สมุดไทยเล่มที่ ๗

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายพญาพาลีแกล้วกล้า
เสด็จออกบัญชรรจนา พร้อมหมู่มาตยามนตรี
หมอบกลาดดาษไปจนสุดเนตร ดั่งเทเวศร์เฝ้าองค์โกสีย์
ว่าขานกิจจาการธานี อยู่ที่สิงหาสน์ไพชยนต์
เหลือบเห็นทศพักตร์อุ้มนาง เหาะลอยมากลางเวหน
ล่วงเข้าในภพมณฑล ข้ามมหาไพชยนต์ปราสาทชัย ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ ให้พิโรธโกรธกริ้วกระทืบบาท ทำอำนาจเพียงพื้นแผ่นดินไหว
เหม่ไอ้ทศกัณฐ์จังไร หมิ่นกูไม่กลัววายปราณ
ว่าแล้วฉวยชักพระขรรค์ ขบฟันกวัดแกว่งสําแดงหาญ
หมายมาดพิฆาตขุนมาร เหาะทะยานขึ้นยังอัมพร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ แลเห็นโฉมนางวิไลลักษณ์ ผิวพักตร์เพียงเทพอัปสร
เกิดความเสน่หาอาวรณ์ ร้องว่าดูก่อนอสุรา
อันตัวของเราก็เป็นชาย เอ็งทําหยาบคายไม่เกรงหน้า
อุ้มนางข้ามเมืองกูมา จักฆ่าให้ม้วยชีวี

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี
เห็นพานรขวางหน้าราวี อสุรีกริ้วโกรธคือไฟฟ้า
เหม่เหม่ไอ้ชาติเดียรฉาน ฮึกหาญพาทีให้เกินหน้า
อากาศเป็นที่ไปมา ปักษีวิทยาสุราลัย
กูเดินโดยทางอัมพร จะเหยียบเศียรวานรก็หาไม่
ซึ่งมึงเย่อหยิ่งจะชิงชัย จะได้เห็นกันบัดเดี๋ยวนี้ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ลูกท้าวมัฆวานเรืองศรี
ได้ฟังจึ่งตอบวาที เหวยเหวยอสุรีพาลา
นางนี้จะเป็นเมียกู ไอ้สู่รู้จะม้วยสังขาร์
ว่าแล้วแกว่งตรีอันศักดา เข้าไล่เข่นฆ่ากุมภัณฑ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ต่างแทงต่างตีต่างรับ หันเวียนกลอกกลับดั่งจักรผัน
ต่างแข็งต่างกล้าไม่ละกัน ต่างฟาดต่างฟันประจัญบาน ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ใจหาญ
ต่อด้วยลูกท้าวมัฆวาน ขุนมารเสียกำลังกายา
กรหนึ่งอุ้มองค์บังอร สิบเก้ากรต่อตีเข่นฆ่า
ทิ่มแทงแย้งยุทธ์เป็นโกลา เสียงสนั่นลั่นฟ้าโสฬส
อาวุธผัดกันเป็นประกาย แสงกระจายพรายไปดั่งไฟกรด
ต่างหาญต่างกล้าไม่เงือดงด ต่างทดต่างแทนฝีมือกัน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พาลีฤทธิแรงแข็งขัน
โลดโผนโจนจ้วงทะลวงฟัน บุกบั่นเลี้ยวไล่อสุรี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ มิให้ดำรงทรงกายได้ ด้วยกำลังว่องไวกระบี่ศรี
ทิ่มแทงทศกัณฐ์หลายที ขุนกระบี่ชิงได้นางมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา
เสียเมียดั่งเสียชีวา ชลนาคลอเนตรอสุรี
ทั้งรักทั้งแค้นทั้งเสียดาย ไม่คิดแก่กายยักษี
ถาโถมโจมจ้วงทะลวงตี คลุกคลีวางวิ่งเข้าชิงนาง ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ รบชิดติดพันกระชั้นไป กลับกลอกว่องไวมิให้ห่าง
ต่างหนีต่างไล่ไม่ละวาง ต่างแทงต่างฟันกันไปมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พญาพาลีใจกล้า
มือซ้ายอุ้มองค์กัลยา กรขวาถือตรีโรมรัน
ถีบถูกทศพักตร์ยักษี ขุนกระบี่ชี้นิ้วเย้ยหยัน
ทำยักคิ้วหลิ่วตาขบฟัน ว่าเหวยทศกัณฐ์ยี่สิบกร
นางนี้จะเป็นเมียใคร งามวิไลล้ำเทพอัปสร
ว่าพลางจุมพิตบังอร วานรแกล้งเย้าอสุรี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี
สัประยุทธ์ชิงชัยด้วยพาลี สุดที่จะทานฤทธา
สุดคิดสุดฤทธิ์สุดกำลัง เพียงสิ้นชีวังสังขาร์
สุดที่จะชิงเอาเมียมา สุดปัญญาก็หนีวานร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พญาพาลีชาญสมร
มีชัยชิงได้บังอร ก็เขจรคืนเข้าธานี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ชมโฉม

๏ ครั้นถึงห้องทองไสยาสน์ วางนางเหนืออาสน์มณีศรี
พินิจพิศทั่วทั้งอินทรีย์ มีลักษณ์พริ้มพร้อมวิไลวรรณ
งามพักตร์งามขนงงามเนตร งามเกศงามจุไรงามถัน
งามโอษฐ์งามแก้มงามกรรณ งามพรรณผิวเนื้อดั่งทองทา
งามขำงามคมสมควร งามกระบวนยวนยั่วเสน่หา
งามทั้งจริตกิริยา จึงมีบัญชาตรัสไป ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ชาตรี

๏ สุดเอยสุดสวาท นุชนาฏผู้ยอดพิสมัย
จะขอถามน้องอย่าหมองใจ นามกรชื่อไรนางเทวี
เจ้าเป็นหน่อจักรพรรตรา ฤๅนางสวรรค์ชั้นฟ้าในราศี
เหตุใดมาด้วยอสุรี จงบอกแก่พี่แต่จริงไป ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น นางมณโฑเยาวยอดพิสมัย
ให้คิดขวยเขินสะเทินใจ บังคมไหว้สนองพจมาน
ตัวข้าชื่อว่ามณโฑ ภิญโญยศยอดสงสาร
เป็นบุตรพระมหาอาจารย์ สี่องค์ทรงฌานท่านเลี้ยงมา
เธอพาไปถวายเป็นข้าบาท พระอิศโรธิราชนาถา
ฝ่ายทศพักตร์อสุรา ไปอาสาองค์พระศุลี
ยกเขาไกรลาสนั้นขึ้นได้ ขอองค์อรไทมเหสี
ประทานข้าแทนนางเทวี อสุรีจึ่งพาเหาะมา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

โลม

๏ น้องเอยน้องรัก เยาวลักษณ์ยอดสุดเสน่หา
ซึ่งเจ้าบอกเล่ากิจจา พี่ยาก็แจ้งประจักษ์ใจ
อันทศพักตร์ยักษี อสุรีหาควรแก่เจ้าไม่
บุญพี่กับนางได้สร้างไว้ เผอิญให้มันพามาพบกัน
จะเลี้ยงน้องไว้ให้เป็นเอก ร่วมเศวกฉัตรฉายฉัน
ใหญ่กว่าสนมกํานัล ขวัญเมืองจงได้ปรานี
ว่าพลางเลียมลอดสอดคว้า แก้วตาอย่าผินหนีพี่
ตระโบมโลมลูบทั้งอินทรีย์ มารศรีอย่าสลัดตัดรอน ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ ทรงเอยทรงฤทธิ์ พระองค์จงคิดให้ชอบก่อน
ปรานีน้องเถิดภูธร จะหักหาญรานรอนนั่นไม่ดี
ตัวน้องสิเป็นเมียเขา พระปิ่นเกล้าประทานยักษี
ซึ่งจะมารวมรสประเวณี เวราจะมีติดตัวไป
เป็นถึงสุริย์วงศ์วราเดช ใช่จะไร้อัคเรศก็หาไม่
มารักเมียท่านด้วยอันใด ไตรโลกจะหมิ่นนินทา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

โลม

๏ ดวงเอยดวงสมร เจ้างามงอนช่างคิดประดิษฐ์ว่า
อันบาปบุญคุณโทษเวรา พี่ยาก็แจ้งประจักษ์ใจ
ซึ่งว่าเป็นเมียอสุรี คำนี้หาต้องการไม่
เป็นแต่สัมผัสกำหนัดใน ยังมิได้ร่วมสมชมชิด
อันธรรมเนียมกษัตริย์ทั้งแผ่นภพ รุกรบได้นางก็เป็นสิทธิ์
พี่ก็อยู่ในธรรมทศพิธ ใช่จะไม่คิดเมื่อไรมี
ว่าพลางอิงแอบแนบเคล้า จุมพิตยั่วเย้าโฉมศรี
เชยมณฑาทิพย์สุมาลี บุษบงคลายคลี่ผกากาญจน์
ภุมรินบินเคล้าละอองอาบ เชยซาบเสาวคนธ์หอมหวาน
พระพิรุณพรอยพรมสุมามาลย์ เบิกบานรับแสงทินกร ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ กล่อม

ช้า

๏ เมื่อนั้น โฉมนางมณโฑดวงสมร
สมสู่ด้วยพญาพานร สโมสรชื่นชมปรีดา
ลืมองค์พระสยมภูวญาณ ลืมทศกัณฐ์มารยักษา
ลืมทั้งสมเด็จพระอุมา ลืมมหาไกรลาสคีรี
แรกรู้ในรสสังวาส แสนสวาทลูกท้าวโกสีย์
แสนเกษมแสนสุขทุกราตรี ในธานีขีดขินอันโอฬาร ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายทศเศียรใจหาญ
ครั้นถึงปราสาทสุรกานต์ ขุนมารเข้าที่ไสยา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

โอ้

๏ ลดองค์นิ่งขึงตะลึงคิด เสียแรงกูมีฤทธิ์แกล้วกล้า
อาสาสมเด็จพระอิศรา ยกมหาไกรลาสลําบากใจ
จึ่งได้น้องอุ้มแอบแนบชิด ให้พาลีชิงปลิดเอาไปได้
เสียทีมีฤทธิ์เกรียงไกร มาแพ้ไอ้ลิงไพรอัปรีย์
โอ้อนิจจามณโฑเอ๋ย ไม่เห็นเลยว่าจะจากอกพี่
ค่อยประคองอุ้มน้องจรลี ถนอมศรีมาในอัมพร
ปางเนตรเจ้าแลมาสบเนตร ให้ชูชวนกาเมศสโมสร
ปางกรพี่เกี่ยวกระหวัดกร ดวงสมรแนบเนื้อในอุรา
ปางเจ้าเหลือบมาพี่จุมพิต กลิ่นแก้มยังติดนาสา
ซาบชื่นรื่นรสสุคนธา แต่องค์วนิดามาจากไป
สิ้นทั้งสุราลัยไตรจักร จะหาเปรียบเยาวลักษณ์ก็ไม่ได้
ร่ำพลางสะอื้นอาลัย ถอนใจโศกาจาบัลย์ ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น นางอัคคีเยาวยอดเฉลิมขวัญ
กับฝูงอนงค์กำนัล เห็นพญากุมภัณฑ์เสด็จมา
พระจริตนั้นผิดกว่าแต่ก่อน ทุกข์ร้อนเศร้าโทมนัสสา
มิได้สรงเสวยโภชนา เข้าห้องไสยาโศกี
ต่างคนต่างเข้าอยู่งาน หมอบกรานบำเรอดีดสี
บ้างก็เข้าโบกปัดพัดวี ทุกที่ตำแหน่งพร้อมกัน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์รังสรรค์
ครั้นเห็นฝูงนางกำนัล ทั้งนั้นเข้ามาอยู่งาน
พิศดูรูปโฉมแล้วฟังเสียง ไม่งามเสนาะเพราะเพรียงอ่อนหวาน
ยิ่งคิดถึงมณโฑเยาวมาลย์ ให้บันดาลคลั่งคลุ้มกลุ้มใจ
ผุดลุกขึ้นจากที่ไสยาสน์ กระทืบบาทสนั่นหวั่นไหว
เหม่เหมดูดู๋อีจังไร กูจะฆ่าให้ม้วยชีวา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ศัพท์ไทย

๏ ว่าพลางฉวยชักพระขรรค์ แผดเสียงสนั่นดั่งฟ้าผ่า
กวัดแกว่งไปมา ไล่ฝูงนารี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ อี่เอยอี่ทรลักษณ์ กูจักตัดเกล้าเกศี
พาอี่กาลี วิ่งหนีไปไย
มึงมาชวนกัน เย้ยหยันกูได้
ว่าพลางภูวไนย เลี้ยวไล่อลวน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ นางเอยนางกำนัล ตัวสั่นวิ่งหนีสับสน
กลัวจักวายชนม์ เวียนวนวุ่นวาย
ต่างตนร้องตรีด หวาดหวีดขวัญหาย
นางท้าวเจ้ายาย พลัดพรายวุ่นมา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นเอยครั้นเห็น สาวศรีหนีเร้นไม่รอหน้า
ยิ่งกริ้วโกรธา ดั่งว่าไฟกัลป์
คลั่งคลุ้มกลุ้มกลัด กวัดแกว่งพระขรรค์
เลี้ยวไล่ฟาดฟัน พัลวันวุ่นไป ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝูงนางกำนัลน้อยใหญ่
เห็นองค์พญามารชาญชัย คลั่งไคล้ไม่เป็นสมประดี
บ้างวิ่งซุกซอนซ่อนตัว ด้วยกลัวอาญายักษี
สิ้นทั้งนักเทศขันที มีแต่นั่งปรับทุกข์กัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์รังสรรค์
แสนโศกโศกาจาบัลย์ แสนทุกข์อัดอั้นตันใจ
แต่โหยหวนครวญถึงคะนึงคิด จะออกว่าราชกิจก็หาไม่
จนถึงเจ็ดเดือนล่วงไป มิได้สบายวิญญาณ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พญากุมภกรรณยักษา
ทั้งองค์พิเภกอนุชา เห็นพระเชษฐาฤทธิรอน
คลุ้มคลั่งดั่งเสียพระจริต อาการนั่นผิดกว่าแต่ก่อน
ไม่ออกเสนาพลากร จะนั่งนอนก็ทอดถอนใจ
ต่างตนครั้นได้แจ้งเหตุ แสนเทวษทุกข์ทนหม่นไหม้
ปรึกษาหารือกันวุ่นไป จึ่งคิดได้ว่าองค์พระสิทธา
มหาโคบุตรทรงญาณ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเชษฐา
จำจะให้ไปนิมนต์มา โน้มน้าวเจรจาพาที
คิดแล้วจึ่งมีพจนารถ สั่งขุนอำมาตย์ยักษี
จงเร่งไปเชิญพระมุนี เข้ามายังที่วังใน ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ บัดนั้น เสนีผู้มีอัชฌาสัย
รับสั่งพระองค์ทรงฤทธิไกร ก็รีบไปยังบรรณศาลา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงจึงประณตบทบงสุ์ พระโคบุตรผู้ทรงสิกขา
แจ้งความตามราชบัญชา น้องเจ้าลงกาพญามาร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระโคบุตรผู้ปรีชาหาญ
ได้ฟังก็ลุกขึ้นลนลาน คว้าหาบริขารวุ่นไป
ฉวยคากรองนุ่งเข้ารุงรัง จะหาหนังเสือห่มก็ไม่ได้
ย่ามตกหกพล่านงุ่นง่านใจ จับไม้เท้าจ้องรีบจร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงขึ้นบนปราสาท นั่งอาสน์นพรัตน์ประภัสสร
ตาลปัตรพัดย่ามไม่วางกร เอกเขนกกับหมอนอย่างดี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี
เห็นพระมหามุนี มีความยินดีปรีดา
ยอกรถวายอภิวาทน์ แทบบาทยุคลซ้ายขวา
ทอดถอนฤๅทัยไปมา แล้วแจ้งกิจจาทุกประการ
อันตัวของโยมครั้งนี้ แสนทวีด้วยเทวษดั่งเพลิงผลาญ
แม้นว่ามิได้เยาวมาลย์ หลานก็จะสิ้นชีวาลัย
ขอองค์พระอัยกาเจ้า โปรดเกล้าจงช่วยแก้ไข
ให้ได้มณโฑอรไท มาไว้เป็นปิ่นกัลยา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระโคบุตรอาจารย์ฌานกล้า
ยิ้มแล้วจึ่งตอบวาจา จะปรารมภ์ไปไยแต่เพียงนี้
แม้นจะใคร่ได้นางโฉมยง จงไปหาองค์พระฤๅษี
อันชื่ออังคตมุนี เป็นอาจารย์พาลีมาแต่ไร
ให้เธอเมตตาช่วยว่าขาน เห็นการหาขัดได้ไม่
หลานรักจงเร่งรีบไป กราบไหว้อ้อนวอนพระนักธรรม์
ว่าแล้วถวายพระพรลา องค์เจ้าลงการังสรรค์
ลงจากปราสาทสุวรรณ ไปยังอรัญกุฎี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวยี่สิบกรยักษี
ได้อุบายพระมหามุนี ดั่งวารีทิพมารดองค์
จึงชำระสระสรงทรงเครื่อง อร่ามเรืองดั่งท้าวครรไลหงส์
พระกรจับศรฤทธิรงค์ เหาะตรงไปยังศาลา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงซึ่งอาศรมบท พระอังคตผู้ทรงสิกขา
น้อมเศียรกราบลงกับบาทา แล้วทรงโศกาจาบัลย์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น พระมหาอาจารย์ฌานขยัน
เห็นทศเศียรกุมภัณฑ์ กันแสงครวญคร่ำร่ำไร
จึ่งมีสุนทรวาจา เหตุใดมาหาแล้วร้องไห้
ทุกข์ร้อนอาวรณ์ประการใด กูนี้สงสัยในวิญญาณ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรผู้ปรีชาหาญ
ยอกรกราบบาทพระอาจารย์ ก็แจ้งการแต่ต้นจนปลายไป
โยมนี้ไม่มีที่เห็น ใครอันจะเป็นที่พึ่งได้
นิมนต์พระอัยกาปรีชาไว ไปช่วยว่ากล่าวแก่พาลี
ขอเมียข้าบาทนี้คืนมา เหมือนให้ทานชีวายักษี
ว่าพลางซบพักตร์ลงโศก ดั่งหนึ่งชีวีจะวายปราณ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ โอด

เจรจา

๏ เมื่อนั้น พระอังคตผู้ปรีชาหาญ
ได้ฟังทศกัณฐ์ขุนมาร ทรงญาณนิ่งนึกตรึกคิด
ดูดู๋ลูกท้าวหัสนัยน์ องอาจทําได้ไม่เกรงผิด
นางนี้พระอิศวรทรงฤทธิ์ ประสิทธิ์ให้เป็นบำเหน็จมา
จำเป็นจะช่วยไกล่เกลี่ย ขอเมียมันคืนให้ยักษา
จะไม่เคืองใต้เบื้องบาทา องค์พระอิศราเรืองชัย
คิดแล้วจึ่งว่าอย่ารำคาญ ไว้นักงานกูจะขอให้
เอ็งอย่าโศกาอาลัย คอยอยู่จะไปบัดเดี๋ยวนี้ ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

๏ ว่าแล้วห่อเกล้าชฎาเกศ ครองเครื่องตามเพศฤๅษี
ฉวยย่ามเภสัชพัชนี ออกจากกุฎีแล้วเหาะมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงขีดขินราชฐาน อันโอฬารดั่งดาวดึงสา
ลงยังพ่างพื้นพสุธา ขึ้นมหาปราสาทอลงกรณ์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น พญาพาลีชาญสมร
ออกหมู่เสนาวานร ภูธรแลเห็นพระอาจารย์
จึ่งเลื่อนลดองค์ลงจากอาสน์ อภิวาทน์ด้วยใจเกษมศานต์
นิมนต์พระองค์ผู้ทรงญาณ ขึ้นแท่นสุรกานต์รูจี
แล้วมีมธุรสวาจา ปราศรัยพระมหาฤๅษี
ซึ่งผู้เป็นเจ้าเข้ามานี้ มีกิจประสงค์สิ่งใด ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระอังคตอาจารย์ใหญ่
ได้ฟังลูกท้าวหัสนัยน์ จึ่งตอบคำไปด้วยปรีชา
รูปไม่สบายอารมณ์นัก ด้วยทศพักตร์ยักษา
มันไปรบกวนทุกเวลา แสนโศกโศการำพัน
ว่าไปยกไกรลาสคืนตรง องค์พระอิศวรรังสรรค์
ประทานมณโฑเป็นรางวัล จึ่งพากันมาโดยอัมพร
ท่านออกรณรงค์กลางทาง ชิงนางไว้ร่วมสโมสร
ฝ่ายเจ้าก็มีฤทธิรอน จะมาจับไฟร้อนด้วยอันใด
นางนี้สิเป็นเมียเขา องค์พระเป็นเจ้าประทานให้
เป็นบำเหน็จทศกัณฐ์ชาญชัย แจ้งไปจะเคืองพระบาทา
พระองค์เป็นวงศ์เทเวศ ใช่จะไร้อัคเรศเสน่หา
รูปขอคืนให้อสุรา เห็นว่าจะไม่มีราคี ฯ

ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ลูกท้าวหัสนัยน์เรืองศรี
ได้ฟังพระมหามุนี ขุนกระบี่นิ่งนึกตรึกไป
อันนางมณโฑนงลักษณ์ ยากนักที่กูจะหาได้
ครั้นจะขัดอาจารย์จะน้อยใจ จะให้ก็เสียดายกัลยา
คิดแล้วจึ่งตอบพระนักธรรม์ ทศกัณฐ์อาจใจให้เกินหน้า
ควรฤๅจึ่งขอพระอุมา แล้วเหาะข้ามพาราไม่เกรงใจ
ข้าทำทั้งนี้ด้วยความโกรธ เมื่อว่าเป็นโทษจะส่งให้
แต่นางมณโฑทรามวัย มีครรภ์ได้ถึงกึ่งปี
จะผ่อนปรนก็ขัดสนนัก ด้วยลูกรักในท้องมารศรี
ข้ามิให้ปนศักดิ์อสุรี พระมุนีจงได้เมตตา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น พระอังคตอาจารย์ฌานกล้า
ได้ฟังจึ่งตอบวาจา ข้อนั้นอย่าปรารมภ์ใจ
อันบุตรในครรภ์นางโฉมยง จะให้แก่พระองค์จงได้
จะแหวะออกใส่ท้องแพะไว้ มิให้อันตรายชีวัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ลูกท้าวมัฆวานรังสรรค์
ได้ฟังวาจาพระนักธรรม์ อัดอั้นพระทัยพันทวี
สุดรักสุดเสียดายเพียงชีวิต สุดคิดที่จะขัดพระฤๅษี
แต่ทอดถอนฤๅทัยหลายที ขุนกระบี่ขัดสนจนใจ
จำเป็นจึ่งมีพจมาน สั่งนางพนักงานน้อยใหญ่
ให้หามณโฑทรามวัย มาบังคมไหว้พระสิทธา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายนางกำนัลซ้ายขวา
รับสั่งถวายบังคมลา เข้ามายังห้องอลงการ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงนั่งลงบังคมบาท พระอัครราชผู้ยอดสงสาร
ทูลว่าพระจอมสุธาธาร ให้เชิญบทมาลย์นางเทวี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น โฉมนางมณโฑมารศรี
แจ้งในรับสั่งพระสามี ก็รีบจรลีออกมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ พระอาจารย์ผู้ทรงสิกขา
หมอบอยู่ตรงพักตร์ภัสดา คอยฟังบัญชาภูธร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พญาพานรินทร์ชาญสมร
พิศพักตร์อัศเรศบังอร อาลัยสะท้อนถอนใจ
แล้วมีมัธุรสพจนารถ ดวงสวาทผู้ยอดพิสมัย
บัดนี้พระอาจารย์ชาญชัย มาขอเจ้าคืนให้อสุรา
สุดคิดที่จะขัดพระนักสิทธ์ จนจิตจนใจเป็นหนักหนา
เชิญเจ้าไปตามบัญชา องค์พระอิศราโปรดปราน
ตัวน้องจะได้เป็นเอก ในเศวกฉัตรฉายฉาน
อันบุตรในครรภ์นงคราญ เปรียบปานดั่งดวงชีวี
พี่ขอแหวะเอาแต่ลูกรัก ไว้ชมต่างพักตร์มารศรี
เจ้าอย่ากังขาราคี ปรานีพี่เถิดกัลยา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา

โอ้

๏ เมื่อนั้น นางมณโฑเยาวยอดเสน่หา
ได้ฟังดั่งจะม้วยมรณา โศการำพันทูลไป
โอ้ว่าพระทูลกระหม่อมแก้ว ไม่ปรานีเมียแล้วฤๅไฉน
จะมาสลัดตัดอาลัย คืนให้ไปแก่อสุรี
เดิมได้บัญชาแก่ข้าบาท จะเลี้ยงเป็นอัครราชมเหสี
อกเอ๋ยเสียชาติเป็นสตรี จะมีคู่ครองถึงสองชาย
เสียทีกําเนิดเกิดมา ชั่วช้ากว่าหญิงทั้งหลาย
ว่าพลางกลิ้งเกลือกเสือกกาย โฉมฉายสุดสิ้นสมประดี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น องค์พระอังคตฤาษี
เห็นนางมณโฑเทวี กันแสงโศกีสลบไป
จึ่งเรียกเอาตรีสุรกานต์ ลูกท้าวมัฆวานก็ส่งให้
พระนักธรรม์แหวะครรภ์อรไท โดยไสยเวทอันศักดา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ ตระ

๏ แล้วช้อนเอาองค์พระกุมาร อันหย่อนกาลกว่าทศมาสา
ใส่ในท้องแพะด้วยฤทธา แล้วร่ายวิทยาเป่าไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เดชะมนตราพระดาบส แผลกายหายหมดหาเห็นไม่
ก็ฟื้นตื่นองค์อรไท ด้วยฤทธิไกรพระมุนี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น โฉมนางมณโฑมารศรี
ครั้นฟื้นคืนได้สมประดี เทวีบังคมพระอาจารย์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระอังคตปรีชากล้าหาญ
จึ่งลาลูกท้าวมัฆวาน พานงคราญเดินมากุฎี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง

๏ ครั้นถึงจึ่งกล่าวสุนทร ดูก่อนทศพักตร์ยักษี
กูไปว่ากล่าวพาลี ได้นางเทวีคืนมา
แต่ว่าโฉมยงทรงครรภ์ กลัวจะปนพงศ์พันธุ์ยักษา
เขาให้ตัวกูผู้สิทธา แหวะเอาบุตรานั้นไว้
เอ็งพาไปเลี้ยงจงดี โดยประเพณีโลกวิสัย
ครอบครองสวรรยาราชัย ไพบูลย์พูนสุขทุกนิรันดร์ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศพักตร์พงศ์พรหมรังสรรค์
ก้มเกล้าประนมบังคมคัล ยินดีเป็นพ้นพันทวี
จึ่งว่าอันคุณพระอาจารย์ ขอประทานใส่ไว้เหนือเกศี
แม้นมิใช่องค์พระมุนี ที่ไหนพาลีจะให้มา
พระจงค่อยอยู่สำราญ ที่ในสถานแนวป่า
ว่าแล้วกราบบาทพระสิทธา อุ้มองค์กัลยาเหาะไป ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

๏ เลื่อนลอยมาในอัมพร ข้ามมหาสาครกว้างใหญ่
ถึงทวีปลงกากรุงไกร ก็เข้าในปราสาทอลงการ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ชาตรี

๏ วางองค์ลงเหนือแท่นแก้ว อันเพริศแพร้วด้วยดวงมุกดาหาร
พินิจพิศโฉมนงคราญ แล้วมีพจมานอันสุนทร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ สุดเอยสุดสวาท นุชนาฏนิ่มเนื้อดวงสมร
บุญพี่กับองค์บังอร แต่ก่อนเคยสร้างมาด้วยกัน
พระเป็นเจ้าจึ่งประทานน้อง ให้มาร่วมห้องภิรมย์ขวัญ
ยังไม่ได้ชมแก้วสักกึ่งวัน พาลีโมหันธ์ฉันทา
ออกรณรงค์ยงยุทธ์ สัประยุทธ์ด้วยจิตอิจฉา
รอนราญหาญหักอหังการ์ ชิงเอาแก้วตาของพี่ไป
แต่โศกามาถึงกึ่งปี จะเว้นสักนาทีก็หาไม่
แม้นมิเป็นห่วงด้วยดวงใจ ที่ไหนพี่จะคงชีวี
สุดรักสุดกลั้นสุดกำลัง จึ่งซังไปหาพระฤๅษี
สิ้นเวรสิ้นกรรมเราวันนี้ จึ่งได้แก้วพี่คืนมา ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

โอ้โลม

๏ ว่าพลางก็ทางสัพยอก เย้าหยอกด้วยความเสน่หา
กรสอดกอดลูบพนิดา อสุราชื่นเริงบันเทิงใจ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางมณโฑผู้ยอดพิสมัย
ปัดกรค้อนคมแล้วทูลไป พระคุณภูวไนยพันทวี
เห็นแจ้งประจักษ์ว่ารักจริง จึ่งทิ้งเสียได้เอาตัวหนี
เพราะเมตตาจึ่งช้าถึงกึ่งปี ถ้ามิปรานีจะนานครัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

โอ้โลม

๏ สุดเอยสุดสวาท นุชนาฏเลิศล้ำสาวสวรรค์
รักเจ้าเท่าดวงชีวัน ควรฤๅรําพันเจรจา
ก็ย่อมแจ้งใจอยู่ในอก อย่ายกโทษพี่เลยกนิษฐา
ว่าพลางอิงแอบแนบกายา กรลอดสอดคว้ายุพาพาล
ชมเนตรเกศแก้มแล้วรับขวัญ เชยมณฑาสวรรค์หอมหวาน
พยับคลุ้มชอุ่มอนธการ ฟ้าลั่นบันดาลคำรน
เมขลาล่อแก้วแววไว รามสูรเลี้ยวไล่ในเวหน
เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงสนั่นอึงอล ฝนสวรรค์พรอยพรมมาลี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ กล่อม

ช้า

๏ เมื่อนั้น โฉมนางมณโฑมารศรี
ได้ร่วมรสทศพักตร์อสุรี เทวีพิศวาสจะขาดใจ
ลืมองค์พญาพานรินทร์ ลืมพิชัยขีดขินกรุงใหญ่
ลืมทั้งโอรสยศไกร ลืมฝูงนางในกำนัล
เพลิดเพลินด้วยสมบัติพัสถาน แสนสำราญเป็นสุขเกษมสันต์
เฟี้ยมเฝ้าประดิพัทธ์ผูกพัน กับองค์ทศกัณฐ์สามี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงพระอังคตฤาษี
แต่แหวะครรภ์มณโฑเทวี พระมุนีใส่ท้องแพะไว้
ตั้งพิธีรักษากุมาร จะมีเหตุเภทพาลก็หาไม่
ครบกำหนดทศมาสยามชัย ก็เข้าไปขีดขินพระนคร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงจึ่งตรงขึ้นปราสาท นั่งอาสน์เนาวรัตน์ประภัสสร
แล้วมีวาจาอันสุนทร ดูก่อนพญาพาลี
กุมารซึ่งใส่ท้องแพะไว้ คิดได้โดยเดือนดิถี
ถ้วนกำหนดทศมาสฤกษ์ดี วันนี้กูจะแหวะออกจากครรภ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ลูกท้าวหัสนัยน์รังสรรค์
ได้ฟังพระมหานักธรรม์ อภิวันท์แล้วตอบวาจา
อันคุณพระมหาอาจารย์ ขอประทานใส่ไว้เหนือเกศา
ซึ่งจะแหวะเอาองค์กุมารา ตัวข้ามีความยินดี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ ตรัสแล้วมีราชโองการ สั่งนางพนักงานสาวศรี
จงนำนางแพะมาบัดนี้ ให้ทันนาทียามชัย ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายนางพนักงานน้อยใหญ่
รับสั่งพระองค์ทรงภพไตร บังคมไหวแล้วรีบไปพร้อมกัน ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงที่นางแพะอยู่ จึ่งหมู่อนงค์สาวสรรค์
บ้างจูงบ้างล้อมถนอมครรภ์ พานางแพะนั้นเข้ามา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระอาจารย์ฌานกล้า
สมาธิสํารวมวิญญาณ์ โดยมหาไสยเวทพิธี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เป่าเข้าในปากนางแพะ แล้วแหวะด้วยมีดพระฤๅษี
ช้อนองค์กุมารมาทันที วางที่พานทองพรายพรรณ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น เถ้าแก่ชะแม่สาวสรรค์
ต่างคนชื่นชมบังคมคัล เชิญพระกุมารนั้นออกไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ ชําระสระสนานหลานอินทร์ ให้หมดมลทินดั่งแขไข
แล้วเชิญพระโอรสยศไกร ขึ้นไว้เหนืออาสน์โอฬาร์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระดาบสผู้ทรงสิกขา
จึ่งให้นามตามองค์พระสิทธา เป็นมหามงคลสวัสดี
ชื่อว่าองคตกุมาร สุริย์วงศ์มัฆวานเรืองศรี
แล้วอวยชัยประสิทธิ์ฤทธี จงอยู่ดีเป็นสุขสถาวร
ครั้นเสร็จถวายพระพรลา องค์พญาพาลีชาญสมร
เหาะระเห็จขึ้นยังอัมพร เขจรไปที่พระนักธรรม์ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น พาลีฤทธิแรงแข็งขัน
เห็นพระลูกยาวิลาวัณย์ ผิวพรรณเสาวภาคย์ทั้งกายา
พิศพักตร์ลักขณาราศี เป็นที่จําเริญเสน่หา
ตัวเขียวปรากฏรจนา โสภาผ่องพักตร์อำไพ
จึงจัดสาวสรรค์กำนัลนาง ล้วนโฉมสำอางประทานให้
ทั้งพระนมพี่เลี้ยงนอกใน มหาดเล็กเด็กใช้ครบครัน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น โฉมนางดาราสาวสวรรค์
รักใคร่ในองคตนั้น ดั่งบุตรอันเกิดในอุทร
จึ่งอุ้มเอาองค์ลูกรัก วางลงเหนือตักสายสมร
นางค่อยสนองประคองกร ช้อนเกศขึ้นแล้วก็เชยชม
ด้วยความพิศวาสพระกุมาร พยาบาลเลี้ยงมาแต่ประถม
เช้าค่ำพร่ำถนอมเป็นอารมณ์ นางให้เสวยนมแต่นั้นมา
อันพระถันธาราอรไท ก็ไหลจากพระเต้าซ้ายขวา
ดั่งอมฤตรสโอชา จนชันษาได้สิบปี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พญาพานรินทร์เรืองศรี
เห็นโอรสจำเริญสวัสดี ก็ปรีดาภิรมย์สมคิด
จะใคร่ให้ลงสรงสาคร ภูธรจึ่งมีประกาศิต
แก่โหราผู้รู้ดูนิมิต จงพินิจฤกษ์ยามเวลา
กูจะทํามงคลสรงสนาน องค์พระกุมารโอรสา
ที่ในแม่น้ำยมนา อย่าให้มีเหตุเภทภัย ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ บัดนั้น จึ่งขุนโหราผู้ใหญ่
รับสั่งลูกท้าวหัสนัยน์ ก็ขับไล่ไปตามคัมภีร์
เสร็จแล้วประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พญากระบี่ศรี
ซึ่งจะลงสรงชลธี ฤกษ์ดียังอีกสามวัน
ตีสิบเอ็ดได้โชคอสุรินทร์ ปลอดทั้งทักทินยมขันธ์
แม้นว่าพ้นเวลานั้น สุริยันอรุณจะมีภัย
จะต้องรณรงค์ในคงคา แต่ว่าจะจับตัวได้
จะปรากฏพระยศทั้งแดนไตร ถึงร้ายก็นัยจะเป็นดี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ลูกท้าวหัสนัยน์เรืองศรี
ฟังโหรถวายฤกษ์นาที ดั่งวารีทิพย์มาเจือใจ
จึ่งมีพระราชบัญชา สั่งมหาเสนาผู้ใหญ่
ให้แต่งการสนานชลาลัย แล้วไปนิมนต์พระอาจารย์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น เสนาผู้ใหญ่ใจหาญ
รับสั่งลูกท้าวมัฆวาน ชุลีกรแล้วคลานออกมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ยานี

๏ จึ่งจัดพระมหาปราสาท โอภาสดั่งวิมานในดึงสา
ปูพรมกั้นฉากอลงการ์ ห้อยพวงรัตนาสุมามาลย์
แล้วรายราชวัติสองข้าง ทางจะลงยมนาท่าสนาน
ตั้งมณฑปแก้วสุรกานต์ ข่ายทองโอฬารล้อมวง
ใต้น้ำก็ขึงข่ายเพชร ในที่เสด็จลงสรง
แล้วให้กระบี่ฤทธิรงค์ ออกไปเชิญองค์พระมุนี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ บัดนั้น จึ่งขุนธรรมการกระบี่ศรี
รับคำเสนาธิบดี ไปยังที่อยู่พระนักพรต ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงเผดียงราธนา เหล่าพระมหาดาบส
บัดนี้จะลงสรงพระโอรส กำหนดนิมนต์ให้เข้าไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระมหามุนีน้อยใหญ่
ต่างนุ่งคากรองครองสไบ ฉวยได้ตาลิปัตรก็รีบมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ ครั้นถึงจึ่งขึ้นบนปราสาท นั่งอาสน์ตามหลั่นชันษา
ก็สวดไสยเวทวิทยา เป็นมหามงคลสวัสดี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ สาธุการ เจรจา

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ