สมุดไทยเล่มที่ ๖

๏ เมื่อนั้น ท้าวสหมลิวันยักษา
ฟังข่าวเร่าร้อนอุรา จึงถวิลจินดาในการยุทธ์
อันธรรมดานาคี กลัวสุบรรณปักษีเป็นที่สุด
ถึงจะยกออกต่อฤทธิรุทร ก็จะตายสิ้นสุดลงด้วยกัน
ฝ่ายองค์ท้าวจัตุรพักตร์ ขุนยักษ์ก็ม้วยชีวาสัญ
ลัสเตียนโอรสพระองค์นั้น ครอบครองเขตขัณฑ์ลงกา
หลานรักเรืองเดชด้วยศิลป์ศร ไหวกระฉ่อนเกรงฤทธิ์ทุกทิศา
ตัวกูจะให้ไปหามา เข่นฆ่าอริราชไพรี
คิดแล้วจึ่งมีพจมาน ให้จัดทหารยักษี
ขึ้นรายรอบราชธานี รักษาหน้าที่มั่นไว้
อาลักษณ์แต่งสารให้เสนา รีบไปลงกากรุงใหญ่
เชิญพระนัดดามาชิงชัย ฆ่าเสียให้สิ้นพวกมัน ฯ

ฯ ๑๒ คํา ฯ

๏ บัดนั้น จึ่งขุนอาลักษณ์ตัวขยัน
รับสั่งพญากุมภัณฑ์ เร่งกันจารึกสารา
เสร็จแล้วใส่กล่องสุวรรณรัตน์ ส่งให้ต่อหัตถ์ยักษา
จงรีบขึ้นไปยังลงกา ถวายองค์พญาอสุรี

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ บัดนั้น จึ่งมหากายยักษี
รับสารแล้วแผลงฤทธี แหวกพระธรณีขึ้นไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ บัดนั้น ฝ่ายสองเสนาผู้ใหญ่
กะเกณฑ์รี้พลสกลไกร ให้ขึ้นรักษาปราการ
ทวาราหอรบป้อมค่าย รายล้วนโยธากล้าหาญ
ปืนใหญ่นั้นใส่ทุกทวาร นายด่านกำชับตรวจตรา ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น พญากาลนาคแกล้วกล้า
ครั้นเสร็จหักด่านอสุรา ก็รีบโยธาเข้าไป ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงนิเวศน์เมืองมาร ก็หยุดทวยหาญน้อยใหญ่
แล้วสั่งอำมาตย์ผู้ร่วมใจ ให้ยกเข้าล้อมธานี ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เจรจา

๏ บัดนั้น จึ่งเสนานาคทั้งสี่
รับสั่งถวายอัญชุลี ยกไปตามมีพจมาน ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ กองใครใครเข้าตั้งมั่น ล้อมรอบสามชั้นทุกด้าน
ตรวจตราทั่วทัพกำชับการ โห่สะเทิ้นสะท้านเป็นโกลา ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายมหากายยักษา
ครั้นถึงพิชัยลงกา ก็เข้าไปศาลาลูกขุนใน
คํารพนบนิ้วดุษฎี แก่มหาเสนีผู้ใหญ่
แจ้งว่าบาดาลเกิดภัย ภูวไนยให้ถือสารมา ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ บัดนั้น เสนีธิบดีซ้ายขวา
ได้แจ้งแห่งคำทูตา ก็พากันมาพระโรงคัล ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เสมอ

๏ ครั้นถึงประณตบทบงสุ์ องค์ท้าวลัสเตียนรังสรรค์
ทูลว่าสหมลิวัน ซึ่งครองเขตขัณฑ์บาดาล
ให้มหากายอสุรา ขึ้นมาจำทูลพระราชสาร
ใต้เบื้องบงกชบทมาลย์ แล้วอ่านถวายอสุรี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

ช้า

๏ ราชสารพระพงศ์พรหเมศ มงกุฎเกศบาดาลกรุงศรี
ผู้เป็นอัยกาธิบดี มีนามสหมลิวัน
อวยพรอักษรศรีสวัสดิ์ ถึงพระนัดดาจอมขวัญ
บัดนี้ภุชงค์ชาญฉกรรจ์ ยกพวกพลขันธ์มาราญรอน
อันซึ่งสุริย์วงศ์ในบาดาล ไมมีใครชำนาญชาญสมร
ที่จะออกโรมรันฟันฟอน ต่อกรด้วยหมู่ปัจจามิตร
เชิญพระนัดดาดวงเนตร ผู้เรืองเดชฤทธิรอนศรสิทธิ์
ยกหมู่โยธาอันมีฤทธิ์ มาช่วยชีวิตอัยกา
ให้เป็นสุขสวัสดิ์สถาวร ดับร้อนประยูรวงศา
เย็นทั่วขอบขัณฑเสมา ไพร่ฟ้าจะเกษมเปรมปรีดิ์ ฯ

ฯ ๑๐ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนยักษี
แจ้งสารดาลเดือดดั่งอัคคี อสุรีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
กระทืบบาทมีราชบรรหาร เหวยเสนามารตัวขยัน
จงเกณฑ์อสุรกุมภัณฑ์ กูจะไปโรมรันไพรี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ บัดนั้น ทั้งสองเสนายักษี
รับสั่งพระองค์ทรงธรณี ถวายอัญชุลีแล้วออกไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ยานี

๏ จึ่งจัดทหารโยธา กายาล่ำสันสูงใหญ่
ชํานาญในการชิงชัย ล้วนใจหยาบช้าทมิฬ
แกล้วกล้าทรหดอดทน แปลงกายหายตนก็ได้สิ้น
เหาะเหินเดินน้ำดำดิน อินทร์พรหมก็เกรงฤทธา
กรกุมเครื่องสรรพอาวุธ อุตลุดกวัดแกว่งสำแดงกล้า
เตรียมทั้งรถแก้วแววฟ้า คอยท่ารับเสด็จอสุรี ฯ

ฯ ๖ คํา ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนยักษี
ครั้นแสงทองส่องฟ้าธาตรี เสด็จมาเข้าที่สรงชล ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เสมอ

โทน

๏ ให้ไขท่อแก้วปทุมทอง วารีเป็นละอองฝอยฝน
ทรงสุคนธารสเสาวคนธ์ ปรุงปนเกสรสุมามาลย์
สอดใส่สนับเพลาเชิงยก ภูษาช่องกระจกกระหนกก้าน
ชายแครงเครือหงส์อลงการ ชายไหวชัชวาลวิไลวรรณ
ฉลององค์ทรงประพาสพื้นม่วง ตาบทิศทับทรวงดวงกุดั่น
สังวาลเพชรสามสายสลับกัน พาหุรัดนาคพันทองกร
ธํามรงค์มรกตไข่ครุฑ ทรงมหามงกุฎประภัสสร
ดอกไม้ทัดกุณฑลกรรเจียกจร จับศิลป์ฤทธิรอนมาขึ้นรถ ฯ

ฯ ๘ คํา ฯ เสมอ

๏ ได้ฤกษ์ให้เลิกจัตุรงค์ ลั่นฆ้องโบกธงเป็นกำหนด
โห่สนั่นครั่นครื้นถึงโสฬส เมฆหมดแจ่มดวงอโณทัย ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ กราว

โทน

๏ รถเอยราชรถทรง เจ็ดงอนงามระหงสูงใหญ่
แปรกแอกคร่ำอำไพ ดุมแก้วเจียระไนประดับกัน
โตกตั้งบัลลังก์ลอยช้อยชด กระจังลายมรกตทับทิมคั่น
ครุฑจับนาคห้อยยืนยัน ชั้นเทพนมประนมกร
เทียมเสือสองพันร้ายกาจ องอาจเพียงพญาไกรสร
สารถีมือถือโตมร ขับจรรวดเร็วดั่งลมพัด
เครื่องสูงบังแทรกสลับกัน จามรทอนตะวันกรรชิงฉัตร
กาหลพลแห่เยียดยัด ขนัดฆ้องกลองประโคมครึก
ทวยหาญขานโห่อึงอุด กวัดแกว่งอาวุธคะนองศึก
แทรกแผ่นดินลั่นพันลึก คึกคึกเร่งรีบแข่งกัน ฯ

ฯ ๑๐ คํา ฯ รุกร้น

๏ ครั้นถึงบาดาลนครา เห็นนาคาตั้งล้อมไว้มั่น
โกรธาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขับพวกพลขันธ์เข้าโจมตี ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ท้าวสหมลิวันยักษี
เห็นทัพลงกาเข้าราวี อสุรีจึงสั่งพระลูกยา
เจ้าผู้ดวงชีพชีวัน เร่งยกพลขันธ์แกล้วกล้า
ออกสังหารผลาญหมู่นาคา กระหนาบทัพลังกาธานี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น มหายมยักษ์ยักษี
รับสั่งแล้วยกโยธี อสุรีตีกระหนาบออกมา ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ ฝ่ายทหารทั้งสองพระนคร เข้าไล่ตะลุมบอนเข่นฆ่า
ยิงแย้งแทงฟันเป็นโกลา โยธาโห่สนั่นบาดาล ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายพลนาคาใจหาญ
เห็นยักษากระหนาบมารอนราญ ก็ออกประจัญบานต่อตี
อาวุธแทงฟันพุ่งซัด ต่างป้องต่างปัดไม่ถอยหนี
ต่างหาญต่างกล้าเข้าราวี นาคีพ่นพิษเป็นควัน ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เชิด

๏ บัดนั้น ยักษาโยธาแข็งขัน
กวัดแกว่งอาวุธขบฟัน ดากันตีหนักหักมา
เป็นหมู่หมู่เหล่าเหล่าเข้าฟันแทง ยิงแย้งเขม้นเข่นฆ่า
นาคีตายกลาดดาษดา ด้วยกำลังฤทธาอสุรี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พญากาลนาคเรืองศรี
เห็นพลสุดสิ้นชีวี โกรธคืออัคคีไหม้ฟ้า
กายนั้นกลับเป็นนาคราช เจ็ดเศียรองอาจแกล้วกล้า
ตาแดงดั่งแสงสุริยา ตรงมาหน้ารถพญามาร ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ แผละ

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนใจหาญ
เห็นภุชงค์องอาจอหังการ แผลงฤทธิ์ทะยานมาราวี
จึ่งชักศรวิษณุเวท อันเรืองเดชปราบได้ทุกราศี
พาดสายหมายล้างนาคี อสุรีแผลงไปด้วยศักดา ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เชิด

๏ ศรแสงสำแดงอำนาจ ไปเป็นครุฑราชปักษา
ใหญ่เท่ามหาพรหมา กระหยับปีกบินถาเข้าไป
โฉบลงตรงเศียรพญานาค อ้าปากคาบคั้นเอาคอได้
เท้าฉุดมือยุดรวบไว้ พาไปถวายอสุรี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ แผละ

๏ เมื่อนั้น พญากาลนาคเรืองศรี
ครั้นศรครุฑฉุดฉวยอินทรีย์ เจ็บดั่งชีวีจะบรรลัย
จวนตัวกลัวแก่ความตาย จะคิดอายอัปยศก็หาไม่
ร้องขอชีวิตวุ่นไป พระองค์จงได้เมตตา ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนยักษา
ได้ฟังพญานาคา อสุรามีใจปรานี
จึ่งสั่งครุฑให้วางภุชงค์ ไว้หน้ารถทรงยักษี
ก็เป็นไปตามวาที ดั่งหนึ่งว่ามีจิตใจ ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เชิด เจรจา

๏ เมื่อนั้น พญานาคผู้มีอัชฌาสัย
ยินดีด้วยได้ชีวาลัย เกิดความรักใคร่พญามาร
จึ่งกลับเพศเป็นมนุษย์น้อย แช่มช้อยยั่วยวนสงสาร
สิ้นความมานะอหังการ คลานเข้าไปบังคมคัล
ทูลว่าตัวข้าครั้งนี้ ถึงทีสิ้นชีพอาสัญ
ซึ่งพระองค์ประทานชีวัน พระคุณนั้นพ้นคณนา
ไม่มีสิ่งใดฉลองบาท องค์พระภูวนาถนาถา
จะขอถวายราชธิดา ไว้ใต้บาทาพระภูมี
ว่าแล้วประณตบทบงสุ์ ลาองค์พญายักษี
เลิกพวกพหลโยธี กลับไปบูรีนาคา ฯ

ฯ ๑๐ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น มหายมยักษ์ยักษา
เสร็จศึกนาคีก็ปรีดา ดั่งได้ฟากฟ้าโสฬส
เข้าไปเฝ้าท้าวลัสเตียน น้อมเศียรกราบบาทบงกช
ทูลเชิญพระองค์ผู้ทรงยศ ให้บทจรเข้าวังจันทน์ ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนรังสรรค์
ก็ยกรี้พลกุมภัณฑ์ ตามกันเข้าไปพระนคร ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ กราว

๏ ครั้นถึงประทับกับเกยแก้ว อันเพริศแพร้วจำรัสประภัสสร
เสด็จจากรถทรงอลงกรณ์ บทจรขึ้นเฝ้าอสุรี ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวสหมลิวันยักษี
เสด็จจากแท่นรัตน์มณี ภูมีมารับพระนัดดา ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ จูงกรหลานรักลีลาศ ขึ้นนั่งร่วมอาสน์ท้าวยักษา
แล้วมีมธุรสวาจา ซึ่งเจ้ามาช่วยชิงชัย
ข้าศึกจึงแตกย่อยยับ คุณนั้นไม่นับประมาณได้
หาไม่บาดาลกรุงไกร จะอยู่ในอำนาจนาคี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนยักษี
น้อมเศียรถวายอัญชุลี อสุรีก็ทูลสนองไป
หลานนี้มิได้แจ้งการ ว่าบาดาลเกิดเสี้ยนศึกใหญ่
ต่อพระองค์ผู้ทรงภพไตร บอกไปจึ่งได้ยกมา
หวังจะฉลองรองบาท พระพงศ์พรหมธิราชนาถา
มิได้พักพลสักเวลา ถึงจะเสียชีวาไม่อาวรณ์ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวสหมลิวันชาญสมร
ฟังพระนัดดาฤทธิรอน ภูธรชื่นชมยินดี
จึ่งประทานธำมรงค์สังวาล มงกุฎสุรกานต์มณีศรี
บรรดาพวกพลโยธี ภูมีบำเหน็จทั่วกัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ลัสเตียนพงศ์พรหมรังสรรค์
รับของประทานรางวัล กุมภัณฑ์ยินดีปรีดา
เสร็จแล้วถวายอภิวาทน์ ลาบาทพระบรมนาถา
ให้เลิกพวกพลอสุรา คืนไปลงกาธานี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ กราว

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายพญาภุชงค์เรืองศรี
ครั้นกลับไปถึงพระบุรี ขึ้นปราสาทมณีอลงกรณ์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

โอ้ร่าย

๏ เข้าในห้องทองไสยาสน์ เอนองค์เหนืออาสน์บรรจถรณ์
กรก่ายพักตราอาวรณ์ ภูธรสะท้อนถอนใจ
แล้วจึ่งตรัสบอกมเหสี เจ้าพี่ผู้ยอดพิสมัย
ครั้งนี้เรายกทัพไป ชิงชัยเสียทีอสุรา
ลัสเตียนจับได้ไว้ชีวิต พี่คิดถึงคุณยักษา
จึ่งถวายพระราชธิดา แก้วตาอย่างละห้อยน้อยใจ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางประภาผู้ยอดพิสมัย
ได้ฟังจึงสนองบัญชาไป ภูวไนยอย่าเศร้าโศกี
ลัสเตียนก็เป็นวงศ์พรหมเมศ ลือเดชทั่วฟ้าราศี
จะเสียศักดิ์ไปเมื่อไรมี ดีแล้วจะได้พึ่งอสุรา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พญากาลนาคนาถา
ได้ฟังองค์อัครกัลยา ไม่ขัดบัญชาก็สมคิด
จึงเรียกพระธิดายุพาพักตร์ อันทรงลักษณ์ดั่งนางในดุสิต
ให้เข้ามานั่งใกล้ชิด ทรงฤทธิ์ตรัสสั่งบังอร
เจ้าจะไปอยู่ด้วยภัสดา แก้วตาจำคำพ่อสอน
เสงี่ยมเจียมองค์อย่าแง่งอน ฝากตัวภูธรจงดี
สั่งแล้วให้ชำระสระสรง ทรงเครื่องเนาวรัตน์จำรัสศรี
เสด็จไปเกยรัตน์มณี พระสนมนารีก็ตามมา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ พระบิตุรงค์ขึ้นทรงราชรถ งามศักดิ์งามยศงามสง่า
พระบุตรีนั้นทรงสีวิกา งามดั่งนางฟ้าสุราลัย
พร้อมฝูงอนงค์นาคี โยธีเพียบพื้นแผ่นดินไหว
ออกจากบาดาลกรุงไกร ไปโดยวิธีทางจร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

โทน

๏ รถเอยรถแก้ว เพริศแพร้วจำรัสประภัสสร
โชติช่วงดั่งดวงศศิธร เครื่องสูงสลอนสลับกัน
ปี่กลองฆ้องขานประสานเสียง สำเนียงเสนาะครื้นครั่น
โยธาอัดแอแจจัน โห่สนั่นกึกก้องบาดาล
แหวกสมุทรผุดขึ้นปัถพี เร่งพลนาคีทวยหาญ
ลอยลิ่วปลิวไปในคัคนานต์ หมายสถานทวีปลงกา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงให้หยุดพลากร บทจรลงจากรัถา
พาองค์พระราชธิดา ขึ้นเฝ้าพญากุมภัณฑ์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ เจรจา

๏ น้อมเศียรประณตบทบงสุ์ ทูลองค์บรมรังสรรค์
ขอถวายธิดาลาวัณย์ ทรงธรรม์จงได้ปรานี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

ช้า

๏ เมื่อนั้น องค์ท้าวลัสเตียนยักษี
พิศดูโฉมนางอัคคี อินทรีย์เสาวภาคย์จำเริญตา
งามศักดิ์งามศรีงามทรง งามองค์ดั่งเทพเลขา
อรชรอ้อนแอ้นทั้งกายา พักตราผ่องแผ้วเพียงจันทร์
สมเป็นมเหสีทศพักตร์ จะร่วมรักภิรมย์ชมขวัญ
ใหญ่กว่าสนมกำนัล ดั่งสุวรรณกับแก้วมณี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ จึงมีบัญชาอันสุนทร ดูก่อนพญานาคเรืองศรี
ซึ่งท่านให้ราชบุตรี เรานี้มีความยินดีนัก
จะให้ร่วมห้องทศกัณฐ์ ครอบครองเขตขัณฑ์อาณาจักร
สืบสายสุริย์วงศ์พงศ์ยักษ์ เป็นหลักลงกากรุงไกร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น พญานาคผู้มีอัชฌาสัย
น้อมเศียรกราบทูลสนองไป สุดแต่ภูวไนยจะเมตตา
อันซึ่งตัวข้าจะลาบาท พระพงศ์พรหมธิราชนาถา
ว่าแล้วก็เลิกโยธา ไปยังนคราบาดาล ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

ช้า

๏ เมื่อนั้น ท้าวลัสเตียนใจหาญ
เสวยสมบัติมาช้านาน พญามารทรงพระชรานัก
คิดถึงความตายเป็นเบื้องหน้า ดั่งว่านอนอยู่ในหว่างจักร
จึ่งให้ทศกัณฐ์ลูกรัก เป็นปิ่นปักลงกาธานี
อันนางอัคคีวรนาฏ ให้เป็นอัครราชมเหสี
ใหญ่กว่าสนมนารี แปดหมื่นสี่พันกัลยา
แล้วให้บุษบกพิมานทรง แก่องค์กุเปรันยักษา
ไปอยู่กาลจักรพารา ที่เนินแนวป่าหิมวันต์
อันทัพนาสูรขุนมาร ครองกรุงจักรวาลเขตขัณฑ์
ธาดาครองเมืองวัทกัน มารันครองกรุงโสฬส
โรมคันนั้นให้ขุนขร ทูตผ่านนครชนบท
อันองค์ตรีเศียรโอรส เสวยยศเมืองมัชวารี
นางสำมนักขาสุดท้อง ให้ครองกับชิวหายักษี
พิเภกกุมภกรรณฤทธี ให้อยู่กับพี่ในลงกา
ท้าวมอบสมบัติพัสถาน ศฤงคารบริวารถ้วนหน้า
แก่โอรสราชธิดา ตามลำดับมาพร้อมกัน
พระครองสมบัติหกหมื่นปี ไม่มีโลโภโมหันธ์
พญามัจจุราชมาตามทัน กุมภัณฑ์สิ้นชีพชนมา ฯ

ฯ ๑๘ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา
ได้ผ่านโภไคศวรรยา เป็นมหาจรรโลงเลิศไกร
ครั้นบิตุเรศสวรรคต เลื่องชื่อลือยศแผ่นดินไหว
อันหมู่เทวาสุราลัย ก็เอามาใช้อยู่อัตรา
ท้าวมีสหายรักเจ็ดองค์ ทรงอานุภาพแกล้วกล้า
ชื่อว่าอัชกรรณมารา ทั้งไพจิตราอสุรี
กับองค์ท้าวสัทธาสูร พญามูลพลำยักษี
จักรวรรดิสัตลุงฤทธี มหาบาลผู้มีเดชา
แต่ละองค์ดำรงราชฐาน โอฬารดั่งดาวดึงสา
ไปมาหากันอัตรา อสุราผาสุกสถาวร ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงวิรูฬหกชาญสมร
อยู่ในใต้พื้นดินดอน หว่างสิงขรตรีกูฏบรรพต
เมืองนั้นสมญาบาดาล ปราสาทแก้วสุรกานต์อลงกต
สนุกดั่งสวรรค์ชั้นโสฬส พร้อมทศโยธาอสุรี
พญามารเคยขึ้นไปเฝ้าบาท พระมงกุฎไกรลาสเรืองศรี
ถวายบังคมคัลอัญชุลี ปีหนึ่งเจ็ดครั้งอัตรา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ ครั้นถึงกำหนดจะไปเฝ้า พระเป็นเจ้าสามภพนาถา
เสด็จจากแท่นแก้วแววฟ้า มาเข้าที่สรงชลธาร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

โทน

๏ ชำระสระสนานสำราญองค์ ทรงสุคนธาทิพย์หอมหวาน
สอดใส่สนับเพลาอลงการ ภูษาเครือก้านกระหนกลาย
ชายไหวไหวพริ้งปลายสะบัด ชายแครงเนาวรัตน์จำรัสฉาย
จึ่งเอานาคราชตัวร้าย เป็นสายสร้อยเลี้ยวเกี้ยวกัน
ประชุมเศียรเข้าเป็นทับทรวง โชติช่วงเนตรนาคแดงฉัน
ภุชงค์เป็นพาหุรัดพัน ทองกรนั้นล้วนนาคี
สิบนิ้วเอานาคเป็นธำมรงค์ แล้วทรงมงกุฎมณีศรี
กรขวากวัดแกว่งพระแสงตรี อสุรีลงจากปราสาทชัย ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ พิราพรอน

ร่าย

๏ ออกนอกบาดาลพารา สำแดงศักดาแผ่นดินไหว
แทรกพื้นพสุธาชลาลัย เหาะทะยานผ่านไปด้วยฤทธิ์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ กราว

๏ มาถึงสถานไกรลาส อันโอภาสดั่งชั้นดุสิต
พอพระอิศโรโมลิศ สถิตอยู่ยังที่ไสยา
พญามารย่างขึ้นอัฒจันทร์ สำคัญว่าบรมนาถา
เสด็จออกอสูรเทวา ในมุขมหาพิมานชัย
ก็น้อมเศียรนบนิ้วบังคมคัล ทุกขั้นอัฒจันทร์หาเว้นไม่
ค่อยยอบหมอบกราบขึ้นไป มิได้ดูองค์พระทรงญาณ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ

๏ บัดนั้น จึ่งสารภูตัวหาญ
อยู่ยอดภูผามาช้านาน เห็นขุนมารเดินกราบบันได
ร้องว่าตุ๊กแกแล้วแลดู ทำชูศีรษะเย้ยให้
ครั้นอสุระกราบลงทีไร ก็ร้องไยไพลงมา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น จึ่งวิรูฬหกยักษา
เห็นสารภูดูหมิ่นอหังการ์ อสุรากริ้วโกรธคือไฟฟอน
แลไปไม่เห็นพระศุลี บนที่เนาวรัตน์ประภัสสร
ก็ถอดสังวาลนาคอลงกรณ์ ขว้างด้วยฤทธิรอนขุนมาร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ ถูกเขาไกรลาสลั่นทรุด สารภูสิ้นสุดสังขาร
มิได้เฝ้าองค์พระทรงญาณ ก็กลับไปบาดาลพารา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

โอด

๏ เมื่อนั้น พระศุลีตรีภพนาถา
บรรทมเหนือทิพอาสน์โอฬาร์ ก็ฟื้นกายาขึ้นทันที
ได้ยินสำเนียงครื้นครั่น สนั่นทั่วชั้นฟ้าราศี
เสด็จจากแท่นรัตน์มณี ออกที่หน้ามุขพิมาน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ

๏ จึ่งเห็นคีรีไกรลาส ทรุดคลาดเอนเอียงไปอิสาน
ให้คิดสนเท่ห์ในวิญญาณ เหตุไฉนเกิดการทั้งนี้
เล็งดูก็รู้ด้วยปรีชา ว่าวิรูฬหกยักษี
ขว้างสารภูด้วยนาคี ถูกคีรีลั่นทรุดลงไป
จึงตรัสว่าผู้ใดจะองอาจ ยกมหาไกรลาสขึ้นได้
เราจะบำเหน็จให้ถึงใจ ตามในความชอบที่ทำการ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ฝูงเทพเทวาทุกสถาน
ได้ฟังเทวรสพจมาน กราบกรานทูลองค์พระอิศรา
อันซึ่งจะให้ยกไกรลาส ข้าบาททั้งปวงจะอาสา
ว่าแล้วก็ถวายบังคมลา ออกมาแผลงฤทธิ์เกรียงไกร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ

๏ บรรดาเทวาสุรารักษ์ เข้ายกเข้าผลักภูเขาใหญ่
บ้างแบกบ้างรุนวุ่นไป โห่สนั่นหวั่นไหวทั้งธาตรี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ จนสิ้นฤทธิ์สิ้นแรงเทวัญ เขานั้นไม่เคลื่อนจากที่
จึ่งบังคมทูลพระศุลี ข้านี้สิ้นกำลังกายา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา
นิ่งนึกตรึกถวิลจินดา ว่าลูกลัสเตียนกุมภัณฑ์
สิบเศียรสิบพักตร์ยี่สิบกร กำลังฤทธิรอนแข็งขัน
มีนามชื่อว่าทศกัณฐ์ เห็นมันจะยกได้ด้วยศักดา
คิดแล้วจึ่งสั่งจิตุบท จงไปหาทศพักตร์ยักษา
ยังกรุงพิชัยลงกา ให้รีบขึ้นมาวันนี้ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จึ่งจิตุบทผู้ชาญชัยศรี
รับเทวราชวาที น้อมเศียรชุลีแล้วเหาะไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ กลม

๏ เลื่อนลอยอยู่บนอากาศ ตรงหน้าสิงหาสน์บัญชรใหญ่
ร้องบอกว่าเจ้าภพไตร โองการตรัสใช้ให้เรามา
หาเจ้าลงกาพญามาร ผู้ปรีชาชาญหาญกล้า
ขึ้นไปเฝ้าเบื้องบาทา ยังมหาไกรลาสคีรี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ท้าวยี่สิบกรยักษี
เสด็จออกหมู่มุขมนตรี ในที่พระโรงรัตนา
แจ้งว่าพระสยมภูวญาณ มีเทวโองการให้หา
ก็แต่งองค์ทรงเครื่องอลงการ์ ถือศรเหาะมาในอัมพร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ กราว

๏ ครั้นถึงสถานวิมานมาศ ยังยอดไกรลาสสิงขร
คลานเข้าไปเฝ้าพระภูธร ท่ามกลางนิกรเทวัญ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมรังสรรค์
เหลือบแลมาเห็นทศกัณฐ์ จึ่งมีบัญชาตรัสไป
วิรูฬหกมันทำให้เขาทรุด เทวายกฉุดหาขึ้นไม่
จึ่งหาเอ็งผู้ฤทธิไกร หวังจะให้ช่วยยกคีรี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศพักตร์พงศ์พรหมเรืองศรี
ก้มเกล้าสนองวาที ทั้งนี้มิให้เคืองบาทา
ถึงมาตรจะเสียชีวิต ไม่คิดจะขออาสา
ทูลแล้วถวายบังคมลา ออกมานิมิตอินทรีย์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ ตระ

๏ ใหญ่เท่าบรมพรหมมาน ตระหง่านเงื้อมพระเมรุคีรีศรี
ตีนเหยียบศีลาปัถพี อสุรีเข้าแบกยืนยัน
ยี่สิบกรกุมเหลี่ยมเขา เท้าถีบด้วยกำลังแข็งขัน
ลั่นเลื่อนสะเทือนหิมวันต์ เขานั้นก็ตรงคืนมา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ฝูงเทพเทวัญถ้วนหน้า
เห็นฤทธิ์ทศกัณฐ์อสุรา ตกใจประหม่าขวัญบิน
โอ้ว่าชาวเราครั้งนี้ จะเป็นข้ายักษีเสียสิ้น
ทั้งฦๅสิทธิ์วิทยานาคินทร์ ผินหน้าเข้าปรับทุกข์กัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศพักตร์พงศ์พรหมรังสรรค์
ชื่นเริงบันเทิงใจกุมภัณฑ์ มาบังคมคัลพระศุลี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ อหังการ์อิ่มเอิบกำเริบฤทธิ์ ไม่คิดถึงศักดิ์ยักษี
โลภล้นเป็นพ้นพันทวี อสุรีทูลเจ้าโลกา
ตัวข้าเป็นเจ้าแก่หมู่ยักษ์ ไม่มีอัคเรศเสน่หา
จะขอประทานพระอุมา ผ่านฟ้าจงได้ปรานี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระสยมภูวนาถเรืองศรี
ได้ฟังอสุราพาที ภูมีรำพึงคะนึงคิด
ชิชะน้อยหรือไอ้ทศกัณฐ์ โมหันธ์อาจองทะนงจิต
ล่วงขอมารดาสุราฤทธิ์ คิดใหญ่ใฝ่สูงกว่าพักตรา
แต่กูได้ออกปากไว้ จำเป็นจะให้แก่ยักษา
ถึงพาไปก็นับจะคืนมา ใช่ว่าจะเป็นอะไรมี
คิดแล้วมีเทวบรรหาร โองการตรัสตอบยักษี
ซึ่งเอ็งปรารถนานางเทวี กูนี้ไม่ขัดกุมภัณฑ์ ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศพักตร์พงศ์พรหมรังสรรค์
ยินดีน้อมเศียรบังคมคัล กุมภัณฑ์ก็คลานเข้าไป
จะอุ้มองค์เทพมารดร ให้เร่าร้อนกายาดั่งเพลิงไหม้
จึ่งช้อนพระบาทนางอรไท ทูนเศียรเหาะไปด้วยฤทธี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ ร้อนรัศมีกายพระอุมา ร้อนทั้งสุริยารังสี
สุดทนสุดกลั้นอสุรี ก็พาองค์เทวีเดินไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ พญาเดิน

ยานี

๏ เมื่อนั้น ฝูงเทพเทวัญน้อยใหญ่
เห็นพระเป็นเจ้าภพไตร ประทานนางให้อสุรา
ตระหนกตกใจไม่มีขวัญ ทุกเทพเทวัญถ้วนหน้า
ก็ไปเฝ้าพระนารายณ์ฤทธา ยังมหาเกษียรวารี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เหาะ

๏ ครั้นถึงจึ่งทูลเบื้องบาท ว่าพระจอมไกรลาสคีรีศรี
ประทานพระอุมาเทวี ให้ไอ้อัปรีย์ทศกัณฐ์
บรรดาฝูงเทพนิกร เดือดร้อนไปทั่วสรวงสวรรค์
ต่างองค์โศกาจาบัลย์ พระทรงธรรม์จงได้เมตตา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระนารายณ์นาถา
ได้แจ้งแห่งคำเทวา จึ่งมีบัญชาตรัสไป
อันพระอุมาโฉมยง องค์เจ้าโลกาประทานให้
แก่ทศกัณฐ์จังไร ใช่ว่าจะเป็นอะไรมี
นัยมันจะเชิญพระอัคเรศ คืนนิเวศน์ไกรลาสคีรีศรี
ตรัสแล้วสำแดงฤทธี เหาะมาจากที่ทะเลวน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ กลม

๏ ครั้นถึงต้นทางไปลงกา ก็ลงยังชายป่าพนาสณฑ์
พระองค์จึ่งคิดอุบายกล ร่ายมนต์จำแลงอินทรีย์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ด้วยเดชพระเวทอันเชี่ยวชาญ ก็บันดาลกลายเป็นยักษี
รูปนั้นแก่เฒ่าอัปรีย์ ทำทีดั่งหนึ่งพาลา
จับจอบขุดปัถพีดล ยืนปลูกซึ่งต้นพฤกษา
เอายอดลงพื้นพสุธา กลับรากขึ้นมาอัมพร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เสร็จแล้วพรวนดินรดน้ำ ทำเป็นชื่นชมสโมสร
คอยดูท้าวยี่สิบกร ภูธรจะลวงอสุรี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี
พาพระอุมาเทวี จรลีมาตามมรคา
เห็นกุมภัณฑ์นั้นปลูกต้นไม้ ไม่รู้ว่านารายณ์นาถา
เข้าใกล้จึ่งกล่าววาจา ตาเฒ่านี้โฉดพ้นไป
ใครห่อนปลูกไม้เอาปลายลง เราดูเร่งพะวงสงสัย
ผิดเพศในพื้นภพไตร จะเป็นผลที่ไหนดังนี้ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ซึ่งเป็นยักษี
ได้ฟังถ้อยคำอสุรี ทำทียิ้มแย้มไยไพ
ตัวท่านนั้นอีกโฉดเขลา กลับติเตียนเราก็เป็นได้
จะตบมือสรวลเล่นให้หนำใจ ด้วยไม่รู้สึกกายา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายท้าวทศพักตร์ยักษา
ได้ฟังมารเฒ่ากล่าวมา อสุราฉงนสนเท่ห์นัก
จึ่งคิดว่าอันตาแก่นี้ ไฉนจึ่งพาทีทะนงศักดิ์
ไม่เกรงกูผู้วงศ์จัตรุพักตร์ คิดแล้วขุนยักษ์ก็ถามไป
ซึ่งตาว่าเราเขลาโฉด เห็นโทษนั้นมีที่ข้อไหน
จงเร่งบอกมาให้แจ้งใจ หาไม่จะม้วยชีวี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระนารายณ์เรืองศรี
ยิ้มแล้วจึ่งกล่าววาที อสุรีไม่แจ้งความใน
ตัวเราผู้เฒ่าจะเอาบุญ ท่านอย่าลืมคุณจะบอกให้
นางดีมีอยู่ไม่พอใจ เอาหญิงจังไรอะไรมา
เมื่อลักขณะคือพระกาล จะผลาญโคตรวงศ์ยักษา
สูญสิ้นทั้งกรุงลงกา หลับตาไม่รู้ว่าชั่วดี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษี
ได้ฟังมารเฒ่าพาที อสุรีก็สงสัยใจ
นางนี้จะจริงเหมือนหนึ่งว่า กายาจึ่งร้อนดั่งเพลิงไหม้
คิดแล้วก็ร้องถามไป นางใดที่ท่านว่าดี
เอ็นดูด้วยช่วยบอกเถิดขุนยักษ์ จักกลับไปเปลี่ยนนางโฉมศรี
ซึ่งทำคุณเราครั้งนี้ ไม่เสียทีจะแทนคุณตา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ซึ่งเป็นยักษา
จึ่งตอบไปด้วยไวปัญญา นางหนึ่งลักขณาวิลาวัณย์
ชื่อว่ามณโฑเทวี งามล้ำนารีในสรวงสวรรค์
ผิวพักตร์ผ่องเพียงดวงจันทร์ สารพันเป็นที่จำเริญรัก ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศกัณฐ์ผู้มีสิทธิศักดิ์
ได้ฟังตาเฒ่าขุนยักษ์ แย้มยิ้มพริ้มพักตร์ด้วยยินดี
จึ่งช้อนบาทบงสุ์อัคเรศ ขึ้นทูลเหนือเกศยักษี
เหาะระเห็จเตร็ดฟ้าทันที ไปคีรีไกลลาสบรรพตา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงจึ่งวางนางลง ทูลองค์พระอิศวรนาถา
อันซึ่งสมเด็จพระอุมา ตัวข้าจะคืนถวายไว้
ขอประทานมณโฑเทวี ไปเป็นที่ร่วมพิสมัย
พระองค์ผู้ทรงภพไตร จงได้โปรดข้าบทมาลย์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ช้า

๏ เมื่อนั้น พระจอมไกรลาสราชฐาน
ยิ้มแล้วมีเทวโองการ อันโฉมนงคราญอุมานี้
ทรงศรีที่เทพมารดา ไม่ควรวาสนายักษี
ซึ่งขอมณโฑเทวี ทั้งนี้ก็ตามแต่น้ำใจ
ตรัสแล้วมีเทวโองการ เรียกมณโฑเยาวมาลย์มาให้
เอ็งจงพานางลงไป เลี้ยงไว้เป็นศรีลงกา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา
เห็นโฉมมณโฑกัลยา นางในฟากฟ้าไม่เทียมทัน
งามทรงงามองค์งามอ่อน งามงอนเป็นที่เฉลิมขวัญ
งามพักตร์ลักขณาวิลาวัณย์ สารพันพริ้งพร้อมทั้งอินทรีย์
แสนพิศวาสจะขาดจิต ยิ่งพิศติดเนตรยักษี
ถวายบังคมลาพระศุลี ก็อุ้มองค์เทวีเหาะไป ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

๏ มาพลางพลางเชยชมน้อง ประคองแนบจุมพิตพิสมัย
ดั้นหมอกออกเมฆด้วยฤทธิไกร ผ่านพิชัยขีดขินบุรินทร์มา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ