วันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักประเสบัน เมืองบันดุง

วันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทรงทราบฝ่าพระบาท

ขอประทานกราบทูลกำหนดตามความคิดที่จะมาเฝ้าฝ่าพระบาทที่ปีนัง นึกมานานแล้ว ว่าถ้าจับเรือห้างอีสตเอเซียติกมาได้ จะเป็นการเดินทางอย่างได้ความสุขมาก ตามที่มีความคิดเช่นนั้น เมื่อหญิงมารยาตรเธอจะกลับ จึงสั่งเธอให้ช่วยสืบเรือห้างอิสตเอเซียติกที่กำหนดจะผ่านสิงคโปร์บอกให้ทราบด้วยว่าจะมีเมื่อไร แล้วก็ตามเสด็จทูลกระหม่อมชายไปเที่ยว ทูลกระหม่อมชายไม่ทรงสบายด้วยพระบาทบวม เกล้ากระหม่อมก็เจ็บด้วยโรคบรองไคติส เพราะร่างกายอ่อนแอสู้หนาวไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อไปได้เพียงเมืองยกยาก็ต้องแปรทางไปสมารังแล้วกลับบันดุง

พอมาถึงบันดุงก็ได้รับหนังสือหญิงมารยาตร ว่ามีเรือ “Alsia” ของห้างอิสตเอเซียติกจะออกจากสิงคโปร์ไปปีนังในวันที่ ๑๐ สิงหาคม จึงตกลงกันว่าจะมาด้วยเรือลำนั้น พอดีที่จะออกจากบะตาเวียด้วยเรือบริษัท K.P.M. ในวันที่ ๗ ถึงสิงคโปร์วันที่ ๙ รุ่งขึ้นวันที่ ๑๐ ก็ลงเรือ “Alsia” มาปีนัง แต่เรือเขาจะแวะที่ไหนบ้างและกี่วันจะมาถึงปีนังหาทราบไม่ ฝ่าพระบาทคงจะทรงสืบทราบฝ่าพระบาทได้ทางเอเย่นต์ห้างอิสตเอเซียติก

ในการมาอยู่ด้วยฝ่าพระบาทที่ปีนังนี้ เห็นจะต้องอยู่คุดคู้อย่างคนเจ็บก่อน จนกว่าจะค่อยสบายมีกำลังพอแล้ว จึงค่อยเที่ยวเตร่ดูอะไรต่ออะไรในภายหลัง

แต่แปลกหนักหนา ในแขวงปรัมบานันมีโบราณสถานหลายแห่ง เป็นสถานทางพุทธศาสนาทั้งนั้น มีแต่ลารา-ชองกรังแห่งเดียวเป็นสถานทางศาสนาพราหมณ์เข้าไปแทรกอยู่ เสียใจที่สถานทั้งนั้นพังเสียมากจนไม่รู้ว่ารูปทรงเดิมเป็นอย่างไร ฝรั่งเขาดีดอกที่พยายามสร้างเสริมขึ้นใหม่ แต่ไม่ค่อยเชื่อว่าจะถูกตามเดิมทุกอย่างไป

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ