วันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ดร

บ้านซินนามอน ฮอลล์ ปีนัง

วันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๗๗

ทูล สมเด็จกรมพระนริศรฯ

เรื่องที่จะทูลบันเลงในสัปดาหะนี้เปนเรื่องปลีก และเปนเรื่องยืดยาวกว่า ๘๐ หน้ากระดาษ

หม่อมฉันได้ทูลไปแต่ก่อน ว่าตั้งใจจะแต่งจดหมายรายวันที่ไปเมืองชะวาเมื่อเดือนมิถุนายน เหมือนกับได้เคยแต่งครั้งไปเกาะสุมาตราเมื่อเดือนมกราคมปีกลายนั้น เผอิญครั้งนี้ประจวบเวลาหม่อมฉันหาของถวายเฉลิมพระขวัญสมเด็จพระพันวัสสาฯ ในงานเฉลิมพระชันษาครบ ๖ รอบปี ณ วันที่ ๑๐ กันยายน จะหาซื้อหรือให้สร้างสิ่งอันใดเปนของถวาย ก็อัตคัดขัดข้องเพราะเปนเวลามาอยู่บ้านอื่นเมืองไกล จึงแต่งจดหมายรายวันนั้นให้พิสดารกว่าเจตนาเดิม เรียกว่า “เล่าเรื่องไปชะวาครั้งที่สาม” เปนของถวายสมเด็จพระพันวัสสา

หม่อมฉันส่งสำเนาหนังสือนั้นมาถวายท่านฉะบับ ๑ พร้อมกับจดหมายนี้ด้วย หวังว่าคงจะชอบพระหฤทัย

อนึ่ง หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉบับลงวันที่ ๕ กันยายน ขอทูลสนองความบางข้อในลายพระหัตถ์ คือ

๑. เรื่องอิเหนาเมื่อทูลไปยังไม่ได้สอบหนังสือที่หม่อมฉันแต่งไว้ข้างท้ายหนังสือเล่าเรื่องไปชะวาครั้งที่สามยังถ้วนถี่กว่านั้น ขอให้ทรงอย่าข้ามเสีย

๒. เรื่องชื่อนางประไหมสุหรีกับนางมะเดหวีนั้น หม่อมฉันพบศาสตราจารย์คัลเลนเฟล (คือตายักษ์ ที่ท่านได้พบที่นครวัดนั้นเอง) จะไล่เลียงแกต่อไป

๓. เรื่องเกาะมะละกา ที่ทรงพระดำรินั้นถูกแล้ว จะทูลเพิ่มเติมให้เจ็บแสบต่อไปอีก ด้วยหม่อมฉันได้เคยพบอธิบายในหนังสือเรื่อง ๑ ว่า ที่เรียกชื่อว่า เกาะมาลุกา เพราะมีไม้ผลอย่าง ๑ ซึ่งเรียกว่ามาลุกา (คือมะละกอ) มาก เอาชื่อนั้นมาเรียกเมืองในแหลมมะลายูต่อภายหลัง เพราะเหตุที่มีต้นมะละกอมากเหมือนกัน

๔. เรื่องขุดขุมทรัพย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์นั้น ตั้งแต่ไปดูมาแล้วหม่อมฉันเองก็ติดใจ กำลังพยายามสืบสวนหาความรู้ต่อไป ได้สมุดมาจากหอสมุดเมืองปีนังเล่ม ๑ เจ้าเมืองปีนังให้ยืมมาเล่ม ๑ กำลังศึกษาอยู่ แต่มันอยู่ข้างยากเหลือเกิน ด้วยนามศัพท์ที่ใช้มีภาษาลาตินบ้าง ภาษากรีกบ้าง ไม่ใคร่เข้าใจ จะต้องเอาไว้ไล่เลียงตาคัลเลนเฟลอีก แต่เรื่องมันแปลกจริง ๆ ขอประทานเวลาหาความรู้เสียก่อน ถ้ารู้พอจะเขียนเล่าถวายได้เมื่อใด จะเขียนถวายให้พอพระหฤทัย ในจดหมายนี้ขอทูลแต่ข้อ ๑ ว่า ที่ฝรั่งเรียกว่า สมัยประวัติศาสตร์นั้น นับเวลาถอยหลังขึ้นไปเพียง ๖,๐๐๐ ปีเท่านั้น ด้วยมีจารึกของอียิปต์เปนประวัติปรากฏก่อนที่อื่น ก่อนนั้นขึ้นไปนับว่าเปนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เพราะรู้เรื่องราวได้แต่ด้วยคาดคะเน

หม่อมฉันขอขอบพระเดชพระคุณที่ทรงพระกรุณาต่อหญิงจง ตามจดหมายของเธอก็ได้บอกมาให้ทราบ และว่าอาการของเธอเดี๋ยวนี้ค่อยคลายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เรื่องการกินอยู่ของหม่อมฉันที่ปีนังนั้น แม้ได้ส่งหยาดกลับเข้าไปก็ไม่เดือดร้อน สังเกตมายังกินอาหารเอร็ดอร่อยอยู่เหมือนแต่ก่อน แต่ส่วนหญิงจงนั้น หยาดเปนคนสำคัญที่เคยเปนลูกมือของเธอ และรู้ว่าเธอชอบกินอย่างไร นอกจากนั้นได้คุ้นเคยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก จะเปนประโยชน์ในการปฏิบัติวัตฐากให้ถูกใจหญิงจงด้วย

เมื่อเขียนจดหมายนี้แล้วได้ทราบข่าวว่า สมเด็จกรมพระสวัสดิฯ กับพระองค์หญิงอาภา ไปเที่ยวทางเมืองอีโปะห์ในอาณาเขตต์แปะระ รถยนต์ที่ทรงไป ๆ ถูกรถบรรทุกชน ต้องบาดเจ็บทั้ง ๒ พระองค์ สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ฯ เปนแต่มีบาดแผลที่พระหนุ แต่พระองค์หญิงอาภานั้นต้องบาดเจ็บอาการมาก ว่าที่พระนลาตหนังเปิกถึงแลเห็นอัฐิ ที่ขอบพระเนตร์ฟกช้ำ พระกรเปนบาดแผลต้องเย็บว่าถึง ๑๐ เข็ม นอกจากนั้น ที่พระองค์ยังฟกช้ำเขียวไปทั้งนั้น ต้องเข้าอยู่โรงพยาบาลที่นั่น ผู้ที่ไปเยี่ยมกลับมาบอกว่าหมอยังจะฉายเอ๊กซเรตรวจต่อไปว่าจะบุบสลายเข้าไปถึงข้างในหรือไม่ ตำบลที่ไปเกิดเหตุนั้นว่าระยะทางห่างปีนัง รถยนต์เดินกว่า ๕ ชั่วโมง หม่อมฉันนึกอยากจะไปเยี่ยมก็ออกท้อใจด้วยแก่ชะรา เคยไปเมืองไต๊เผงครั้ง ๑ ไปมาเพียง ๔ ชั่วโมงเศษก็ฟก ลูกเต้าเขาห้ามด้วย ก็เปนอันพ้นอุตสาหะที่จะไปเยี่ยมได้

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. ตีพิมพ์แล้ว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ และ พ.ศ. ๒๔๙๒ อยู่ในชุดประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๗ ดูหน้า ๑๗๘

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ