วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๘๐

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ได้รับประทานแล้ว

ทูลกระหม่อมชายจะทรงทำอะไรเมื่อไร ในการที่พระชันษาเสมอพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงนั้น ยังไม่ได้ทรงกะการลงไปถี่ถ้วน ตรัสว่ายังอีกนาน หากว่าการเตรียมการไป ประเดี๋ยวจะไม่ได้ทำเป็นกรมพระจันทบุรี เมื่อทรงถืออยู่อย่างนั้นเกล้ากระหม่อมก็เกรงพระทัยไม่กล้าทูลเซ้าซี้อะไรให้มากไป เป็นแต่นึกคาดว่า การบำเพ็ญพระกุศลควรจะเป็นในวันประสูติ การถวายน้ำควรจะเป็นวันพระชันษาเท่าด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง แต่มาทราบจากชายถาวรว่า การบำเพ็ญพระกุศลนั้น จะเป็นวันที่พระชันษาตรงเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทีเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้น การที่เกล้ากระหม่อมจะต้องออกไป ก็เป็นเวลาภายหลังวันประสูติ และภายหลังวันพระชันษาเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทั้งสองอย่าง คงจะไม่ประสบด้วยฝ่าพระบาทได้

ตามที่ตรัสเล่าเรื่องเจ้าฟ้าหญิงเพชรรัตนเสด็จไปยุโรปนั้น ดูออกจะขลุกขลักประดักประเดิดมาก เกล้ากระหม่อมได้นึกทีเดียวว่าน่ากลัวลงเรือไม่ทัน เพราะเสด็จออกจากกรุงเทพฯ วันที่ ๙ กำหนดเรือเขาจะออกวันที่ ๑๐ แต่พระนางสุวัทนาตรัสบอกว่าบริษัทเขาเลื่อนเวลาถวาย เป็นเรือออกวันที่ ๑๑ เกล้ากระหม่อมก็เบาใจ แต่ที่แท้เขาเห็นจะเลื่อนถวายแต่เวลาออกเรือ พอให้เสด็จลงเรือทันเท่านั้น น่าจะมีความเข้าใจผิดกันไปด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งเป็นแน่

เป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้า ที่ทรงพระเมตตาโปรดชี้แจงเรื่องเจ้าคุณทางผู้หญิงให้ได้ทราบโดยละเอียด โล่งใจที่ได้ทราบว่าเจ้าคุณฝ่ายผู้หญิงเป็นยศที่ทรงตั้ง โดยทรง (พระราช) บัญญัติไว้เป็นการพิเศษ จริงอย่างพระดำริที่ว่า เจ้าคุณจอมมารดาแพ ควรจะสูงกว่าเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ แต่ความหมายที่ทรงตั้งใหม่เห็นจะมุ่งไปในทางตั้งราชทินนาม เปลี่ยนนามสามัญที่ว่า แพ เป็น พระประยูรวงศ์ นับเป็นยศสูงขึ้นเหมือนหนึ่งตั้งขุนนาง ฉะนั้นข้อความในพระราชพงศาวดารที่ว่า พระเจ้าเสือตรัสเรียกกรมพระเทพามาตย์ว่าเจ้าคุณนั้น ไม่สู้สมัครใจที่จะเชื่อ เพราะเป็นแต่พระวาจา เกรงว่าผู้แต่งพงศาวดารจะประเมินเขียนเอาเองตามที่ตนเห็นสมควร อันธรรมดาวาจาย่อมสูญไปได้โดยง่าย พงศาวดารย่อมแต่งภายหลังจริงนานมาก

คราวนี้จะกราบทูลเรื่องคำ อาทมาฏ โดยพระดำรัสพยากรณ์แก้ปัญหาของพระยาอินทรมนตรีเป็นเหตุ เคยได้ยินคนออกความเห็นว่า อาทมาฏ ก็คือ อาจสามารถ เกล้ากระหม่อมไม่ลงความเห็นพ้องด้วยตั้งแต่ได้ฟังมาแล้ว สังเกตตามพระดำรัสซึ่งคัดความในพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทรรัชกาลที่ ๒ มาลงไว้ คำ อาทมาฏ มีคำ สมิง นำ ทำให้เข้าใจว่าเป็นชื่อคนและเป็นคนมอญ ไม่ใช่ไทยด้วย ที่เห็นเช่นนั้นก็เพราะคำสมิงนำไป เมื่อเป็นตำแหน่งของมอญแล้วคำอาทมาฏ อาจเป็นคำมอญก็เป็นได้ (ตัวอักษรที่ใช้สังเกตเอาแน่ไม่ได้ เขียนพุ่งๆ กันไปก็มี) กรมที่มีชื่อตามหัวหน้าผู้ควบคุมนั้น เป็นได้ไม่ขัดข้อง มีอย่างอยู่ถมไป คำว่า ขวา ซ้าย นั้น คิดเห็นว่าน่าจะตั้งไว้เพื่อการจัดทัพเดินทัพ มีพยุหยาตรา เป็นต้น อย่างอื่นก็ไม่เห็นท่าทางที่จะมีอะไรเป็นหลักให้ตั้งเป็นขวาซ้าย

หม่อมเจิมกลับจากปีนังไปหาเมื่อวันที่ ๑๐ บอกข่าวว่ากรมสิงห์เสด็จกลับเข้าไปพร้อมกันอยู่ไม่ช้าก็เสด็จขึ้นไปบางปะอิน เป็นธรรมดาจะต้องไม่รู้ไม่ได้ไปรับ ไม่ได้พบกัน และเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องรีบขึ้นไปบางปะอิน กับบอกข่าวอีกอย่างหนึ่งว่า ที่สิงคโปร์มีที่จำหน่ายเครื่องหูหนวก ว่าเป็นเหมือนแว่นตา มีเครื่องบังคับการฟังติดแตะไว้ที่หลังใบหู พูดอะไรเบาๆก็ได้ยิน ว่าเมื่อฝ่าพระบาทผ่านไปในเมื่อเสด็จไปชวาจะแวะทอดพระเนตร เกล้ากระหม่อมก็ยินดี หวังว่าดีร้ายอย่างไรคงจะได้รับประทานข่าวให้แจ้งใจ แม้ว่าดีเกล้ากระหม่อมออกไปทีหลังจะได้ตามรอยไปหาบ้าง

ในกรุงเทพฯ จะมีพิธีขึ้นปีใหม่ตามเคย ได้ถวายหมายกำหนดการมาให้ทราบฝ่าพระบาทด้วยแล้วการอย่างอื่นก็มีแต่เผาศพกันเป็นระนาว เพราะเป็นฤดูที่เขาจะพึงทำ แต่คิดดูก็ไม่เห็นมีศพผู้ใดซึ่งฝ่าพระบาทจะใส่พระทัยใคร่จะทรงทราบ มีแต่ศพพระยานครพระราม เขาจะเผาวันที่ ๕ เมษายน ที่วัดมกุฎกษัตริย์

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ