วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๗ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๗๗

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๕ ประทานไปพร้อมทั้งรูปฉายาลักษณ์อีก ๓ รูปได้รับประทานแล้ว เปนพระเดชพระคุณล้นเกล้า

พอเห็นรูปแตรกัมพูเล่นเอาสดุ้งและสบถในใจว่าตายโหง ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะใหญ่กว้างถึงปานนั้น เครื่องเป่าโดยลำลองของมันที่เข้ากระบวนแห่ของเรามี ๓ อย่าง คือ ๑ สังข์ เปนแบบรับมาแต่อินเดียเปนแน่ ๒ แตรงอน ดูรูปเห็นได้ว่ามาแต่เขา (งัวควาย) ซึ่งใช้กันอยู่ทุกประเทศ เห็นจะเปนของเราเอง ไม่ได้รับอย่างใครมา ๓ แตรฝรั่ง ในชื่อของมันเองก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่ารับอย่างมาจากฝรั่ง ตามที่ทรงกะว่าจะมาในแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรมหรือพระนารายณ์นั้น ควรจะถูกต้องเปนอย่างยิ่งแล้ว แต่จะเปนของรับมาเติมเข้าใหม่หรือจะใช้เปลี่ยนแตรชะนิดใดนั้น ยังมืดมนท์นึกไม่ออก แต่อย่างไรก็ดี รูปแตรกัมพูตามที่ปรากฏในรูปฉายาลักษณ์ซึ่งประทานไปนั้น แต่เกิดมายังไม่เคยเห็นเลยเปนแน่ ไม่เคยเห็นทั้งของจริงและของเขียน ไม่ว่าในรูปของไทยของจีนของแขกฝรั่งชาติใด ๆ เลย ประหลาดอย่างยิ่งจะได้พยายามตรวจตราสังเกตหนังสือหนังหาและรูปเขียนต่อไป ถ้าได้เค้าอย่างไรก็จะกราบทูล พิจารณาดูรูปแตรกัมพูเห็นว่าความคิดจะเอาอย่างมาแต่เสียงช้างร้อง และรูปแตรที่ทำงอชูขึ้นไปก็เอาแบบช้างชูงวงเมื่อส่งเสียงร้องนั้นเอง

รูปศาสตราจารย์คัลเลนเฟลส์ถ่ายกับฝ่าพระบาทพร้อมด้วยพระธิดานั้นก็ไม่เลว เห็นเข้ารู้สึกใจเปนอย่างไรทูลไม่ถูก แต่มิได้นึกถึงยักษ์กับมนุษย์อย่างที่ตรัสไป ไปนึกเสียถึงพระประธานกับพระสาวก อย่างไรก็เปนรูปที่น่าดูไม่เลวเลย

ขอบพระเดชพระคุณเปนอันมาก ที่ทรงพระเมตตาตรัสเล่าประวัติของท่านผู้หญิงโม้ให้ทราบเกล้า แกก็มีสติปัญญารู้ประมาณการดีอยู่มาก

มีเรื่องขันที่จะเล่าถวาย วันหนึ่งภิกษุพระยาดำรงราชพลขันธ์วิ่งมาหาร้องขอว่าให้ช่วยดับวิปปฏิสาระของเจ้าคุณอุปัชฌา (พระพรหมมุนี) สักทีเถิด เหตุเกิดขึ้นด้วยพระยาดำรงสละตราประถมาภรณมงกุฎสยาม บูชาพระพุทธเจ้าไว้ที่พระประธานในพระอุโบสถวัดบรมนิวาส ทำให้เจ้าคุณพรหมตกใจกลัวอะไรไปร้อยแปดประการตามประสาอิน พระยาดำรงจะอธิบายแก้ไขสักเท่าใดท่านก็ไม่เชื่อจะถอนตรากลับก็ไม่ได้เพราะได้อุทิศแล้ว เกล้ากระหม่อมก็รับธุระจึงไปหาเจ้าคุณพรหม ชี้แจงให้ท่านเข้าใจว่า ตรานั้นมีกฎหมายบังคับอยู่แต่เพียงว่าผู้ได้รับพระราชทานตายแล้ว ทายาทต้องส่งคืนคลัง ตามที่เคยมีมาตราเปนอันตรธานไป ทายาทส่งไม่ได้ คิดเงินใช้ให้เจ้าพนักงานซื้อดวงตราเข้าคลังแทนก็ได้ ยิ่งกว่านั้น แม้ผู้ได้รับพระราชทานแต่งไปตกหาย เขาก็ไปซื้อจากคลังมาใช้แทนได้ เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรที่พึงวิตก ให้ทายาทของพระยาดำรงไปซื้อมาไว้ที่บ้านใหม่อีกดวงหนึ่ง เมื่อพระยาดำรงตายทายาทก็เอาส่งแทนก็แล้วกัน แล้วเกล้ากระหม่อมก็ช่วยสนับสนุนพูดกับพระยาดำรงว่า จงบอกลูกชายให้ไปหาเกล้ากระหม่อม จะช่วยจัดการให้สำเร็จไป เจ้าคุณพรหมท่านท้วงว่าราคามากอยู่ เกล้ากระหม่อมแก้ว่าถึงมากเท่าไรเขาก็มีเงินพอซื้อได้ ท่านท้วงอีกว่าเอาตรามาถวายพระจะมิผิดดอกกระมัง เกล้ากระหม่อมแก้ว่าไม่มี ชี้ตัวอย่างให้ท่านเห็น มีเรื่องคล้ายกันเช่นนี้ คือพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ออกไปบวชที่เมืองลังกา ไปสร้างพระเจดีย์ เอาเครื่องยศที่ได้รับพระราชทานทุกอย่างประจุบูชาไว้ในนั้น ครั้นเธอกลับเข้ามาเธอก็มาหาซื้อใช้แทนใหม่ เธออยู่ได้จนทุกวันนี้ ไม่เห็นมีผิดอะไร ตามคำสนทนากันนี้ดูทีท่านจะพอแล้วพาไปดูในพระอุโบสถ เห็นสายสะพายคล้องนิ้วพระหัตถ์พระพุทธรูปห้อยอยู่ ก็คือพระยาดำรงเอาอย่างพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงสละสายสะพายนพรัตนบูชาพระชินราชนั้นเอง แต่สายนพรัตนที่พระชินราชเปนแต่ผ้าเปล่า นี่มีดวงตราเล็กติดอยู่กับสายสะพายด้วย ก็ไม่ประหลาดอะไร เพราะตราเล็กมงกุฎสยามไม่มีราคาแพงเหมือนตรานพรัตนซึ่งมีเพ็ชรพลอยฝัง

พระองค์หญิงขาวทรงประชวนพระอาการมากน่าวิตก เกล้ากระหม่อมไปฟังพระอาการก็พบพวกดิศกุลคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง ชื่อว่ามิได้ทอดทิ้ง

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ