วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๗ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๗ เมษายน ๒๔๗๗

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัดถ์ลงวันที่ ๒๙ มีนาคม และลงวันที่ ๑ เมษายน รวม ๒ ฉะบับ ได้รับประทานแล้ว

อันข่าวลือต่างๆ นั้น เกล้ากระหม่อมคิดว่าย่อมต้องมีมูล ผู้ที่ใส่ใจในมูลนั้นก็คือคิดแล้วก็ออกความเห็นทำนาย คำทำนายกลายเปนข่าว พอมีคนตื่นข่าวพวกหาประโยชน์ก็หลอนประสม ที่จะปั้นข่าวขึ้นโดยไม่มีมูลเลยเห็นจะเปนได้ยาก ตามที่ฝ่าพระบาททรงแต่หนังสือพิมพ์บางกอกไตมส์ฉะบับเดียวนั้นดีแล้ว เพราะข่าวที่เขาลงนั้นเขากรองแล้ว ที่น่ารู้เขาจึงลง ถ้าจะทรงฉะบับอื่นด้วยก็เสียเวลาเปล่า ๆ เพราะจะพบแต่สวะมากมาย

ฟังตรัสเล่าถึงคอนเวนต์ รู้สึกมีใจปีติโมทนา เขาทำบุญจริง เปนประโยชน์แก่มนุสชาติจริงเท่าที่กำลังจะทำได้ น่าเลื่อมใสยิ่งนัก ในคอนเวนต์เขาประดิษฐานรูปพระเรื่องพระไว้ทุกหนแห่ง ก็เพราะทางของเขาจะชักจูงให้คนถือศาสนา โรงเรียนเราติดรูปฟุตบอลก็คือจะจูงใจให้คนนิยมเล่นฟุตบอล เปนทางกระทำอย่างเดียวกัน ต่างกันแต่ความประสงค์เท่านั้น

เปนพระเดชพระคุณอย่างยิ่ง ที่ทรงพระเมตตาโปรดชี้แจงเรื่องเจ้าศักดิประเสริฐไปให้ทราบ เพียงที่ตรัสเล่าไปเท่านั้นเปนอันพอทีเดียวแล้ว ไม่จำเปนต้องถึงประทานวันเดือนปีประกอบ เปนอันเกล้ากระหม่อมคิดคาดถูกที่มาทูลถามฝ่าพระบาท ถ้าหากไปถามที่กระทรวงมหาดไทยคงจะไม่ได้เรื่องมากี่มากน้อย

ที่นี้จะทูลถวายข่าว งานวันที่ ๑ ซึ่งเขาจะมีที่ท้องสนาม ตามที่ทูลล่วงหน้ามาก่อนแล้วนั้น ถึงวันมีงานคนเขาไปดูมาเล่าว่าเฟเลียที่กำหนดว่าจะตักบาตรพระสงฆ์ ๕๐๐ ว่ามีพระมาสัก ๒๐ เพราะนิมนต์โดยทางประกาศวิทยุ ของเหลือมูลมอง ว่าต้องขนส่งเข้าไปถวายพระในวัดมหาธาตุ การเล่นกีฬาก็ไม่ได้เล่น ว่าเพราะไม่มีที่เล่นคนเต็มหมด ที่คนมาเต็มแน่นนั้น เพราะออกสวีปลอตเตอรี่ พอกรรมการเอาตั๋วออกขายก็ยกพื้นหักเพราะแย่งกันขึ้นไปซื้อ การที่เขาคิดจะมารดน้ำนั้นงดไป เปลี่ยนเปนมีผู้แทนราษฎรรวม ๕ คน เอาดอกไม้กับก๊าดมาส่งไว้ที่บ้านท่าช้าง ทราบว่าที่สมเด็จพระพันวัสสาก็ทำอย่างเดียวกัน

เกิดมีการแทรกเข้ามาใหม่ นายจำรัส มหาวงศน่าน ยื่นเรื่องราวทางกระทรวงวัง ว่าเจ้านายเมืองน่านสั่งมา ให้จัดเครื่องดำหัวถวายสมเด็จพระพันวัสสากับเกล้า/*๑๑กระหม่อม ตามประเพณีเมืองเหนือ เจ้าพระยาวรพงศเห็นควรรับจึงได้รับเขาวานนี้ มีนายจำรัส มหาวงศน่านมาเปนประมุข พร้อมด้วยคุณหญิงดรุพันธุพิทักษ กับคุณหญิงพินิตวนาดร ผู้เปนบุตรทั้งสองคน กับเจ้าสุ่น ณ ลำปางว่าเปนหลาน พร้อมด้วยหญิงชายอีกมาก แห่ดอกไม้ธูปเทียน น้ำสะหัว และเมี่ยงหมากมาให้ ได้เลี้ยงดูและแจกของแถมพกให้เขาเล็กน้อยแต่พอได้ เพราะรู้ตัวเร็วจัดไม่ทัน

เวลาเย็นไปถวายบังคมพระบรมรูป ด้วยเปนวันที่ระลึกมหาจักรีที่ปราสาทพระเทพบิดร การเปนไปเหมือนอย่างเคย แต่ที่ปฐมบรมราชานุสรณ์กร่อยมาก ไม่มีการตกแต่งอะไรเลย พวงหรีดที่คนนำไปถวายก็น้อย

พระอาการกรมหมื่นพงษาที่ไม่ดี หมอว่าเปนโรคพระบังคนเบาหวาน ฐานฝีมีลักษณเปนไหไม่เปนอ่าง อุ้มเอาพระบุพโพขังไว้ หมอว่าถ้าหากเซาะซอนไปแล้วก็รักษายาก จะเขียนอะไรถวายมากกว่านี้อีกไม่ได้เพราะหมดเวลา พวกญาติมิตรมารดน้ำสงกรานต์เจียดเอาเวลาไปเสียหมด เมื่อสามสี่ปีล่วงมาแล้วสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านมีธุระมาหา ประจวบเวลาสงกรานต์ ท่านมาพูดอยู่ก็มีคนมารดน้ำเนืองๆ ไป ที่สุดท่านออกปากว่าเหมือนเข้าวรรษาของพระ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ