วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๗

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัดถ์ลงวันที่ ๑๗ ได้รับประทานแล้ว

ส้มอียิปต์ที่ทรงพระเมตตาโปรดประทานไปกลายเปนส้มเมืองจัฟฟาท่าเมืองเจรูซาเลมนั้น ดูพิสดารขึ้นอีกมาก เกล้ากระหม่อมยังไม่เคยได้ยินชื่อเมืองจัฟฟามาเลย รู้จักดีแต่เมืองเจรูซาเลมทำให้ระลึกถึงเพลงร้องเมื่อครั้งกระโน้น

ตุ๊กตาญี่ปุ่นในกาบหอย ซึ่งทรงพระเมตตาโปรดประทานไปนั้นเปนการใหญ่มาก ไปรษณีย์ส่งถึงแต่วันอังคารที่ ๑๙ เวลาเย็น แต่จะเล่นไม่ได้เพราะหลาน ๆ กลางวันไปเรียนหนังสือเกล้ากระหม่อมก็ไปราชการ กลับบ้านเวลาค่ำ หลาน ๆ ก็ง่วงนอนงัวเงีย ตกลงเปนอันต้องรอไว้เล่นวันอาทิตย์ซึ่งเปนวันที่หลาน ๆ หยุดเรียนอยู่บ้านพร้อมกันหมด และเกล้ากระหม่อมก็ไม่ต้องไปไหน แต่ครั้นจะทิ้งหอยนั้นวางไว้ก็กลัวหลานคนใดคนหนึ่งจะมาแหกดูเสีย เพราะแต่ละคนซนมิใช่เล่น ต้องเอาเก็บเข้าลิ้นชักซ่อนไว้ด้วยใจตึกตักก่อน จนถึงวันอาทิตย์จึงได้ประชุมเล่นตุกตา เอาลงทิ้งน้ำตามที่ตรัสสั่ง บัดเดี๋ยวเดียวมันก็แผลงฤทธิฝาหอยเปิด สิ่งที่อยู่ภายในก็ทะลึ่งขึ้นมาหรูหราเปนสีเขียว ๆ แดงๆ เด็กๆ เชียกันอึกทึกสนุกพอทีเดียว ขอบพระเดชพระคุณอย่างยิ่ง

ตามพระดำรัสเล่าถึงขนมจีนน้ำพริก นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อเกล้ากระหม่อมไปสิงคโปร์ครั้งกระโน้น ได้เคยรับขนมจีนของพระยาอัษฎงคต (กิมเจ๋ง) แกส่งมาให้กิน แกจะทำเองหรือซื้อมาให้อย่างไรก็ไม่ทราบ หน้าตาก็เปนขนมจีนอยู่ในชามมีเหมือดโรยหน้า มีน้ำพริกราดทับบนเหมือด แต่น้ำพริกนั้นไม่น่ากิน ดูเปนน้ำขมิ้นปนกับพริก รดชาดจะเปนอย่างไรไม่ทราบ น่าสายหยืดไม่ได้รับประทาน อ้ายกับข้าวใส่ขมิ้นนั้นสันนิษฐานว่าเปนของแขก จึงได้นึกว่าขนมจีนนั้นเปนของแขกหรือไร ยังไม่ทราบอะไรแน่นอนจนเดี๋ยวนี้

ธงตราแผ่นดินสามรัชชกาลเก่า ทำเปนสองสี ใช้ชักต่างกาละถูกตามที่ทรงจำไว้ได้จริงแล้ว นึกตามพระดำรัสอ้างถึงเสาธงตามป้อม จำได้ว่ามีที่ป้อมเล็กเหนือและใต้พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ ระหว่างพระที่นั่งกับประตูแต่จะได้เคยชักธงอะไรจำไม่ได้ นอกจากนั้นก็จำได้ว่ามีที่ป้อมเหนือตำหนักแพที่นั้นเวลาเสด็จลงตำหนักแพแล้ว ชักธงตราแผ่นดินทีเดียว เสาธงตามวังเจ้านึกไม่ได้เลยนอกจากที่วังหน้า ได้ลองถามแม่โตแกจำเสาธงที่หน้าหอรัษฎากับที่ป้อมเผด็จได้ พระองค์เจ้าธานีก็ควรจะจำได้ แต่เธอจะเสียทีที่เธอไปเมืองนอกเสียแต่เล็ก กลับมาเขาก็เอาลงเสียหมดแล้ว เสาหน้าพระที่นั่งจักรีคนเคยเห็นจะต้องอายุ ๗๐ แน่

พระที่นั่งเมืองมัณฑเลนั้น ลักษณทำเปนฐานก่ออิฐถมดินเปนชาลากว้างใหญ่ มีบันไดก่อเปนทางขึ้นหลายแห่ง บนนั้นปลูกพระที่นั่งและเรือนข้างในเปนเรือนไม้ทั้งนั้น เกล้ากระหม่อมคิดสำคัญในใจว่าอ้ายฐานก่อถมขึ้นนี้แหละ ได้แก่ที่โบราณว่าเกยลา ตกหล่นจากคำเกยชาลา กรมหลวงสรรพสิทธิตรัสเล่าถึงวังที่เวียงจันทรก็เช่นเดียวกันนั้น แต่เรือนไม่มีแล้วเหลือแต่เกยลา ฝ่าพระบาทก็เคยตรัส ว่าแต่ก่อนเรือนที่อยู่เปนไม้ทั้งนั้น บรรดาของก่อล้วนเปนพุทธวิหารและเทวาลัยทั้งสิ้น จึงมาเกิดสงสัยขึ้นบัดนี้ว่าเรือนคนจะทำเปนตึกกันขึ้นเมื่อไรเล่า พระที่นั่งในกรุงเก่าที่เปนของก่อเหลืออยู่ สังเกตเห็นไม่แก่เกินแผ่นดินพระนารายณ์ขึ้นไปเลย ฝ่าพระบาทเคยทรงพระดำริทางนี้อยู่บ้างหรือหาไม่

ในกรุงเทพ ฯ เวลานี้ มีละครสัตวเข้ามาโรงหนึ่งชื่อว่าอิสาโก (Isako) ยังไม่เคยยินชื่อมาก่อนเลย ตั้งเตนต์ลงเล่นที่สวนสนุก กลางคืนแต่งไฟฟ้าเขียว ๆ แดง ๆ หรูหราตลอดทางเข้า แต่จะเล่นตามเคยหรือน่าดูยังไม่ทราบ จะต้องสืบถามคนที่ไปดูมาแล้วเสียก่อน แต่ดูเหมือนมีสัตวมากกว่าโรงที่เข้ามาแล้วแต่ก่อน หญิงอี่ได้พาลูกหลานไปดูสัตวเขาว่าค่าดูคนละ ๓ สตางค์ ครั้นไปถึงมันจะเอาคนละ ๒๐ สตางค์ เงินเอาไปไม่พอ เข้าไม่ได้ เลยเราะดูตามรั้วแล้วก็กลับ

เมื่อวันเสาร์เกิดการตื่นเต้นกันยกใหญ่ ด้วยหลวงพิบูลสงครามถูกคนยิงที่ท้องสนามหลวง ไม่จำเปนที่จะเล่าถวายยิ่งไปกว่านี้ เพราะหนังสือพิมพ์เขาลงละเอียดละออ หลานคงจะได้อ่านแล้วเล่าถวายโดยถี่ถ้วน

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. จอมพล ป.พิบูลสงคราม

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ