วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ดร

บ้านซินนามอน ฮอลล์ ปีนัง

วันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๗

ทูล สมเด็จกรมพระนริศรฯ

ก่อนหม่อมฉันจะไปชะวามีเวลาพอจะเขียนจดหมายถวายได้อีกคราวหนึ่ง หม่อมฉันจึงเขียนจดหมายฉะบับนี้ให้หญิงมารยาตรถือมาถวาย เรื่องที่จะทูลก็มีแต่เรื่องเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ที่นึกไว้แล้วลืมเสียบ้างเปนเรื่องที่มีใหม่บ้าง เรื่อง 卐 นั้นมีมาก หม่อมฉันไม่อยากจะเขียน ได้เล่าให้หญิงมารยาตรฟังมาทูลด้วยวาจา เรื่องที่จะทูลในจดหมายฉะบับนี้มีแต่เรื่องเบ็ดเตล็ด คือเรื่องหนึ่ง พระยาเทวาธิราชมีแก่ใจส่งหนังสือวิสาขะปี ๒๔๗๗ นี้ที่ได้รับรางวัลที่ ๑ มาให้หม่อมฉันกับลูก แรกเปิดดูข้างต้นเห็นรายงานผู้รั้งอธิบดีศิลปากร กราบทูลถึงความลำบากในการตัดสินรางวัลในเวลาที่เลิกราชบัณฑิตยสภาเสียแล้ว และราชบัณฑิตยสถานก็ยังไม่ได้ตั้งขึ้น รู้สึกจับใจ แต่ที่เขาแก้ไขให้การสำเร็จไปได้ก็ดีหนักหนา หาไม่หนังสือวิสาขะบูชาก็จะพินาศไปด้วย จดหมายพระองค์อาทิตย์รับสั่งส่งคำตัดสินก็แต่งดี และที่ทรงตัดสินให้ นายอ่ำ ศรีเปารยะ ได้รับรางวัลที่ ๑ หม่อมฉันก็ถวายอนุโมทนาด้วย ต่อไปเมื่อเปิดถึงรูปผู้แต่ง จะเปนด้วยรูปถ่ายไม่ดีหรือรูปสมบัติแกจะเปนอย่างนั้นเองก็ตาม ไม่ชวนให้คาดว่าจะแต่งหนังสือดี แต่เมื่ออ่านไปต้องยอมว่าแต่งดีทั้งสำนวนและความคิด สมควรได้รับรางวัลที่ ๑ จริงๆ ถ้าหม่อมฉันอยู่กรุงเทพฯ คงจะพยายามทำความคุ้นเคยกับผู้แต่งหนังสือเรื่องนี้ เสียดายอยู่หน่อยที่ในหนังสือไม่ปรากฎว่าผู้แต่งมีอาชีพเปนตำแหน่งอันใด สังเกตเครื่องแต่งตัวก็รู้ไม่ได้ว่าเปนทหารหรือพลเรือน หม่อมฉันมาคิดดูเห็นว่าหนังสือวิสาขะที่ได้รับรางวัลเปนหนังสือดีทั้งชุด น่าจะใช้สอนเด็กให้กว้างขวาง พระราชประสงค์ก็จะให้เปนเช่นนั้น จึงโปรดฯ ให้พิมพ์พระราชทานถึงปีละ ๑๐,๐๐๐ ฉะบับ แต่มิได้ยินว่าบังคับให้ใช้ในโรงเรียน นานไปน่ากลัวจะสูญเสีย ขอทูลแนะนำให้ทรงรวบรวมไว้ในห้องสมุดให้ครบชุด เหมือนอย่างสั่งให้นายสมบุญช่วยทำสำหรับหม่อมฉัน

อีกเรื่องหนึ่งเจ้าพระยาวรพงศ์ฯ ส่งสมุดเรื่องประวัติพระราชชายาฯ มาให้หม่อมฉันเล่ม ๑ เข้าใจว่าเขาคงถวายท่านเหมือนกัน ในหนังสือว่าเจ้าแก้วนวรัฐเปนผู้แต่ง แต่ดูสำนวนและความคิดน่าจะเปนผู้อื่น แต่งดีหนักหนา เสียดายแต่ขาดความสำคัญในเรื่องประวัติของพะราชชายาฯ ไปข้อหนึ่ง คือเรื่องรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเปนเหตุให้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์มหาวชิรมงกุฎ ถึงกระนั้นก็ต้องนับว่าเปนหนังสือแต่งดี ที่จริงใครแต่งท่านทรงทราบหรือไม่ จะถามไปทางเจ้าพระยาวรพงศ์ฯ ก็ดูประหนึ่งหมิ่นประมาทเจ้าแก้วนวรัฐ

ทรงจำได้หรือไม่เมื่อเราอยู่หาดใหญ่ด้วยกัน หม่อมฉันไปซื้อหมวกที่ตลาดหาดใหญ่มาใบ ๑ ราคา ๑,๕๐ บาท ท่านเสด็จตามไปซื้ออีกใบ ๑ ซื้อได้ราคา ๑,๒๕ บาท ได้ใส่หมวกที่ซื้อนั้นมาด้วยกันตลอดเวลาที่สงขลา จะทูลรายงานต่อไปว่าหม่อมฉันยังใช้หมวกใบนั้นอยู่จนบัดนี้ ด้วยเผอิญมันเข้ากับหัวพอเหมาะเจาะเหลือเกิน แลดูไกลๆ ก็ไม่เสียพระเกียรติยศ แต่เมื่อเข้าใกล้คนอื่นต้องระวังไม่ให้เขาจับต้อง พระมาลาใบที่ทรงซื้อนั้น ยังทรงอยู่หรือทิ้งเสียแล้ว อยากรู้ข้อนี้จึงเอามาลงในจดหมาย

หม่อมฉันได้ทูลไปในจดหมายแต่ก่อนฉะบับ ๑ ว่าได้ไปทำพิธีวิสาขะที่วัดปูโลติกุสเมื่อกลางเดือน ๖ ด้วยพระที่นี่ไม่รู้ว่าปีนี้มีอธิกมาศ และหม่อมฉันได้ให้เอาสมุดปฏิทินหลวงไปถวายพระเล่ม ๑ จะเปนด้วยได้เห็นปฏิทินนั้นหรืออย่างไรไม่ทราบ กลางเดือน ๗ นี้ แกทำพิธีวิสาขะซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ในคราวนี้มีพระภัทรมุขมุนี (ชิต) วัดพิชัยญาติการามมาพักอยู่ที่วัดนั้น นัยว่าลงมาจากกรุงเทพฯ ด้วยหมายจะไปเฝ้าทูลกระหม่อมชายที่ชะวา มีลิขิตไปถวายยังไม่ได้รับตอบจึงคอยอยู่ที่ปีนัง เมื่อวันกลางเดือนเธอมีลิขิตส่งสำเนาธรรมิกกถา ที่เธอจะแสดงในวันนั้นมาให้หม่อมฉันด้วย หม่อมฉันก็ไปหาเธอที่วัดในวันนั้น ได้บอกบุญแก่เธอขอให้พักอยู่ปีนัง เพื่อสั่งสอนพระสงฆ์ให้รู้ระเบียบการต่าง ๆ สักเดือนหนึ่งหรือสองเดือน หม่อมฉันรับปวารณาจะเลี้ยงดู เธอรับอาราธนาจะกระทำตาม เห็นจะเปนประโยชน์ได้มิมากก็น้อย

ในจดหมายของหม่อมฉันที่ถวายไปเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ได้ทูลถึงเรื่องที่จะไปชะวา ครั้นเมื่อส่งจดหมายฉะบับนั้นไปแล้วได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ตรัสประภาษถึงเรื่องที่หม่อมฉันจะไปชะวา จึงรู้สึกว่าทูลเรื่องนั้นซ้ำเปนสองหน ขอประทานโทษ.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประสูติ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๔๗ สิ้นพระชนม์ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๘๙

  2. ๒. ทรงหมายถึงจอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประสูติ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๒๔ สิ้นพระชนม์ ๑๘ มกราคม ๒๔๘๗ ต้นราชสกุล “บริพัตร”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ