ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ

๏ ฝ่ายฝรั่งลังกาบนหน้าที่ เห็นคนสีแดงก่ำดั่งน้ำครั่ง
เรียกกันดูอยู่บนหน้าเสมาบัง บ้างยืนนั่งเดินไขว่ทั้งไพร่นาย
บ้างตั้งเตาเอาลูกปรายกรวดทรายคั่ว หลอมตะกั่วคอยสาดเหมือนมาดหมาย
ส่วนสามนางต่างแต่งแปลงเป็นชาย ขึ้นเดินกรายตรวจพลบนกำแพง
เห็นโยธาข้าศึกล้วนฮึกหาญ เที่ยวเดินพล่านยืนนั่งไม่บังแฝง
ยิงปืนใหญ่ใส่ลูกปรายนรายณ์แรง ถูกคนแดงตายตื่นนับหมื่นพัน
ด้วยค่ายทำต่ำกว่าเนินเชิงเทินป้อม ยิงค่ายล้อมแหลกทลายค่ายวิหลั่น
พวกฝรั่งทั้งปวงทะลวงฟัน พวกคนธรรม์กองทัพออกรับรบ
เหล็กฝรั่งทั้งสิ้นเหมือนชินอ่อน เข้าฟันฟอนยู่ยับกลับตลบ
ค่ายคนธรรม์พันฟาดขาดกระทบ ฝรั่งรบถอยหลังเข้าลังกา
เห็นอาวุธสุดสู้เหล็กยู่ยับ จะรบรับข้าศึกจึ่งปรึกษา
เอาทองแดงแท่งทองเหลืองเครื่องสาตรา ให้โยธาถือทั่วทุกตัวคน
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาดึกห้าทุ่ม เห็นเมฆกลุ้มคลุมฟ้าเวหาหน
ให้ตั้งโห่โยธาสัญญาพล ขึ้นปีนปล้นบนกำแพงกวัดแกว่งคบ
พวกหน้าที่ตีรันแทงพันฟาด ตายดื่นดาดกลับมาอีกไม่หลีกหลบ
ทั้งสามนางต่างไล่ไพร่สมทบ พวกหอรบป้อมปืนยิงครื้นครึก
ปืนหลักรายค่ายป้อมยิงพร้อมพรั่ง ตูมตึงตังทั้งโห่ร้องเสียงก้องกึก
ดังสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนสะทึก เสียงคึกคึกคับคั่งประดังกัน
ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าที่นั่ง คอยไล่หลังเหล่าพหลพลขันธ์
ขึ้นปีนปล้นจนสว่างถึงกลางวัน ต่างเปลี่ยนกันรบรุดไม่หยุดยั้ง ฯ
๏ จะกล่าวกลับทัพผลึกออกลึกแล่น เข้าเขตแดนลังกาพร้อมหน้าหลัง
ยินเสียงปืนครื้นครั่นสนั่นดัง ทัพเรือตั้งคั่งคับอยู่นับพัน
พอเรือใช้ไปถามบอกตามเรื่อง พระเจ้าเมืองลังกานราสวรรค์
ต่างแจงความตามจริงทุกสิ่งอัน เรือใช้นั้นให้หนังสือที่ถือไป
แล้วกลับมาพากันเข้าเฝ้าทั้งสาม กราบทูลความตามได้แจ้งแถลงไข
พระทรงฟังสั่งมหาเสนาใน ยิงปืนใหญ่ออกกำปั่นเหมือนสัญญา
ฝ่ายเรือนำกำปั่นลั่นปืนรับ เปิดทางทัพแยกย้ายทั้งซ้ายขวา
ฝ่ายเรือใช้ได้หนังสือรับถือมา ทูลสุดสาครอ่านสารสุนทร ฯ
๏ ในเรื่องความสามพระหน่อวรนาถ กราบพระบาทบพิตรอดิศร
ด้วยเดิมได้ให้สารสามมารดร จะโอนอ่อนอัภิวาทบาทยุคล
พระมังคลามาถึงทั้งสังฆราช โกรธกริ้วกราดรบพุ่งกรุงสิงหล
ข้าทั้งสามห้ามไม่หยุดก็สุดจน จึงพาพลมาบรรจบสมทบกัน
เมื่อยังเยาว์เบาจิตทำผิดพลั้ง เพราะพระมังคลาได้ไอศวรรย์
เธอใช้สอยพลอยผิดเข้าติดพัน จึ่งคิคกันทั้งนี้แต่พี่น้อง
อุตสาหะจะมาสามิภักดิ์ ด้วยจงรักรู้คุณการุญสนอง
คิดแยบยลกลศึกยังตรึกตรอง มิให้ต้องรบพุ่งทั้งกรุงไกร
ด้วยองค์พระมังคลามีอาวุธ ประสิทธ์สุดที่จะต้านทานไม่ไหว
พระแสงขรรค์ฟันลงที่ตรงไร ลุกเป็นไฟเพลิงผลาญสังหารกาย
แต่วายุพัฒน์นัดดาสามิภักดิ์ จะใช้ยักษ์ลักให้ได้ดั่งใจหมาย
หัสกันนั้นกับข้าอาหลานชาย ขอขึ้นฝั่งตั้งค่ายฝ่ายอุดร
แม้นศึกหนักจักสมทบช่วยรบรับ เหมือนคำนับไว้ในลักษณ์ในอักษร
พอจบอ่านสารตราสุดสาคร เอาพับซ่อนเสียมิให้ผู้ใดฟัง
ทั้งเห็นจริงกริ่งใจสงสัยอยู่ คงจะรู้ดีร้ายเมื่อภายหลัง
แล้วเร่งทัพจับพลข้ามวนวัง เสียงครึกครื้นขึ้นฝั่งข้ามลังกา
ทั้งพระน้องกองการะเวกผลึก ล้วนเจนศึกเวทมนตร์ดลคาถา
ครั้งสำเร็จเสร็จสรรพจับสาตรา พระทรงมาที่นั่งนิลมังกร
ทั้งม้าทรงองค์พระกฤษณาน้อง ถือกระบองเนาวรัตน์ประภัสสร
ทั้งกระบวนล้วนทหารเคยราญรอน สุดสาครถือกระบองของอาจารย์
แต่นงเยาว์เสาวคนธ์ทรงครรภ์แก่ ไม่ท้อแท้ตามไล่ไพร่ทหาร
ขึ้นทรงนั่งหลังสิงห์วิ่งทะยาน ยกทัพมาหน้าทวารปราการกัน ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าต้น ไล่ต้อนพลขึ้นกำแพงแกว่งพระขรรค์
พระกฤษณาถาโถมเข้าโรมรัน ทรงกระบองป้องกันประจัญบาน
พระมังคลากล้ารบไม่หลบเลี่ยง ชักม้าเรียงรำร่าออกหน้าทหาร
ต่างตีรันฟันต้องกระบองทาน เป็นเพลิงผลาญพลุ่งโพลงโขมงควัน
พระกฤษณาม้าล้มลงสลบ สุดสาครรอนรบรับพระขรรค์
ข้างพี่ตีมิได้ต้องข้างน้องฟัน ไม้เท้ากันก็เป็นไฟไหม้เบาะอาน
สุดสาครร้อนรนขืนทนได้ เพลิงลามไหม้เสื้อหมวกพวกทหาร
นางเสาวคนธ์ขับสิงห์วิ่งทะยาน เข้ารอนราญรบกับพระมังคลา
แกว่งภุขรรค์อันที่ได้ไว้แต่เล็ก ด้วยเป็นเหล็กเพชรพลามวามเวหา
ทั้งฤทธิ์แก้วแคล้วคลาดเครื่องสาตรา พระมังคลาฟันฟาดก็พลาดแพลง
พวกทหารต่อทหารต้านต่อสู้ หอกดาบยู่แทงฟันเข้มขันแข็ง
กุมแต่ด้ำกำหมัดเหวี่ยงวัดแวง คนธรรพ์แทงฟันเข้าช่วยเจ้านาย
พวกโยธาการะเวกเอกระ ชกเตะตะต่อยปล้ำล้มคว่ำหงาย
แย่งอาวุธฉุดคร่าประสาชาย บ้างล้มตายตะลุมบอนแทงฟอนฟัน ฯ
๏ ฝ่ายสามนางต่างเห็นทัพรบรับสู้ เปิดประตูช่วยพหลพลขันธ์
หอกดาบทวนล้วนทองแดงไล่แทงฟัน พวกคนธรรมพ์นั้นยังน้อยต้องถอยรบ
พระมังคลาม้าล้มแทบลมจับ เหงื่อโซมซับลับแลงสุดแรงสลบ
กลับเข้าค่ายชายน้ำพอค่ำพลบ ทหารรบรายุทธ์ด้วยสุดแรง
นางเสาวคนธ์ทนประทังพอยั้งพยุด จะคลอดบุตรสุดจะยืนจะขืนแข็ง
ระทวยองค์ลงริมทางที่กลางแปลง จนสิ้นแรงเรียกหาสุดสาคร
พอรำภามาพบมืดพลบค่ำ สังเกตจำสำเนียงเสียงสมร
ลงจากม้าค่อยตระกองประคองกร อุ้มบังอรขึ้นบนตักสะพักไว้
เสาวคนธ์อ้นอั้นป่วนปั่นปวด รำภานวดผันแปรรู้แก้ไข
พอยามปลอดคลอดโอรสยศไกร รำภาใส่หมวกประคองผ้ารององค์
แล้วอุ้มนางข้างขวาขึ้นม้าเครื่อง ควบเข้าเมืองได้สมอารมณ์ประสงค์
เรียกให้เปิดประตูรับขับม้าทรง อุ้มสององค์ตรงขึ้นบนมนเทียรรัตน์
สว่างแจ้งแสงชวาลากระจ่าง กำนัลนางเถ้าแก่มาแออัด
เรียกภูษาผ้าขาวโขมพัตถ์ เร่งให้จัดขันทองรองวารี
มาสระสรงองค์พระหน่อวรนาถ วางบนอาสน์อ่อนรองผุดผ่องศรี
ยาชะโลมโซมสุคนธ์พระชนนี ชื่นอารมณ์สมประดีค่อยมีมา
น้ำใบส้มต้มสรงอาบองค์อุ่น ท้าวนางหนุนปฤษฎางค์ข้างซ้ายขวา
หมอผู้หญิงวิ่งสอทั้งหมอยา เรียกสุราหาโอสถบดละลาย
ประทมไฟใส่ถ่านอยู่งานนวด ที่ป่วนปวดลมเลือดค่อยเหือดหาย
กุมารร้องก้องปรางค์ไม่วางวาย พระนมถวายนมเสวยต่างเชยชม
เจ้าพวกหมอห่อประคบยาครบอย่าง พวกท้าวนางนอบนบประคบผงม
ปรุงโอสถรสรื่นชื่นอารมณ์ ให้ทรงดมดูระวังอยู่พรั่งพร้อม
สุดสาครร้อนเริงด้วยเพลิงพิษ อุ้มพระกฤษณาน้องประคองถนอม
ทั้งเสนาข้าเฝ้าเป็นเหล่าล้อม ขึ้นบนป้อมปืนใหญ่แก้ไขกัน
หมอชะโลมโซมยาสุรามฤต ให้ดับร้อนถอนพิษฤทธิ์พระขรรค์
จนดึกดื่นฟื้นองค์คงกระพัน ฉวีวรรณหวะหนองพุพองพัง
หมอรักษายาพอกเหมือนลอกคราบ น้ำมันฉาบแสบริ้วริ้วร้อนผิวหนัง
สุดสาครร้อนใจเข้าในวัง เห็นพร้อมพรั่งพระสนมกรมใน
ทราบว่าเจ้าเยาวยอดเคลื่อนคลอดบุตร ประคองสุดเสน่หาน้ำตาไหล
เข้าทูลห้ามทรามชมประทมไฟ พระลุกไปนั่งดูพระกุมาร
ประคองกรช้อนเบาะว่าเคราะห์พ่อ น้ำตาคลอหลั่งลงด้วยสงสาร
เวียนพิทักษ์รักษาพยาบาล ดูกุมารแล้วมาเฝ้าปลอบเสาวคนธ์ ฯ
๏ ฝ่ายพระมังคลากลับมาค่าย ไม่สมหมายที่จะชิงเอาสิงหล
ด้วยพี่น้องสององค์อันคงทน เสียไพร่พลนับแสนยิ่งแค้นใจ
จนยามดึกตรึกตรองให้ข้องขัด ยิ่งกลุ้มกลัดพลิกกลับไม่หลับใหล
นางแม่เลี้ยงเคลียงคลอพระหน่อไท อย่าเสียใจไว้แม่จะแก้แค้น
คิดบอกข่าวราวเรื่องเมืองน้อยใหญ่ เกณฑ์พลไว้ใช้สอยสักร้อยแสน
อันหนึ่งท้าวเจ้าประเทศทุกเขตแดน เสมอแม้นมารยักษ์มีศักดา
ยังพวกพ้องของท้าวรามเดช หลายประเทศทั้งพระวงศ์เผ่าพงศา
มาสมทบรบพุ่งกรุงลังกา สักพริบตาก็จะได้ดั่งใจจง
พระฟังความยามทุกข์ลุกขึ้นนั่ง ด้วยสมหวังดั่งจิตคิดประสงค์
กอดแม่เลี้ยงเคียงแอบไว้แนบองค์ อุตส่าห์ทรงจุมพิตด้วยคิดรัก
มิเสียทีมีแม่ช่วยแก้แค้น ก็เหมือนแม้นแม่พยุงให้สูงศักดิ์
ได้เช่นนั้นฉันนี้ยินดีนัก เคยรู้จักเจ้าเมืองได้เลื่องลือ
อันเมืองออกนอกเพชรกำพลนั้น ทั้งพงศ์พันธุ์พวกผู้ตายมากมายหรือ
อยากจะใคร่ได้ที่มีฝีมือ จะได้รื้อรบพุ่งเอากรุงไกร ฯ
๏ นางกฤษณาว่าเมื่อคราวผัวเก่าอยู่ พาไปดูแดนป่าชลาไหล
อันถิ่นฐานบ้านเมืองเนื่องกันไป ข้างทิศใต้ถึงยักษ์ขอบจักรวาล
แต่ที่ต่อหรดีนั่นมีเกาะ คนเหมือนเงาะงวงชดเหมือนคชสาร
ประเทศที่มีต้นแตนทำแทนตาล ขยำดินกินหวานสำราญใจ
ดูหัวกลมผมพริกหยุกหยิกยุ่ง เข้ารบพุ่งแทงฟันไม่หวั่นไหว
แต่คนเราเข้าไปหาภาษาไร ก็เข้าใจพูดจาภาษานั้น
เคยไปมาหาท้าวรามเดช หนทางสามเดือนเศษถึงเขตขัณฑ์
จะเชิญมาหาด้วยได้ช่วยกัน ชอบกับฉันชื่อพระเสาร์เป็นเจ้านาย
ที่เมืองอื่นขึ้นกับเพชรกำพลเล่า พวกผัวเก่าเหล่าสนิทมิตรสหาย
เชื้อคนธรรพ์มันขี้มักเป็นยักษ์กลาย ที่อยู่ปลายสุดถิ่นมันกินคน
มีต่างต่างร่างกายเหมือนชายหญิง มิใช่ลิงค่างชะนีแต่มีขน
จะให้หาตราเมืองเพชรกำพล ทุกตำบลมาบรรจบรบลังกา ฯ
๏ พระทราบสิ้นยินดีเป็นที่ยิ่ง แม่เป็นหญิงยอดมนุษย์สุดจะหา
พลางกอดเกยเชยชมภิรมยา แนบอุรารัดรึงเข้าคลึงเคล้า
อัศจรรย์นั้นเหมือนนาคลงปากปล่อง เข้าหุบห้องเหวตลอดถึงยอดเขา
พระกล่าวแกล้งแคลงความถามเบาเบา เธอผัวเก่าเราผัวใหม่ใครจะดี
นางแม่เลี้ยงเพียงจะกลืนด้วยชื่นจิต ทำเบือนบิดบ่นว่าน่าบัดสี
ทั้งแว่นแคว้นแดนจังหวัดปฐพี ใครไม่มีเหมือนดั่งพระมังคลา
พระแช่มชื่นฝืนพักตร์ทำรักใคร่ ตามวิสัยที่ในเล่ห์เสน่หา
ครั้นอุทัยไขแสงแต่งสารา แล้วตีตราประจำเพชรกำพล
ให้เรือใช้ใหญ่น้อยไปร้อยเศษ หาประเทศเขตแขวงทุกแห่งหน
ฝ่ายตัวนายหมายจำที่ตำบล ต่างรีบร้นแล่นรายแยกย้ายไป ฯ
๏ ฝ่ายนัดดาวายุพัฒน์ฝึกหัดยักษ์ ให้รู้จักพูดจาอัชฌาสัย
เห็นแน่นอนสอนตามเนื้อความใน แล้วพาไปเฝ้าพระมังคลา
อยู่พร้อมทั้งสังฆราชพระบาทหลวง เห็นผิดท่วงทีถามตามกังขา
เจ้าหัสกันนั้นกับพระวลายุดา ไม่เห็นมาด้วยกันเป็นฉันใด
ให้คอยรับทัพเรือเมื่อขากลับ ไม่รบรับรู้เห็นเป็นไฉน
เมื่อสมทบรบพุ่งที่กรุงไกร ทำไมไม่มาช่วยรบด้วยกัน
วายุพัฒน์ซัดเอาว่าอากับน้อง เขาทั้งสองเรรวนชักชวนฉัน
ให้กลับใจไปเข้าข้างเผ่าพันธุ์ ช่วยป้องทันนัคเรศนิเวศน์วัง
แต่ตัวข้าว่าขาดญาติเสียแล้ว สิ้นเชื้อแถวพ่อแม่มาแต่หลัง
เขาจองจำทำให้อายมาหลายครั้ง แต่พระมังคลาเธอการุญ
ได้ชุบเลี้ยงเคียงองค์ดำรงราชย์ นับเป็นญาติชาติเชื้อได้เกื้อหนุน
เหมือนชนกปกเกศพระเดชพระคุณ ได้ทำบุญข้างฝรั่งเมืองลังกา
จะกลับใจไปเข้าข้างเหล่าร้าย ก็เสียดายเชื้อชาติพระศาสนา
เขาไม่เชื่อเมื่อทัพยกกลับมา พระวลาอากับน้องไม่ป้องกัน
กลับหลีกทางต่างคนตามพลไพร่ ดูเหมือนในใจหมายทำร้ายฉัน
เข้าหุ้มห้อมล้อมรอบเป็นขอบคัน กักกำปั่นมิให้ออกมานอกวง
จึงช้าอยู่ดูทำนองนิ่งตรองตรึก พอยามดึกเกิดลมสมประสงค์
จึงหลบลี้หนีมาหาพระองค์ ด้วยซื่อตรงสัจจาสามิภักดิ์
พระมังคลาว่าทั้งสองมันปองร้าย เสียชาติชายกลายกลับอัปลักษณ์
เจ้ามาหาอานี้ยินดีนัก จะร่วมรักภักดีร่วมชีวา ฯ
๏ บาทหลวงว่ามาแต่แรกก็แปลกจิต มันพูดผิดคิดขาดพระศาสนา
วายุพัฒน์สัตย์ซื่อมันถืออา จงอุตส่าห์สุจริตร่วมจิตใจ
แล้วสอนสั่งมังคลาว่าพระขรรค์ คิดฆ่าฟันมันแพ้คิดแก้ไข
ให้ตื่นแตกแหลกเหลวดั่งเปลวไฟ เราจะได้ยกเข้าตั้งในลังกา
ถ้าช้าอยู่รู้เรื่องเมืองผลึก จะเหิมฮึกคึกคักมาหนักหนา
แล้วลุกไปท้ายกำปั่นฉันน้ำชา สวดภาษาฝรั่งลำพังใจ ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ