เขียนหนังสือสีครามแจ้งนามเมือง ให้รู้เรื่องว่าพาราสุลาลัย ฯ
๏ พวกกษัตริย์สี่พาราก็มาพร้อม เข้าทอดป้อมธารท่าชลาไหล
กำพลเพชรธานินทร์เมืองสินชัย สุลาลัยเมืองเซ็นถึงพร้อมกัน
พวกเสนีที่รักษาเมืองสมุทร ก็รีบรุดสั่งม้าใช้ให้ผายผัน
รีบเข้าไปทูลองค์พระทรงธรรม์ พระศรีสุวรรณทราบสั่งขุนเสนา
เร่งจัดแจงแต่งกระบวนลงไปรับ ให้พร้อมสรรพเชิญองค์พระวงศา
เข้านิเวศน์เวียงวังกรุงลังกา เร็วอย่าช้าจัดให้ถ้วนกระบวนพล
ฝ่ายเสนีที่รับสั่งมานั่งหมาย ให้ทนายไปทุกหมวดตรวจพหล
รีบลงไปเมืองท่าริมสาชล พร้อมพหลรับเสด็จประเวศวัง ฯ
๏ พระมังคลาวลายุดาวายุพัฒน์ หน่อกษัตริย์หัสกันครรไลหลัง
ขึ้นรถาพร้อมหมดพระกลดบัง รีบมายังลังกาเข้าธานี ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ผู้ดำรงรมจักร เห็นหลานรักมาประณตบทศรี
กับลูกยามาภิวันท์อัญชุลี พระเปรมปรีดิ์ปราศรัยในพระวงศ์
แล้วกราบงามตามที่ผู้ใหญ่น้อย ดูเรียบร้อยตามประยูรสกูลหงส์
ฝ่ายพระจอมลังกาวราพงศ์ ให้ตั้งโต๊ะเลี้ยงพระวงศ์พงศ์ประยูร
ตั้งเก้าอี้มีพร้อมทั้งส้อมมีด ตามจารีตฝรั่งใหญ่เจ้าไอศูรย์
ของต่างต่างอย่างดีบริบูรณ์ เลี้ยงประยูรญาติวงศ์ในพงศ์พันธุ์
เชิญเสด็จเจ็ดกษัตริย์ขึ้นเสวย ทั้งนมเนยวางเป็นคู่กับหมูหัน
เป็ดพะแนงแกงพล่าปลาทอดมัน จะรำพันเครื่องกินข้าวจะยาวนาน
เสวยเสร็จพระเจ้าอาเธอปรารภ พอมาครบถ้วนถูกทั้งลูกหลาน
พระจึงตรัสแย้มเยื้อนเอื้อนโองการ นี่แน่หลานลูกยามาพร้อมมูล
เดี๋ยวนี้เมืองรัตนาเขามาร้อง ขอผู้ครองโภไคยมไหสูรย์
อาจึ่งพาเขามาเฝ้าทูลเค้ามูล ได้กราบทูลพระนักสิทธ์ดั่งจิตจง
รับสั่งว่าใช่กิจผิดวิสัย พูดไม่ได้ดั่งจิตคิดประสงค์
สั่งให้หาพวกประยูรสกูลวงศ์ ใครประสงค์จะได้ทูลมูลคดี
เออมังคลาว่ากระไรไปหรือหลาน ขนสิงคารไปบำรุงซึ่งกรุงศรี
อาจะได้ไปทูลพระมุนี โดยคดีตามประสงค์พระทรงธรรม์ ฯ
๏ ฝ่ายพระมิ่งมังคลานราราช อภิวาทวอนวิงทุกสิ่งสรรพ์
เพชรกำพลก็เป็นสุขอยู่ทุกวัน ขอทรงธรรม์โปรดปรานการนคร
ไม่ต้องการที่จะไปใช่แก่เหตุ ขอทรงเดชบพิตรอดิศร
ตรัสถามไต่ไล่เลียงทุกนคร ใครจะจรจะได้ช่วยอำนวยชัย ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงเดชเกศกษัตริย์ โองการตรัสถามวลายุดาไฉน
จะให้เจ้าไปบำรุงซึ่งกรุงไกร แทนพระอัยกาเจ้าเหมือนเก่าเดิม
วลายุดาว่าเหมือนกับเชษฐา อันพาราในพระวงศ์ใคร่ส่งเสริม
แต่ธานินทร์สินชัยได้แต่เดิม เป็นที่เจิมวาสนามาช้านาน ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมขัตติย์วงศ์พงศ์กษัตริย์ ถามวายุพัฒน์ว่ากระไรไปไหมหลาน
วายุพัฒน์กราบประณตบทมาลย์ พระภูบาลอัยกาจงปรานี
อยู่เมืองเซ็นก็เป็นสุขไม่ทุกข์ร้อน ชาวนครอิ่มเอมเกษมศรี
บริบูรณ์มั่งคั่งทั้งบุรี พอเป็นที่สุโขมโหฬาร ฯ
๏ ป่างพระองค์ผู้ดำรงรมจักร ผินพระพักตร์ถามหัสกันหลาน
อันตัวเจ้าเล่าอย่างไรจงให้การ อันถิ่นฐานของพระวงศ์พงศ์ประยูร
ควรจะไปรักษาอาณาเขต ครองประเทศโภไคยมไหสูรย์
ตามเหล่ากอหน่อเนื้อเชื้อตระกูล ได้เพิ่มพูนราษฎรไม่ร้อนรน ฯ
๏ พระหัสกันกราบก้มบังคมสนอง ทูลฉลองเรื่องความตามนุสนธิ์
อันพาราสุลาลัยทั้งไพชนต์ เขตตำบลก็สบายวายอาวรณ์
แล้วก็สร้างพาราไว้หนาแน่น เป็นปึกแผ่นภิญโญสโมสร
เวชายันวันชายาก็อาวรณ์ ไม่ให้จรจากนิเวศน์เขตบุรินทร์
พระทรงฟังสี่กษัตริย์ขัดเสียหมด ทั้งโอรสหลานใหญ่ใหญ่บิดไปสิ้น
เขามีบ่วงห่วงใยในยุพิน เจ้านรินทร์รัตน์ต้องไปดั่งใจปอง ฯ
๏ สุดสาครว่ากระไรจงไต่ถาม เอาเนื้อความไปประมูลทูลฉลอง
เห็นไม่มีห่วงใยต้องไปครอง ตามทำนองป้านเมืองเนื่องกันมา
พระญาติวงศ์พงศ์เผ่าเหล่าพี่น้อง ชวนกันพร้องพร้อมกันต่างหรรษา
ว่าสมควรจะไปอยู่กู้พารา ให้เปรมปราเกียรติยศเห็นงดงาม ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมโมลีศรีสุวรรณ ปรึกษากันพร้อมใจได้ไต่ถาม
ควรจะไปทูลฉลองให้ต้องตาม กระแสความรับสั่งจึ่งบังควร
พรุ่งนี้เช้าเราพากันไปเฝ้า แถลงเล่าโดยระบอบได้สอบสวน
แล้วแต่องค์ทรงศักดิ์จักเห็นควร เรามาชวนกันไปในอรัญ
เจ็ดกษัตริย์สระสรงแล้วทรงเครื่อง อร่ามเรืองพรรณรายสายกระสัน
พร้อมกันเสร็จแล้วเสด็จจรจรัล ไปเขตคันสิงคุตรถึงกุฎี ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์มุนินทร์นาถ ออกนั่งอาสน์หน้ามุขเป็นสุขี
เทศนาสอนอนงค์สองหลวงชี กับฤๅษีสานุศิษย์ในกิจกรม ฯ
๏ ฝ่ายกษัตริย์ทั้งเจ็ดเสด็จถึง แล้วก็จึ่งเข้าไปหน้าพระอาศรม
พร้อมกันเสร็จศิโรราบกราบบังคม พระบรมนักสิทธ์ดังจิตปอง ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมธิบดินทร์มุนินทร์นาถ เห็นพระญาติมาบังคมประนมสนอง
จึ่งปราศรัยในวงศ์จำนงปอง มาปรองดองลงกันเป็นฉันใด ฯ
๏ ฝ่ายพระศรีสุวรรณวงศ์ดำรงราชย์ บังคมบาททูลแจ้งแถลงไข
ปรึกษาพวกญาติพร้อมไม่ยอมไป จะต้องให้นรินทร์รัตน์ผู้นัดดา
พวกญาติวงศ์ปลงใจยกให้น้อง เขาปรองดองพร้อมกันต่างหรรษา
ควรจะให้ไปครองสวรรยา จึ่งพากันมากราบก้มบังคมทูล ฯ
๏ พระทรงฟังสังรเสริญว่าถูกแล้ว เหมือนกวาดแผ้วทรงไว้ซึ่งไอศูรย์
ให้เสนาประชาชีบริบูรณ์ ได้เพิ่มพูนภิญโญมโหฬาร
พ่อกลับไปให้โหรเขาหาฤกษ์ จะได้เบิกบัดพลีพลีศาล
ช่วยจัดแจงแต่งให้เสร็จสำเร็จการ อย่าให้นานเนิ่นช้ารีบคลาไคล
ศรีสุวรรณรับรสพจนารถ พร้อมพระญาติวงศาอัชฌาสัย
ประณตน้อมพร้อมเพรียงทุกเวียงชัย จะยกไปช่วยงานการพิธี ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์ทรงศิลมุนินทร์นาถ ตรัสประภาษว่าพวกถือเป็นฤๅษี
จะต้องไปสวดงานการพิธี ทั้งสองชีจะได้ช่วยอำนวยพร
แล้วตรัสสั่งพระภูมีศรีสุวรรณ จัดเรือกัลปังหาประภาศร
อันตัวพี่ชีไพรจะได้จร ไปนครรัตนาพามุนินทร์
ได้ช่วยสวดมนตราราชาภิเษก อดิเรกมีชัยดังใจถวิล
พวกที่เป็นดาบสหมดมลทิน จะได้ภิญโญยศปรากฏนาน
พระสั่งเสร็จแล้วเสด็จไปโรงฉัน ให้จัดสรรผลไม้สิ่งใดหวาน
ที่โอชาสารพัดจัดประทาน ให้อาจารย์เสวยเล่นพอเย็นทรวง
ทั้งน้ำท่าหามาตั้งให้นั่งเสวย เหมือนอย่างเคยแต่งตั้งในวังหลวง
เจ็ดกษัตริย์เสวยลองของทั้งปวง ผลมะม่วงหวานมันขยันดี
ขนุนขนันพรรณผลาโอชารส ล้วนของสดเก็บมาได้ในไพรศรี
มะปริงปรางทรางสะท้อนเงาะล่อนดี ผลลิ้นจี่ลำไยมีหลายพันธุ์
เสวยเสร็จต่างเสด็จยุรยาตร เฝ้าพระบาทสามองค์ที่โรงฉัน
แล้วทูลลาดาบสหมดด้วยกัน จรจรัลกับหลังเข้าลังกา
ถึงนิเวศน์เวียงวังแล้วยั้งหยุด ฝ่ายทรงภุชนครินทร์ปิ่นมหา
อิศเรศเกศเกล้าพระเจ้าอา เรียกโหรามาแถลงแจ้งคดี
จงคูณหารการจะราชาภิเษก อติเรกฤกษ์ยามตามวิถี
ทั้งเดือนวันชั้นไหนจะได้ดี เอาตามที่บทเบื้องเรื่องบุราณ
การรับสั่งพระมุนินทร์ปิ่นนักสิทธ์ จงเร่งคิดเค้ามูลเร่งคูณหาร
จะให้เจ้านรินทร์รัตน์รับโองการ ไปอยู่ผ่านเขตจังหวัดรัตนา
โหรบังคมก้มเกล้าเจ้าพิภพ แล้วทวนทบคืนวันชันษา
ลงเลขลับนับตามดิถีมา ตั้งชะตาผู้เจ้าของครองแผ่นดิน
จันทร์เป็นอุตม์พุธเป็นศรีว่าดีนัก จะสูงศักดิ์ได้ใหญ่ดั่งใจถวิล
จะได้ปราบพวกศัตรูหมู่อรินทร์ แล้วจะภิญโญยศปรากฏนาม
จะลือเดชทุกประเทศมานอบนบ ขจรจบแต่บรรดาภาษาสยาม
คำนวณเสร็จแล้วประมูลทูลไปตาม ทั้งวันยามในเดือนยี่ปีระกา
ขึ้นสิบสองค่ำวันเสาร์เข้าเป็นศรี ในเดือนยี่การภิเษกเอกนักหนา
ควรจะตั้งแต่งงานการพารา จงทราบฝ่าบาทมูลดั่งทูลทาย ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ