จดหมายแต่งการศพหม่อมเจ้าตระหนักนิธิผล

ที่วัดนรนารถสุนทริการาม

พ.ศ. ๒๔๗๙

–เตรียมการ–

๑. ซ่อมการเปรียญหลังหนึ่ง ใช้เป็นที่ตั้งศพทำบุญ ในนั้นจัดตั้งชั้นกระจก ๒ ชั้นรองหีบทอง ตั้งฉัตรเบญจา ๔ คัน ตั้งธรรมาสน์

๒. ซ่อมศาลาหน้าวัดสองหลัง หลังตะวันออกใช้ตั้งปี่พาทย์ประโคม หลังตะวันตกใช้เป็นที่รับแขกผู้หญิง

๓. ปลูกปะรำที่เผาศพหลังหนึ่ง เยื้องหน้าศาลาการเปรียญไปทางทิศใต้ในหมู่ต้นไม้ใช้เสาทุบเปลือกสี่ต้น เบื้องบนทำโครงไม้ไผ่เป็นหลังคาปะรำ เบื้องล่างยกพื้นมีกะไดลงสี่ด้าน ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทาสีหรือหุ้มผ้า ตกแต่งแต่ด้วยพฤกษชาติ แม้ม่านบังเพลิงซึ่งจำจะต้องมีก็ใช้ผ้าสีหญ้าม้านเพื่อให้เข้ากับสีต้นไม้ ตัดเถาวัลย์เปรียงมาผูกแนบเสาต่างเถาไม้เลื้อย บนหลังคาปะรำสะสุมด้วยใบไทรเสียบดอกตรุษจีน และแขวนกระเช้ากล้วยไม้อันมีดอกติด สี่มุมปะรำตั้งกระถางต้นไม้ทั้งใบไม้ดอกเสียดแทรกกันเป็นฐานปะรำ

๔. ต่อหีบลองในขนาดเล็กหุ่มผ้าขาว ยาว ๑ เมตร กว้าง ๔๕ เซ็นติเมตร รูปผายเบื้องบนแบบบุราณ และทำแคร่รองหีบสำหรับหิ้วขนาดเล็กพอดีกันกับหีบ

๕. แต่งต้นไม้ในจังหวัดที่ทำการด้วยโคมญี่ปุ่น และโคมให้แสงสว่างซึ่งเรียกว่าโคมแสงจันทร์

๖. จัดโต๊ะเก้าอี้ตั้งในลานวัดจังหวัดที่มีงาน เป็นหมู่เป็นหย่อมอย่างอุทยานสโมสร สำหรับแขกที่จะมาในงาน

๗. ตีพิมพ์หนังสือเรื่องกฎมนเทียรบาลพม่าสำหรับแจกญาติมิตรในงานศพ

๘. ทำกล่องศิลาสำหรับบรรจุอัฐิ

–ทำการ–

วันที่ ๒๐ มีนาคม นายงานของเจ้าภาพกั้นม่านวงรอบที่ฝังศพแล้วขุดดินขึ้นจนถึงหีบศพ มอบให้แก่พนักงานสนมพลเรือนรับหน้าที่ทำการต่อไป

เวลา ๑๗.๓๐ น. ญาติสกุลไชยยันต์กับสกุลจิตรพงศ์ไปประชุมพร้อมกัน หม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรทอดผ้าขาว ๔ พับที่ปากหลุม พระสงฆ์วัดนรนารถชักบังสุกุลแล้วพนักงานสนมพลเรือนถ่ายศพจากหีบที่ฝังดินลงหีบในใหม่ หิ้วแคร่สี่คนขึ้นบนศาลาการเปรียญบรรจุลงหีบลองในลงในหีบทองพร้อมทั้งแคร่ ปิดฝาคลุมผ้าเยียรบับ ตั้งเครื่องประดับชั้น มีพานและขวดดอกไม้ ทั้งเชิงเทียนไว้พร้อมสรรพ

วันที่ ๒๑ มีนาคม เวลาเพล ญาติสกุลไชยันต์และจิตรพงศ์ช่วยกันทำอาหารมาคนละสิ่งสองสิ่งเลี้ยงภิกษุสามเณรวัดนรนารถทั้งวัด เลี้ยงบนศาลาการเปรียญจำเพาะแต่พระสงฆ์ผู้ใหญ่ ๑๐ รูป นอกนั้นส่งอาหารไปถวายฉันที่กุฏิ กับเลี้ยงพระสงฆ์ซึ่งนิมนต์มาประจำสวดพระอภิธรรมอีก ๔ รูปด้วยกัน

ตั้งแต่เวลาเที่ยงไปแล้ว มีการสวดพระอภิธรรม และญาติทั้งหลายต่างก็ทำบุญอุทิศกุศลไปให้ตามควรแก่ปรารถนา

เวลา ๑๖ นาฬิกา เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ทรงธรรมกัณฑ์หนึ่ง สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวาย เมื่อจบลงพระราชาคณะฐานาเปรียญ ๑๐ รูป (นิมนต์เกณฑ์ที่คุ้นเคยกับผู้มรณะ) สวดสดับปกรณ์ แล้วทรงประเคนไทยธรรมทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นพร้อมด้วยท่านผู้แสดงธรรมชักบังสุกุลแล้วถวายอนุโมทนา

ในขณะนี้มีญาติมิตรแห่งผู้มรณะเนื่องกันมา ที่ขึ้นไปโมทนาการกุศลบนศาลาการเปรียญก็มี ที่นั่งอยู่ ณ ลานวัดก็มี แล้วแต่ใจปรารถนา

เวลา ๑๗ นาฬิกา เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ทรงทอดผ้าไตรเชิญเสด็จสมเด็จพระสังฆราชเจ้าทรงชักบังสุกุล แล้วพนักงานสนมพลเรือน ๔ คน ยกแคร่รองหีบลองใน ขึ้นจากหีบทอง คลุมดอกไม้ปากหีบอย่างดอกไม้คลุมผ้าไตร แล้วลงจากศาลาการเปรียญ หม่อมเจ้าเภรารตเดินนำหน้าหีบศพ ญาติหญิงชายสกุลไชยันต์กับจิตรพงศ์เดินตาม หมู่กลองชนะยืนที่ตีประโคมโดยเกียรติยศ เวียนปะรำโดยอุตราวัฏ ๓ รอบ แล้วยกศพขึ้นตั้งบนเชิงตระกอน อันเชิงตระกอนนั้นทำแก้ไขผิดไปจากปกติ ฐานหุ้มผ้าขาวปิดกระดาษทองน้ำตะโกที่บัวประกอบบนล่าง ตารางนั้นตัดเสาคงเหลือแต่ตอหม้อประกอบกาบหยวกไม่มีเพดาน หม่อมเจ้าประโลมจิตรทอดผ้าไตรปากหีบ ๔ ไตร พระสงฆ์วัดนรนารถชักบังสุกุล

ระหว่างเวลานี้ พวกเจ้าภาพได้แจกหนังสือกับพัดด้ามจิ้วให้แก่ผู้ที่มาในงาน

เวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ทรงจุดเพลิงหลวงพระราชทานที่ศพ กลองชนะตีประโคม แล้งทรงทอดเครื่องขมาศพ ของพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่และของพระองค์เอง ต่อนั้นไปเหล่าญาติมิตรก็ส่งสการศพทั่วไป ตลอดถึงพระภิกษุสงฆ์

ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป ญาติมิตรก็ประกอบการกุศลอุทิศให้ต่อไปอีก จนกระทั่ง

เวลา ๒๒ นาฬิกา หม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรมีเทศนากัณฑ์หนึ่ง พระครูศรีจันทรคุณเจ้าอาวาสวัดนรนารถแสดงธรรม จบแล้วพระฐานาเปรียญแห่งวัดนั้น ๔ รูปสวดธรรมคาถา ถวายไทยธรรมและทอดผ้า พระสงฆ์ทั้งนั้นชักบังสุกุลอนุโมทนา

เวลา ๒๒.๔๕ นาฬิกา เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ทรงรดน้ำมะพร้าวแก้วล้างหน้าศพ แล้วเจ้าพนักงานสนมพลเรือนเปิดไฟญาติที่สนิทพากันขึ้นส่งสการศพอีกเป็นครั้งที่สุด

วันที่ ๒๒ มีนาคม เวลา ๗.๐๐ นาฬิกา เดินสามหาบเวียนปะรำที่เผา สามหาบนี้จัดแผกไปจากที่เคยทำกันทำกันมา ในสิ่งของยกเลิกหม้อข้าวเชิงกราน เพราะเชิงกรานนั้นเขาไม่ทำขายกันเสียแล้ว ใช้ชามข้าวอันหุงเสร็จแทน วางลำดับไว้ในที่ต่อผ้าไตรหน้าหาบสำรับ คนเดินสามหาบใช้ทั้งชายหญิง มีบุตรบุตรีแห่งผู้มรณะ ๖ คน กับหลานของหม่อมมารดาอีก ๓ คน จัดเป็นลำดับดังนี้

สำรับที่ ๑ ม.ร.ว. หญิงยิ่งวัน ถือผ้าไตร
  ม.ร.ว. หญิงวิสาขา ถือชามข้าว
  นายใหญ่ ยุกตเสวี หามสำรับ
สำรับที่ ๒ ม.ร.ว. ชายสาฎก ถือผ้าไตร
  ม.ร.ว. ชายสำพันธ์ ถือชามข้าว
  หลวงยุกตเสวีวิวัฒน์ หาบสำรับ
สำรับที่ ๓ ม.ร.ว. ชายเฉลิม ถือผ้าไตร
  ม.ร.ว. หญิงทวี ถือชามข้าว
  นายป๊อ ยุกตเสวี หามสำรับ

เดินสามหาบแล้ว หม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรทอดผ้าไตรบนรูปแจง พระศาสนโสภนวัดมกุฎกษัตริย์ พระราชกวีวัดเทพศิรินทร์ กับพระครูศรีจันทรคุณวัดนรนารถชักบังสุกุล แล้วหม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรเก็บอัฐิบรรจุกล่องศิลา พนักงานสนมพลเรือนรวมอังคารลงโถลายคราม นำอัฐิอังคารขึ้นไปตั้งเหนือม้าหมู่บนศาลาการเปรียญ

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ ทรงประเคนสำรับ ๓ หาบเลี้ยงพระสงฆ์ ๓ รูป และหม่อมเจ้าถาวรมงคลวงศ์ประเคนสำรับเลี้ยงพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมอีก ๔ รูปที่บนศาลาการเปรียญ ครั้นเลี้ยงแล้ว หม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรกับบุตรบุตรีทอดผ้ากับย่าม พระสงฆ์ซึ่งสวดพระอภิธรรมกับพระสงฆ์ทั้งวัดนรนารถชักบังสุกุล

เวลา ๘ นาฬิกา หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตร พาอัฐิตามสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์กลับตำหนักคลองเตย ส่วนอังคารนั้นมอบฝากพระครูศรีจันทรคุณไว้ที่วัดนรนารถ เพื่อผสมซีเมนต์หล่อเป็นแท่ง และจะได้นำไปบรรจุไว้ ณ ที่บรรจุ ในตึกไชยันต์โรงเรียนวัดราชาธิวาสสืบไปในวันหน้า

–หมายเหตุ–

๑. ปะรำที่เผาศพนี้คนชอบชมกันมาก

๒. กระบวนศพเดินเวียนปะรำ ได้นัดไว้เพียงให้หม่อมเจ้าพระเพลารถเดินนำ และหม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตรพาบุตรบุตรีเดินตามเท่านั้น นอกจากนั้นพากันเดินตามด้วยใจสมัครแห่งตนเอง ควรจะสรรเสริญ

๓. การกระทำทุกอย่างมีคนชมว่าเรียบร้อย ราวกับว่าได้ซักซ้อมแล้ว ข้อนี้เป็นความดีของเจ้าพนักงานที่มีความชำนาญการ ฟังเข้าใจง่าย ปฏิบัติได้สมดั่งประสงค์ไม่มีเคลื่อนคลาด

๔. มีสิ่งซึ่งควรสรรเสริญอีก ที่พระสงฆ์วัดนรนารถสิ้นทั้งวัด ต่างมีใจเอื้อเฟื้อพร้อมเพรียงกันช่วย โดยประสงค์ให้การเป็นไปสำเร็จด้วยดีทุกประการ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ