หมายกำหนดการฉลองพระบรมรูปพระบาทสมเดจพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แลวันที่รฦกมหาจักรี

เมษายน พระพุทธศักราช ๒๔๗๐

วันที่ เวลา รายการ ที่ แต่งกาย
๔ เมษ ๕.๐๐ ล.ท. ทรงบัญจุ ปราสาทพระเทพบิดร ปกติ
สวดมนตร์พระ ๔๖ รูป } ในพระอุโบสถ
๕ เมษ ๑๐.๓๐ ก.ท. เลี้ยงพระ
๖ เมษ เที่ยงวัน
อาทิตย์ขึ้น ถึงอาทิตยตก
เวียนเทียนสมโภช
ถวายบังคมพระบรมรูป
ปราสาทพระเทพบิดร

เจ้าพระยาวรพงศพิพัฒน ผู้รั้งตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้า ฯ สั่งว่า เมื่อวันที่ ๔ มีนาคมศกนี้ได้ทรงหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นไว้ ดังแจ้งอยู่ในหมายกำหนดการฉบับที่ ๑๙ ลงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์นั้น บัดนี้การทำสำเร็จแล้ว จึ่งเชิญไปประดิษฐานยังที่ในปราสาทพระเทพบิดร โปรดเกล้า ฯ ให้กำหนดการฉลองมีรายการดังนี้

วันที่ ๔ เมษายน เจ้าพนักงารจะได้แต่งการในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม บนปราสาทพระเทพบิดร จัดการเชิญพระบรมรูปเปลี่ยนที่ประดิษฐานใหม่ พระบรมรูปรัชกาลที่ ๑ คงที่กลางปราสาทตามเดิม เชิญพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ ตั้งเคียงรัชกาลที่ ๑ ข้างเหนือ ตั้งพระบรมรูปรัชกาลที่ ๖ เคียงรัชกาลที่ ๑ ข้างใต้ ในคูหาผนังตั้งพระบรมรูปรัชกาลที่ ๒ ไว้กลาง ข้างเหนือตั้งพระบรมรูปรัชกาลที่ ๓ ข้างใต้ตั้งพระบรมรูปรัชกาลที่ ๔ ตั้งเครื่องราชสักการแลเครื่องบัญจุกับทั้งสิ่งอื่น ๆ ในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรชัยวัฒนประจำรัชกาลปัจจุบัน แลรัชกาลที่ ๖ แลตั้งอาสนสงฆแลเครื่องนมัสการซึ่งจะได้สวดพระพุทธมนตรฉลอง

ถึงเวลา ๕ นาฬิกาหลังเที่ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิรยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จขึ้นปราสาทพระเทพบิดร ประทับพระราชอาสน เจ้าพนักงารภูษามาลาเชิญพระบรมทนตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระกรัณฑทองลงยา พระกรัณฑทองน้อย แลพระสุพรรณบัฎจารึกพระปรมาภิไธย กับดวงพระชาตาสามกาล คือพระบรมราชสมภพ บรมราชาภิเษก แลสวรรคต รวมในแผ่นเดียวถวายทรงม้วนพระสุพรรณบัฎบัญจุลงในพระกรัณฑทองลงยา แลทรงบัญจุพระบรมทนตลงในพระกรัณฑทองน้อยบัญจุในพระกรัณฑทองลงยาด้วยแล้ว เสด็จพระราชดำเนิรขึ้นบันไดทรงบัญจุพระกรัณฑทองลงยาซึ่งบัญจุแล้วนั้นลงในเบื้องสูงพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาวประโคม ๆ ศังข แตร เครื่องดุริยดนตรี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองลงยาแลเครื่องทองน้อยถวายสักการแล้ว เสด็จพระราชดำเนิรลงจากปราสาทพระเทพบิดร เสด็จเข้าในพระอุโบสถทรงประเคนผ้าไตรกับย่ามแก่พระสงฆ ๔๖ รูป จำนวนเท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพระสงฆออกไปครองไตรใหม่จะได้ทรงจุดเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแลพระพุทธรูปอันสำคัญ พระสงฆกลับขึ้นนั่งยังอาสนแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายศีล แล้วพระสงฆทั้งนั้นรวม ๔๖ รูปสวดพระพุทธมนตรจบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนิรกลับ

วันที่ ๕ เมษายน เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๐ นาฑีก่อนเที่ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิรยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จขึ้นปราสาทพระเทพบิดร ถวายเครื่องราชสักการพระบรมรูป แล้วเสด็จเข้าในพระอุโบสถ พระราชทานเทียนให้มหาดเล็กเชิญไปบูชาพระพุทธรูป แล้วทรงเครื่องนมัสการทรงศีล พระสงฆสวดถวายพรพระจบแล้วทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆกระทำภุกตากฤตยแล้วทรงประเคนไทยธรรม พระสงฆถวายอนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายอดิเรก สมเด็จพระราชาคณะถวายพระพรลา เสดจพระราชดำเนิรกลับ

เจ้าพนักงารจะให้ตั้งบายศรียังปราสาทพระเทพบิดรเบิกแว่นเทียนสมโภชพระบรมรูป

วันที่ ๖ เมษายน เปนกำหนดวันที่รฦกมหาจักรี จะได้เปิดปราสาทพระเทพบิดร เพื่อพระบรมวงศานุวงศ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทแลราษฎรเข้าถวายบังคมพระบรมรูปทั้ง ๖ รัชกาล กำหนดเวลาตั้งแต่อาทิตยขึ้นถึงอาทิตยตก แลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะได้เสดจพระราชดำเนิร

การแต่งกาย แต่งเครื่องปรกติทุกวันเวลา

กระทรวงวัง

หมายมา ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม

พระพุทธศักราช ๒๔๖๙

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ