บันทึกความสำนึกในวิธีราชาภิเษกแบบพะม่า

พิจารณาตำราสถาปนาพระเจ้าแผ่นดินแบบของพะม่า ได้ความพอใจเปนอันมาก ด้วยเขาทำการแบ่งเปนส่วนดี ทำพิธีเปนสองภาคต่างวารต่างฤกษกัน คือพิธีรับราชาภิเษกภาคหนึ่ง และพิธีเถลิงพระแท่นสิงหาสนอีกภาคหนึ่ง

ภาคราชาภิเษก ทำณโรงพิธี (ต้องกับที่มีในพระบาลีเรียกว่ามณฑป คือปะรำเครื่องสด) อันปลูกขึ้นจำเพาะการที่ภายนอกพระราชฐานชั้นใน แห่เสด็จออกไปสู่โรงพิธี เริ่มงานด้วยทรงสนานพระกายก่อน เข้าใจว่ามีความหมายเพื่อทำพระกายให้บริสุทธิก่อนเข้าพิธี ดุจพราหมณ์ทำอาตมศุทธิ์เริ่มก่อนทำพิธีใด ๆ ฉะนั้น สรงแล้วจึงเสด็จขึ้นประทับบนอะไรอันหนึ่งซึ่งจะว่าเสียว่าตั่ง พราหมณ์ ๘ คนถวายอภิเษกเปนพระราชาแล้วเป็นเสร็จการแห่เสด็จกลับเข้าพระราชมนเทียร

ภาคเถลิงพระแท่นสิงหาสน์ ทำในพระราชมนเทียร เสด็จออกประทับพระแท่นสิงหาสน์พร้อมด้วยพระอัครมเหษี พระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งในกรุงและหัวเมืองเฝ้า อาลักษณ์อ่านพระสุพรรณบัตรประกาศพระนามแล้วถวาย ทรงรับพระสุพรรณบัตรแล้ว พระบรมวงศานุวงศและข้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายเครื่องสักการะ เจ้าประเทศราชถวายเครื่องบรรณาการ เสร็จแล้วเสด็จขึ้นเปนเสร็จการ

จะอธิบายลักษณะพระราชมนเทียรของพะม่า ตามที่ผู้บันทึกเรื่องนี้ได้เคยไปเห็นมาที่เมืองมัณฑเล ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านตำราราชาภิเษกของพะม่าได้เข้าใจดีขึ้น คือที่ประทับเสด็จออกนั้นตั้งคาบอยู่กับฝาด้านหน้าพระที่นั่งซึ่งตรงนั้นมีช่องพระทวารสูง พระแท่นอยู่นอกพระที่นั่งทับแนบกับหน้าพระทวาร หลังพระทวารมีบันไดขึ้นทางภายในพระที่นั่ง เวลาจะเสด็จออกนั้นเผยพระทวารก่อน แล้วเสด็จขึ้นบันไดออกพระทวารก็ถึงพระแท่นเสด็จประทับทีเดียว ที่พระบรมวงศานุวงศและข้าทูลละอองธุลีพระบาทเฝ้านั้นทำเป็นศาลาสามหลังปลูกเรียงกันอยู่หน้าพระที่นั่ง แต่ไม่ติดกับพระที่นั่ง ในสถานที่เสด็จออกนั้นมีกำแพงกั้นล้อมเปนขอบเขตต์ มีช่องประตูเข้าออก ท่าทางคล้ายที่เสด็จออกมุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทของเรานี้

สิ่งที่น่าสนใจในตำราราชาภิเษกของพะม่ามี

๑) พระราชยานซึ่งทรงเสด็จออกไปโรงราชพิธีนั้นเรียกว่า “วอ” ทำให้รู้ขึ้นว่าคำ วอ นั้นเปนคำพะม่า แต่ว่าสังเกตลักษณะไม่ใกล้กับวอของเราเลย ดูจะใหญ่โตมากเพราะมีนางขึ้นนั่งบนนั้นได้อีกถึง ๔ คน

๒) นาง ๔ คนซึ่งขึ้นบนวอไปด้วยนั้น จะเปนผู้ที่รับอภิเษกเปนพระมเหษีด้วยกระมัง

๓) พราหมณ์ ๘ คนที่ถวายน้ำมนตร์นั้น เห็นจะไม่จำเปนว่าต้องถวาย ๘ ทิศ จะเปนแต่กำหนดคณะพราหมณ์เท่านั้นก็ได้ เช่นพราหมณ์ที่ไปขอประทานช้างแต่พระเวสสันดรก็กล่าวว่า ๘ คน

๔) “ปะเยียตปัน” ที่ว่าเปนดอกไม้วิเศษ ซึ่งพราหมณ์ทั้ง ๘ ถวายพร้อมด้วยน้ำมนตร์นั้น เห็นจะไม่พ้นใบมะตูมไปได้

๕) ใช้เศวตฉัตรตั้งข้างสิงหาสน์ถึง ๘ คัน ใกล้มาทางเครื่องอภิรมจัดเปนสำรับทางเรา เหนือสิงหาสน์นั้นกั้นเศวตฉัตรไม่ได้ เพราะพระแท่นติดแนบกับพระทวาร

วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๗๗

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ