- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๔๔)
- คำนำ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
- คำนำเมื่อพิมพ์ครั้งแรก
- ประวัติสุนทรภู่
- บันทึกเรื่องผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
- อธิบาย ว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่
- ปกิรณะกะประวัติของสุนทรภู่
- ตอนที่ ๑ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
- ตอนที่ ๒ นางผีเสื้อลักพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๓ ศรีสุวรรณเข้าเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
- ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
- ตอนที่ ๖ ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน
- ตอนที่ ๗ ศรีสุวรรณพยาบาลนางเกษรา
- ตอนที่ ๘ อภิเษกศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๙ พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
- ตอนที่ ๑๐ พระอภัยได้นางเงือก
- ตอนที่ ๑๑ นางสุวรรณมาลีไปเที่ยวทะเล
- ตอนที่ ๑๒ พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๓ พระอภัยมณีโดยสารเรือนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๑๔ พระอภัยมณีเรือแตก
- ตอนที่ ๑๕ สินสมุทรโดยสารเรือโจรสุหรั่ง
- ตอนที่ ๑๖ สินสมุทรพบศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๑๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๑๘ พระอภัยมณีโดยสารเรืออุศเรน
- ตอนที่ ๑๙ พระอภัยมณีพบศรีสุวรรณกับสินสมุทร
- ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรรบกับอุศเรน
- ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๒ พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๓ พระอภัยมณีอภิเษกกับนางสุวรรณมาลี
- ตอนที่ ๒๔ กำเนิดสุดสาคร
- ตอนที่ ๒๕ สุดสาครเข้าเมืองการะเวก
- ตอนที่ ๒๖ อุศเรนตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๗ เจ้าละมานตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๒๘ สุดสาครตามพระอภัยมณี
- ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก
- ตอนที่ ๓๐ พระอภัยมณีตีเมืองใหม่
- ตอนที่ ๓๑ พระอภัยมณีพบนางละเวง
- ตอนที่ ๓๒ ศรีสุวรรณอาสาตีด่านดงตาล
- ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ
- ตอนที่ ๓๔ นางละเวงคิดหย่าทัพ
- ตอนที่ ๓๕ พระอภัยติดท้ายรถ
- ตอนที่ ๓๖ พระอภัยมณีทำผูกคอตายได้นางละเวง
- ตอนที่ ๓๗ ศรีสุวรรณกับสินสมุทรถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๓๘ นางสุวรรณมาลีข้ามไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๓๙ นางสุวรรณมาลีมีสารตัดพ้อ
- ตอนที่ ๔๐ สุดสาครถูกเสน่ห์
- ตอนที่ ๔๑ นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม
- ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์
- ตอนที่ ๔๓ นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม
- ตอนที่ ๔๔ กษัตริย์สามัคคี
- ตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร
- ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง
- ตอนที่ ๔๗ อภิเษกสินสมุทร
- ตอนที่ ๔๘ นางเสาวคนธ์หนี
- ตอนที่ ๔๙ นางเสาวคนธ์แปลงเป็นฤๅษี
- ตอนที่ ๕๐ นางเสาวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
- ตอนที่ ๕๑ สุดสาครตามนางเสาวคนธ์
- ตอนที่ ๕๒ พระอภัยมณีทำศพท้าวสุทัศน์
- ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๔ มังคลาชิงโคตรเพชร
- ตอนที่ ๕๕ มังคลาจับนางสุวรรณมาลีและท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
- ตอนที่ ๕๗ สุดสาครรบมังคลา
- ตอนที่ ๕๘ นางละเวงวัณฬาช่วยนางสุวรรณมาลีแลท้าวทศวงศ์
- ตอนที่ ๕๙ พระอภัยมณีศรีสุวรรณไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
- ตอนที่ ๖๑ สังฆราชบาทหลวงเผาเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๒ พระอภัยเข้าเมืองลังกา
- ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย
- ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช
- ตอนที่ ๖๕ พระบาทหลวงพาพระมังคลาหนีทัพไปเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๖๖ วลายุดาครองเมืองสินชัย
- ตอนที่ ๖๗ วายุพัฒน์เป็นอุปราชเมืองเซ็น
- ตอนที่ ๖๘ หัสกันครองเมืองสุลาลัย
- ตอนที่ ๖๙ พระอภัยมณีเยี่ยมศพนางมณฑา
- ตอนที่ ๗๐ พระมังคลายกทัพเรือมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
- ตอนที่ ๗๒ สุดสาคร สินสมุทรรบกับพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๓ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันเข้าเฝ้าศรีสุวรรณ
- ตอนที่ ๗๔ ทัพพันธมิตรเมืองกำพลเพชรยกมาช่วยพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๕ พระมังคลาล่าทัพไปถึงเกาะกาหวี
- ตอนที่ ๗๖ ทหารเมืองกำพลเพชรตามนางกฤษณาพบพระมังคลา
- ตอนที่ ๗๗ พระมังคลาได้นางดวงแขลูกสาวเจ้าเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๗๘ อภิเษกพระกฤษณากับนางเทพินไปครองเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๗๙ วลายุดา วายุพัฒน์และหัสกันลามารดากลับไปเมือง
- ตอนที่ ๘๐ พระมังคลายกทัพเมืองสำปันหนาไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๑ ศรีสุวรรณออกรับศึกพระมังคลา
- ตอนที่ ๘๒ โจรสลัดคุมกำปั่นปล้นเมืองรมจักร
- ตอนที่ ๘๓ ศรีสุวรรณมาช่วยเมืองรมจักรรบโจรสลัด แล้วอภิเษกตรีพลำกับอัมพวันและเทวัญกับนิลกัณฐี
- ตอนที่ ๘๔ พระมังคลากับพระบาทหลวงแตกทัพไปเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ
- ตอนที่ ๘๕ พระมังคลาไปถึงเมืองโรมพัฒน์ได้นางบุษบง
- ตอนที่ ๘๖ พระบาทหลวงกับพระมังคลายกทัพเรือเมืองโรมพัฒน์ไปตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๘๗ สุดสาครทราบข่าวศึก
- ตอนที่ ๘๘ พระมังคลากับพระบาทหลวงตีได้เมืองด่านลังกา
- ตอนที่ ๘๙ ทัพสุดสาครตีทัพพระมังคลาพ่าย จนเทวสินธุ์ตามไปถึงเมืองสำปันหนา
- ตอนที่ ๙๐ ท้าวรายากับพระเทวสินธุ์ไปถึงเมืองกำพลเพชร แล้วยกทัพไปเมืองลังกา
- ตอนที่ ๙๑ หกกษัตริย์ยกทัพมาช่วยเมืองลังกาทำศึก
- ตอนที่ ๙๒ พระบาทหลวงรบศึกหกกษัตริย์จนลมแดงซัดเรือรบพลัดกัน
- ตอนที่ ๙๓ สุดสาครตีเมืองด่านแตก
- ตอนที่ ๙๔ พระเทวสินธุ์พบพระมังคลาจนเจ็ดกษัตริย์เตรียมรบ
- ตอนที่ ๙๕ พระมังคลากับพระบาทหลวงยกทัพเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๙๖ ทัพเจ็ดกษัตริย์ตีทัพพระบาทหลวงแตก
- ตอนที่ ๙๗ พระบาทหลวงเตรียมตีเมืองปากน้ำคืน
- ตอนที่ ๙๘ พระบาทหลวงขับท้าวรายากับนางบุษบงไปจากกองทัพ จนพระมังคลาหนี
- ตอนที่ ๙๙ พระบาทหลวงยกเข้าตีเมืองปากน้ำ
- ตอนที่ ๑๐๐ สินสมุทรตีทัพพระบาทหลวงจนถูกยาเบื่อ
- ตอนที่ ๑๐๑ พระอภัยมณีเยือนลังกา
- ตอนที่ ๑๐๒ พระบาทหลวงปล่อยโคมไฟไปตกเมืองลังกา จนถึงพระอภัยมณีห้ามทัพ
- ตอนที่ ๑๐๓ หกกษัตริย์ตีโต้ทัพพระบาทหลวงล่าไปเมืองปตาหวี
- ตอนที่ ๑๐๔ พระอภัยมณีกลับไปเขาสิงคุตร
- ตอนที่ ๑๐๕ อภิเษกหัสกันกับนางวันชายา
- ตอนที่ ๑๐๖ พระอภัยมณีไปเยี่ยมนางเงือกที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๐๗ พระบาทหลวงเข้าเมืองปตาหวีแล้วตามไปพบพระมังคลาที่เมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๐๘ พระมังคลาและนางบุษบงออกมารับพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๐๙ ท้าวโกสัยบอกพระมังคลาให้รู้อุบายพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๐ พระบาทหลวงตีด่านเมืองกำพลเพชร
- ตอนที่ ๑๑๑ พระมังคลามีสารง้อศรีสุวรรณสุดสาครและสินสมุทร ให้มาช่วยรบพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๒ ทัพพระมังคลารบกับทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๓ ทัพศรีสุวรรณกับสี่กษัตริย์ตีกระหนาบทัพพระบาทหลวง
- ตอนที่ ๑๑๔ ทัพเรือพระบาทหลวงเข้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๕ ศรีสุวรรณกับพวกพาพระมังคลากลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๑๖ ท้าวกุลามาลีได้นางดวงประไพลูกสาวท้าวสินชัยเจ้าเมืองกาศึก
- ตอนที่ ๑๑๗ พระมังคลาไปงานโสกันต์ระเด่นกินเรศ
- ตอนที่ ๑๑๘ เจ้าเมืองปตาหวีพานางดวงประไพกลับเมือง
- ตอนที่ ๑๑๙ สุดสาครไปเยี่ยมนางเงือกและพระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร
- ตอนที่ ๑๒๐ สุดสาครกลับเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๒๑ ศรีสุวรรณให้นรินทร์รัตน์ไปครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๒ อภิเษกนรินทร์รัตน์ครองเมืองรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๓ เจ็ดกษัตริย์ยกทัพมาตีเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๔ นรินทร์รัตน์ขอราเมศมาเป็นอุปราชกรุงรัตนา
- ตอนที่ ๑๒๕ นรินทร์รัตน์กับราเมศมาช่วยเมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๖ เจ็ดกษัตริย์ตายสี่หนีสาม
- ตอนที่ ๑๒๗ นรินทร์รัตน์หลงนางเกศพัฒน์เมืองเหมรา
- ตอนที่ ๑๒๘ อภิเษกพระราเมศกับนางดวงประภา
- ตอนที่ ๑๒๙ ภัทวงศ์ไปไหว้เทวรูปจนพบนางเกสรสุมาลัย
- ตอนที่ ๑๓๐ เจ้าเมืองวายุภักษ์ขอนางเกสรสุมาลัยให้ภัทวงศ์
- ตอนที่ ๑๓๑ พระสังฆราชบาทหลวงยกทัพมาตีเมืองลังกา
- ตอนที่ ๑๓๒ ตัดหางสุพรรณมัจฉาแล้วสถาปนาเป็นจันทวดีพันปีหลวง
ตอนที่ ๗๑ นางรำภา นางยุพาผกาและนางสุลาลีวันออกรบ
๏ ฝ่ายฝรั่งลังกาบนหน้าที่ | เห็นคนสีแดงก่ำดั่งน้ำครั่ง |
เรียกกันดูอยู่บนหน้าเสมาบัง | บ้างยืนนั่งเดินไขว่ทั้งไพร่นาย |
บ้างตั้งเตาเอาลูกปรายกรวดทรายคั่ว | หลอมตะกั่วคอยสาดเหมือนมาดหมาย |
ส่วนสามนางต่างแต่งแปลงเป็นชาย | ขึ้นเดินกรายตรวจพลบนกำแพง |
เห็นโยธาข้าศึกล้วนฮึกหาญ | เที่ยวเดินพล่านยืนนั่งไม่บังแฝง |
ยิงปืนใหญ่ใส่ลูกปรายนรายณ์แรง | ถูกคนแดงตายตื่นนับหมื่นพัน |
ด้วยค่ายทำต่ำกว่าเนินเชิงเทินป้อม | ยิงค่ายล้อมแหลกทลายค่ายวิหลั่น |
พวกฝรั่งทั้งปวงทะลวงฟัน | พวกคนธรรม์กองทัพออกรับรบ |
เหล็กฝรั่งทั้งสิ้นเหมือนชินอ่อน | เข้าฟันฟอนยู่ยับกลับตลบ |
ค่ายคนธรรม์พันฟาดขาดกระทบ | ฝรั่งรบถอยหลังเข้าลังกา |
เห็นอาวุธสุดสู้เหล็กยู่ยับ | จะรบรับข้าศึกจึ่งปรึกษา |
เอาทองแดงแท่งทองเหลืองเครื่องสาตรา | ให้โยธาถือทั่วทุกตัวคน |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาดึกห้าทุ่ม | เห็นเมฆกลุ้มคลุมฟ้าเวหาหน |
ให้ตั้งโห่โยธาสัญญาพล | ขึ้นปีนปล้นบนกำแพงกวัดแกว่งคบ |
พวกหน้าที่ตีรันแทงพันฟาด | ตายดื่นดาดกลับมาอีกไม่หลีกหลบ |
ทั้งสามนางต่างไล่ไพร่สมทบ | พวกหอรบป้อมปืนยิงครื้นครึก |
ปืนหลักรายค่ายป้อมยิงพร้อมพรั่ง | ตูมตึงตังทั้งโห่ร้องเสียงก้องกึก |
ดังสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนสะทึก | เสียงคึกคึกคับคั่งประดังกัน |
ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าที่นั่ง | คอยไล่หลังเหล่าพหลพลขันธ์ |
ขึ้นปีนปล้นจนสว่างถึงกลางวัน | ต่างเปลี่ยนกันรบรุดไม่หยุดยั้ง ฯ |
๏ จะกล่าวกลับทัพผลึกออกลึกแล่น | เข้าเขตแดนลังกาพร้อมหน้าหลัง |
ยินเสียงปืนครื้นครั่นสนั่นดัง | ทัพเรือตั้งคั่งคับอยู่นับพัน |
พอเรือใช้ไปถามบอกตามเรื่อง | พระเจ้าเมืองลังกานราสวรรค์ |
ต่างแจงความตามจริงทุกสิ่งอัน | เรือใช้นั้นให้หนังสือที่ถือไป |
แล้วกลับมาพากันเข้าเฝ้าทั้งสาม | กราบทูลความตามได้แจ้งแถลงไข |
พระทรงฟังสั่งมหาเสนาใน | ยิงปืนใหญ่ออกกำปั่นเหมือนสัญญา |
ฝ่ายเรือนำกำปั่นลั่นปืนรับ | เปิดทางทัพแยกย้ายทั้งซ้ายขวา |
ฝ่ายเรือใช้ได้หนังสือรับถือมา | ทูลสุดสาครอ่านสารสุนทร ฯ |
๏ ในเรื่องความสามพระหน่อวรนาถ | กราบพระบาทบพิตรอดิศร |
ด้วยเดิมได้ให้สารสามมารดร | จะโอนอ่อนอัภิวาทบาทยุคล |
พระมังคลามาถึงทั้งสังฆราช | โกรธกริ้วกราดรบพุ่งกรุงสิงหล |
ข้าทั้งสามห้ามไม่หยุดก็สุดจน | จึงพาพลมาบรรจบสมทบกัน |
เมื่อยังเยาว์เบาจิตทำผิดพลั้ง | เพราะพระมังคลาได้ไอศวรรย์ |
เธอใช้สอยพลอยผิดเข้าติดพัน | จึ่งคิคกันทั้งนี้แต่พี่น้อง |
อุตสาหะจะมาสามิภักดิ์ | ด้วยจงรักรู้คุณการุญสนอง |
คิดแยบยลกลศึกยังตรึกตรอง | มิให้ต้องรบพุ่งทั้งกรุงไกร |
ด้วยองค์พระมังคลามีอาวุธ | ประสิทธ์สุดที่จะต้านทานไม่ไหว |
พระแสงขรรค์ฟันลงที่ตรงไร | ลุกเป็นไฟเพลิงผลาญสังหารกาย |
แต่วายุพัฒน์นัดดาสามิภักดิ์ | จะใช้ยักษ์ลักให้ได้ดั่งใจหมาย |
หัสกันนั้นกับข้าอาหลานชาย | ขอขึ้นฝั่งตั้งค่ายฝ่ายอุดร |
แม้นศึกหนักจักสมทบช่วยรบรับ | เหมือนคำนับไว้ในลักษณ์ในอักษร |
พอจบอ่านสารตราสุดสาคร | เอาพับซ่อนเสียมิให้ผู้ใดฟัง |
ทั้งเห็นจริงกริ่งใจสงสัยอยู่ | คงจะรู้ดีร้ายเมื่อภายหลัง |
แล้วเร่งทัพจับพลข้ามวนวัง | เสียงครึกครื้นขึ้นฝั่งข้ามลังกา |
ทั้งพระน้องกองการะเวกผลึก | ล้วนเจนศึกเวทมนตร์ดลคาถา |
ครั้งสำเร็จเสร็จสรรพจับสาตรา | พระทรงมาที่นั่งนิลมังกร |
ทั้งม้าทรงองค์พระกฤษณาน้อง | ถือกระบองเนาวรัตน์ประภัสสร |
ทั้งกระบวนล้วนทหารเคยราญรอน | สุดสาครถือกระบองของอาจารย์ |
แต่นงเยาว์เสาวคนธ์ทรงครรภ์แก่ | ไม่ท้อแท้ตามไล่ไพร่ทหาร |
ขึ้นทรงนั่งหลังสิงห์วิ่งทะยาน | ยกทัพมาหน้าทวารปราการกัน ฯ |
๏ ฝ่ายองค์พระมังคลาทรงม้าต้น | ไล่ต้อนพลขึ้นกำแพงแกว่งพระขรรค์ |
พระกฤษณาถาโถมเข้าโรมรัน | ทรงกระบองป้องกันประจัญบาน |
พระมังคลากล้ารบไม่หลบเลี่ยง | ชักม้าเรียงรำร่าออกหน้าทหาร |
ต่างตีรันฟันต้องกระบองทาน | เป็นเพลิงผลาญพลุ่งโพลงโขมงควัน |
พระกฤษณาม้าล้มลงสลบ | สุดสาครรอนรบรับพระขรรค์ |
ข้างพี่ตีมิได้ต้องข้างน้องฟัน | ไม้เท้ากันก็เป็นไฟไหม้เบาะอาน |
สุดสาครร้อนรนขืนทนได้ | เพลิงลามไหม้เสื้อหมวกพวกทหาร |
นางเสาวคนธ์ขับสิงห์วิ่งทะยาน | เข้ารอนราญรบกับพระมังคลา |
แกว่งภุขรรค์อันที่ได้ไว้แต่เล็ก | ด้วยเป็นเหล็กเพชรพลามวามเวหา |
ทั้งฤทธิ์แก้วแคล้วคลาดเครื่องสาตรา | พระมังคลาฟันฟาดก็พลาดแพลง |
พวกทหารต่อทหารต้านต่อสู้ | หอกดาบยู่แทงฟันเข้มขันแข็ง |
กุมแต่ด้ำกำหมัดเหวี่ยงวัดแวง | คนธรรพ์แทงฟันเข้าช่วยเจ้านาย |
พวกโยธาการะเวกเอกระ | ชกเตะตะต่อยปล้ำล้มคว่ำหงาย |
แย่งอาวุธฉุดคร่าประสาชาย | บ้างล้มตายตะลุมบอนแทงฟอนฟัน ฯ |
๏ ฝ่ายสามนางต่างเห็นทัพรบรับสู้ | เปิดประตูช่วยพหลพลขันธ์ |
หอกดาบทวนล้วนทองแดงไล่แทงฟัน | พวกคนธรรมพ์นั้นยังน้อยต้องถอยรบ |
พระมังคลาม้าล้มแทบลมจับ | เหงื่อโซมซับลับแลงสุดแรงสลบ |
กลับเข้าค่ายชายน้ำพอค่ำพลบ | ทหารรบรายุทธ์ด้วยสุดแรง |
นางเสาวคนธ์ทนประทังพอยั้งพยุด | จะคลอดบุตรสุดจะยืนจะขืนแข็ง |
ระทวยองค์ลงริมทางที่กลางแปลง | จนสิ้นแรงเรียกหาสุดสาคร |
พอรำภามาพบมืดพลบค่ำ | สังเกตจำสำเนียงเสียงสมร |
ลงจากม้าค่อยตระกองประคองกร | อุ้มบังอรขึ้นบนตักสะพักไว้ |
เสาวคนธ์อ้นอั้นป่วนปั่นปวด | รำภานวดผันแปรรู้แก้ไข |
พอยามปลอดคลอดโอรสยศไกร | รำภาใส่หมวกประคองผ้ารององค์ |
แล้วอุ้มนางข้างขวาขึ้นม้าเครื่อง | ควบเข้าเมืองได้สมอารมณ์ประสงค์ |
เรียกให้เปิดประตูรับขับม้าทรง | อุ้มสององค์ตรงขึ้นบนมนเทียรรัตน์ |
สว่างแจ้งแสงชวาลากระจ่าง | กำนัลนางเถ้าแก่มาแออัด |
เรียกภูษาผ้าขาวโขมพัตถ์ | เร่งให้จัดขันทองรองวารี |
มาสระสรงองค์พระหน่อวรนาถ | วางบนอาสน์อ่อนรองผุดผ่องศรี |
ยาชะโลมโซมสุคนธ์พระชนนี | ชื่นอารมณ์สมประดีค่อยมีมา |
น้ำใบส้มต้มสรงอาบองค์อุ่น | ท้าวนางหนุนปฤษฎางค์ข้างซ้ายขวา |
หมอผู้หญิงวิ่งสอทั้งหมอยา | เรียกสุราหาโอสถบดละลาย |
ประทมไฟใส่ถ่านอยู่งานนวด | ที่ป่วนปวดลมเลือดค่อยเหือดหาย |
กุมารร้องก้องปรางค์ไม่วางวาย | พระนมถวายนมเสวยต่างเชยชม |
เจ้าพวกหมอห่อประคบยาครบอย่าง | พวกท้าวนางนอบนบประคบผงม |
ปรุงโอสถรสรื่นชื่นอารมณ์ | ให้ทรงดมดูระวังอยู่พรั่งพร้อม |
สุดสาครร้อนเริงด้วยเพลิงพิษ | อุ้มพระกฤษณาน้องประคองถนอม |
ทั้งเสนาข้าเฝ้าเป็นเหล่าล้อม | ขึ้นบนป้อมปืนใหญ่แก้ไขกัน |
หมอชะโลมโซมยาสุรามฤต | ให้ดับร้อนถอนพิษฤทธิ์พระขรรค์ |
จนดึกดื่นฟื้นองค์คงกระพัน | ฉวีวรรณหวะหนองพุพองพัง |
หมอรักษายาพอกเหมือนลอกคราบ | น้ำมันฉาบแสบริ้วริ้วร้อนผิวหนัง |
สุดสาครร้อนใจเข้าในวัง | เห็นพร้อมพรั่งพระสนมกรมใน |
ทราบว่าเจ้าเยาวยอดเคลื่อนคลอดบุตร | ประคองสุดเสน่หาน้ำตาไหล |
เข้าทูลห้ามทรามชมประทมไฟ | พระลุกไปนั่งดูพระกุมาร |
ประคองกรช้อนเบาะว่าเคราะห์พ่อ | น้ำตาคลอหลั่งลงด้วยสงสาร |
เวียนพิทักษ์รักษาพยาบาล | ดูกุมารแล้วมาเฝ้าปลอบเสาวคนธ์ ฯ |
๏ ฝ่ายพระมังคลากลับมาค่าย | ไม่สมหมายที่จะชิงเอาสิงหล |
ด้วยพี่น้องสององค์อันคงทน | เสียไพร่พลนับแสนยิ่งแค้นใจ |
จนยามดึกตรึกตรองให้ข้องขัด | ยิ่งกลุ้มกลัดพลิกกลับไม่หลับใหล |
นางแม่เลี้ยงเคลียงคลอพระหน่อไท | อย่าเสียใจไว้แม่จะแก้แค้น |
คิดบอกข่าวราวเรื่องเมืองน้อยใหญ่ | เกณฑ์พลไว้ใช้สอยสักร้อยแสน |
อันหนึ่งท้าวเจ้าประเทศทุกเขตแดน | เสมอแม้นมารยักษ์มีศักดา |
ยังพวกพ้องของท้าวรามเดช | หลายประเทศทั้งพระวงศ์เผ่าพงศา |
มาสมทบรบพุ่งกรุงลังกา | สักพริบตาก็จะได้ดั่งใจจง |
พระฟังความยามทุกข์ลุกขึ้นนั่ง | ด้วยสมหวังดั่งจิตคิดประสงค์ |
กอดแม่เลี้ยงเคียงแอบไว้แนบองค์ | อุตส่าห์ทรงจุมพิตด้วยคิดรัก |
มิเสียทีมีแม่ช่วยแก้แค้น | ก็เหมือนแม้นแม่พยุงให้สูงศักดิ์ |
ได้เช่นนั้นฉันนี้ยินดีนัก | เคยรู้จักเจ้าเมืองได้เลื่องลือ |
อันเมืองออกนอกเพชรกำพลนั้น | ทั้งพงศ์พันธุ์พวกผู้ตายมากมายหรือ |
อยากจะใคร่ได้ที่มีฝีมือ | จะได้รื้อรบพุ่งเอากรุงไกร ฯ |
๏ นางกฤษณาว่าเมื่อคราวผัวเก่าอยู่ | พาไปดูแดนป่าชลาไหล |
อันถิ่นฐานบ้านเมืองเนื่องกันไป | ข้างทิศใต้ถึงยักษ์ขอบจักรวาล |
แต่ที่ต่อหรดีนั่นมีเกาะ | คนเหมือนเงาะงวงชดเหมือนคชสาร |
ประเทศที่มีต้นแตนทำแทนตาล | ขยำดินกินหวานสำราญใจ |
ดูหัวกลมผมพริกหยุกหยิกยุ่ง | เข้ารบพุ่งแทงฟันไม่หวั่นไหว |
แต่คนเราเข้าไปหาภาษาไร | ก็เข้าใจพูดจาภาษานั้น |
เคยไปมาหาท้าวรามเดช | หนทางสามเดือนเศษถึงเขตขัณฑ์ |
จะเชิญมาหาด้วยได้ช่วยกัน | ชอบกับฉันชื่อพระเสาร์เป็นเจ้านาย |
ที่เมืองอื่นขึ้นกับเพชรกำพลเล่า | พวกผัวเก่าเหล่าสนิทมิตรสหาย |
เชื้อคนธรรพ์มันขี้มักเป็นยักษ์กลาย | ที่อยู่ปลายสุดถิ่นมันกินคน |
มีต่างต่างร่างกายเหมือนชายหญิง | มิใช่ลิงค่างชะนีแต่มีขน |
จะให้หาตราเมืองเพชรกำพล | ทุกตำบลมาบรรจบรบลังกา ฯ |
๏ พระทราบสิ้นยินดีเป็นที่ยิ่ง | แม่เป็นหญิงยอดมนุษย์สุดจะหา |
พลางกอดเกยเชยชมภิรมยา | แนบอุรารัดรึงเข้าคลึงเคล้า |
อัศจรรย์นั้นเหมือนนาคลงปากปล่อง | เข้าหุบห้องเหวตลอดถึงยอดเขา |
พระกล่าวแกล้งแคลงความถามเบาเบา | เธอผัวเก่าเราผัวใหม่ใครจะดี |
นางแม่เลี้ยงเพียงจะกลืนด้วยชื่นจิต | ทำเบือนบิดบ่นว่าน่าบัดสี |
ทั้งแว่นแคว้นแดนจังหวัดปฐพี | ใครไม่มีเหมือนดั่งพระมังคลา |
พระแช่มชื่นฝืนพักตร์ทำรักใคร่ | ตามวิสัยที่ในเล่ห์เสน่หา |
ครั้นอุทัยไขแสงแต่งสารา | แล้วตีตราประจำเพชรกำพล |
ให้เรือใช้ใหญ่น้อยไปร้อยเศษ | หาประเทศเขตแขวงทุกแห่งหน |
ฝ่ายตัวนายหมายจำที่ตำบล | ต่างรีบร้นแล่นรายแยกย้ายไป ฯ |
๏ ฝ่ายนัดดาวายุพัฒน์ฝึกหัดยักษ์ | ให้รู้จักพูดจาอัชฌาสัย |
เห็นแน่นอนสอนตามเนื้อความใน | แล้วพาไปเฝ้าพระมังคลา |
อยู่พร้อมทั้งสังฆราชพระบาทหลวง | เห็นผิดท่วงทีถามตามกังขา |
เจ้าหัสกันนั้นกับพระวลายุดา | ไม่เห็นมาด้วยกันเป็นฉันใด |
ให้คอยรับทัพเรือเมื่อขากลับ | ไม่รบรับรู้เห็นเป็นไฉน |
เมื่อสมทบรบพุ่งที่กรุงไกร | ทำไมไม่มาช่วยรบด้วยกัน |
วายุพัฒน์ซัดเอาว่าอากับน้อง | เขาทั้งสองเรรวนชักชวนฉัน |
ให้กลับใจไปเข้าข้างเผ่าพันธุ์ | ช่วยป้องทันนัคเรศนิเวศน์วัง |
แต่ตัวข้าว่าขาดญาติเสียแล้ว | สิ้นเชื้อแถวพ่อแม่มาแต่หลัง |
เขาจองจำทำให้อายมาหลายครั้ง | แต่พระมังคลาเธอการุญ |
ได้ชุบเลี้ยงเคียงองค์ดำรงราชย์ | นับเป็นญาติชาติเชื้อได้เกื้อหนุน |
เหมือนชนกปกเกศพระเดชพระคุณ | ได้ทำบุญข้างฝรั่งเมืองลังกา |
จะกลับใจไปเข้าข้างเหล่าร้าย | ก็เสียดายเชื้อชาติพระศาสนา |
เขาไม่เชื่อเมื่อทัพยกกลับมา | พระวลาอากับน้องไม่ป้องกัน |
กลับหลีกทางต่างคนตามพลไพร่ | ดูเหมือนในใจหมายทำร้ายฉัน |
เข้าหุ้มห้อมล้อมรอบเป็นขอบคัน | กักกำปั่นมิให้ออกมานอกวง |
จึงช้าอยู่ดูทำนองนิ่งตรองตรึก | พอยามดึกเกิดลมสมประสงค์ |
จึงหลบลี้หนีมาหาพระองค์ | ด้วยซื่อตรงสัจจาสามิภักดิ์ |
พระมังคลาว่าทั้งสองมันปองร้าย | เสียชาติชายกลายกลับอัปลักษณ์ |
เจ้ามาหาอานี้ยินดีนัก | จะร่วมรักภักดีร่วมชีวา ฯ |
๏ บาทหลวงว่ามาแต่แรกก็แปลกจิต | มันพูดผิดคิดขาดพระศาสนา |
วายุพัฒน์สัตย์ซื่อมันถืออา | จงอุตส่าห์สุจริตร่วมจิตใจ |
แล้วสอนสั่งมังคลาว่าพระขรรค์ | คิดฆ่าฟันมันแพ้คิดแก้ไข |
ให้ตื่นแตกแหลกเหลวดั่งเปลวไฟ | เราจะได้ยกเข้าตั้งในลังกา |
ถ้าช้าอยู่รู้เรื่องเมืองผลึก | จะเหิมฮึกคึกคักมาหนักหนา |
แล้วลุกไปท้ายกำปั่นฉันน้ำชา | สวดภาษาฝรั่งลำพังใจ ฯ |