วันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๗ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๕ กันยายน ๒๔๗๗

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ตรัสเล่าสำเนาเรื่องอิเหนา พอใจเปนอย่างยิ่ง เพราะว่าอยากทราบมานานแล้ว แต่ทราบไม่ได้เลย ผู้ที่ได้ไปเมืองชะวากันมาแต่ก่อนก็อยากทราบกันอยู่เหมือนกัน แต่ไปสืบถามทางคนสามัญซึ่งเขาไม่ได้เอาใจใส่จึ่งไม่ได้ทราบเรื่อง ฝ่าพระบาททรงจับถูกได้ศาสตราจารย์คัลเลนเฟล ซึ่งเขาเปนนักปราชญ์ทางโบราณคดี จึงได้เรื่องสมบูรณทั้งทางนิทานพื้นเมืองและเรื่องจริง เค้าเรื่องนิทานพื้นเมืองของเขาตรงกับเค้าเรื่องอิเหนาใหญ่หรือดาหลังในเมืองเราทีเดียว เราก็เข้าใจกันเช่นนั้นว่าเรื่องอิเหนาใหญ่เปนเรื่องเดิม อิเหนาเล็กเปนเรื่องแก้ แต่เราไม่เคยมีความรู้ว่าเรื่องอิเหนามีมูลเปนเรื่องจริง ข้อนี้ขอยกถวายฝ่าพระบาทว่าเปนผู้ทรงค้นพบ ท่วงทีจะเปนอย่างพงศาวดารเหนือเรานี้เอง มูลจริงก็มีบ้าง แล้วก็เล่าขี้หกอะไรประกอบเข้า เรื่องนางลูกท้าวกุเรปัน ที่เรียก สการตาจี คือนางบุษบานั้น มาคล้ายกับชื่อนางสการวาตี เมียอิเหนาคนหนึ่งในเรื่องของเรา ขอประทานกราบทูลสิ่งที่เกล้ากระหม่อมคิดเห็นและค้นพบในเรื่องอิเหนา เพื่อประกอบพระปัญญาบารมีบ้าง ชื่อประไหมสุหรีจะเคลื่อนคลาดมาจากคำปริเมศวรีแห่งภาษาสํสกฤต มดีหวีจะเคลื่อนคลาดมาจากคำมหาเทวีแห่งภาษาสํสกฤตเหมือนกัน อิเหนาข้ามมลกา ไม่ใช่เกาะมลกา (Malacca) ซึ่งตั้งอยู่ในช่องระหว่างคาบสมุทรมลายูกับสุมาตรานั้นเลย เพราะในเรื่องว่าข้ามจากเกาะบาหลีซึ่งอยู่ใต้เกาะชวาไป จึงได้ค้นแผนที่แถบนั้นดู พบเกาะอันหนึ่ง อยู่ตรงข้ามเกาะบาหลีไปทางตะวันออกเขียนชื่อไว้ว่า Malucca จะอ่านว่า มลุกกา หรือ มลักกาก็ได้ ในท้องเรื่องหมายกล่าวถึงเกาะนั้นเปนแน่ทีเดียว

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ตรัสเล่าถึงการขุดขุมทรัพย์ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ ฟังตรัสเล่าทำให้หลงใหลในใจมาก ด้วยวิชาในสาขาอันนี้ยังไม่เคยสนใจมาเลย เปนการเริ่มแรกเรียนที่จะรู้ขึ้นใหม่ทั้งสิ้น ผิดกันไปคนละทางทีเดียวกับการขุดค้นดูสิ่งก่อสร้างของโบราณ นับว่าสนุกไม่แพ้กันเลย แต่การขุดขุมทรัพย์ก่อนสมัยประวัติศาสตร์นี้ เห็นจะต้องทำบันทึกจดหมายเหตุติดไปอย่างละเอียด จึงจะเปนประโยชน์แก่ผู้รักเรียนได้ดี ถ้าละเลยหละหลวม ความรู้ที่ได้พบเห็นขึ้นก็สูญไปเปล่า เพราะพยานหลักฐานลางอย่างจะเก็บไว้ดูไม่ได้

สิ่งที่ขุดได้จะกราบทูลประสมประเสได้แต่อย่างเดียว คือก้อนดินแดงที่ประทานไป เห็นเหมือนกับก้อนดินแดงซึ่งมีผู้ให้เกล้ากระหม่อมแต่ก่อนก้อนหนึ่ง เขาเรียกว่าดินแดงเทศ เขาว่าพวกแขกนับถือว่าเปนของดี ใช้ทำอะไรต่าง ๆ ตั้งแต่ย้อมผ้าขึ้นไปทีเดียว เกล้ากระหม่อมเคยค้นหาเรื่องพิธีถีบชิงช้าทางฮินดู พบมีการสาดน้ำตรงกับรำเสนงของเรา แต่ว่าน้ำนั้นละลายดินแดง กับได้เคยเห็นแขกแต่งเครื่องขาวมีรอยเปื้อนสีสวรรค์ขึ้นรถร้องเอะอะผ่านไปมาตามถนนอยู่ทุกปี ได้ถามพราหมณ์ศาสตรีบอกว่าเปนวันปีใหม่ของเขา ได้ซักถึงเสื้อผ้าว่าทำไมจึงเปื้อนสีสวรรค์ แกบอกว่าเขาสาดน้ำกันอย่างไทยเราสาดน้ำสงกรานต์กันนี่แหละ แต่น้ำของเขาละลายดินแดง เมืองนี้หาดินแดงยากเขาก็เอาสีสวรรค์แทน เกล้ากระหม่อมก็นึกได้ว่าเคยเห็นเสื้อผ้าของพวกเหล่านี้เปื้อนเปนสีดินแดง ไม่ใช่สีสวรรค์ก็มี นี่ล้วนเปนพยานประกอบคำศาสตราจารย์คัลเลนเฟล ว่าแม้พวกอินเดียทุกวันนี้ก็ยังนับถือทาน้ำดินแดงอยู่

ฟังตรัสเล่าถึงศาสตราจารย์คัลเลนเฟลเดินไต่คันนาต้องมีคนพะยุงสองข้างเพราะแกอ้วนใหญ่ ทำให้สดุ้งใจว่าทีจะเปน “ตายักษ์” เสียดอกกระมัง เกล้ากระหม่อมเคยไปพบแกที่นครวัด อยู่โฮเตลเดียวกัน ทราบว่าเปนศาสตราจารย์วิลันดาในขาของเก่า ๆ แกจะชื่ออะไรจำไม่ได้เลย เพราะเรียกกันว่าตายักษ์จำได้ง่ายกว่าเสียแล้ว คงเปนคนนั้นเปนแน่ ทำให้รู้สึกใส่ใจในแกขึ้นอีกเปนอันมาก

ในเรื่องขุดขุมทรัพย์ก่อนสมัยประวัติศาสตร์นี้ ถ้าได้ทรงทราบอะไรต่อไปอีก ได้โปรดประทานรายงานไปให้ทราบด้วย จะเปนพระเดชพระคุณล้นเกล้า เกล้ากระหม่อมผูกใจอยู่ยิ่งนัก เห็นสนุกมาก

ขอทูลแถมถวายเรื่องวัดราชประดิษฐ ในศิลาจารึกนั้นมี ๒ ประกาศ คือประกาศสร้างวัดถวายพระสงฆธรรมยุตติกนิกาย ลงพุทธศักราช ๒๔๐๗ กับประกาศผูกสีมา ลงพุทธศักราช ๒๔๐๘ สร้อยชื่อสถิตยมหาสีมารามจะต้องเปลี่ยนภายหลังปีประกาศนี้ อันประกาศนี้คงจะได้เขียนลงกระดาษไว้ก่อน เพราะพระอุโบสถทำทีหลัง จารึกแผ่นศิลาติดหลังพระอุโบสถคงจะถ่ายจากกระดาษ แต่ก็คงอยู่ในรัชชกาลที่ ๔ นั้นเอง

จะทูลข่าวกรุงเทพฯ พบนายเฟโรจี บอกข่าวให้ทราบว่า นายฟอรโน ลาไปเยี่ยมบ้านนั้นจะไม่กลับมาอีกแล้ว

ไปเยี่ยมหญิงจง เห็นร่างกายผ่ายผอมไปเปนอันมาก แต่เธอว่าเธอค่อยสบายค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว เพราะเอาพระวรสุนทโรสถมารักษา นั่นแปลว่าทำถูก เพราะพระวรสุนทโรสถเคยรักษามาก่อน ร่างกายเธออ่อนแออยู่ที่ไหนเขาย่อมรู้ ย่อมจับถูกที่ได้ทันที ที่ไปเอาหมอญี่ปุ่นมารักษาก็เพราะเชื่อว่าเขาชำนาญทางฝีในท้อง คงจะช่วยให้หายได้ แต่ธรรมดาหมอใหม่ย่อมต้องมาคลำ ทำให้เสียรอยไป

ไปเยี่ยมหญิงจงได้พบหม่อมหยาด ว่าฝ่าพระบาทส่งกลับเข้าไปช่วยพยาบาลหญิงจงเพื่อการทำของกิน ทำให้ใจเกล้ากระหม่อมเฉลียวมาถึงฝ่าพระบาท ใครจะทำเครื่องถวายได้เสวยได้ถูกพระอารมณ์ เปนเหตุให้เกิดวิตกแก่เกล้ากระหม่อมขึ้น ที่จริงทางบางกอกไม่สำคัญเท่าไรเลย พี่น้องมีถมไปช่วยกันได้ ให้หญิงอี่ไปอยู่กับหญิงจงก็ได้ ทางปีนังเข้าใจว่ากันดารสำคัญกว่า

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. พระวรสุนทโรสถ (เพี้ยน สิงหชัย)

  2. ๒. หม่อมหยาด (หม่อมห้าม) ในสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ