วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๗๗

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๒๑ ได้รับล่า ไม่ทันที่จะระบุมาในหนังสือซึ่งเขียนถวายเมื่อวันที่ ๒๔ ในลายพระหัตถ์ฉะบับนั้นตรัสอธิบายถึงหลักคิดอายุโลกด้วยอายุคน พอทราบเค้าอันนั้นก็เข้าใจได้ทันทีทีเดียว เพราะเคยอ่านพระคัมถีร์เก่า ซึ่งกล่าวถึงอาดัมเอวาลงมาถึงตานัว แล้วก็ลูกหลานมียาขบยิสราเอลและใคร ๆ ไม่กี่ชั่วก็หมด จำนวนปีซึ่งโลกเกิดจึงน้อยนัก ทางอินเดียเขายังฉลาดกว่า เขาเกณฑ์ให้คนแต่ก่อนมีอายุยืนตั้งสี่หมื่นปี

เมื่อวานนี้ได้รับลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๒๖ ซึ่งตรัสอธิบายวิชาก่อนประวัติศาสตร์ในผแนกคน ประกอบพร้อมด้วยรูปตัวอย่าง เจ้าหน้าที่เขานำมาส่งรวดเร็วจึงสามารถเขียนระบุมาถวายทันในเมลนี้ เปนพระเดชพระคุณอย่างยิ่ง ที่ทรงพระอุตสาหะเขียนประทานไป แต่ถ้ำมหาสนุกนั้นลึกเข้าติดจะรู้สึกมึน ๆ ไปไม่ค่อยจะซึมซาบ เพราะไม่เคยรู้ไม่เคยคิดอะไรเกือบหมดนั้น ตามที่ตรัสอธิบายรู้สึกได้ทันทีอย่างเดียวแต่ลิงผิดกับคนที่มันไม่มีหน้าผาก เพราะเกล้ากระหม่อมเคยพิจารณาดูลิงเมื่อทำแบบรูปกระบี่ติดหัวเรือยนต์ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ตามคติของเกล้ากระหม่อมทำของโบราณไม่ทำตามที่เรียนมาเสมอไป มักหาดีในทางประกอบด้วยของจริง เมื่อจะทำรูปกระบี่ติดหัวเรือจึงหันไปดูลิง เห็นมันเข้าก็หงายท้อง หน้ามันพอหมดคิ้วก็ลาดเปนขม่อมเลยไปทีเดียว ไม่มีที่จะใส่มงกุฎหรือมาลาทองอย่างเช่นเขาทำหน้าหณุมานกันเลย เลยเอาอย่างลิงจริง ๆ ไม่ได้ แต่ได้ทราบตระหนักแต่คราวนั้นว่าลิงไม่มีหน้าผาก

ตามที่ว่าคนกลายมาแต่ลิงนั้น เดิมเกล้ากระหม่อมก็เชื่อว่าควรจะเปนจริงเช่นนั้น แต่เมื่อมาฟังตรัสอธิบายคราวนี้ก็เห็นจริงว่าเปนไปไม่ได้ ถ้ากลายมาจากลิงแล้วลิงก็จะต้องไม่มีเหลืออยู่ ที่นักปราชญ์ตัดสินว่ามาแต่รากแก้วอันเดียวกันเท่านั้นย่อมสมควรอยู่มาก

เรื่องความเปลี่ยนแปลงของสัตว์ตามที่อยู่และการกินของมันนั้นก็ถูกที่สุด เกล้ากระหม่อมเคยได้ทราบเรื่องเรืออะไรลำหนึ่ง เดินอยู่กรุงเทพฯ กับที่ไหนไม่สู้ไกลนัก ในเรือลำนั้นมีห้องเย็นสำหรับเก็บเนื้อ เมื่อเอาเข้าอู่ซ่อมแซมใหญ่พบในห้องเย็นนั้นมีรูหนูกัดทลุเข้าไป แล้วจับตัวหนูได้มีขนยาวเปนเฟอผิดกว่าหนูสามัญ เห็นได้ว่ามันเปลี่ยนไปได้ด้วยไม่ต้องนานเท่าใด เหตุด้วยมันเข้าไปขะโมยเนื้อในห้องเย็นกิน

ขออนุโมทนาที่ทรงพระเมตตาแผ่พระกุศลประทานในการทรงบำเพญพระกุศลอุททิศถวายทูลกระหม่อม และพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ขอให้ทรงพระเจริญพร้อมด้วยพระญาต

เขาเกณฑ์ไปทอดพระกฐินหลวงแทนพระองค์วันที่ ๓ วัด พรุ่งนี้ ๓ วัด วัดตามเคยเหม็นเบื่อเต็มที

ชายดิศได้เขียนหนังสือขอพระกรุณาให้ทรงแต่งงานมายื่นแล้ว ได้มอบให้กระทรวงวังเขาไปดำริการ พระยาเทวาให้ข่าวว่าโหรหาฤกษ์ได้วันที่ ๑๗ พฤษจิกายน แล้วเขาก็ไปวิ่งหาพยานในการพิธีสมรส ส่วนฝ่ายชายเขาไปเฝ้าทูลปรึกษาพระองค์ขาว ทรงกะพระองค์เององค์หนึ่ง กะกรมขุนชัยนาทอีกองค์หนึ่ง เขาไปทูลกรมขุนชัยนาทไม่ทรงยอมรับ เกล้ากระหม่อมเอาความมาเล่าให้ลูก ๆ ฟัง ลูก ๆ ออกความเห็นพร้อมกันว่า “ควรจะเอาเจ้าพี่หญิงพูนเข้ามาเปนพยาน เด็จพ่อควรจะรับสั่งให้หาออกไป” เกล้ากระหม่อมก็รับว่าได้ จึงนำความกราบทูลออกมา โปรดรับสั่งให้หญิงพูนทราบด้วย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. หม่อมเจ้าดิศศานุวัติ ดิศกุล ทรงเสกสมรสกับหม่อมเจ้าลุอิสาณ จักรพันธุ์

  2. ๒. หม่อมราชวงศ์เทวาธิราช ป.มาลากุล

  3. ๓. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าอัพภันตรีปชา ประสูติ ๓๑ ตุลาคม สิ้นพระชนม์ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๗

  4. ๔. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาถนเรนทร ประสูติ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๒๘ สิ้นพระชนม์ ๒๘ มกราคม ๒๔๙๕ ต้นราชสกุล “รังสิต”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ